บทที่ 30: เทคนิคปีศาจลี้ลับหนึ่งการขยับเพื่อสังหาร! (อ่านฟรีวันที่21)
บทที่ 30: เทคนิคปีศาจลี้ลับหนึ่งการขยับเพื่อสังหาร!
"นี่เป็นความจริงเกินความคาดหมายของข้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดได้จนถึงตอนนี้ บางทีข่าวลือนี้อาจจะไม่ถูกต้องเนื่องจากเจ้าดูเหมือนจะไม่ได้เป็นขยะ "ซูตงฟางหู้หล่อเหลากล่าวย่างสุภาพ ขณะที่เขามองไปที่ผู้ชายน่าเวทนาที่ยืนอยู่บนเวทีเขาค่อยๆหรี่ตาลงและยิ้มให้
"เปล่า!ข่าวลือนั้นน่ะถูกต้อง!"
คนหันมาดูแหล่งที่มาของเสียงเท่านั้น,ก็พบคนที่กำลังจ้องยิ้มอย่างดุร้าย ซูกวงเป็นคนที่จ้องซูหยุนอย่างชั่วร้าย เมื่อเขามาถึงสังเวียนเขาก้าวขึ้นไปบนเวที ท่าทางของเขายืดตัวขึ้นทำให้ตัวเองดูมั่นคงกลิ่นอายจิตวิญญาณของเขารอบๆตัวดูราวกับว่ามันจะระเบิดออก มันมีอำนาจและการครอบงำ
ภูเขาแห่งความกดดันเล็งไปที่ด้านหน้า!
เขาเป็นเหมือนเสือ; ไม่สิ,เหมือนยักษ์! ในใจของพวกเขาใครต้องการให้เขาเป็นศัตรู? เนื่องจากสถานะที่สูงส่งของเขา,บุคคลทั่วไปจึงไม่สามารถทำให้เขาขุ่นเคืองได้
"ซูกวง! ซูกวง! " ชนะ! ชนะ!"
"ศิษย์สำนักภายในที่รู้จักกันในนาม ซูกวง ... มีคนบอกว่านับตั้งแต่เขาเกิดมาเขามีพลังที่น่าอัศจรรย์ไม่เหมือนใครแม้แต่สัตว์อสูร"
"มองสถานการณ์ตอนนี้ ... ซูหยุนอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย"
"ถึงแม้ว่าเจ้าหนุ่มนั่นยังสามารถเอาชนะมาได้สองสามรอบ,ถ้าเทียบความแข็งแกร่งของเขากับซูกวงแล้วเขาอ่อนแอมากเกินไป!"
"เจ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกทั้งหมด โชคเป็นส่วนหนึ่งของมัน แต่ที่จะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามกำลังจะได้เห็นเขาสู้กับซูกวง,ช่าย,มาดูกันสิว่าเขาจะสามารถเอาชนะได้มั้ย "
"ลักษณะการก้าวเท้าของซูกวงดูดีมาก" ฉิงจี้กล่าวในขณะที่เขามองไปที่ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองฝ่าย
"นี่ดูเหมือนจะเป็นเทคนิคสำนักภายในที่เรียกว่า 'ก้าวย่างพยัคฆ์': ใช้ในการเพิ่มพลังอำนาจของผู้ฝึกในระหว่างการเคลื่อนไหวโดยใช้พลังวิญญาณเพื่อเปิดใช้เทคนิคนี้" เด็กรุ่นเยาว์ที่ยืนอยู่ข้างๆฉิงจี้กล่าว
"อ้าวแล้ว? ตั้งแต่ซูหยุนอยู่ในพื้นที่ของเทคนิคนี้เขาไม่เสียเปรียบหรือ? อ้า!,ขอรอดูหน่อยสิว่าเขามีเทคนิคอื่น ๆ ในการแข่งครั้งนี้หรือไม่ "
"ซูหยุนเด็กคนนี้,เขากล้าที่จะมาที่นี่จริงๆ! ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขากล่าวไว้ก่อนหน้านั้นเป็นความจริง,เนื่องจากศิษย์พื้นฐานขั้นที่หกไม่เคยทุบตีศิษย์สำนักภายในคนอื่นๆได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอก ... ว่าเขาเป็นอาวุธลับที่ท่านผู้นำกำหนด? แล้วทำไมเขาถึงมีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้? ถ้าเขาต้องการที่จะเข้าสำนักภายในทำไมเขาถึงไม่ถามท่านผู้นำของเขา? "
ซูกุ้ยม่อ ได้ตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิง
"บางทีมันอาจจะเป็นการไม่ให้ใครซุบซิบเกี่ยวกับตัวเขาดังนั้นถ้าเขาเข้าไปในนักภายในได้ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเกี่ยวกับเขาอีก" ศิษย์น้องที่อยู่ด้านหลังเขาแนะนำ
"มันเป็นแบบนี้เหรอ?"
