ตอนที่ 070 – เครื่องกลทดสอบไซ่เหล่ย
ตอนที่ 070 – เครื่องกลทดสอบไซ่เหล่ย
“บ่มเพาะปราณระดับสี่ พวกยันต์จิตวิญญาณเหล่านั้น” ถังเทียนยกมือของเขาขึ้น “ท่านมียันต์บ่มเพาะปราณที่พิเศษอันใดบ้าง?”
“ระดับสี่… มีอยู่ในร้านข้าตามที่คาดไว้” ไซ่เหล่ยพลันเข้าใจ แต่ก็ยังคงงุนงง “เจ้าช่างแปลกประหลาดนักที่มาถึงเมืองไตรวิญญาณนี้เพียงแค่ซื้อยันต์จิตวิญญาณระดับสี่ มันดูเหมือนว่าเจ้าจะซื้อใช้เอง เจ้าบรรลุขั้นสามจากการฝึกใดงั้นหรือ?”
“ตำราปราณกระเรียน” ถังเทียนกล่าวตอบตามตรง
“ตำราปราณกระเรียน!” การแสดงออกของไซ่เหล่ยพลันแปรเปลี่ยน ม่านตาสีน้ำเงินของนางเปิดเผยความอัศจรรย์ใจและสำรวจไปยังเขา “ข้าไม่เชื่อเลยว่าหนุ่มน้อย เจ้าช่างมีความสามารถนัก! ตำราปราณกระเรียนรู้จักกันดีในเรื่องความยากของมัน!”
ถังเทียนเอาแขนเท้าเอวด้วยใบหน้าที่โอหัง “ฮ่าฮ่า! มันคือความจริง ข้าคือบุรุษหนุ่มเทพ! เลือกยันต์ที่น่ากลัวของท่านมาให้ข้าได้ตามสบายเลย!”
“หนุ่มน้อยช่างเต็มไปด้วยความมั่นใจนัก” ริมฝีปากอันเย้ายวนของไซ่เหล่ยยกขึ้นเล็กน้อย “ในเมื่อกล่าวเช่นนั้น ข้าก็มียันต์ที่น่าสนใจสองสามใบที่นี่ เจ้าเชี่ยวชาญวิชาใดกัน?”
“ข้าคือผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด” ถังเทียนไม่แม้แต่จะอ่อนน้อมถ่อมตน “ข้าน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง!”
“ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด…” ไซ่เหล่ยตกตะลึง “ในตอนนี้ข้ารู้สึกทึ่งแล้วจริงๆ”
นางผลักเปิดประตูของคลังสินค้า “มาเถอะ หนุ่มน้อย มาดูกันว่าเจ้ามีความสามารถเท่าใดกัน!”
ถังเทียนกลับกลายเป็นตื่นเต้น “หรือว่าท่านจะประลองกับข้า?”
“ประลองกับเจ้า?” ไซ่เหล่ยหัวร่อ “ข้ามิมีความสนใจที่จะประลองกับผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด”
คลังสินค้าที่อยู่เบื้องหลังนี้มันมีขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้ ซึ่งยาวมากกว่า 200 เมตร และกว้างกว่าสนามประลองของสถาบันคาราเมลซะอีก มันมีอุปกรณ์แปลกประหลาดมากมายและเครื่องกลเป็นจำนวนมาก ในตอนนี้ถังเทียนเข้าใจแล้วว่าทำไมไซ่เหล่ยถึงชื่นชอบนกกระจอกเทศเป็นอย่างมาก
ไซ่เหล่นเดินไปยังหุ่นเหล็กสีดำ “มาเถอะหนุ่มน้อย มาดูกันว่าเจ้าเก่งกาจเท่าใด”
ถังเทียนเข้าไปใกล้อย่างอยากรู้ “มันคืออะไร?”
