ตอนที่ 5 : เด็กหนุ่มผู้พราวเสน่ห์และเด็กหนุ่มผู้ไม่มีวันตาย
รูเดิลได้เข้าศึกษาในสถานศึกษาอย่างปลอดภัย กับการยืนยันทักษาขั้นพื้นฐานและความเข้าใจในเนื้อหา ในช่วงสามเดือนแรกทางสถานศึกษาได้จัดการทดสอบความถนัด ทุกคนยังมีชีวิตที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน .. ความแตกต่างในความสำเร็จของแต่ละบุคคลและสภาพแวดล้อมของแต่ละคนจะช่วยสร้างข้อบังคับใหม่ขึ้นมาในสถานศึกษาแห่งนี้และเช่นเดียวกัน สถาบันการศึกษาจะต้องประเมินนักเรียนที่เข้ามาใหม่ใหม่ และอาจารย์ฟุย คือคนที่ให้รูเดิลผ่านการประเมิน
“เป็นไปไม่ได้! จริงอยู่ที่เข้าสำเร็จการศึกษาในการขึ้นฐานแล้ว .. แต่จากทักษะที่มีตอนนี้การใช้เวทย์มนต์ระดับประถม การฟันดาบ และศิลปะการต่อสู้ยังเป็นเพียงตัวเลขที่ไม่สูงมากนัก”
“และฉันก็ได้ยินมาว่า รูเดิล ซามะ แห่งบ้าน อาร์ชดยุก มีแต่ความล้มเหลว”
“ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีนะ บุตรชายคนโตของบ้านขุนนางทั้งสามเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทย์มนต์”
“แต่มันไม่ได้มากเมื่อเทียบกับ ‘อัลเลต ฮาร์ดี้’ เขาสามารถใช้เวทย์มนต์ขั้นสูงแต่รูเดิลไม่ แม้ว่าเขาจะเรียนรู้เวทย์มนต์และการฝึกดาบด้วยตนเองก็ตาม”
“การใช้ชีวิตและการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน! นี่คือเหตุผลที่เขาเลือกมา ฟังนะ,รูเดิล ซามะ ได้ศึกษาจนเข้าใจการใช้เวทย์มนต์แล้ว ในการจำลองการต่อสู้ เขาได้เติบโตและเจ็บปวดเล็กน้อยที่หัวเข่า ทำให้เขาได้ฝึกต่อสู้แค่เพียงครึ่งทาง”
อาจารย์กำลังครุ่นคิด จริงอยู่ที่ทักษะของเขายังไม่ลงตัวและมีปัญหา แต่ความสามารถของรูเดิลมากพอที่จะกลบชื่อเสียงทางด้านลบของเขา
เขาถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กที่มีปัญหา ในขณะที่รูเดิลเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์ เขาจริงจังในการฟังบทเรียนและเขาก็ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่ออาจารย์ เขามีความเกลียดชังหากมีใครกำลังล้อเล่นอะไรที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น และเขาก็เป็นผู้ที่ปราบปรามเด็กพวกนั้นในชั้นเรียน
มันเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราต้องสอนในกับนักเรียนทุกคน แต่กับเขาไม่ต้อง!
ในการทดสอบจากการจำลองการต่อสู้ก็พบจำนวนของผู้ตรวจสอบที่พ่ายแพ้ต่อเขา ถึงแม้จะเป็นผู้ตรวจสอบขั้นพื้นฐาน แต่พวกเข้าล้วนแล้วแต่มีทักษะและมีความสามารถ
และรูเดิลมักจะแสดงความสามารถพิเศษของเขาออกมา เขามักจะท้ารบกับบุคคลที่มีความสามารถและคุณสมบัติพร้อมเป็นอัศวิน และอาจารย์ผู้ให้การศึกษาด้านเวทย์มนต์กล่าวถึงเขาว่าในทุกๆครั้งที่เข้าไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง เขาจะรีบหาคำตอบทันที นั่นคือสิ่งที่เขาเป็นและไม่มีใครเป็น .. เขาทำในสิ่งที่เราไม่คาดคิด
และปัญหาหลัก คือคำประกาศกร้าวของเขา ‘ฉันต้องการเป็นดรากูน’ วีรบุรุษในหมู่วีรบุรุษเป็นเรื่องที่หาได้ยากได้ทุกๆภูมิภาคของประเทศ เขากล่าวว่า เขาต้องการเป็นที่หนึ่ง แต่หากว่าทุกคนดำลังกลัวว่า หากรูเดิลได้เป็นที่หนึ่ง คนอื่นๆจะเป็นคนที่ถูกมองไม่เห็นหัวกันไปเสียหมด
“ทำไมเป็นเช่นนี้ เขาเป็นคนที่เก่งและมีความสามารถมาก แต่เราไม่สามารถเตือนเขาได้ และการฝึกวินัยให้เขาเป็นเรื่องที่ยาก”
อาจารย์อยู่กันด้วยความทุกข์ต่อไป . . .