"เจ้านายถ้าเราเจอซูหยุนในอนาคตให้พูดคุยกับเขาอย่างสุภาพ เจ้าเด็กน้อยคนนี้จะมีพลังในอนาคตที่ไม่เหมือนเรา "
"เป็นความคิดที่ดี."
เป้งๆ!!
เสียงระฆังดังขึ้น
บทสนทนาใกล้เวทีสงบลงและความสนใจของทุกคนจับจ้องเข้าหาจุดศูนย์กลางของเวที
ในเวลานั้นผู้ตัดสินตะโกนออกมาว่า "เตรียมตัวให้พร้อม!"
ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองฝ่ายบนเวทีจ้องมองกันและกัน
ซูหยุนจ้องฝ่ายตรงข้ามของเขาดั่งเสือล่าเนื้อ เช่นเดียวกับซูกวงที่เปลี่ยบท่าเข้าสู่โหมดต่อสู้ของเขาพร้อมที่จะเริ่มการโจมตีของเขา
ผู้ตัดสินเหลือบมองไปรอบ ๆ เวที ขณะที่เหงื่อบางหยดไหลตกลงมาอย่างไม่ได้ตั้งใจจากแก้มของเขา เขากลั้นลมหายใจไว้อย่างระมัดระวังก่อนจะตะโกนออกมาว่า "เริ่มได้!"
สิ้นเสียงประกาศ! บรรยากาศการล่าที่รุนแรงเริ่มโชยออกมาปกคลุมทั้งเวที ทันใดนั้นซูกวงที่มีอารมณ์เกรี้ยวกราดรีบวิ่งไปหาซูหยุนเหมือนเขาเป็นเหยื่อ
เขาไม่ได้ป้องกัน
ซูหยุนก้มลงหลบเขาจ้องเขม็งพร้อมกับตั้งท่า เขาสามารถหลบการโจมตีนี้ได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้โจมตีกลับ
หลังจากซูกวงล้มเหลวในความพยายามครั้งแรกของเขาเขาใช้ประโยชน์จากกลิ่นอายวิญญาณที่กำลังกดดันซูหยุนและโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามลดโอกาสของซูหนุนในการหลบเลี่ยงการโจมตี
บนมือของซูกวงใบมีดอำนาจพลังวิญญาณยื่นออกมาจากนิ้วมือของเขา ซูกวงขยายมืออย่างรวดเร็วส่งกรงเล็บจิตวิญญาณไปทางกลิ่นอายบนร่างขอวซูหยุน
"การปลดปล่อยสัทผัสอำานาจพลังวิญญาณจากภายนอก"!
นี่เป็นสิ่งที่ยากมากๆที่จะบรรลุอย่างแท้จริงแม้แต่กับศิษย์สำนักภายใน ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังวิญญาณและความสามารถในการจัดการกับมันได้อย่างชาญฉลาด หากใครมีข้อกำหนดเหล่านี้พวกเขาอาจจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้เมื่อพวกเขามาถึงเขตแดนผลิวิญญาณ
ผู้ชมเป็นพยานได้ว่าซูหยุนหลบหลีกได้อย่างฉับไว เนื่องจากเขาหลบได้อย่างรวดเร็วเสื้อผ้าซูหยุนเกิดรูถูกตัดออกชิ้นใหญ่ โชคดีที่การจู่โจมครั้งนี้พลาดไปและไม่ทำร้ายร่างกายของเขา
ซูกวงเห็นโอกาสอีกครั้ง เขารีบจู่โจมอัดไม่ยอมให้ซูหยุนมีเวลาตอบโต้ เขายื่นมือออกไปอีกครั้งส่งกรงเล็บอำนาจพลังวิญญาณบินไปในอากาศตรงเข้าไปยังซูหยุน
อย่างไรก็ตามซูหยุนดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดี เขาเตะเท้าข้างหนึ่งออกไปที่แขนของซูกวงในขณะที่เล็งไปที่หัวของซูกวง
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ซูกวงไม่ได้ตื่นตระหนก ความสุขเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาแทน
เขาไม่ได้หลบขณะที่สร้อยที่แขวนไว้ที่คอของเขาจู่ๆแสงสีเหลืองซึ่งได้ปกคลุมไปทั่วศีรษะของเขากลายเป็นหน้ากาก
ตูม!!
เท้าปะทะกับหน้าผาก
ซูหยุนรู้สึกว่าเตะชนเข้ากับโลหะที่เป็นของแข็ง แต่ซูกวงไม่ได้รู้สึกถึงการกระแทกแม้แต่น้อย
"เขาตัดสินใจที่จะใช้ยุทธภัณฑ์จริงๆ"
"วิธีการนี้เป็นเรื่องที่ไร้ยางอายจริงๆ" ซินเอียวพูดขึ้นเนื่องจากไม่สามารถทนต่อสถานการณ์ได้
ในการแข่งขันไม่มีกฎที่ห้ามใช้ยุทธภัณฑ์แต่ทุกคนไม่เคยมียุทธภัณฑ์
อย่างไรก็ตามหากใครมองไปที่แขนซูกวงและมองลงไปที่ขาของเขา,พวกเขาก็จะตกตลึง หลังจากใช้ยุทธภัณฑ์อำนาจความแข็งแกร่งอย่างรุนแรงได้กดดันสภาพแวดล้อมรอบตัว
ซูหยุนถูกโยนไปที่ขอบเวทีจากการป้องกันของซูกวง เขากระแทกกำแพงและล้มลงกับพื้น แม้ว่าเขาจะยังคงโงนเงนซูกวงได้เปิดใช้เทคนิคของเขาอีกครั้ง
เสียงคำรามซัดออกมาฟาดลงที่สังเวียนทำให้สมาชิกหลายคนปิดหูของพวกเขา หลายคนรู้สึกอึดอัดที่ได้ฟังเสียง
เสียงนี้มาจากเทคนิคจิตวิญญาณอันทรงพลังเท่านั้น
เนื่องจากนี่แค่เป็นเสียงของเทคนิคจิตวิญญาณที่ดังสนั่นหวั่นไหวแล้วถ้าระดับที่แท้จริงของเทคนิคจิตวิญญาณ?
กำแพงป้องกันของสนามประลองได้กั้นไว้ซะส่วนใหญ่ของกลิ่นอายจิตวิญญาณและกลิ่นอายยังคงอยู่อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นผู้ชมจึงไม่เคยตกอยู่ในอันตรายใด ๆ อย่างไรก็ตามมันแตกต่างกันสำหรับซูหยุนที่อยู่ในสังเวียน หนึ่งไม่สามารถป้องกันคลื่นเสียงดังนั้นเขายังคงมึนงง หลังจากรับการโจมตีนี้แล้วเขารู้สึกสับสนและขาไม่มั่นคง
"ยิงได้ดี!"
"ฆ่าเจ้าเด็กเหลือขอที่ไม่รู้จักความใหญ่โตของสวรรค์และปฐพี!"
"เอาเลยนายท่านซือกวง!"
เสียงตะโกนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่ซูตงฟางยังยิ้ม จากนั้นเขาเหลือบไปที่ซูกวงและพยักหน้า
คนทั่วไปสามารถแยกออกได้ว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณซูกวงแผ่ออกมากำลังกดดันซูหยุนในเวที ซูหยุนเพียงแค่รอซูกวงมาจัดการหรอ? ซ้ำเมื่อเขาสู้ซึ่งๆหน้าซูกวงโจมตีกลับมาได้อย่างง่ายดายและมีเครื่องป้องกันปกป้องเขา จากนั้นเขาก็จะเปิดคลื่นเสียงอีกครั้งหนึ่ง
การโจมตีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างลึกลับมาก เห็นได้ชัดว่าผู้ชมเห็นว่าประสบการณ์การต่อสู้ของซูกวงนั้นสูงกว่าซูหยุนหนึ่งระดับ
"ดูเหมือนว่าผลของการแข่งขันถูกกำหนดไว้แล้ว!"
ฉิงจี้ส่ายหัว "ข้าจะดูว่าหลังจากนี้ซูหยุนจะทำยังไง!"
"เป็นโอกาสศิษย์พี่" เด็กหนุ่มวัยหนุ่มที่อยู่ข้างข้างพูด
ซูกวงไม่ยอมปล่อย เขาได้เปิดเผยทุกอย่างให้ซูหยุนแล้วและโจมตีอย่างรวดเร็ว เขาเล็งไปที่หัวใจของซูหยุน
บุคคนนี้ตั้งใจจะฆ่าเขาอย่างโหดเหี้ยม
ผู้ชมกลั้นหายใจและจ้องเขม็งในเวที
ผู้ตัดสินในเวทีไม่สรุปการแข่งขันเพราะซูหยุนยังคงยืนอยู่
แต่ทุกคนเข้าใจความตั้งใจของซูกวง
ซูตงฟางชอบชิงเอ๋อแต่ซูหยุนคือเสี้ยนหนาม ไม่เพียง แต่ซูกวงต้องการใช้การแข่งขันนี้เพื่อกำจัดซูหยุนเขาอยากจะประจบสอพลอซูตงฟางด้วย
กำปั้นไม่มีตา แม้ว่าตระกูลซูจะมีมาตรการป้องกันในสถานที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในการแข่งขัน ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ซูกวง เข้าใจว่าการฆ่าซูหยุน จะไม่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ซูตงฟางไม่เพียง แต่จะช่วยเขา แต่เขก็จะตอบแทนอีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะใช้วิธีขยับเพื่อสังหาร!
