AST บทที่ 69 - ยาแห่งปาฏิหาริย์ ยาเม็ดทองคําเซียนเทียน
บทที่ 69 - ยาแห่งปาฏิหาริย์ ยาเม็ดทองคําเซียนเทียน
เหวินเหรินอูซวงเริ่มรู้สึกได้ว่าการโจมตีของชิงสุ่ยรวดเร็วขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งของพวกเขากำลังเข้าสู่การเผชิญหน้ากัน
แม้ว่าการหลบการโจมตีที่เหวินเหรินอูซวงทำนั้นอาจจะดูง่าย แต่เขากลับรู้สึกว่าทุกท่วงท่ากระบี่ที่เขาปล่อยออกไปนั้นยังคงใช้เวลามากเกินไป มันจึงทำให้เขาไม่อาจโจมตีโดนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่สิ่งที่ชิงสุ่ยไม่อาจรู้เลยคือ เหวินเหรินอูซวงกำลังถูกกดดัน เธอสามารถบอกความแตกต่างในแต่ละการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ยเมื่อเขาเริ่มโจมตีเธอ ผ่านการใช้เคล็ดวิชาระดับเทวะเซียนเทียน จ้าวจันทรา เธอใช้มันในการหลบหลีกแต่ละกระบวนท่า แต่กลับไม่ทั้งหมด เหวินเหรินอูซวงสามารถบอกได้เลยว่าเธอนั้นไม่อาจคาดเดากระบวนท่า สุดท้ายทั้ง 3 ของชิงสุ่ย
“นี่สินะคงเป็นความห่างชั้นระหว่าง ท่านบรรพบุรุษ กับดินแดนแห่งสัจธรรม”เคล็ดกระบี่ของเหวินเหรินอูซวง แม้ว่าจะไม่บรรลุในขั้นดินแดนแห่งสัจธรรม แต่อย่างน้อย เธอก็อยู่ในขั้นบรรลุความสมบูรณ์แบบ ขั้นบรรพบุรุษ แต่ละดินแดนนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ขั้นก่อตั้ง ขั้นกลาง ขั้นสูงสุด และขั้นบรรลุความสมบูรณ์แบบ
แม้ว่าความห่างชั้นระหว่างระดับบรรลุความสมบูรณ์ในขั้นบรรพบุรุษ กับขั้นดินแดนแห่งสัจธรรมนั้นห่างกันเพียงแค่ปลายผม แต่ความกว้างแค่ปลายผมนั้นเปรียบได้กับระยะทางระหว่างสวรรค์กับโลก เฉกเช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ในอาณาจักรพลังปราณโฮ่วแล้วพึ่งก้าวเข้าสู่ดินแดนเทวะเซียนเทียน เหล่าคู่ต่อสู้ ที่อยู่ในระดับโฮ่วเทียนจะเปรียบได้กับขยะที่ไม่สามารถโจมตีเขาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ก้าวจันทราของเหวินเหรินอูซวงนั้นอยู่ในระดับบรรลุความสมบูรณ์แบบ ในขั้นดินแดนบรรพบุรุษ อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่อาจต่อต้าน <<เคล็ดกระบี่พื้นฐาน>>ที่อยู่ในขั้นดินแดนแห่งสัจธรรม นี่จึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงความแตกต่างของทั้งสองดินแดน
ชิงสุ่ยไม่รู้เลยว่าเหวินเหรินอูซวงกำลังใช้ทุกอย่างเพื่อป้องกันเข้า แม้ว่าเธอจะใช้เคล็ดวิชาในระดับเทวเซียนเทียน เคลื่อนร่างพริบตา
“หยุด!!!!!!” หากมองการโจมตีจากกระบี่ของชิงสุ่ย มันปรากฏเป็นภาพคลื่นของมหาสมุทรที่กำลังซัดสาด ทุกการโจมตีแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆโดยไม่เผยความผิดพลาดออกมา ทุกกระบวนท่าเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่ง นอกเหนือจากนั้นเธอยังสัมผัสได้ว่าการโจมตีของชิงสุ่ยสามารถปลดปล่อยได้ทุกรูปแบบ หากไม่ใช่เพราะเคล็ดวิชาก้าวจันทราของเธอ เธอคงจะเสียท่าไปนานแล้ว
มันช่างน่าเสียดายที่เขานั้นไม่ได้สามารถใช้ระดับปราณเทวเซียนเทียนได้ หากเขาบรรลุในระดับปราณเทวเซียนเทียน ความรวดเร็วและความรุนแรงหากถูกปลดออกมาจะต้องเผยความสามารถอันแท้จริงออกมาจากดินแดนแห่งสัจธรรมอย่างแน่นอน
ชิงสุ่ยหยุดการโจมตี และถอนหายใจเล็กน้อยขณะมองไปยังเหวินเหรินอูซวง หยาดเหงื่อก็ปรากฏขึ้นบนผิวหน้าของเธอ แก้มเติมเต็มไปด้วยสีแดง เขารู้สึกว่าปัจจุบันเหวินเหรินอูซวง นั้นดูอ่อนแอลงต่างจากหญิงก่อนหน้านี้
เหวินเหรินอูซวงพูดเงียบๆขณะมองไปยังที่ชิงสุ่ย ดูเหมือนเขาจะไม่ใช้ลมหายใจเลย เป็นเวลากว่าชั่วโมงที่ฝึกซ้อมเขาทำได้อย่างไร? สิ่งที่เธอไม่รู้นั้นก็คือชิงสุ่ยได้ฝึกฝนเคล็ดวิชากายาบรรพกาล มันได้สร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย หากเธอรู้ มันคงจะเป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจเลย ในการกระทำของชิงสุ่ย ภายใต้การไม่ได้ใช้พลังจากปรานเทวะเซียนเทียน การรับมือนั้นหาใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอ แต่หากเธอใช้พลังขั้นสูงสุดในการจู่โจม ไม่ต้องสงสัยเลยทางด้านความเร็วหรือสร้างพลังความแข็งแกร่ง ชิงสุ่ยย่อมไม่สามารถป้องกันเธอได้
แม้เธอจะรู้สึกปวดหัวใจ แต่เธอก็สามารถมองเห็นการเติบโตในภายภาคหน้าจากสายตาของชิงสุ่ยได้ เธอจึงตัดสินใจทำให้ชิงสุ่ยกลายเป็นหุ้นส่วนในการฝึกซ้อมของเธอ ตราบเท่าที่เธอสามารถลดความแข็งแกร่งของเธอลงมาให้เท่ากับชิงสุ่ยได้ มันจะยิ่งช่วยให้เธอเข้าใจในเคล็ดวิชากระบี่ง่ายขึ้น แต่การที่จะสามารถบรรลุขั้นดินแดนแห่งสัจธรรมได้นั้น เธอจะต้องรับรู้ในรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยมและขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเธอด้วย
“ข้าขอถามคำถาม บางคำถามกับท่านได้หรือไม่”ชิงสุ่ยมองไปยังเหวินเหรินอูซวงขณะที่เธอกำลังเดินออกจากห้องฝึกตน
“แน่นอนเจ้าสามารถถามได้ หยุดทำเป็นพิธีการเสียที ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว” เหวินเหรินอูซวงยิ้มอย่างมีความสุข
“ท่านรู้หรือไม่ว่ามีกี่วิธีที่จะสามารถบรรลุในระดับเทวะเซียนเทียนได้ นอกจากนี้ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง ในครั้งแรกที่ท่านสามารถบรรลุในพลังนี้ได้” ในที่สุดชิงสุ่ยก็ได้พบกับคนที่บรรลุในระดับเทวะเซียนเทียน เขาจึงไม่เขินอายเลยที่จะถาม หากคนทั่วไปต้องการพบเจอกับผู้ที่บรรลุในระดับเทวะเซียนเทียนนั้น แม้ค้นหายังไงก็ไม่อาจจะหาเจอได้แต่ตอนนี้คนที่บรรลุในพลังนั้นกลับอยู่ข้างหน้าเขา เขาจะทิ้งโอกาสนี้ไปได้อย่างไร?
เหวินเหรินอูซวงกระพริบตาอย่างทีขณะที่เธอจ้องมองไปยังชิงสุ่ย
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะอยู่ในจุดสูงสุดของระดับพลังปราณบัญชาสวรรค์?”