“เครื่องกลทดสอบไซ่เหล่ย” ใบหน้าสวยงามของไซ่เหล่ยในตอนนี้ปรากฏความจริงจังและภาคภูมิใจ “นี่เป็นผลงานสร้างที่ประสบความสำเร็จที่สุดของข้า ข้ามักจะเก็บสะสมยันต์จิตวิญญาณระดับต่ำทั้งหมด และชอบศึกษายันต์จิตวิญญาณ ดังนั้นข้าก็พบผลลัพธ์มากมาย ยันต์จิตวิญญาณคือภาชนะของพลังงาน ในขณะที่หินดาราคือแหล่งของพลังงาน ถ้าสองสิ่งนี้หลอมรวม มิใช่มันจะเป็นกระบวนการที่สมบูรณ์แบบหรอกหรือ? อย่างไรก็ตาม ข้าก็เสียเวลาไปอย่างมากปราศจากความสำเร็จใด จนกระทั่งปีที่แล้ว ยามเมื่อข้าตระหนักได้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ขาดหายไปภายในความคิดของข้าก็คือ สมบัติดารา!’”
ถังเทียนเคลิบเคลิ้มภายในคำกล่าวของไซ่เหล่ยและโพล่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว “สมบัติดารา?!”
มันเป็นคราแรกที่เขาได้ยินใครบางคนที่อธิบายเกี่ยวกับยันต์จิตวิญญาณภายในวิธีดังกล่าว แต่ยิ่งมันมีรายละเอียดมากเท่าใด มันก็ยิ่งฟังเข้าทีมากขึ้นเท่านั้น ใช้ยันต์จิตวิญญาณชี้แจงวิชาการต่อสู้ และใช้วิชาการต่อสู้สรรสร้างเป็นการประยุกต์ใช้พลังงาน!
“จนกระทั่งตอนนี้ การกำเนิดสมบัติดารามันยังไม่มีคำอธิบายที่ถูกต้อง สมบัติดาราของกลุ่มดาราเดียวกันมักมีความคล้ายคลึงกัน นั่นเป็นสาเหตุที่มนุษย์เรียกขานพวกมันตามกลุ่มดาราของพวกมัน สมบัติดาราที่มีความแปลกมากที่สุดคือสมบัติที่พวกมันมีจิตวิญญาณนักสู้ สมบัติดาราขั้นสูงคือสมบัติที่มีจิตวิญญาณนักสู้ใกล้เคียงกับมนุษย์ พวกมันสามารถพัฒนาได้ด้วยตัวเอง ดูดซับและบ่มเพาะพลังจากสภาพแวดล้อม นี่มันไม่ใช่ที่จิตวิญญาณขุนพลจะสามารถกระทำได้เช่นเดียวกัน”
น้ำเสียงเจือปนความคลั่งไคล้ของไซ่เหล่ยดังก้องภายทั่วคลังสินค้า
เมื่อได้ฟังเรื่องนี้ ถังเทียนอยากจะโต้เถียง สำหรับลุงทหารแล้วสามารถที่จะฝึกด้วยตัวเขาเองได้เช่นกัน!
อย่างไรก็ตาม เขาพลันเคลิบเคลิ้มในสิ่งที่ไซ่เหล่ยกล่าวในเรื่องต่อไป
“ข้าก็พลันตระหนักได้ว่ามันช่างคล้ายคลึงกับมนุษย์ยิ่งนัก! แม้ว่าพวกเราจะมีเส้นชีพจร ปราณแท้จริง และตันเถียน สิ่งที่ควบคุมพวกมันก็ยังคงเป็นสมองของพวกเรา ภายในกระบวนการของยันต์จิตวิญญาณและโครงสร้างของหินดารา มันไม่มีสมอง! และสิ่งแน่นอนว่าสมบัติดารามันได้ชดเชยในข้อบกพร่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ยามเมื่อข้าเริ่มที่จะบรรจุสมบัติดาราเข้าไปภายในกระบวนการแล้ว ข้าก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว”
ถังเทียนฟังอย่างตั้งใจ
“เนื่องเพราะพลังที่พวกมันครอบครอง ทุกคนต่างใช้สมบัติดาราเป็นศาสตราวุธ แต่มันเป็นการกระทำที่สิ้นเปลือง สำหรับจิตวิญญาณของจิตวิญญาณนักสู้ภายในสมบัติมันสิ้นเปลืองอย่างยิ่ง! มนุษย์เพียงสนใจพลังของมัน แต่มิมีผู้ใดที่สนใจเกี่ยวกับจิตวิญญาณของจิตวิญญาณนักสู้ เพียงสมบัติดาราระดับสูงและจิตวิญญาณนักสู้สามารถที่จะบ่มเพาะด้วยตัวเองได้และกลายเป็นแข็งแกร่งด้วยตัวพวกมันเองก็กลายเป็นที่ชื่นชอบของมนุษย์ พวกนั้นมันช่างตาต่ำนัก!”
“แล้วไงต่อ แล้วไงต่อ!?” ถังเทียนมิสามารถควบคุมตัวเองได้
“แล้วข้าก็สามารถที่จะสร้างเครื่องกลทดสอบไซ่เหล่ยสำเร็จ” ไซ่เหล่ยตอบอย่างพอใจ
ความสนใจของถังเทียนตกไปอยู่บนเครื่องกล มันดูคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่มันก็เป็นสีดำ ขนาดและรูปร่างความสูงขนาดเท่ากับมนุษย์และมีโครงสร้างร่างที่ชัดเจน สมองและแม้กระทั่งคุณสมบัติต่างๆ อาจจะแตกต่างกันอย่างง่ายดาย และข้อต่อบนแขนและขาดูคล้ายค่อนข้างซับซ้อน
“แรกเริ่มทองแดงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่สูตรเครื่องกลโบราณทองแดงนั่นสูญหายไปแล้ว ข้าได้ทดลองหลายคราแล้ว แต่การไหลของพลังมันก็ยังไม่ดีนัก ในท้ายสุดข้าก็เลือกเหล็กดำ ใช่แล้วเหล็กดำที่ราคาถูก” ไซ่เหล่ยกล่าวต่อในทันที “สมบัติภายในเป็นชิ้นส่วนของสมบัติดาราขั้นทองแดงเป็นสิ่งที่ราคาถูกที่ข้าได้มา อืม ในเมื่อเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด งั้งข้าก็จะต้องคัดเลือกยันต์อย่างสองสามใบอย่างระวัง”
หลังจากนั้น ไซ่เหล่ยก็หยิบยันต์ห้าใบ เปิดด้านหลังเครื่องกล และสอดใส่ยันต์ทั้งห้าใบเข้าไป
“ยินดีต้อนรับสู่การเป็นพยานการประลองครั้งแรกของเครื่องกลทดสอบไซ่เหล่ย!” ไซ่เหล่ยชี้ไปยังถังเทียน “ไปได้! เครื่องกลทดสอบไซ่เหล่ย!”
หุ่นเหล็กดำพลันเคลื่อนไหว
ถังเทียนสะดุ้ง มันรวดเร็วอย่างยิ่ง
ปราศจากความลังเล เขากระโดดหลบไปด้านข้างและระเบิดพลังจากด้านข้าง
ปัง!
หมัดของถังเทียนบังเอิญปะทะกับหมัดเหล็กของฝ่ายตรงข้าม
ถังเทียนโซเซถอยหลัง มันช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งนัก! จุดเด่นของพลังที่หุ่นเหล็กดำชกออกมามันแปลกประหลาดอย่างยิ่ง มันคล้ายกับเจาะทะลวงผ่านเข้าไปภายในหมัดของถังเทียน
หุ่นเหล็กดำตวัดเตะส้นเท้าของมันอย่างหนัก และร่างของมันก็พุ่งราวกับศรตรงไปยังถังเทียน
ด้วยการสะบัดฝ่ามือของถังเทียน ฝ่ามือไร้เงาก็ระเบิดออกมา
หุ่นเหล็กดำวาดฝ่ามือเป็นวงภายในอากาศ และฝ่ามือไร้เงาก็พังทลายลง ขณะที่หมัดขวาเป็นดั่งศรที่หลุดออกจากแหล่งพุ่งตรงไป
ถังเทียนก้าวไปยังด้านข้างและหลบหลีกหมัด พลังอันเยือกเย็นกรีดผ่านใบหน้าของถังเทียน นิ้วของถังเทียนงอตัวขึ้นและคว้าจับไปยังข้อมือของฝ่ายตรงข้าม
น่าเสียดาย หุ่นเหล็กดำคว้าจับหลังมือของเขาในช่วงเวลาเดียวกัน
การตอบสองของถังเทียนรวดเร็วดั่งอัสนีบาต เขาก็ใช้โอกาสและใช้ออกเข่ากระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง
ปัง!
หุ่นเหล็กดำก็โต้กลับด้วยการตีเข่า
ปัง ปัง ปัง!
ทั้งคู่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างรวดเร็วภายในพื้นที่เล็กๆ ทำให้ดวงตาของผู้ชมเปล่งประกาย
ไซ่เหล่ยกลายเป็นกระวนกระวายใจ ขณะที่ทหารดูสงบนิ่งอย่างยิ่ง
ในขณะที่เขารู้สึกตื่นเต้น ความเคลื่อนไหวของถังเทียนก็เร็วขึ้นและมากขึ้น มันเป็นคราแรกที่เขามีการประลองที่ถึงใจเช่นนี้ มันมิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาคู่ประลองที่เหมาะสมเช่นนี้ วิชาสองสามอย่างที่หุ่นเหล็กดำใช้ออกมันช่างแปลกและซ้อนเร้นมากมายที่ถังเทียนมิรู้จักแม้กระทั่งชื่อวิชาของพวกมัน
แต่ถังเทียนก็มิได้แสดงความเกรงกลัวใดๆขณะที่การกระทำของเขาเริ่มคล่องแคล่วขึ้น วิชาทุกประเภทที่ใช้ออกจากมือของเขา ทั้งหมดมันเป็นวิชาที่เขาต่างได้เชี่ยวชาญแล้ว จากความสามารถของถังเทียนมันยอดเยี่ยมที่สุด นี่หลักการที่สมบูรณ์เช่นนี้และระดับที่สูงนี้มันก็เป็นระดับปรมาจารย์ได้เลย นั่นเป็นเพียงผู้คนที่มีความสามารถที่จะเข้าใจวิชาการต่อสู้ที่ลึกซึ้งเช่นนี้
ระดับปรมาจารย์สามารถที่จะทำลายข้อผูกมัดของระดับเดียวกันได้
มันเป็นคราแรกที่ถังเทียนพบคู่ต่อสู้ที่มีการตอบสนองคล้ายคลึงกับเขา คู่ต่อสู้ภายในอดีตมีวิชาที่เหนือชั้นกว่าเขา แต่เขาก็มีการตอบสนองที่รวดเร็วไม่เหมือนใคร สาเหตุนี้เองที่ตาเฒ่าเว่ยแนะนำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด เนื่องจากความเร็วการตอบสนองของถังเทียนมันเหนือกว่าผู้อื่นอย่างมาก
เงาทั้งคู่และกระบวนท่าที่แลกเปลี่ยนกันเร็วขึ้นอีกและไซ่เหล่ยก็กลายเป็นกระวนกระวายใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากนางกลายเป็นไม่สามารถที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ภายในสายตานาง ทั้งสองฝ่ายกลายเป็นภาพเลือนลาง
ปรากฏเปลวเพลิงขึ้นภายในดวงตาของถังเทียน ผู้คนที่รู้จักเขาดีจะรู้ได้ว่านี่คือตอนที่ถังเทียนเริ่มจะถึงจุดเดือด แต่มิมีผู้ใดรู้ว่าในตอนนี้หัวใจของถังเทียนเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
สัญชาตญญาณของเขาเป็นราวกับกระจกราบเรียบที่สะท้อนให้เห็นรายละเอียดรอบๆอย่างชัดเจน
การโจมตีและการแปรเปลี่ยนกระบวนท่าวิชาของเขากลายเป็นรวดเร็วขึ้นและมันก็เหมาะสมยิ่งขึ้น
ตั้งแต่เริ่ม ถังเทียนยังคงมีการเคลื่อนไหวที่ยุ่งเหยิงไม่ต่อเนื่อง แม้ว่าแต่ละวิชาจะถูกประยุกต์ปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบก่อนหน้านี้ แต่เขาก็มิเคยได้ผสมผสานกลมกลืนกัน แต่ในตอนนี้ สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไป มันค่อยสมบูรณ์ขึ้นอย่างช้าๆ การเคลื่อนไหวของถังเทียนกลายเป็นผสมผสานกันมากขึ้น และเขาก็สามารถที่จะใช้พวกมันได้ตามใจนึกของเขา
หลังจากถังเทียนมีความรุดหน้าขึ้น หุ่นเหล็กดำก็พลันถูกกดดัน
ดวงตาของหุ่นเหล็กดำปรากฏแสงกระพริบสีแดง และการโจมตีของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การแสดงออกของไซ่เหล่ยแปรเปลี่ยนไปและหลบไปด้านข้าง ราวกับนางรู้ว่ามันหมายความว่าเช่นไร มันหมายความว่าเครื่องกลรู้สึกว่าวิธีการโจมตีธรรมดาไม่สามารถที่จะคุกคามถังเทียนได้ และสภาวะบ้าคลั่งก็ถูกกระตุ้นขึ้น ภายในสภาวะนี้ หินดาราจะสิ้นเปลืองเป็นทวีคูณ และยันต์จิตวิญญาณอาจจะถูกเผาทำลายได้
ถังเทียนเริ่มตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดในทันที ตั้งแต่เมื่อการโจมตีของหุ่นเหล็กดำแปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งราวกับพายุ
เขาตกเป็นรองอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามท่าทางของถังเทียนก็มิได้เปลี่ยนไปและเขาก็มิได้กระวนกระวายใจ จิตวิญญาณของการต่อสู้ของเขากลับยิ่งลุกโชติด้วยความหลงใหลแทนที่ และลึกลงไปภายในใจเขา มันก็ราวกับน้ำแข็งที่ราบเรียบราวกับกระจก
เพียงครึ่งนาที!
เพียงครึ่งนาทีหลังจากที่สภาวะบ้าคลั่งถูกกระตุ้น ถังเทียนก็กำราบอย่างสมบูรณ์แบบ ตกลงไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย เขาสามารถเพียงออกกระบวนท่าปัดป้องเท่านั้น หัวไหล่ ต้นขาและส่วนอื่นๆของเขารู้สึกเจ็บปวดไปหมด
แต่เมื่อสี่สิบวินาทีผ่านไป ถังเทียนก็เริ่มที่จะรักษาสถานการณ์เอาไว้ได้ การเร็วการโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นอีกครา และการผสมผสานระหว่างวิชาการต่อสู้ของเขาก็แปรเปลียนเป็นคล่องแคล่วขึ้น
ความสนใจของถังเทียนจดจ่อมีสมาธิมากกว่าเดิม และวิชาที่แตกต่างกันไปก็เริ่มเลือนลางไปจากใจของเขา
ปัง ปัง ปัง!
หมัดและขาทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ของถังเทียนมั่นคงและเขาก็มิแน่ใจว่ามันเพราะสมาธิที่เข้มข้นของเขา หรือการโจมตีที่ราวกับพายุคลั่งของหุ่นเหล็กดำมันมิได้น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นประกายความเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของถังเทียน
มันมีจุดอ่อนอยู่ที่หัวไหล่ขวาของหุ่นเหล็กดำ!
แทบจะเป็นสัญชาตญาณ เขาใช้ฝ่ามือปัดป้องหมัดของหุ่นเหล็กและถังเทียนถอยกลับมาแปลกประหลาดและสะบัดหัวไหล่ของเขา เคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบ เขาโยนตัวเองไปยังหัวไหล่ของหุ่นเหล็ก
การกระทำของหุ่นเหล็กดำแปรเปลี่ยนเป็นลนลาน และพยายามปัดป้องด้วยการโจมตีด้วยศอกของมัน
อย่างไรก็ตามมันดูคล้ายว่าถังเทียนจะคาดการณ์การกระทำนี้เอาไว้แล้ว ด้วยฝ่ามือของเขาก็ยึดรั้งเอาไว้ เขาเลื่อนไปที่ข้อต่อศอกของหุ่นเหล็กและยึดเอาไว้ ในเวลาเดียวกัน ข้อศอกของเขาก็งอลงในแง่มุมที่เฉียบแหลมและกระแทกไปยังหน้าอกของหุ่นเหล็กด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
ศอกกระแทกไปที่เป้าที่หน้าอกของหุ่นเหล็ก และปราณกายากระเรียนก็โคจรเข้าไปอย่างปั่นป่วน
กระแทกไปยังร่างกายอันแข็งกระด้างของหุ่นเหล็ก
ฟู่ เปลวไฟปรากฏอยู่บนอกของมัน เพียงชั่วครู่ เปลวไฟก็พุ่งกระจายออกมา ถังเทียนตกใจ ฟื้นคืนสติของเขาจากสมาธิที่จมอยู่ในการประลอง และรีบเร่งหลบหนีไปยังด้านข้าง
ไซ่เหล่ยตกตะลึงเป็นไก่ไม้อยู่ด้านข้าง
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