AST บทที่ 63 – รับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับสตรีผู้เลอโฉม
บทที่ 63 – รับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับสตรีผู้เลอโฉม
เวลาทั้งหมดเวลากับหยุดไปชั่วขณะ ชิงสุ่ยหยุดนิ่งในตำแหน่งที่ค่อนข้างจะอึดอัดใจ มือของชิงสุ่ยยื่นออกมาเองและจับเข้าที่เอวของอวี้เหอ ชิงสุ่ยดูเหมือนจะสูญเสียความคิดความรู้สึกออกไปในขณะที่สัญชาตญาณเข้ามายึดครองร่างเข้าแทน เขาเริ่มถูจมูกริมฝีปากเขาลงบนพื้นผิว ทุกอย่างถูกสะกดด้วยกลิ่นหอมรัญจวนใจ เขาได้แต่อาลัยอาวรณ์ในความจริงที่ว่าผ้าไหมเนียนบางขวางทางระหว่างเขากับสรวงสวรรค์
“เฮ้ เจ้าเด็กเสเพล พอได้แล้ว!!!” อวี้เหอ ตะโกนออกมา อย่างตกใจโดยภายใต้เสียงของเธอนั้นบ่งบอกถึงความไม่โกรธเล็กน้อย ชิงสุ่ยตกตะลึงและเอามือออกอย่างเขินๆขณะที่เขาก็ยิงศีรษะ เขามองเห็นริมฝีปากสีแดงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และความเย็นชาที่ปล่อยออกมาจากสายตาของเธอ “มันช่างสวยอะไรอย่างนี้”ความคิดต่างต่างก็หายวับไปทันทีก่อนที่ชิงสุ่ยจะฟื้นคืนจิตใจ เขาเริ่มพูดตะกุกตะกักออกมา “เอ่อ เออ อืมมม มัน มะ …..ใช่ความผิดของข้า ก็เจ้าอยู่ๆก็หยุด ดังนั้นข้าเองก็เลยชนเจ้า ดังนั้นนี่มันคืออุบัติเหตุ!!!”ชิงสุ่ยถูจมูกของเขาเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของอวี้เหอ หลังจากเพียงสักครู่หนึ่งใบหน้าของอวี้เหอเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด ใครกันจะสามารถโกรธและเป็นเวลานานเมื่อชิงสุ่ยนั้นเป็นเด็กที่น่ารัก น่าเอ็นดูขนาดนี้
อวี้เหอสาวเงียบๆขณะที่ชิงสุ่ยไม่อาจคิดอะไรต่อได้ “จะหนุ่มน้อย เจ้านี้ถูกลิขิตให้เราเป็นหายนะของข้าอย่างนั้นหรือ? แม้ว่าเจ้าจะอายุน้อยกว่าข้าแต่ตัวเจ้าดูโตราวกับเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเป็นคนอื่นที่ทำกับข้าอย่างที่เจ้าทำ ข้าจะทำให้มันพิการในทันที….”
อวี้เหอรู้สึกช่วยไม่ได้กับการกระทำของชิงสุ่ย การกระทำเหล่านั้นสร้างช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมานับครั้งต่อครั้งแต่ไม่อาจอธิบายความรู้สึกเรานั้นได้
เธอพยายามปรับความรู้สึกให้มั่นคง อวี้เหอกล่าวคำออกมาอย่างเขิลอาย “ไปต่อกันเถอะ หากเจ้าก็ทำแบบนั้นอีกข้าจะโยนเจ้าออกจากโรงเตี๊ยมของข้า”
การกระทำของชิงสุ่ยนั้นนับได้ว่ายอดเยี่ยมเขาแสดงท่าทางยอมแพ้แล้วตอบกลับด้วยสายตาของลูกสุนัข “ข้าคงจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ข้ายังคงต้องแต่งงานและมีเหล่าบุตรที่น่ารักๆในอนาคต นั่งนานแล้วข้ายังคงต้องการเป็นลูกนกน้อย”
“พอแล้ว ไปกันเถอะ ข้าอยากรู้เสียจริงว่าจะใช้ประโยชน์จากข้าได้ดีขนาดไหน ก็ยังคงทำหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ ฮืม เราคิดว่าพี่สาวคนนี้ตาบอดอย่างนั้นหรือ การแสดงของเจ้านั้นนับว่าไม่เลว แต่มันยังดีไม่พอ ข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้วจากนี้ต่อไป” คำพูดของอวี้เหอออกมาจากความหงุดหงิด เธอเริ่มไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดก่อนหน้านี้ได้แล้ว
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของโรงเตี๊ยมอวี้เหอ และเดินเข้าไปห้องข้างๆ ห้องที่ตระกูลชิงเคยเข้ามารับประทานอาหารมาก่อน ขณะที่พวกเขาเข้าไปในห้อง ชิงสุ่ยประทับใจสำหรับสถานที่ของสตรีแห่งนี้ มีโซฟานุ่มนุ่มสำหรับ 3 คน โต๊ะสีเหลืองที่ทำออกมาในรูปสับปะรด พื้นหลังฝาผนังเป็นรูปท้องฟ้าสีครามพร้อมด้วยก้อนเมฆ ปูพื้นไปด้วยไหม ทั้งห้องกลิ่นอบอวลไปด้วยดอกกล้วยไม้ มันเสริมสร้างความสดชื่นให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัย อวี้เหอปิดประตู ในขณะที่เธอยิ้มให้กับชิงสุ่ยเล็กน้อย
อาจจะเป็นห้องของอวี้เหอเพลง ชิงสุ่ยอนุมานเอา
เมื่อหันหลังกลับ ชิงสุ่ยก็เห็นอวี้เหองั้นนอนอยู่บนโซฟาสีขาวนุ่ม ผิวขาวยกของเธอเมื่อเสริมด้วยเครื่องแต่งกายเรากับนักรบ ดวงตาสีดำที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าอันวิจิตรบรรจง เริ่มแต่งไปด้วยความสง่างามที่หาที่เปรียบไม่ได้ รูปร่างชดช้อยอ่อนนุ่มทำให้เลือดลมของชิงสุ่ยนั้นสูบฉีดดูความตื่นเต้น
เมื่อมองไปยังปฏิกิริยาที่ชิงสุ่ยแสดงมาทำให้เธอเขินอายเล็กน้อย ช่วยไม่ได้อวี้เหอทำได้แค่ยิ้ม อย่างไรก็ตามรอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วจากใบหน้าที่เป็นสีแก้มกุหลาบก็คลายตัวลง เห็นได้ชัดว่าความทรงจำก่อนหน้านี้ของเธอนั้นยังคงหมุนวนอยู่ ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจในปฏิกิริยาที่อวี้เหอแสดงออกมาและเพื่อช่วยให้เธอนั้นไม่ต้องลำบากใจเขานั้นจึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
“พี่สาว ข้าสามารถแอบมองห้องของท่านได้หรือไม่”ชิงสุ่ยรู้คำตอบอยู่แล้วไปยังคงไม่สามารถต้านทานความอยากถามอวี้เหอได้
“ไม่!!!!!!!”อวี้เหอปฏิเสธโดยตรง อันที่จริงแล้วความสวยงามของเธอผสมกับความตรงไปตรงมานั้นทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกดีอย่างยิ่ง
“ก๊อก ก๊อก!!”
“เข้ามาได้” อวี้เหอกล่าวหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ซินเย่ว์เดินเข้าไปในห้องพร้อมอาหารจานยักษ์ที่ส่งกลิ่นหอมน่าลิ้มรส ชิงสุ่ยรู้ดีว่ามันจะต้องเป็นปลาดำ 2 ตัวที่เขานำมาก่อนหน้านี้แน่นอน
“นายน้อยหญิง ท่านลุงหงเขาไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เขาได้กินปลาตัวนั้นไปแล้ว ถ้าหากว่าข้าไปเตือนเขาไม่ทัน ข้าเกรงว่ามันจะไม่เหลือปลาเลยสักตัวนึง”
“หลังจากซินเย่ว์วางจานลง อวี้เหอก็เชิญเธอเข้ามาร่วมรับประทานปลาด้วยกัน อย่างที่บอกถ้าทักษะทำอาหารของท่านลุงหงได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 2 ในเมืองร้อยไมล์ คงไม่มีใครกล้าประกาศตัวตนว่าตัวเองนั้นเป็นอันดับ 1 อีกแน่แท้
“ขอบคุณนายหญิง ตอนที่ท่านลุงหงกินปลาตัวแรกนั้นเขาก็ได้เสนอให้ข้าด้วย รสชาติของมันนั้นเกินกว่าที่คาดจะบรรยายได้ ข้าเชื่อว่าพวกท่านทั้งสองคงไม่เคยลืมรสอะไรที่อร่อยแบบนี้มาก่อนแน่นอน” ซินเยว์ตอบยังนุ่มนวลก่อนที่เธอจะวิ่งหนีออกไป
“เจ้าเด็กนี่ช่างไร้เดียงสายังไง”อวี้เหอยิ้ม
บรรยากาศเริ่มค่อนข้างแปลก เมื่อเด็กชายและเด็กผู้หญิงอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน ผู้ชายคนนั้นเริ่มจ้องมองหญิงสาวคนนั้นอยากเงียบๆ มันทำให้อวี้เหอรู้สึกคุ้มคลั่งเล็กกน้อย เพราะความรู้สึกที่ชิงสุ่ยจ้องมองนั้น ราวกับกำลังจ้องมองผู้หญิงของตัวเอง มันมีทั้งร่องรอยความทุ่มเท ทั้งความรัก ความชื่นชม และความภาคภูมิใจ…….
