ตอนที่ 6 : ซามูไรสาวกับเด็กหนุ่ม
การปิดภาคเรียนของการศึกษาครั้งแรกมาถึง เริ่มต้นการหยุดยาวในครั้งนี้ รูเดิล เลือกที่จะนั่งรถม้ากลับมายังปราสาทของเขา แม้เวลาที่เขาจากไปถึง 3 เดือน แต่เมื่อเขากลับมาถึงปราสาท ความรู้สึกที่เขาเคยมีเมื่ออยู่ปราสาทกลับไม่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากนัก
คงจะมีก็แต่การศึกษาของรูเดิล ในบ้าน อาร์ชดยุก เท่านั้นที่เปลี่ยนไป เมื่อพ่อของเขาเห็นใบรายงานผลเรียน จากที่โรงเรียนของเขา เขากลับกลายเป็นอิจฉาเด็กหนุ่มที่มีความสามารถมากกว่าลูกชายอีกคนของเขา และเมื่อเขาทราบว่า รูเดิล มีความสามารถมากกว่า ทำให้เขากลับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองไปทันที
“สิ่งที่ดีที่สุดคือแค่กระดาษใบนี้!? ไม่ว่าจะพยายามมากมายขนาดไหน หากเป็นได้แค่มนุษย์ที่ไร้ค่าเช่นเจ้า ก็เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรเลย !”
พ่อของเขาได้วางความคาดหวังทั้งหมดที่เขามีในตัวของ ครัซ ครัซเป็นเด็กฉลาดและเชื่อฟัง แต่ที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้ เหมือนว่าพรสวรรค์ของรูเดิลจะพุ่งทะลุความสามารถทั้งหมดที่เขาเห็นในตัวครัซไปเสียแล้ว
“ใบหน้าของท่าน ทำให้ผมรู้ว่าท่านกำลังผิดหวังในตัวของผม!”
หากพวกเขารู้ว่าที่จริงแล้วรูเดิลไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่เขาว่า พวกเขาจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อรูเดิลโดยทันที ความคาดหวังของรูเดิลที่มีต่อครอบครัวของตนลดวูบลงไปทันทีที่สิ้นสุดคำพูดของพ่อเขา ชีวิตที่โรงเรียนของเขากลับดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับความเจ็บปวดที่แสนสาหัสในตอนนี้ที่เขามีให้กับสถานที่ที่เรียกว่าได้ว่าเป็น ’บ้าน’ ของเขาเอง
“พี่ชาย สุดท้ายพี่ก็ได้กลับมาบ้าน แต่ทำไมหน้าตาของพี่ ดูไม่สดใสเลย”
ลูน่า ผู้เปรียบเสมือนกึ่งน้องสาวของเธอถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่เขากำลังทานข้าวพร้อมกับเธอ พี่ชายของเขาผู้ที่สามารถกินอาหารรสชาติแย่ได้อย่างไม่ทิ้งเศษใดๆ แต่วันนี้เขากลับแทบไม่ได้สัมผัสอาหารเลยแม้แต่น้อย
“ใช่ … เฮ้! เธอเกลียดฉันไหม?”
“พูดอะไรแบบนั้นน่ะพี่ ฉันรักพี่ไม่น้อยเลยนะ”
รูเดิลได้สัมผัสถึงรอยยิ้มอันแสนบริสุทธิ์ ที่น้องสาวเขายิ้มให้เขาในขณะที่พูด ทำให้หัวใจดวงน้อยๆของรูเดิลพองโตขึ้นมาเกินกว่าจะกลั้นยิ้มไว้
“อืมม ฉันรู้แล้วล่ะ ขอบคุณมากนะลีน่า”
ในตอนเด็กรูเดิลไม่สนใจทัศนคติของคนรอบข้างที่มีต่อเขา แต่ตอนนี้เขาเติบโตขึ้นมากเขาเริ่มสนใจความเกลียดชังที่คนรอบข้างมอบให้เขา มันทำให้เขารู้สึกว่า เขากำลังอ่อนแอ
และในเวลาเดียวกัน รูเดิลรู้สึกได้ว่าเขายังมีผู้หญิงอีกคนที่มีค่ามากสำหรับชีวิตของเขา ผู้ที่คอยอยู่ให้กำลังใจเขามาตลอด จากนี้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งร้ายๆที่เข้ามาให้ได้
“พี่ผู้ไม่เคยสูญเสียความหวังใดๆ และพี่ก็จะได้เป็นดรากูน อัศวินแห่งมังกรรรรร !”