สามเดือนนับตั้งแต่การลงทะเบียนเป็นนักศึกษาเสร็จสิ้น รูเดิลได้ทบทวนบทเรียนที่มีอยู่กับอิซูมิเพื่อนจากต่างแดนของเขา ถึงอิซูมิจะไม่เคยผิดหวังจากการตรวจสอบครั้งไหน . .
“นี่เป็นเรื่องที่ยาก..”
ในขณะที่เธอมีความฉลาดด้านตัวแรก แต่กับเรื่องบทความทางลายลักษณ์อักษร กลับกลายก็เป็นหายนะของเธอที่อีกเรื่องหนึ่ง
รูเดิลเลือกที่จะนั่งข้างเธอ ในขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสือ เขามองห้ามหนังสือที่กำลังวางตรงหน้า เพื่อค่อยๆหันไปมองเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ทางด้านขวามือของ รูเดิลเหมือนกำลังจะเจอปัญหาบางอย่างที่เกิดจากสายตาที่ดื้อรั้นของเขา เสื้อผ้าของเธอบางเกินไป .. เขากำลังเก็บกดหัวใจของเขาที่ใกล้จะทะลักออกมาทุกที
( อ๊ากก ทำไมมันถึงบางขนาดนั้น ฉันสามารถมองเห็นผิวที่แสนนุ่มนวลของคุณ แต่ฉันไม่…!!!! )
ท่ามกลางหมู่หนุ่มสาวอายุ 15 แรกรุ่น รูเดิลเริ่มพัฒนาความสนใจของเขาที่แตกต่างออกไปนอกเหนือจากมังกร และเมื่อเร็วๆนี้เขาได้พบกับผู้ควบคุมหอหญิงและอาจารย์ผู้ที่สอนเวทย์มนต์ขั้นพื้นฐานพวกเขาล้วนแต่เป็นผู้หญิงทั้งหมด
( นี่มันอะไรกัน ? เป็นการทดสอบความตั้งใจของฉันในการเป็นดรากูนงั้นหรอ )
รูเดิลได้พบกับวิธีการแก้ปัญหาที่แปลกใหม่ หรือเขาจะต้องทำตนให้คล้ายพระภิกษุสงฆ์ที่ไร้ซึ่งความรู้สึก
ดังนั้น รูเดิลจึงตัดสินใจปรึกษาปัญหาเหล่านี้แก่เวกัส
“ใช่หรอ ? นายไม่จำเป็นต้องตอบสนองทุกสิ่งทุกอย่างที่นายเห็น! และแน่นอนว่า หากคุณทำอะไรลงไปนายจะได้เจอกับผู้จัดการหอพักหญิงเป็นแน่ นายอายุเท่าไหร่กันเนี่ย”
เวกัสให้คำปรึกษากับรูเดิลอย่างคนที่กำลังเหน็ดเหนื่อย
“สิบห้า”
“ฉันรู้! ฉันหมายถึงอายุจิตใจของนาย ฟังนะ . . .”
เพียงแค่เวกัสกำลังจะอธิบาย อาจารย์สาวสองคนก็กำลังเดินเข้ามาทางพวกเขา อาจารย์โบกมือทักทายในขณะที่เวกัสกำลังจะโบกกลับ แต่รูเดิลเหมือนกำลังจะพูดบางอย่าง
“ชะ..ใช่! นายและฉัน เราทั้งสองคนยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม นั่นคือความหมายทั้งหมด ใช่!”
