ตอนที่แล้วAST บทที่ 46 – เรื่องราวที่แท้จริง เมื่อชิงสุ่ยถือกำเนิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 48 – ความหลงไหลราวกับมนต์สะกด

AST บทที่ 47 – เรื่องราวที่แท้จริง เมื่อชิงสุ่ยถือกำเนิด(2)


บทที่ 47 – เรื่องราวที่แท้จริง เมื่อชิงสุ่ยถือกำเนิด(2)

“ท่านแม่ ท่านช่วยเล่าเรื่องราวในอดีตให้ลูกฟังได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของท่านพ่อ”ชิงสุ่ยที่เคยมีเสียงที่อ่อนโยนได้เปลี่ยนเป็นเสียงเข้มขึ้นเพราะเหมือนกับว่าแม่ของเขาพยายามจะปิดมัน

ชิงอี้รู้สั่นเล็กน้อยและรู้สึกข่มขื่นใจ เธอถอนหายใจออกมา “อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด”

เมื่อมองไปที่ชิงสุ่ย ชิงอี้ก็เริ่มสงบลงเลยๆ อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่คาดหวังว่าชิงสุ่ยนั้นจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

“ชิงสุ่ย เมื่อลูกผ่านการเป็นผู้ใหญ่ แม้ลูกจะไม่ถาม แม่ก็จะเล่าให้ลูกฟัง” ชิงอี้ถอนหายใจ

ชิงอี้ลังเลขณะกล่าวออกไป “เยียนจงเยว่ จำชื่อนี้ไว้ให้ดี นี้คือชื่อพ่อของลูก จงเยว่ เป็นหลานของตระกูลเยียนจากอาณาจักรเยียนเจี้ยง ตระกูลเยียนถือได้ว่าเป็นตระกูลที่รักสันโดษ และเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเยียนเจี้ยง โดยพวกเขาก่อตั้งตระกูลมายาวนานมากกว่า 1,000 ปี ตระกูลเยียนนั้นมีอำนาจบารมีที่สูงส่ง เพียงแค่ดีดนิ้วก็สามารถลบล้างตระกูลได้หรือแท้กระทั่งเหยียบย้ำตระกูลอื่นได้”

“พ่อของลูกนั้นสืบสายเลือดโดยตรงจากผู้นำตระกูลในขณะนั้น” หลังจากที่กล่าวชิงอี้ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวต่อ “ถ้าลูกได้เห็นเขา แม่มั่นใจว่าลูกจะต้องจำพ่อของลูกได้แน่นอน เพราะลูกนั้นช่างเหมือนภาพสะท้อนของพ่อของลูก”

“ในปีนั้น พวกเราพบกันโดยบังเอิญ เมื่อครั้งนั้นเขามายังภูเขาทิศประจิมใกล้ๆตระกูลชิงของเรา เพื่อฝึกฝนพลัง ลูกเชื่อในรักแรกพบไหม” เสียงถอนหายใจ “นั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเรา อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสจากตระกูลของพ่อลูกกีดกันไม่ให้พวกเราอยู่ด้วยกัน พวกเขาบอกว่าพวกเราทั้งคู่จะมีความรักต่อกันไม่ได้ พ่อของลูกเป็นดั่งชื่อเสียงของตระกูลเยียน หลังจากนั้น พ่อของลูกก็ท้าทายเหล่าผู้อาวุโสโดยการหนีออกจากอาณาจักรเยียนเจี้ยงและเต็มใจมาอยู่ที่นี้เพื่อแต่งงานกับแม่”