ในคำพูดเหล่านั้นทำให้รูเดิลเหมือนถูกระเบิดแห่งความสุขกำลังปะทุใส่เขา เขาอมยิ้มค่อยๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเธอเองยังไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขา
“ใช่ มันจะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน หลังจากที่ฉันไปฝึกฝนจากข้างนอกเสร็จสิ้น”
“นั่นแหละ! ถูกต้องเลย! พี่ต้องแสดงให้ฉันเห็นว่าพี่แข็งแกร่งขึ้นเพียงใด ในตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เราห่างกัน”
หลังจากการพักผ่อนในช่วงปิดเทอมสิ้นสุดลง รูเดิลได้กลับไปยังโรงเรียนของเขา เขากลับมาถึงโรงเรียนก่อนที่จะเปิดเรียน 2-3 วัน เขามองหาคนที่เขารู้จัก มีเพียงอิซูมิที่ทำท่าจะทักทายเขา แต่เขายังไม่พร้อมที่จะถามอิซูมิถึงเรื่องที่เธอกลับบ้าน
อิซูมิได้เตรียมของที่ระลึกจากดินแดนของเธอ ที่เธอนำมาฝากเพื่อนเพื่อให้เป็นที่ระลึก ให้แก่รูเดิล ในขณะที่รูเดิลชวนเธอไปที่โรงน้ำชาก่อนจะส่งมอบขนมอบที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปแก่เธอ
“ฉันขอโทษ ฉันไม่สามารถนำของที่ระลึกมาให้เธอได้”
รูเดิลกล่าวคำขอโทษอย่างลอยๆ
“นายไม่ได้กลับบ้านหรอ ทำไมล่ะ ?”
ในขณะที่เธอลังเลนิดหน่อยในคำถาม อิซูมิมองเขาก่อนที่จะพยายามอ่านอารมณ์ และทำความเข้าใจในตัวของเขา แม้ว่ามันจะไม่สำคัญสักเท่าไหร่นัก แต่เขาก็รู้สึกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมากจาก 3 เดือนก่อน เธอรู้สึกว่าเขาต้องมีอะไรที่บ้านเป็นอย่างแน่ แต่เขารับรู้ได้เพียงแค่นั้น เธอพยายามที่จะพูดถึงบ้านของเธอ
เธอยอมแพ้ อิซูมิกล่าว ..
“บ้านของงฉันอยู่ห่างไกลจากที่นี่มาก และบ้านของฉันก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร และฉันก็เป็นผู้หญิงใช่มั้ย? และตอนนี้ฉันยังต้องเดินทางมาเรียนต่างแดนอีก ในที่ที่แทบจะไม่มีญาติของฉันเลย มันก็อาจจะยากที่เราจะเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน”
รูเดิลตั้งใจฟังอย่างจริงจัง การที่เธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา มีผู้หญิงมากมายในหมู่ของอัศวินแห่งมังกร บางทีผู้หญิงอาจจะมีความสามารถและทักษะมากเพียงพอกว่าผู้ชายหลายๆคนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็น
มีอะไรที่มากกว่านั้น รูเดิลสนใจในตัวของ อิซูมิ ผู้ชำนาญเรื่องการรบดาบ ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอ เธอสามารถใช้ดาบของเธอในการฟัน แทง ได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว และมหัศจรรย์ เธอผู้เปรียบเสมือนซามูไรสาว
แต่รูเดิลก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เขาไม่รูเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเธอ
“มีหลายอย่างที่ฉันไม่ได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมของเธอและฉันไม่ได้สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับมันได้เลย แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะต้องยอมแพ้เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงหรอกนะ เธอทั้งสวย แข็งแรง . . .”
“เดี๋ยวนะ! อะไร! ระ..รูเดิล นายตีหัวตัวเองมาหรือยังไงกัน?”
ใบหน้าของอิซูมิแดงก่ำคล้ายกับว่าเธอกินมะเขือเทศไปทั้งลูกอย่างนั้น เธอนึกถึงรูเดิลจากมุมมองของเธอ จริงอยู่ที่เขาเป็นคนแปลกๆอย่างที่ใครเขาว่ากัน แต่เขาก็เป็นคนที่จริงจัง และมีความมุ่งมั่นต่อความฝันของตนเอง .. รูเดิลเป็นพื้นฐานของคนที่มีความใฝ่ฝัน
เธอไม่เคยพบปัญหาเหล่านี้ จริงอยู่ที่รูเดิลอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่เธอจะมีความสุขทุกครั้งหลังจากที่ได้ยินคำชมเรื่องความสวยของเธอ
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ? หรือฉันพูดอะไรที่ไม่ดีออกไปอีก งั้นฉันต้องขอโทษด้วย ..”