“ฉันต้องทำอะไรเพื่อที่จะหยุดระลึกถึงมัน ? บอกตามตรง ฉันรู้สึกเหมือนฉันจะเสียเวลาไปกับความอดทน”
“ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีอาจจะเป็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น เมื่อคุณได้รับประสบการณ์หรือบางสิ่งบางอย่างที่แปลกใหม่”
ในคำพูดของเวกัส ทำให้เขาคิดได้ว่ามันจริงอย่างที่เวกัสพูด
“ได้เลย! ฉันจะไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ขอบคุณมากนะเวกัส”
เมื่อเวกัสได้ยินดังนั้น มันเป็นเหมือนคำพูดที่บอกว่ารูเดิลกำลัจะไป
“อ๊ะ! เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน รูเดิล!!!”
รูเดิลไม่สามารถยืนยันกับตัวเองได้ว่าเขามีประสบการณ์แล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไปยังหอสมุดของโรงเรียน เพื่อหาหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เขาคิดว่าเขาจะได้เรียนรู้ แต่แล้ว…
“มันไม่ได้ดีเลย ฉันไม่เจออะไรเลย ..”
โดยปกติเขาจะใช้หอสมุดเป็นเครื่องมือในการหาข้อมูลและทักษะต่างๆเกี่ยวกับมังกร และการที่จะเป็นดรากูน เขาจึงไม่คิดแต่สักนิดว่าครั้งนี้เขากลับไม่เจออะไร แต่เขาก็ยังเลือกที่ถามเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ของเขา . . .
‘ นักเรียนดังต่อไปนี้ จะได้รับการกักบริเวณ .. รูเดิล อาท บ้าน อาร์ชดยุก ‘
เสียงประกาศดังขึ้นภายในบริเวณของหอพักชาย เพียงเพราะปากที่พาหาเรื่องของเขาแท้ๆ รูเดิลนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาเพียงได้แต่อธิษฐานกับตัวเองว่าเรื่องนี้จะไม่มีอิทธิพลใดๆต่ออนาคต ที่เขาใฝ่ฝันจะเป็นดรากูนใช่ไหม? และที่สำคัญกว่านั้นคือ การที่เขาถูกกักขังบริเวณไม่ให้ออกไปไหนได้ตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์นั้นมันไม่มากไปเสียหน่อยหรอกหรอ? สิ่งที่ฉันพูดทั้งหมดหวังว่ามันจะได้ประสบการณ์ ประสบการณ์อะไรกัน? เขาเพียงได้แต่ถามตัวเองอยู่อย่างนั้น
ในขณะที่รูเดิลกำลังคิดไปแบบนั้น เวกัสก็มาพาเขาไปทานอาหาร
“นายทำบ้าอะไรลงไป! ฟังนะ เมื่อมันถึงเวลาประสบการณ์ระหว่างผู้หญิงและผู้ชายมันก็จะ*** โดยที่นายไม่ต้องพยายามหามัน ไม่ต้องทำตัวเป็นโรคจิตแบบนี้!”
“นายเธอแล้ว แต่ฉันยังไม่เคยได้ยินใครที่จะเข้ามาพูดด้วยคำพูดที่ว่า ‘ต้องการให้มี***’ แต่นายสามารถบอกได้ว่าจริงๆว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ?”
“เกิดอะไรขึ้นกับความคิดของนายกันเนี่ย !?”