“สองปีหลังจากนั้น พวกเราก็ให้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่ง”เธอหยุดและจมลงไปกับความคิดช่วงหนึ่ง และอธิบายต่อ “นั้นคือพี่สาวของลูก แต่แล้ว ช่วงเวลาสั้นๆความสุขของพวกเราก็อยู่ได้ไม่นาน สมาชิกของตระกูลเยียนก็พบตัวพวกเรา พี่สาวของลูกตอนนั้นอายุราวๆ 5 เดือน เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเยียน ต้องการพลันพรากพวกเราออกจากกัน พวกเขาต้องการให้พ่อของลูกจงเยว่ตัดขาดกับพวกเราและเข้าแต่งงานกับบุตรสาวคนโตจากตระกูลเสี่ยว”

“อำนาจของตระกูลเสี่ยวในอาณาจักรเยียนเจี้ยงนั้นเป็นรองแค่ตระกูลเยียนเท่านั้น บุตรสาวคนโตของตระกูลเสี่ยวนั้นมีนิสัยที่เอาแต่ใจ เธอนั้นถูกให้ท้ายและยกย่องโดยพ่อของเธอมาตั้งแต่เธอยังเด็ก ทุกอย่างที่พ่อเธอทำมันเป็นมากกว่าการชื่นชม พวกเขาทั้งสองตระกูลคิดจะรวมตระกูลกันอย่างหลอกๆ โดยที่ตระกูลเยียนก็ไม่ต้องการแต่เพื่อที่ทั้งสองตระกูลจะได้มีอำนาจที่สูงเกินผู้ใดจะต้านทานได้ภายใต้อาณาจักรเยียนเจี้ยง พวกเขาจำต้องรวมกำลังกัน ความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นกับตระกูลอื่น ย่อมกลายเป็นเรื่องง่าย เพราะเหตุนั้น จากมุมมองที่กว้างขึ้น  ตระกูลเยียนตัดสินใจสละความรักระหว่างพ่อของลูกกับแม่ ตระกูลเยียน พวกเขาทำกับแม่ราวกับสิ่งของไร้ประโยชน์ที่ใช้แล้วทิ้ง” ชิงอี้สะอื้นแต่เธอยังคงเล่าต่อ

“พ่อของลูกก็ยังคงไม่เห็นด้วย แต่การที่จะทำให้ตระกูลเยียนยอมแพ้นั้นไม่ใช้เรื่องง่ายเลย พวกเขาใช้คำขู่ที่จะทำลายตระกูลชิงของเรา รวมทั้งชีวิตของแม่ด้วย สุดท้ายท่านพ่อของลูกก็ต้องยอมเชื่อฟัง แต่เรื่องมันยังไม่จบเท่านั้น พวกเขายังเอาตัวพี่ชายของลูกไปเป็นตัวประกันด้วย และเหลือเพียงประโยคทิ้งไว้เบื้องหลังก่อนพวกเขาทั้งหมดจะจากไปว่า”ถ้าพวกเจ้าของกลับไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลเยียนของเรา ข้าจะทำลูกสาวของเจ้าต้องทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็น”

“ด้วยคำเตือนของพวกเขา ทำให้ครอบครัวเราต้องแยกจากกันและเพื่อความปลอดภัยของพี่สาวของลูก แม่และพ่อของลูกจึงไม่เคยคิดจะเจอกันอีกเลย”

“เมื่อแม่ต้องเผชิญกับเรื่องโหดร้ายเหล่านี้ โลกทั้งใบของแม่ก็พังทลายลง แม่ตกอยู่ในอาการซึมเศร้าจนเกิดจะเป็นบ้า แต่แล้วแม่ก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างในท้องของแม่ และแล้วแม่ก็ตั้งครรภ์ และนั้นก็คือลูก สุ่ยเอ๋อ ลูกกลายเป็นความหวังและทำให้แม่อยู่รอดมาจนถึงตอนนี้”

“สุ่ยเอ๋อ แม้ว่าความปรารถนาสูงสุดของลูกคือการไปพบกับตระกูลเยียน แต่เจ้าต้องไปอย่างงามสง่า และภาคภูมิใจ และหวังว่าลูกจะได้พบกับพี่สาวของลูกอีกครั้ง แม่ไม่รู้เลยว่าทุกๆปีที่ผ่านไปนี้ จะมีใครค่อยดูแลและให้ความรักกับพี่สาวของลูกไหม” หลังจากนั้นชิงอี้ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้อีก น้ำตาของเธอไหลลงบนใบหน้าของเธอ และหัวของเธอก็เข้าสู่อ้อมกอดของชิงสุ่ย

ชิงสุ่ยถอนหายใจเพราะเขาไม่อาจคาดคิดถึงเรื่องราวแบบนี้ได้ มันเกิดกว่าที่เขาคาดไว้ เขาไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสจากตระกูลเยียนจะใช้วิธีสกปรกเพื่อบังคับให้พ่อและแม่ของเขาต้องแยกจากกัน เมื่อคิดถึงพี่สาวที่เขาเคยมี เขาคิดว่าพ่อของเขานั้นทิ้งพวกเขาไปอย่างเต็มใจอย่างแน่นอน

ในอ้อมกอดที่มีชิงอี้ ชิงสุ่ยอดกลั้นไม่ให้มีแม้แต่หยดน้ำตา ความเจ็บปวดเขาไม่อาจเทียบเท่ากับชิงอี้ มันเกือบกว่าที่ผู้หญิงคนเดียวจะแบกรับมันไหว

“ไม่ต้องห่วงท่านแม่ อะไรที่พวกมันทำกับท่านแม่ ข้าจะให้พวกมันต้องชดใช้ถึงที่สุด” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างเงียบๆ ความสงบมักจะมาก่อนพายุเสมอ

เสียงหนักเน้นที่ออกมานั้น เต็มไปด้วยความมั่นใจ ความอัดอั้นของชิงสุ่ยถึงกับแผ่คลื่นออกมาจะชิงอี้รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่อยากแก้แค้น

“ชิงสุ่ยลูกอย่าได้จริงจังกับมัน ทั้งหมดที่แม่ต้องการคือการที่ให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุข แม่ไม่ได้ต้องการการแก้แค้น เพียงแค่ให้ลูกมีความสุข แม่ไม่ต้องการให้ลูกก้าวเดินผิดจนไม่อาจถอยหลังได้ ลูกไม่อาจคาดคิดถึงอำนาจที่ตระกูลเยียนถือครอง เหตุผลที่แม่บอกกับลูกนั้นเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ลูกสมควรที่จะรู้ แต่ถ้าหากลูกคิดจะแก้แค้นแล้วเกิดอะไรไปกับลูก แม่ไม่รู้เลยจริงๆว่าแม่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เคยเกิดมาแล้วเมื่ออดีต รอยแผลนั้นยังคงตราตรึงอยู่บนหัวใจของแม่”ชิงอี้พยายามยิ้มอย่างอ่อนแอในขณะที่มองไปยังชิงสุ่ย

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวที่ว่า “ความปรารถนาสูงสุดของลูกคือการไปพบกับตระกูลเยียน แต่เจ้าต้องไปอย่างงามสง่า และภาคภูมิใจ และหวังว่าลูกจะได้พบกับพี่สาวของลูกอีกครั้ง” ชิงสุ่ยรู้ว่าชิงอี้จะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน

เขามั่นใจว่าสักวันชิงอี้จะต้องได้ไปยังตระกูลเยียน ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นเท่ากับความตายของเธอ เธอก็ยังคงเลือกที่จะไป เพราะเธอยังคงรักในตัวลูกสาวของเธอ