“ทำไมข้าคิดอะไรแบบนี้ เขายังเป็นแค่เด็ก อีกทั้งข้ายังแก่กว่าอีกนับ 10 ปี เหตุใดข้าอย่าถึงได้คิดเพ้อฝันในเมื่ออีกไม่กี่ปีหากข้าแก่ขึ้น ใบหน้าค่าจัดเต็มไปด้วยรอยย่น ข้าเดิมพันได้เลยว่าเขาจะไม่หันมามองข้างแถมรำคาญข้าอีก”อวี้เหอรวมตัวเองอย่างเงียบเงียบๆ
“มาาาา เรามาลองชิมทักษะการทำอาหารของท่านลุงหงกันเถอะ” อวี้เหอใช้ตะเกียบคีบชิ้นเนื้อปลาขึ้นมาก่อนจะวางเข้าไปในปากอันทรงเสน่ห์ของเธอ มันเป็นความสง่างามที่ไม่อาจรถลากสายตาได้ ชิงสุ่ยยังคงไม่ลืมกลิ่นและจ้องมองไปที่อวี้เหอ เพียงแค่การเฝ้ามองดูเธอกินนั้นทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและอิ่มเอมใจอย่างยิ่ง
“โห รสชาติมันช่างยอดเยี่ยมเป็นที่สุด!!!!! ทำไมทักษะการทำอาหารของท่านลุงหงส์ถึงได้ดีเช่นนี้ แม้แต่พ่อครัวระดับโลกก็ไม่อาจจะทำอาหารให้มีรสชาติอย่างนี้ได้!!!!”
ในที่สุดอวี้เหอสังเกตเห็นได้ว่าชิงสุ่ยยังไม่ได้รับกินเนื้อปลาหนังไปยังต้องมองเธออย่างตั้งใจ เธอรู้ว่าชิงสุ่ยมาที่นี่ด้วยเหตุจูงใจอื่น แต่เธอไม่อาจคาดคิดได้ว่าเขาต้องการอะไร
อวี้เหอไม่เสียเวลาอีกต่อไป เธอเริ่มบรรจงกินอย่างตั้งใจ ชิงสุ่ยรู้สึกหดหู่มากเมื่อเห็น 1 ใน 3 ของเนื้อปลานั้นถูกจัดจนหมดสิ้น เขาจะพลาดโอกาสรับประทานอาหารกับสาวสวยได้อย่างไร?
ชิงสุ่ยเริ่มต้นกินราวกับหมาป่าที่อยู่กะหายในขณะที่อวี้เหอนั้นยังคงกินอย่างสง่างาม
“อร่อยมาก!!!!”ชิงสุ่ยจับหน้าอกของเก่า
อวี้เหอเหลือบมองไปที่ชิงสุ่ยพร้อมทั้งแสดงความรู้สึกขบขันและความสงสัยออกมา “เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าเหตุผลจริงๆเหตุผลใดที่เจ้ามาในวันนี้ แม้ว่าข้าจะยอมรับว่าปลาตัวนี้นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ข้าเคยกิน แต่ข้าไม่เชื่อว่านั่นเป็นวัตถุประสงค์เดียวอย่างแน่นอน”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าแค่อยากมีความสุขในระหว่างรับประทานอาหารกับท่าน หากไร้สตรีโฉมงามร่วมโต๊ะอาหาร อาหารในจานแม้น่าพิสมัยก็อาจไร้ซึ่งความอยาก ข้าคงไม่อยากจะรับประทานมันต่อไป”
“เจ้าเด็กโง่ สตรีมากมายทั้งซ้ายขวาของเจ้าในตลอดเวลา เจ้าคิดว่าสตรีโฉมงามเหล่านั้นเป็นอะไรกันสำหรับเจ้า” อวี้เหอช่วยไม่ได้ที่จะแกล้งชิงสุ่ย
“สตรีโฉมงามเหล่านี้สำหรับข้านั้น คือสิ่งที่ข้าจะดูแลให้ดีที่สุด”