ในขณะที่รูเดิลและเวกัสกำลังคุยกันอยู่ หญิงสาวที่ถูกรูเดิลถามคำถามที่หยาบคายนั้นก็มาถึง เขาอยู่ห่างจากรูเดิลไม่ไกลนัก แต่ก็ยังคงได้รับการตอบกลับที่ค่อนข้างดีจากเธอ
ในหมู่ของพวกเขาทั้งหลาย นักเรียนหญิงเหล่านั้นยังคงบอกว่าไม่เป็นไร
รูเดิลได้ใช้กลยุทธ์ของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เด็กสาวทุกคนไม่ได้แม้แต่จะโกรธหรือเคืองเขา ทำให้สิ่งดีๆหลายๆอย่างเริ่มตามเข้ามา จากเด็กหนุ่มผู้หวาดกลัวในวันนั้นจนวันนี้เขาได้รับขนานนามว่า ‘เด็กหนุ่มผู้พราวเสน่ห์ ’
อัลเลต ฮาร์ดี้ ผู้ถูกขนานนามว่า เด็กหนุ่มผู้ไม่มีวันตาย ผมสีบลอนด์และความแตกต่างของสีที่งดงามผิดปกติของความงามเหล่านั้น นั่นคืออัลเลต เขาเข้าใจความสมบูรณ์ของโลกใบนี้เป็นอย่างดี เข้าใจการเจริญเติบโตของระบบ กิจกรรมและสิ่งต่างๆ เขาได้ความเข้าใจทั้งหมดมาจากโลกของเกมส์ที่เขารัก
ภายในการใช้ชีวิตของเขาทั้งหมดนั้นเขาเรียกรูเดิลว่าความผิดปกติ
บาบาทของเขาที่เป็นบุตรชายคนโตของอีกขุนนางและสัญลักษณ์และความชั่วที่เกิดจากขุนนางนั้น กับธรรมชาติที่เกลียดชังการทำงานอย่างหนักและปัญหาทุกอย่างที่ถูกแก้ไขได้ด้วยเงินของเขา มันเป็นความขี้ขลาดที่สุดที่คนอื่นเขาจะทำกัน
รูเดิลที่ควรจะเป็นคนสำคัญของเหตุการณ์นี้ กลับกลายเป็นอัลเลต เพียงเพราะแค่อัลเลตต้องการที่จะเอาชนะเขาจากการยืนยันสถานะของเอลฟ์สาว
หลังจากที่รูเดิลได้อยู่ในข้อพิพาทที่หอหญิง เอลฟ์สาวหลายคนตั้งใจที่จะเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากเขา นั่นทำให้อัลเลตพ่ายแพ้ให้แก่รูเดิลและผู้ติดตามของเขาไป และรูเดิลก็กลับมาเป็นที่ชื่นชอบของหญิงสาวอีกครั้ง แต่รูเดิลกลับมาหลังจากที่อัลเลต ปรากฏตัวขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น ? เพียงเพราะฉันเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่เหมือนคนพิเศษอย่างนั้นหรอ? มันเป็นเพราะฉันได้รับสถานะจากสาวๆงั้นหรอ แล้วทำไมฉันจะต้องไปขอสถานะจากสาวๆพวกนั้น นั่นเป็นเรื่องงี่เง่าที่สุด!”
และเรื่องทั้งหมดนั่นน่าจะจบเร็วๆนี้ ในไม่กี่เดือนสุดท้ายของปีแรก เหตุการณ์ที่เขารอคอยกำลังจะมาถึง การแข่งขันต่อสู้เพื่อแบ่งชนชั้นในตอนท้ายปี หนึ่งในการต่อสู้ซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละชั้นปี
“สถานะในปัจจุบันของฉันตอนนี้ ถือว่าสามารถเข้างาน รูนไนท์ ซึ่งเป็นพิธีสำหรับชนนั้นสูง และฉันก็สามารถใช้เวทย์มนต์ขั้นสูงได้อย่างคล่องแคล่ว และฉันจะใช้มันฆ่าเวลาเพื่อรอให้ถึงเวลานั้น แต่ตอนนี้ฉันยังไม่เห็น ‘ มิเลีย ’เลย น่าเบื่อจังงง”
อัตเลต ผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างในความเป็นไปของโลก นั่นทำให้มันเป็นเรื่องที่ง่ายที่เขาจะเข้าร่วมงานนี้ และ อัลเลตได้ถูกขนานนามว่า’ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นปีของเขา’
… และเขายังได้พูดถึง มิเลีย อิซึมิ และเวกัส ซึ่งทุกคนได้ติดต่อกับรูเดิลหมดแล้ว
หัดปิดก้นของคุณและมองดูพวกเขาซะบ้าง อัลเลต คุงงง . . .