AST บทที่ 57 - ทักษะการจีบสาวของ ชิงสุ่ย
บทที่ 57 - ทักษะการหว่านเสน่ห์ของ ชิงสุ่ย
ชิงสุ่ย สนุกสนานมากในขณะนี้เขามีชีวิตชีวาและหน้าด้านมากขึ้น ถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติเขาจะไม่กล้าพูดคำดังกล่าว
เมื่อได้ยินการพูดคุยที่ธรรมดาของ ชิงสุ่ย สือฉิงจวง รู้สึกผิดปกติมาก เธอเป็นลูกคนสุดท้องในหมู่ครอบครัวของเธอและเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียว เธอเป็นไข่มุกของตระกูล สือ และได้รับความรักและความเสน่หาตั้งแต่เด็กจนถึงขณะนี้
เพราะธรรมชาติที่เย็นชาและห่างเหินของเธอในขณะที่ เด็ก ๆ รอบ ๆ ตัวเธอไม่เคยมีใครเรียกเธอว่าพี่สาวของมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกเรียกว่าพี่สาวแม้ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเธอ แต่ผู้ชายคนนั้นก็อาจจะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว! ความรู้สึกดังกล่าวเป็นความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเธอจริงๆ
“จะดีกว่าหากเจ้าหยุดพูด ข้าอาจจะแก้แค้นในสิ่งที่เจ้าทำกับพี่สองของข้าก็ได้” สือฉิงจวง เริ่มขุ่นเคืองเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ใช้ประโยชน์จากวาจาของเธอ แต่แทนที่เธอจะโกรธเธอกลับรู้สึกอยากหัวเราะ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน
รอยยิ้มที่เกิดจากความลำบากใจของ สือฉิงจวง ทำให้ ชิงสุ่ย รู้สึกราวกับโดนกระแสไฟฟ้าดูด และจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในความทรงจำ ด้วยความเงียบเขายังคงหลบซ่อนการชำเลืองมองไปที่ สือฉิงจวง ความงามที่เย็นชาของเธอเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างมาก ชิงสุ่ย ไม่แน่ใจว่าจะเป็นความเหินห่างที่เป็นธรรมชาติของเธอ ทำให้ สือฉิงจวง นั้นดูน่าสนใจเพราะทุกคนต้องการสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถหาได้
“แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้าจะเพียงพอที่จะเอาชนะกลุ่มคนรุ่นเยาว์เหล่านั้นได้ แต่เจ้าต้องระวังการตอบโต้ที่อาจจะเกิดในอนาคต แม้สมาชิกเหล่านั้นจะเป็นคนของตระกูลที่ยิ่งใหญ่และอาจเป็นเพียงสมาชิกชั้นล่างของเมืองร้อยไมล์ แต่การกระทำนั้นมันเทียบเท่ากับการทำลาย”ใบหน้า" และความภาคภูมิใจพวกเขา ข้ากล้าบอกเลยว่าจะมีผู้ท้าทายหลายคนเข้ามาก่อปัญหาให้กับเจ้าเพื่อจะกู้ "หน้า" กลับมาอีกครั้ง”
หลังจากครุ่นคิด ชิงสุ่ย ก็ได้แต่ยอมรับว่านี่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน ถ้าในอนาคตมีคนต้องการมาท้าทายอย่างต้องเนื่องแล้วเขาจะมีเวลาทำอย่างอื่นหรืออย่างไร แม้ว่าก่อนหน้านี้เรื่องที่เกิดขึ้น ชิงสุ่ย จะไม่ได้คิดมาก แต่ว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย
“พี่สาว ท่านรู้ไหมท่ามกลางรุ่นเยาว์ของตระกูลใหญ่ในเมืองร้อยไมล์มีพลังอยู่ในระดับใด” ชิงสุ่ย รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการกู้ “หน้า” พวกเขาต้องส่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์เพื่อมาท้าทายเขาซ่ำๆแน่ ถ้าเขารู้ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา อย่างน้อยเขาก็สามารถเตรียมตัวได้
“เจ้าช่างมองโลกในแง่ดีเจ้าพูดเหมือนกันว่าเจ้ามั่นใจเอามากๆ ยังไงก็ตามข้าต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้าเกินความความคาดหมาย ดูแล้วเจ้าอายุยังน้อยข้าสงสัยว่าเจ้าฝึกแบบไหนกันถึงได้รับความแข็งแกร่งระดับนี้ สำหรับคำถามนั้นฝ่ายตรงข้ามที่เจ้าต้องระวังคือ ซือตู หลวน จากตระกูลซือตู และ ติง หลาง จากตระกูล ติง พวกเขาทั้ง 2 อยู่ในหมู่คนรุ่นที่ 3 และพวกเขามีอายุประมาณ 30 ปีและทั้งสองคนอยู่ในระดับพัลงปราณบัญชาสวรรค์ขั้นที่ 2 และ 3 ของ” สือฉิงจวง ตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
สือฉิงจวง รู้สึกว่าจำนวนครั้งที่เธอหัวเราะในวันนี้มากว่าในครั้งที่ผ่านมาในรอบ 1 ปีเธอไม่สามารถซ่อนความรู้สึกกับคนที่อยู่ตรงหน้าเธอได้แม้เขาจะเป็นเพียงเด็กผู้ชาย
หลังจากได้รับข้อมูลจาก สือฉิงจวง เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ต้องขอบคุณพระเจ้าที่การบ่นเพาะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดารุ่น 3 ยังอยู่ในการคาดการณ์ของเขา อัจฉริยะรุ่น 2 ชิงเหอ ของตระกูลชิงก็มีระดับเดียวกับในช่วงยุค 30 ปีที่แล้วเช่นกัน ไม่รู้ว่าทำไม ชิงสุ่ย รู้สึกว่าตอนนี้เขามีความสามารถที่จะปะทะกับฝ่ายตรงข้ามที่มีระดับพลัง 2-3 บัญชาสวรรค์ได้
“ขอบคุณสำหรับข้อมูล เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าควรยิ้มให้มากในอนาคต เจ้าเป็นเหมือนดอกกุหลาบที่ดูสดใสเมื่อเวลาเจ้ายิ้ม ไม่มีการพูดเกินจริงเมื่อข้าจะบอกว่าความงามของเจ้านั้นสามารถทำให้กษัตริย์สูญเสียอาณาจักรของเขาเพื่อเจ้าได้เลย” ชิงสุ่ย พูดหยอกล้อ ใบหน้าของ สือฉิงจวง เป็นสีแดงและดูสดใสขึ้น
“เจ้าเด็กน้อย เจ้าต้องแพ้แน่” หลังจากที่เธอพูด สือฉิงจวง ยื่นกำปั้นของเธอเคาะเบาๆที่ไหล่ของ ชิงสุ่ย ขณะที่เธอโกรธกึ่งเขินอาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงท่าทางเหมือนเด็กผู้หญิง
ในขณะที่กำลังมีความสุข สือฉิงจวง ทำให้เขาล้มลง โดยไม่รู้สึกเจ็บใดๆ ทั้งหมดที่เขาคิดได้คือ สือฉิงจวง นั้นเขินอายและรอยยิ้มของเธอดูสดใส และทั้งหมดได้ฝังลงในจิตใจเขาเสียแล้ว มีผู้หญิงสองประเภทที่อาจทำให้ผู้ชายมีความสุข ประเภทแรกคือผู้หญิงที่มีความสวยงามที่เหลือเฟืออันน่าเหลือเชื่อที่สามารถโค่นล้มอาณาจักรได้ ประเภทที่สองคือผู้หญิงน่ารัก ความสวยที่มาจากความน่ารัก เห็นได้ว่า สือฉิงจวง คือประเภทแรก ถ้าเธอทำตัวดีขึ้นนิดหน่อยคงไม่สงสัยเลยว่าจะทำให้ผู้ชายทั้งโลกเป็นบ้า
“ถึงอย่างนั้น ข้าก็โตแล้วไม่ใช่เด็กเพราะงั้นเจ้าต้องปฏิบัติกับข้าให้เหมือนเป็นผู้ใหญ่สิ” ความหนักแน่นที่ออกมาจากสายตาขณะที่เขาพูดกับ สือฉิงจวง
มนุษย์ทุกคนในชีวิตของเขาอาจจะต้อง เกี้ยวพา ก่อนที่จะมีขั้นลึกซึ้งกับอีกฝ่าย ประเด็นหลักก็คือจะต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรที่จะหยุด ถ้าทำมันเกินไปผู้หญิงอาจจะรู้สึกไม่ดีแล้วถูกผลักดันออกไป
“เอาล่ะข้าต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยผู้ใหญ่ตัวน้อย” เสียงหัวเราะดังออกมาขณะที่ สือฉิงจวง กำลังจากไป เสียงหัวเราะดังกล่าวคล้ายคลึงกับเสน่ห์ของปีศาจซึ่งหมุนเวียนอยู่รอบ ๆ สมองตลอดเวลาไม่สามารถกระจายไปได้
“งดงามเหลือเกิน ในอนาคตเจ้าต้องเป็นของข้า” ชิงสุ่ย ได้แต่เพียงคิด เขาไม่เคยต้องการอะไรมากนักมาก่อน ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คนเรียกว่า "ความอยากได้" และ "ความต้องการ"
ความอยากได้และความต้องการมีหลายประเภท ได้แก่ ความร่ำรวย อำนาจ ผู้หญิง พวกเขาใช้มันเป็นแรงกระตุ้น แต่ถ้าคนหนึ่งถูกความปรารถนาควบคุมความพวกเขาก็จะมีจุดจบด้วยความน่าสมเพช
“ถ้าเจ้าว่าง เจ้าสามารถมาเยี่ยมข้าที่ร้านขายสมุนไพรตระกูลชิงได้ทุกเมื่อ ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขแน่นอน” ชิงสุ่ย ตะโกนตามหลัง สือฉิงจวง แม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาใช้เวลาอยู่กับเธอ เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มากนักในชีวิตของเขา และไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะมาพบกันอีกครั้ง ดังนั้น ชิงสุ่ย ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ สือฉิงจวง จากไปเช่นนี้
บางที สือฉิงจวง อาจจะได้ยิงเสียงจากหัวใจ ชิงสุ่ย เธอพยักหน้าให้อย่าไม่คาดคิดก่อนที่จะจากไป มุมมองด้านหลังที่สวยงามของเธออาจเทียบได้กับผีเสื้อที่กระพือปีกท่ามกลางดอกไม้
ลำดับต่อไปของเขา ชิงสุ่ย ติดสินใจกลับไปที่ร้านขายสมุนไพรตระกูลชิง โดยไม่รู้เลยว่าเวลานี้มันเที่ยงแล้ว ขณะที่เดินกลับไปที่ร้านเขาประหลาดใจที่พบว่า ชิงอี้ ลุงและป้าของเขา ชิงซาน และ ชิงสือ ทุกคนมองมาด้วยสายตาแปลกๆ
“ชิงสุ่ย รูปแบบกระบี่ที่เจ้าใช้จัดการ ซือตู ปู้ฝานกับพักพวก คือ เคล็ดกระบี่พื้นฐาน ใช่หรือไม่”