อย่างไรก็ตาม ...
ขณะที่เขาอยู่ใกล้ซูหยุนร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านและกลับกลายเป็นว่าเขาไม่มีความเสถียรจนไม่สามารถยืนได้ ทันใดนั้นร่างของเขาก็แข็งเป็นรูปปั้น
ในเวลาเดียวกันได้มีคู่ดวงตาที่โหดร้ายจ้องมาด้วยเจตนาอันลึกลับในการฆ่าจ้องมองเข้าไปในซูกวง
ดวงตานั้นลึกล้ำน่ากลัวและมืดเหมือนหลุมดำ
ตามจารีตเลือดของบุคคลนั้นเป็นสื่อที่ใช้ในการเปิดใช้เทคนิคปีศาจ อย่างไรก็ตามประการหนึ่งไม่จำเป็นต้องใช้รูปแบบที่จะวาดด้วยเลือด ทั้งหมดที่ขาดไม่ได้สำหรับอักขระที่จะถูกจารึกไว้ในจิตวิญญาณของคนใดคนหนึ่ง
ในกรณีนี้หลายสิ่งหลายอย่างอาจกล่าวได้ว่าแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ในพริบตาความรู้สึกสบาย ๆ ก็เดินผ่านร่างของซูกวงตั้งแต่หัวจรดเท้า เลือดของเขาดูเหมือนจะแข็งตัว
เขายืนนิ่งมองเห็นซูหยุนยกหมัดขึ้นมาเขาใช้เรี่ยวแรงในร่างกายของเขาทั้งหมด ซูกวงรู้สึกว่าคอของเขาถูกบดขยี้อย่างรุนแรง จากนั้นมือก็ห่อหุ้มรอบหัวของเขา พวกมันเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจพลังวิญญาณซึ่งใครเห็นต้องเอามืออุดปาก
“แข็งแกร่ง”
อำนาจ!
ร้ายกาจ!
เย็นชา!
การแสดงที่น่าสงสารของซูหยุนก่อนหน้านี้เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องใช้เทคนิคปีศาจของเขา
อำนาจพลังที่ต่ำต้อยก่อนหน้านี้มีความหมายเพียงอย่างเดียวในการทำสิ่งนี้ได้!
ใช่แน่ๆ!
ข้าไม่เคยนับว่าคนๆนี้เป็น "นักล่าเริ่มต้น!"
หัวใจซูกวงเต้นอย่างแรง
เขาต้องการที่จะหลบหนี แต่มันก็สายเกินไป
หมัดได้ไกล้เข้ามาและอำนาจพลังวิญญาณที่รีดเค้นจากเทคนิคปีศาจนำไปใช้ครั้งสุดท้าย
ซูตงฟางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและใบหน้าของเขาก็จางหายไป เขารีบลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า "ซูหยุนเจ้ากล้าท้าทายข้าหรือ!"
แต่ในขณะที่เขาตะโกน ...
ตูม!!
การระเบิด กำปั้นที่กำบังของซูหยุนสัมผัสกับอากาศรอบ ๆ สิ่งที่เคยเป็นหัวของซูกวง มันเปิดออก ศรีษถูกบดขยี้ สมองและเลือดไหลทั่วพื้นะเวที
ทันใดนะนั้น ...
พื้นที่การแข่งขันทั้งหมดก็เงียบกริบ ทุกอย่างดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยฝุ่น
ร่างที่ไร้หัวของเขายังคงรักษาท่าทางการต่อสู้ไว้ข้างหน้าซูหยุนบนเวที... #######################!# SwordGod:กลิ่นอายจิตวิญาณก็คือออร่าพลังวิญาณนี่แหละครับ ให้นึกถึงตอนที่โงกุนมันระเบิดพลังออกมา แต่ในนิยายผมเลยใช้ว่า กลิ่นอาย แต่ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูอาจใช้ว่า ระเบิดออร่าพลังวิญญาณปกคลุมร่างกาย นะครับ แต่จริงๆผมอยากใช้อันหลังมันตื่นเต้นกว่า^_^