“ไม่!..ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันแค่ไม่เคยมีใครมองหน้าฉันแล้วชมว่าฉันสวยมาก่อน … ช่างมันเถอะ แล้วนายล่ะ สนุกกับการกลับบ้านไหม?”
อิซูมิกำลังจะเปลี่ยนเรื่อง แต่
“โอ้! ที่บ้านของฉันเป็นไงน่ะหรอ? ฉันสนใจที่จะรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มากกว่า”
มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อิซูมิพยายามอธิบายด้วยใบหน้าที่แดงอย่างระมัดระวัง เขาเลือกที่จะไม่พูดความจริงทั้งหมดเรื่องใบหน้าอันแดงก่ำของเธอ เพราะกลัวว่าเขาจะหลงผิด แต่เธอก็มองรูเดิลด้วยสายตาอันอบอุ่น
ในภาคการเรียนที่สอง เริ่มต้นของการเปิดเทอมเป็นช่วงกิจกรรมของโรงเรียนที่จัดขึ้นควบคู่ไปกับการศึกษาของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งและปีที่สอง เป็นหลักสูตรขั้นพื้นฐานที่จะนำพาพวกเขาไปออกไปเรียนรู้กับ อัศวิน ผู้วิเศษ สงคราม และขุนนาง เหตุการณ์ต่างๆจะเกิดขึ้นเพื่อจับคู่กัน
“ในเดือนถัดไป เราจะฝึกศิลปะการล่ามอนสเตอร์ เป็นการเรียนรู้ร่วมกันของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งและปีที่สอง และคุณจะไม่ได้รับการยอมรับจากอาจารย์ หากคุณขาดเรียนในวิชานี้”
อาจารย์ประจำชั้นอธิบายพร้อมไปกับเสียงโห่ของนักเรียนระดับลูกขุนนางบางคน มันเป็นการฝึกอบรมในบริเวณป่าที่ใกล้กับสนามรบ แน่นอนที่ว่าเราสามารถพูดได้ว่ามันใกล้ เพราะมันห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร … การฝึกอบรมการล่ามอนสเตอร์เป็นพื้นฐานของอัศวินทุกคนที่ต้องสามารถเอาชนะเหล่ามอนสเตอร์นั้นได้
มันเป็นการฝึกที่จะทำให้ความภาคภูมิใจเข้าไปสู่ในรางกายของเขา และแน่นอนที่ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านมอนสเตอร์ที่คร่ำครึจะต้องแบ่งแยกนักเรียนระหว่างชนชั้นและรวมไปถึงนักเรียนที่มีความสามารถที่ได้รับรางวัลในปีที่ผ่านมาด้วย .. ดีที่พวกเขาไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
“ต่อสู้? อ๊า มันเป็นการต่อสู้ที่แท้จริงครั้งแรกของฉัน”
รูเดิลเป็นอีกคนที่ได้ผ่านให้เข้ารับการอบรม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยากจะร่วมต่อสู้กับเขามากนัก มอนสเตอร์บางตัวสามารถปลิดชีพของเหล่านักเรียนได้ เพราะฉะนั้นด้านความปลอดภัยของสถานศึกษาจึงจำกัดมอนสเตอร์และลดจำนวนมอนสเตอร์ลงเพื่อความปลอดภัยและทำให้การฝึกอบรมเกิดประโยชน์
“งั้นมาเริ่มกันเลยนะ เปิดตำราของพวกเธอไป …”
ความผิดปกติเริ่มคืบคลานเข้ามาในป่าใกล้กับของโรงเรียน ต้นไม้ที่ลดลง และศพของมอนสเตอร์ที่อ่อนแอกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณผืนป่า ควบคูคู่ไปกับเสียงคำรามต่ำๆของร่างกายอันใหญ่โต
“คราววววววววววววววววววว”
สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับหมูป่าตัวใหญ่ยักษ์ที่มาพร้อมกับเสียงคำรามต่ำๆ ดวงตาสีแดงเรืองแสงที่แสดงถึงความทรงพลังที่มีอยู่ ณ ผืนป่า ความผิดปกติได้เกิดขึ้นไปพร้อมกับความลึกของป่า
หนังสีดำที่มีเส้นสีเขาออกแซมอยู่ทั่วตามร่างกาย มอนสเตอร์แบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน และมันไม่ได้ปรากฏขั้นในตำรา ‘ ไม่มี’ . . .