ชิงสุ่ยหัวเราะอย่างขมขื่นในขณะที่เขาส่ายหัว “ข้าเองนั้นก็ไม่แน่ใจ แต่ระดับจริงๆของข้านั้นตอนนี้อยู่ในขั้นที่ 3 ของระดับพลังปราณนักรบ แต่อย่างไรก็ตามหากข้าจะต้องต่อสู้กับคนที่อยู่ในระดับสูงสุด เช่น ขั้นปราณโฮ่วเทียน ถ้าคิดว่าพวกเขาก็คงไม่อาจสร้างปัญหาแก่ข้าได้”
“เจ้าช่างหน้าด้านเสียจริง!!!!”เหวินเหรินอูซวงหัวเราะ นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็นการหัวเราะอย่างเสียงดังปรากฏบนใบหน้าของเหวินเหรินอูซวง มันไม่อาจซ่อนหาคำใดใดมาอธิบายได้ในขณะนี้สีหน้าของเธอนั้นเบ่งบานราวกับสายรุ้งที่เข้าไปครอบครองจิตใจของชิงสุ่ย
“จากสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้ มี 2 วิธีที่แน่ชัดมาก ที่จะบรรลุในระดับเทวะเซียนเทียน วิธีแรก คนผู้นั้นจะต้องค้นหา”เส้นทางเลือก“แห่งโชคชะตา และทะลวงผ่านโดยการรับรู้อย่างแท้จริง วิธีที่สอง คือการใช้งาน”ยาเม็ดทองคำเซียนเทียน” ที่ถูกปรุงแต่งโดยผู้ปรุงยา ตราบใดที่คนผู้นั้นบรรลุในจุดสูงสุดของระดับโฮ่วเทียน หากรับประทานยาเม็ดนี้เข้าไป พวกเขาจะต้องก้าวเข้าสู่ระดับเทวะเซียนเทียนได้อย่างแน่นอน
“ยาเม็ดทองคำเซียนเทียน?”คำถามเกิดขึ้นภายใต้สายตาของชิงสุ่ย เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยเกี่ยวกับยาแห่งปาฏิหาริย์ มันจะสามารถช่วยเหลือเหล่าคนที่ไม่สามารถเปิดประตูเทวเซียนเทียนได้มากมาย
เหวินเหรินอูซวงหัวเราะเบาเบาๆ เธอสามารถเดาได้อย่างง่ายดายว่าชิงสุ่ยคิดสิ่งใดอยู่ “ยาเม็ดทองคำเซียนเทียน เป็นยาที่มหัศจรรย์ก็จริง แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าควรจะรู้เกี่ยวกับส่วนผสมที่จำเป็นในการสร้างมัน”
ชิงสุ่ยคาดหวังบางอย่างแต่เขารู้ว่าส่วนผสมนั้นจะต้องไม่เป็นสิ่งที่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ส่วนผสมสำคัญแรกก็คือ แก่นแท้จากสัตว์อสูร!!!”
ให้ตายเถอะ!!! สัตว์อสูร มันคือสัตว์อสูรไร้แก่นที่มีอายุยืนยาวกว่า 500 ปีจนมันสามารถสร้างแก่นแท้ขึ้นภายใต้ร่างกายของมัน พวกสัตว์เดรัจฉานที่บรรลุระดับขั้นเทวะเซียนเทียนนั้นจะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ที่บรรลุในระดับขั้นเทวะเซียนเทียน มนุษย์ที่บรรลุขั้นเทวะเซียนเทียนอาจจะไม่สามารถเอาชนะสัตว์ที่บรรลุขั้นเทวะเซียนเทียนแต่หากเกิดจากการรุมก็ไม่แน่ แต่มันก็มีข้อยกเว้นบางอย่างกับจะทุกครั้ง คือพวกมันก็ยังคงแข็งแกร่งกว่ามนุษย์
“นอกจากแก่นแท้สัตว์อสูร ยังมีส่วนผสมอื่นที่หายยากอีก เช่น ดอกหมาป่า เขากวางอ่อน โสม เห็ดหลินจือ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 1000 ปี สำหรับส่วนผสมเช่นเขากวาง สัตว์ตัวนี้จะต้องอยู่ในระดับสัตว์อสูร
ชิงสุ่ยถึงกับพูดไม่ออก มันเป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งที่จะได้รับแแก่นแท้ของสัตว์อสูร
“ยาเม็ดทองคำเซียนเทียนฟังดูแล้วมันก็ไม่เลว” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างเกียจชังหลังจากที่ได้ยิน
“โอ้ ดูเหมือนมีสิ่งหนึ่งที่ข้าลืมพูดไป ในบรรดาผู้ที่อาศัยยาเม็ดทองคําเซียนเทียน ในการบรรลุระดับพลัง พวกเขานั้นจะอ่อนแอกว่าผู้ที่บรรลุมันได้ด้วยตัวเอง เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาคงไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเลยก็สามารถบรรลุผ่านมันได้
คำพูดของเหวินเหรินอูซวงทำให้ชิงสุ่ยเกือบจะร้องไห้
“นี่มัน***อะไรกัน การหายาเม็ดทองคำเซียนเทียน นั้นยากแล้ว แต่สุดท้าย ผลที่ได้มานั้นกลับอ่อนแอกว่าผู้อื่นที่อยู่ในระดับเทวเซียนเทียน นี่มันช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ!” ชิงสุ่ยกล่าว
“ข้าไม่อนุญาตไห้เจ้าพูดคำหยาบคาย”เหวินเหรินอูซวง ยกมือขึ้นและเคาะหัวชิงสุ่ยเบาๆ
ช่วงขนาดนั้น ชิงสุ่ยที่กำลังรู้สึกเดือด โดนมือสีขาวราวกับหยก ทำให้เขาฟื้นคืนสภาพจิตใจ มันเป็นสภาพจิตใจที่เขาไม่เคยรู้สึกมานานแล้ว