“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกังวล ลูกเองไม่เคยโอ้อวดและโกหกใดๆกับท่านแม่ 5ปี ให้เวลาลูกอีก 5 ปี ลูกจะกลับเหยียบย้ำตระกูลเยียนทั้งตระกูล  ท่านแม่โปรดเชื่อลูก เพียง 5 ปีเท่านั้นที่ลูกขอ ลูกต้องการให้ท่านแม่มีความสุขและลืมเรื่องการไปที่ตระกูลเยียน ถ้าหากท่านแม่ไปที่นั้นจริงๆและพวกมันกล้าทำอะไรท่านแม่ ข้าสาบานว่าจะทำลายทุกคนที่มีชื่อตระกูลเยียน ลูกจะถอนรากถอนโค่นตระกูลของพวกมันไม่ให้มีเหลือแม่แต่คนเดียว นี้คือคำสาบานของลูกผู้ชาย” เขาไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ถ่วงเวลา แต่หลังจากที่เขาบรรลุในพลังที่แข็งแกร่ง เขาก็จะสามารถทำตามที่สัญญาได้

ชิงอี้รู้สึกกระวนกระวานในคำพูดของชิงสุ่ย เมื่อเขากล่าวว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เขาจะถอนรากถอนโค่นรวมทั้งสังหารหมู่ตระกูลเยียน เธอเชื่อว่าทุกคำพูดของชิงสุ่ยโดยไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงคิดว่าในอนาคตชิงสุ่ยจะต้องแข็งแกร่งขึ้นแต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

หลังจากที่เขาปลอบชิงอี้ ชิงอี้ก็สงบลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ไฟแห่งความหวังก็เกิดขึ้นในใจของชิงอี้ด้วยเช่นกัน อีก 5 ปี ชิงสุ่ยบอกเธอให้รออีก 5 ปี พวกเขาจะสามารถไปยังตระกูลเยียนได้จริงๆอย่างนั้นหรือ?

ตอนแรกหลังจากที่ชิงสุ่ยถือกำเนิด ชิงอี้จิตนาการว่า เขาจะเติบโตและได้เรียนรู้การบ่มเพาะพลัง และกลับไปยังตระกูลเยียนเพื่อทวงคืนสิ่งที่เขาควรได้ แต่ใครจะคาดคิดว่าชิงสุ่ยจะเกิดมาพร้อมกับพลังปราณที่อ่อนแอจนทำให้ไม่สามารถฝึกฝนได้

นั้นคือสิ่งที่เธอปรารถนา หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตระหนักได้ว่า นั้นคือวิธีการที่ตระกูลเยียนจะทำกับเด็กที่เกิดมาแล้วไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้ และมันจะเป็นเรื่องธรรมดาที่อัจฉริยะจากตระกูลเยียน จะสายสัมพันธ์กับหญิงสาวตระกูลอื่นเพื่อต้องการลูกของพวกเขาและทิ้งหญิงสาวเอาไว้อย่างโดดเดี่ยว ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้น ทุกอย่างที่พวกเขาทำอยู่บนพื้นฐานของผลประโยนช์ทั้งสิ้น

หลังจากนั้นชิงอี้ก็ตัดสินใจว่าเธอนั้นแค่อยากให้ชิงสุ่ยใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและสงบสุขภายใต้หมู่บ้านชิง และเธอคิดตัดสินใจว่าจะออกไปยังตระกูลเยียนเพื่อตามหาลูกสาวของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นชิงสุ่ยจึงคาดเดาผลได้อย่างถูกต้อง

ทุกครั้งที่เขาเห็นแววตาอันสิ้นหวังจากชิงอี้ ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจ ทำให้เขาได้พบเจอกับจี้หยินหยาง ในทางกลับกันหากเขาบ่มเพาะพลังที่เขาได้มานั้น เขาเชื่อว่าสักวันเขาจะสามารถปะทะกับตระกูลเยียนได้

“ท่านแม่ ทุกอย่างจะต้องดีกว่านี้ ท่านหาได้ต้องกังวลอีกต่อไป ในอนาคตท่านแม่เชื่อใจและฝากมันทั้งหมดให้แก่ลูก ลูกขอสาบาน ลูกจะทำให้ชื่อของลูก เป็นที่รู้จักทั่วทั้งยุทธภพ”

0 0 โหวต
Article Rating
7 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด