ตอนที่แล้วAST บทที่ 38 – การประลองประจำปีของเหล่าเยาวชนรุ่นที่ 3 (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 40 – การประลองประจำปีของเหล่าเยาวชนรุ่นที่ 3 (3)

AST บทที่ 39 – การประลองประจำปีของเหล่าเยาวชนรุ่นที่ 3 (2)


บทที่ 39 – การประลองประจำปีของเหล่าเยาวชนรุ่นที่ 3 (2)

ในช่วงพริบตาเดียว วันส่งท้ายปีเก่าก็ล่วงเลยผ่านไป ทุกคนต่างแก่ขึ้นอีก 1 ปี เวลาแม้ว่าจะผ่านเร็วไปแค่ไหน แต่สำหรับชิงสุ่ยผู้ถือครองดินแดนหยกยุพราชอมตะนั้นทำให้เขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านั้นเขาเป็นที่รู้จักในเรื่องความเพียรพยายาม มุ่งมานะ ทุกวันไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก เขามักจะใช้เวลาทั้งหมดนั้นในการฝึกฝน

เขาใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อจะออกจากการเป็นขยะ ความทุ่มเททั้งหมดของเขานั้นหามีผู้ใดคาดคิดได้ แต่เขากลับไม่สามารถทะลวงผ่าน เคล็ดวิชาดอกบัวปราณฟ้า ขั้น6 ได้ก่อนอายุ 16 ปี ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นช่างน่าสงสารในโชคชะตาที่ชิงสุ่ยได้รับ

วันนี้เป็นวันที่ 4 หลังจากปีใหม่ พรุ่งนี้ก็จะถึงวันประลองประจำปีของเหล่าเยาวชนรุ่นที่ 3 ชิงสุ่ยไม่เคยสนใจมันเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ครั้งเมื่อเขายังเป็นเด็ก อย่างไรก็ตามในปีนี้ เขาตัดสินใจที่จะเขาชมวิธีการต่อสู้ของแต่ละคนในรุ่นของเขาเอง

เขาเดินออกจากลานกว้างและใช้เวลา 2 ชั่วโมง ที่เทียบเท่าได้กับเวลานับครึ่งเดือน อยู่ภ่ยในดินแดนหยกบุพราชอมตะ แต่เขาก็ยังคงไม่สามารถผ่านคอขวดที่เขาคิดอยู่ไปได้ ชั้นสวรรค์ขั้นที่ 3 และขั้นที่ 4 นั้นถือได้ว่าเป็นอุปสรรคที่สูงตระหง่าราวกับขุนเขาที่ปิดกั้นเส้นทางการบ่มเพาะพลังของเขา

เมื่อมองดูการฝึกซ้อมใหญ่ที่ลานกว้างตระกูลชิง เขารู้ว่าบรรยากาศมันช่างอึกทึกมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน เหตุเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกของการประลองประจำทุกปีระหว่างเหล่าเยาวชนรุ่นที่ 3 ของแต่ละตระกูล มีผู้คนมากหน้าหลายตา อยู่บนลานแห่งนี้พร้อมทั้งแอบตรวจตรวจสอบระดับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ของพวกเขาเองนี้ก็ใกล้จะถึงกำหนดแล้ว

เวลาใกล้เที่ยง ฤดูหนาวผ่านพ้นไป ดวงอาทิตย์ส่องประกาย ณ ใจกลาง ความร้อนท่อแสงสีทอง ให้ความรู้สึกที่น่าเกียจคร้าน หมายให้ทุกคนนอนเพลิดเพลินไปกับมัน

ชิงสุ่ยรู้สึกแปลกใจหลังจากเดินมายังลานฝึกซ้อมของตระกูลชิง พวกมันถูกประดับไปด้วยพรมสีแดงรอบบริเวณลานทั้งหมด มันให้ความรู้สึกน่าหลงใหลและสะท้อนถึงความตื่นเต้นแก่เหล่าฝูงชน

“พี่ชายชิงสุ่ย ข้าอยู่ทางนี้”ชิงสุ่ยหันหน้ากลับไปก็พบกับชิงฮูกำลังกวักมือเรียกเขา!

ชิงสุ่ยไม่ได้พบปะใดๆกับชิงฮูมาแล้วกว่าครึ่งปี เขาตรวจสอบอย่างรวดเร็วก็พบว่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของเขานั้นก้าวเข้าสู่อาณาจักรพลังปราณนักรบขั้นที่ 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้มันจะไม่ใช้จุดสูงสุดของขั้นที่ 6 แต่มันก็ทำให้หัวใจของชิงสุ่ยเกิดอาการหวั่นๆ ความสามารถของชิงฮูนั้นไม่ได้ถือว่าเลวร้าย แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆครึ่งปีที่ผ่านมา

เมื่อมองดูระดับพลังการบ่มเพาะของชิงฮู ชิงสุ่ยก็มีความสุขอย่างเห็นได้ชัด หากอายุของชิงฮูเกิน 16 แล้วแต่ไม่อาจก้าวข้ามอาณาจักรพลังปราณนักรบขั้นที่ 6 ได้ ชิงสุ่ยคงจะต้องหาวิธีต่างๆนาๆเพื่อช่วยให้เขาก้าวข้ามมันไปเป็นแน่

“ชิงฮู ข้าประทับใจในตัวเจ้ายิ่งนัก เจ้าจะต้องหมันฝึกฝนให้หนักขึ้นเพื่อที่ในอนาคเจ้าจะได้อยู่ในโลกภายนอกได้อย่างมั่นคง”

“ฮ่า ฮ่า”ชิงฮูหัวเราะออกมาในข้อตกลง ชิงฮูตอนนี้สูงเกือบเทียบเท่าชิงสุ่ย เพียงแต่ร่างกายกล้ามเนื้อของเขานั้นดูแข็งแรงกว่าชิงสุ่ย

ชิงสุ่ยรู้ว่าที่ชิงฮูพัฒนาตัวเองจนแข็งแกร่งขนาดนี้ได้นั้นก็เพราะเหลียน เย่เออ ถ้าไม่เช่นนั้นชิงฮูคงไม่พัฒนาตัวเองได้เร็วขนาดนี้

แต่จะว่าไป “ใบหน้าเจ้าช่างดูโชคร้ายยิ่งนัก” หรือว่าเจ้า “ถูกรังแก้อีก” ด้วยคำพูดไม่กี่คำของเหล่าสตรี ก็สามารถปลุกใจเหล่าบุรษได้ แต่ในทางกลับกัน สตรีผู้ในสามารถก่อให้เกิดหายนะแก่ชานชาตรีได้เพียงแค่สะบัดนิ้วเบา

เพียงในทันที ความคิดที่ซับซ้อนถูกอ่านผ่านสายตาชิงสุ่ย ชิงสุ่ยก็หันหน้ากลับอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เขาเดินผ่านฝูงชน ชิงสุ่ยรับได้รู้ได้ว่าผู้คนมีจำนวนมาก เขาตรวจสอบใบหน้าคนส่วนใหญ่ เขากลับพบใบหน้าที่คุ้นเคยเพียงไม่กี่ใบหน้า ที่เหลือยส่วนใหญ่เขากลับไม่รู้จัก

“พี่ชายชิงสุ่ย นั้นมันเหลียนยี ชายผู้โด่งดังจากตระกูลเหลียน!!!” ขณะที่ชิงสุ่ยกำลังตรวจสอบผู้คน และพยายามเหลือบมองผู้บ่มเพาะพลังที่ก้าวถึงอาณาจักรพลังปราณนักรบขั้นที่ 9 แต่ชิงฮูก็ขัดจังหวะพร้อมทั้งชี้ไปทางที่เขาอยู่

ทิศที่เขาชี้ออกไปนันเป็นเยาวชนผอมสูง อายุราวๆ 20 ปี สีหน้าของเขานั้นดูเหมือนจะเกียจคล้านเป็นอย่างมาก ผู้ที่จ้องมองเขาราวกับถูกมนต์สะกด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหี่ยวเชา มันไม่ได้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน แต่มันกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและแน่วแน่

“เขาจะต้องมีหัวใจที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกว้าอย่างแน่นอนที่ทำให้เขาสามารถก้าวข้ามไปยังอาณาจักรพลังปราณนักรบขั้นที่ 9 ได้” นี้คือสิ่งที่สัญชาตญาณของชิงสุ่ยบอกจากการมองเพียงแวบเดียว

แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่รู้ว่าเขาใช้หนทางใดในการช่วยให้ตัวเองแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ แต่เขารู้ว่าชายคนนี้จะต้องเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังคงอยู่ห่างไกลจากการเข้าใกล้ระดับอาณาจักรพลังปราณเทวะเซียนเทียน

ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเหลียนยี เป็นหญิงสวยวัยรุ่นที่ถือได้ว่าเป็นโฉมงาม ดวงตาของเธอนั้นทรงเสน่ห์และเต็มไปด้วยความฉลาด แต่กลับเข้มแข็งกว่าเหล่าชายชาตรี ผิวของเธอนั้นเรียบเนียบ กับผมสีดำ พร้อมกับหน้าอกที่คล้ายราวกับภูเขากำลังเคลื่อนไหว ยามเธอขยับตัว นอกจากนี้เธอยังมีเอวที่สมส่วนพร้อมทั้งเรียวขาที่ขาวมันถูกจับคู่มากับร้องเท้าหิมะหาว ภาพที่เห็นนั้นช่างดูบริสุทธ์ราวกับนางอัปสรสวรรค์

“ไม่แปลกใจเลยจริงว่าทำไม เจ้าชายยอดยุทธนั้นถึงได้ถือชื่อตระกูลของมันเปรียบดัง ตระกูลธาราสวรรค์ มันเป็นเพราะเธอนี้เอง” ชิงสุ่ยเหลือบหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเหลียนยี เมื่อมองกลับมา เขาก็พบว่าชิงฮูกำลังจ้องมองแต่เหลียนเย่เออ สตรีผู้สึกหักอกชิงฮู

บางทีการมองอย่างตั้งใจนั้นจะทำให้เธอรู้สึกตัว เธอมองกลับมาด้วยสายตาที่เกลี่ยดชัง ทั้งยังดูหมิ่น เธอยกก้ำปั้นของเธอขั้นมาทางชิงฮู

ความข่มขื่นเกิดขึ้นในใจของชิงฮูอย่างสุดจะพรรณาๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมความรักของเขานั้นมีมากราวกับมันถูกแกะสลักตราตรึงเอาไว้ในกระดูกและตราตรึงไว้ในใจของเขา เขาฝึกฝนอย่างหนักก็เพราะเธอ แต่ฟ้ากลับไม่เห็นใจเขา ชิงฮูพัฒนาตัวเองจนถึงอาณาจักรพลังปราณนักรบขั้นที่ 6 ตั้งแต่อายุ 15ปี แต่ความแตกต่างด้านพลังของเขากับเหลียนเย่เออนั้นต่างกันเกินไป ความรู้สึกพ่ายแพ้ต่างทะลักออกมาจากใจของเขา

เมื่อเทียบกับสือฉิงจวงแล้ว เหลียนเย่เออนั้นงามน้อยกว่าเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงแต่ชิงสุ่ยจะชอบผู้หญิงที่อายุเยอะกว่า แต่จิตใจของเธอนั้นจะต้องดูราวกับเป็นผู้ใหญ่ด้วย ดังนั้นเธอจึงต่างจากสือฉิงจวงมาก

“ชิงฮู การบ่มเพาะของเจ้านั้นยังถึงข้อจำกัด สำหรับเหล่าสตรี หากเจ้ายังคงแข็งแกร่งขึ้น พวกนางจะเข้ามาในอ้อมกอดเจ้าเอง เมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าจะต้องพบสตรีที่งดงามและคุ้มค่าอย่างแน่นอน”

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเหล่าสตรีที่มาจากเมืองร้อยไมล์นั้นไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะหรือกิริยาท่าทาง การแต่งกายและในแง่คำพูด พวกเธอต่างดูเหนือกว่าสตรีในหมู่บ้านระแวกนี้

แม้ว่าทั้งหมดนี้จะมีเบื้องหลังเกี่ยวพันกับการเงิน ผู้ชายมักจะหลงใหลในตัวหญิงสาวที่สมบูรณ์ และให้กำเนิดบุตรสาวที่โฉมงาม เพื่อให้ออกแต่งกายไปเป็นภรรยา รายได้ต่างๆจะเข้ามาไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม

แน่นอนมันก็ยังมีข้อยกเว้น คือ สตรีบางคนอาจถูกซ่อนรัศมีความงามอยู่ภายใต้เมืองนั้นๆ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น ส่วนใหญ่อัญมณีล้ำค่าจะถูกแย่งชิงไปอย่างรวด มันทำได้เพียงรอให้พวกเขามาแย่งชิงไขว้ขว้ามันไปเท่านั้น

ในความคิดของชิงสุ่ยนั้น ชิงฮูดูเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน ชิงฮูนั้นรู้สึกว่าชิงสุ่ยนั้นแปลกประหลาดไปเล็กน้อย แต่ดูเหมือนความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้ทุกครั้งที่เขาพูดคุยกับชิงสุ่ย มันราวกับทำให้ภาระในหัวใจของชิงฮูลดลงและผ่อนคลายมาขึ้น

“พรุ่งนี้จะเป็นวันประลองแล้ว พี่ชายชิงสุ่ยจะเข้าร่วมการประลองนี้หรือไม่?”

0 0 โหวต
Article Rating
12 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด