บทที่ 27: กินหินอ่อนดิบ (อ่านฟรีวันที่13พฤษภาคม)
บทที่ 27: กินหินอ่อนดิบ
ซูหนานอี้ไร้ซึ่งความรู้สึกหลงเหลือในขณะที่เขาก้าวเข้าสู่เวที เขายืนอยู่ตรงหน้าซูหยุน
แม้ว่าเขาจะอยู่สำนักภายนอกซูหนานอี้ถูกมองว่าเป็นผู้แข่งขันรายสำคัญ ดังนั้นสาวกหลายคนให้ความสำคัญกับเรื่องของเขา
"ข้าไม่เคยคิดเลยว่าไอ้เด็กแสบซูหยุนจะแข็งแกร่งอะไรกับเขา! ยังไงก็เถอะตั้งแต่ที่เขาสู้กับคุณชายคนนี้ข้าคิดว่าโชคของ ซูหยุน ได้หมดไปแล้ว! "
"เจ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก รอบที่แล้วซูหยุนมันยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดในการประลองที่ผ่านมามันน่าจะรับมือกับซูหนานอี้ได้สักหน่อย! "
"โอ้!เขาจะทำได้หรือ? ถ้าหากเขาสามารถเอาชนะซูหนานอี้ได้ข้าจะกินลูกหินต่อหน้าผู้คน!
"เจ้าแน่ใจ! อย่าลืมคำพูดของเจ้าละ! "
"เมื่อขุนนางคนหนึ่งกล่าวคำพูดออกมามันจะเป็นเรื่องยากแม้แต่รถม้า 4 ตัวจะวิ่งตามทัน!" (Tl: เป็นภาษิต โดยทั่วไป: ถ้าพูดถ้อยคำเหล่านั้นเราต้องให้เกียรติคำพูดเหล่านั้น!)
"ดี!"
ผิวของซินเอียวซีดมาก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความห่วงใย
นางไม่เคยคิดว่าซูนหยุนจะเป็นเหมือนเช่นซินหยางที่โชคร้ายมากที่ได้เจอกับก้างปลาเช่นซูหนานอี้
"อะไรจะเกิดขึ้น? พี่ซูหยุนจะต้องไม่เป็นไร? หรือ ... หรือบางทีมันอาจจะดีกว่าหากเขายอมแพ้ "
ซินเอัยวเดินวนไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ... นางต้องการสื่อสารให้ซูหยุนว่าเขาควรยกเลิกการประลอง แต่ ...
เวทีประลองปิดลงแล้ว
ผู้ชมเริ่มเงียบลง และความสนใจของพวกเขาเลื่อนไปทางการประลอง
บริเวณโดยรอบยังคงเงียบ เกิดบรรยากาศตึงเครียด
ซูหนานอี้หรี่สายตาของเขาขณะที่เขาจ้องมองที่ซูหยุน
"ไม่นึกไม่ฝันใช่มั้ย?"
"ดูเหมือนว่าเจ้าจะแหกกฏ!" ซูหยุนไม่คิดว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญ ภายในเหตุการณ์นับพันเหตุการณ์ทั้งซูหยุนและซินหยางได้จับคู่กับซูหนานอี้ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นอยู่เบื้องหลัง
แม้ว่ากฎระเบียบจะไม่อนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนตั๋วด้วยการลงโทษอย่างจริงจังในฐานะคำเตือน แต่ก็เป็นการยากที่จะติดตามสถานการณ์ของเหล่าสาวก กล่าวคือตั๋วไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่มักจะมีส่วกที่เต็มใจจะจ่ายเงินเพื่อซื้อตั๋ว หลังจากที่ทุกๆคนจะจดจำใบหน้าของเราไม่ใช่หมายเลขตั๋วของเรา " ซูหยุนยังคงเดินหน้าต่อไป
"ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้าขี้ข้าประเมิน (Tl: หมายถึงซินหยาง) ว่าที่แท้จริงแล้วใครแข็งแกร่ง ตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้าและทุกๆคนเข้าใจว่าเมื่อเทียบกับฉิงจี้ตัวข้าห่างจากสาวกอันดับหนึ่งแห่งสำนักภายนอกแค่ไหน!"
"ทำไมเจ้าไม่จัดการฉิงจี้" ซูหยุนถามโดยฉับพลัน
ซูหนานอี้ขมวดคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร
เมื่อซูหยุนเห็นสิ่งนี้เขาหัวเราะออกมา"ฮ่า ๆ ๆ ถึงแม้เจ้าจะรู้ว่าเจ้าไม่ใช่คู่แข่งกับ ฉิงจี้แต่ทำไมเจ้าถึงยืนกรานว่าเจ้าเป็นสาวกอันดับหนึ่งในสำนักภายนอก?"
"หุบปาก!" ซูหนานอี้โกรธกับคำพูดของซูหยุน ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เขายังคงนิ่งเงียบ เขาพุ่งกระโจนไปข้างหน้าแทน
ไม่มีใครสามารถใช้อาวุธได้ในระหว่างต่อสู้ครั้งนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องพื้นฐานการปะทะกันของกำปั้นและพลังวิญญาณ ซูหนานอี้ไม่ได้ออมแรงเอาไว้,ใช้มือทั้งสองข้างชกออกไปอย่างรวดเร็ว 10 ครั้ง พลังงานจิตวิญญาณระเบิดขึ้นเหมือนสึนามิเป็นคลื่นไปทางซูหยุน
ความเร็วของซูหนานอี้สูงมากและมีพลังมาก พลังของเขาใกล้เคียงกับซูหยุน เมื่อพลังงานจิตวิญญาณเข้ามาใกล้ ๆมันก็กดดันร่างกายของซูหยุนทั้งหมด
หากเขาเป็นคนธรรมดาเขาคงจะไม่มีทางรับมือกับพลังวิญญาณของอีกฝ่ายได้ พวกเขาขยับเข้าหากันหลังจากที่เขาถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว ถ้ามีใครเผชิญหน้ากับซูหนานอี้,พวกเขาก็จะต้องมีวิธีในการตอบโต้การโจมตีพลังจิตวิญญาณ
ซูหยุนยังคงไม่สนใจรักษาท่าทางของเขาและจากนั้นก็ก้าวไปสองสามก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีพลังจิตวิญญาณ
ดูเหมือนว่าซูหนานอี้จะใช้หมัดที่ทรงพลังมาก
เขาเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนจากสาวกคนก่อน ๆ เขาแข็งแกร่งและน่ากลัวมาก
เขาไม่มีความเมตตา!
เมื่อเขาเริ่มการโจมตี,การจู่โจมของเขาอาจทำให้ถึงตายได้ก่อนหน้านี้จากเวทีที่หนึ่ง
ฟิ้ว!
หมัดลอยผ่านหัวของเขาและการไหลเวียนลมจากการโจมตีที่ใส่อำนาจพลังวิญญานเสียงวืดดังเข้าไปในหูของทุกคน
ซูหนานอี้เป็นชนชั้นสูงในสำนักภายนอก เขามีฝีมือในด้านการรุกและรับ
ซูหนานอี้หันหลังไปไม่กี่ก้าวแล้วปรากฏตัวขึ้นด้านหลังซูหยุน หมัดของเขาโจมตีได้อย่างรวดเร็ว แต่ถูกปัดป้องได้อีกครั้ง,ต่อให้ซูหยุนหันหลังก็ตาม พลังงานจิตวิญญาณถูกควบคุมอีกครั้งเมื่อมันถูกส่งเข้าไปในหมัด การโจมตีที่ซับซ้อนนี้ถูกควบคุมไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์,เพื่อเจาะทะลุกลิ่นอายจิตวิญญาณรอบตัวของซูหยุน แต่ก็ยังหลีกเลี่ยงได้
สายตาของคนดูเปิดกว้างเพราะพวกเขาไม่สามารถจับรูปลักษณ์ของซูหยุนได้ ความเร็วของเขาไร้ขอบเขต
แต่ซูหยุนยังไม่ได้แย่ลง เขาหลบการโจมตีที่เข้ามาและยื่นเท้าขวาพยายามสกัดทางซูหนานอี้เพื่อทำลายจังหวะ
แม้จะมีเคล็ดลับนี้ดวงตาของซูหนานอี้ก็ส่องแสงอันงดงามราวกับว่าเขากำลังรอคอยในขณะนี้
หลังจากเห็นซูหนานอี้จู่ๆก็หยุดการโจมตีของเขาฉับพลัน,เขาได้รับสิ่งที่ตามมาจากซูหนานอี้ทันทีซึ่งกำลังเหยียบขาขวาของเขาด้วยเท้าขวาลงบนขาขวาของซูหยุน, ใส่ด้วยพลังอำนาจวิญญาณแรงผลักดันต่อขาของซูหยุนเหมือนภูเขาที่ตกลงมา ไม่สามารถปิดกั้นได้
ผู้ชมรีบสูดลมหายใจจากการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์
"ระวังพี่ซูหยุน" ซินเอียวร้องไห้อย่างกังวล
เพียงแค่นั้นซูหยุนก็ได้ปล่อยกลิ่นอายจิตวิญญาณไว้รอบตัวเพื่อต่อต้านการโจมตีของซูหนานอี้
ฉากนี้ได้สร้างคำหนึ่งคำในใจทุกคนที่กำลังเฝ้าดูอยู่
ตาย!
ซูหนานอี้ เป็นสาวกพื้นฐานวิญญาณขั้นที่ 10 ร่างกายของเขาจะเหมือนสาวกทั่วไปได้อย่างไร,ด้วยการปกป้องด้วยกลิ่นอายจิตวิญญาณ,จะสามารถคาดหวังอะไรได้? ไม่ใช่ว่าเขาเพียงแค่แกว่งเท้าเข้าหาความตาย หากไม่เขากำลังเล็งอะไร?
อย่างไรก็ตามในขณะปัจจุบันซูหยุนจะเลือกทำอย่างไรในจุดสำคัญนี้
ในเวลานี้เขาถูกบังคับให้ต้องเข้าโจมตีซูหนานอี้ตรงๆ
ซูหนานอี้เป็นคนที่มีประสบการณ์มาก เขาได้คำนวณการต่อสู้ของเขาและทำให้ซูหนานอี้สามารถควบคุมการต่อสู้ทั้งหมดได้!
"ดูเหมือนว่าซูหนานอี้จะมีฝีไม้ลายมือไม่ใช่สาวกของสำนักภายนอก มีไม่กี่คนที่สามารถต่อสู้แบบนี้ได้ ข้ากลัวเพียงว่าในการแข่งขันช่วงต่อไปจะยังคงอยู่ในเงื้อมือเขา "
ผู้ชมด้านล่างส่ายหัว
ศิษย์หลายคนถอนหายใจ
ทันใดนั้น
ตูม!!
มีการระเบิดเล็กน้อย
พวกเขาเห็นการปะทะกันของพลังงานวิญญาณที่สร้างการระเบิดได้ มีร่างที่พุ่งออกมาจากควันและกระแทกกำแพงของเวทีตกลงไปบนพื้นอย่างหนัก
เหล่าสาวกกลั้นลมหายใจและมองไปใกล้ๆ
มันคือซูหยุนเหรอ?
"ไม่! นี่มัน ซูหนานอี้ ถูกเหวี่ยงออกมา"
หลังจากที่คนดูเห็นสิ่งนี้พวกเขารู้สึกทึ่ง
พวกเขาเห็นซูหนานอี้กำลังพยายามที่จะลุกขึ้นพร้อมกับร่างทั้งร่างที่บาดเจ็บหนัก ไม่รอให้ซูหนานอี้ได้หยุดพักหายใจซูหยุนกระโดพุ่งไปข้างหน้า
หมัดอันหนักหน่วงสองข้างทยานออกไปด้วยพลังวิญญาณและกระแทกเข้าไปที่ซูหนานอี้อย่างจัง
ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!!
ร่างอันปวกเปียกของซูหนานอี้กระเด็นออกจากการโจมตีอย่างรุนแรงสุดจะหยั่ง กลิ่นอายจิตวิญญาณที่ครอบรอบตัวของเขาแตกสลาย เขาถูกทำร้ายจนไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่นิด
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดการปะทะกันมีนัยสำคัญว่าร่างของซูหยุนมีบาดแผลมากกว่าหนึ่งโหล ร่างของเขากระโจนเข้ามาในขณะที่จมูกของเขาบอบช้ำมาก
ก่อนหน้านั้นซูหนานอี้พยายามรักษาความสุขุมในการโจมตีครั้งแรกๆ แต่หลังจากซูหยุนออกมาประทะไม่กี่คราเขาก็รู้ว่านี่!มันไร้ผล ซูหยุนไม่ต้องการต่อรองอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าซูหนานอี้จะหลบหนีไปทางใดเขาก็สามารถตามไปได้ทุกๆที่อย่างไม่หยุดยั้ง
แต้งๆๆๆ!
"ผู้ชนะคู่ประลอง 998" ผู้ตัดสินตะโกน
นัยน์ตาของคนดูตื่นตลึงพวกเขามองหน้ากันหันไปมายังสับสนกับผลของการประลอง
เขตแดนพื้นฐานวิญญาณขั้นที่ 10 ซูหนานอี้พ่ายแพ้ไป ... . ยิ่งกว่านั้นคือความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
แล้วอย่างนี้การบ่มเพาะของซูหยุนคืออะไร?
เป็นไปได้หรอ…
หรือว่าเขาอยู่ขั้นเขตแดนผลิวิญญาณ?
"เป็นไปได้ยังไง...พี่ซูหยุนถึงมีพลังมากมายขนาดนี้?"
ซินเอียวรู้สึกว่านางไม่อาจควบคุมหัวหัวของนางได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่านางจะเห็นการประลองที่ผ่านมาของซูหยุนแม้รู้ความก้าวหน้าของซูนหยุนนางไม่คิดว่าซูหยุนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เพื่อเอาชนะสาวกชั้นยอดของสำนักภายนอกซูหนานอี้ นอกจากนี้ ... แม้กระทั่งกินอาหารบางอย่างได้แล้วก็ยังไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ
ซูหยุนกระโดดออกจากเวทีแล้วถอนหายใจ เขารู้สึกว่าเลือดกำลังฉูบฉีดอยู่ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ถึงแม้จะดูเผินๆว่าซูหยุนสามารถเอาชนะซูหนานอี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ในความเป็นจริงแล้วก็แค่โชคดีเท่านั้น ซูหนานอี้ว่องไวกว่าซูหยุนแต่ซูหนานอี้เป็นคนหยิ่งผยองและตัดสินใจประลองกับซูหยุนด้วยพลังวิญญาณ
การใช้เม็ดยาบ่มเพาะห้าเม็ดและผลจันทร์เสี้ยวทำให้ซูหยุนมีอำนาจพลังลึกล้ำและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ภายในร่างกายของเขา เมื่อซูหนานอี้พยายามแข่งขันกับอำนาจพลังวิญญาณซูหยุนได้คว้าโอกาสนี้และได้ชัยชนะ
ถ้าซูหนานอี้ใช้ความว่องไวเพียงอย่างเดียวของเขาในการโจมตีอย่างรวดเร็วมันจะไม่ง่ายสำหรับซูหยุน
ซูหนานอี้ถูกส่งตัวไปรักษา
ฝูงชนค่อยๆกระจายตัว
"เฮ้!ทุกคนอย่าเพิ่งไป!"
"ไอ้คนที่บอกว่าจะกินก้อนหินอยู่ที่ไหน?
บางคนหัวเราะเบา ๆ
ศิษย์ที่พูดคำนี้หันหน้าสีเขียวไปที่ก้อนหิน
มีผู้คนจำนวนมากที่สังเกตเห็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งของซูหยุน ในกลุ่มนี้แม้แต่กลุ่มศิษย์ชั้นแนวหน้าของสำนักภายนอกก็อยู่ที่นี่ ฉิงจี้
"ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ซูหนานอี้เป็นคนโง่ แม้ว่าเขาจะมีพลังมากข้าไม่คิดว่าเขาจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย ฮ่า ๆ ๆ "ฉิงจี้หัวเราะ
"ฮึ! ซูหนานอี้ มันมีค่าอะไร? เอาชนะมันได้ก็ไร้ประโยชน์ข้าใช้เพียงนิ้วเดียวก็จัดการมันได้แล้ว "ชายหนุ่มที่มีผมยาวส่งเสียงฮึต่อหน้าเขา
"เจ้าอย่าพูดไป เจ้าไม่ควรประมาทใครต่อใครโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจ้าไม่รู้จักเขาดีพอ" ฉิงจี้พูด
"ครับ ... "
ที่ลานกว้าง ซูหยุนนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง และสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
ซินเอียวเตรียมถ้วยน้ำให้กับซูหยุน
ไม่นาน
ตั๋วทั้งสองใบของพวกเขาก็สว่างขึ้น
"มา! ซินเอียวหากเจ้าชนะครั้งนี้เราจะสามารถเข้าสู่ห้าร้อยอันดับแรก หลังจากนั้นถ้าเราชนะในรอบต่อไปเราจะเข้าสู่การจัดอันดับสูงสุดสองร้อยอันดับแรกตอนนั้นเจ้ากับข้าก็จะเข้าสู่สำนักภายในได้ "
ซินเอียวพยักหน้าความมุ่งมั่นที่ปรากฏบนใบหน้าของนางจางๆ
ทั้งสองเดินตรงไป
ไม่นานซูหยุนก็พบเวทีสำหรับการแข่งขันของเขา
ในสนามยังมีกลุ่มคนแต่ดูเหมือนว่ามีไม่มาก คราวนี้มีเพียงไม่กี่คน อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้สามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวเข้าไปในใจของใครต่อใคร เพราะพวกเขาเป็นสาวกภายในทั้งหมด
ซูหยุนตกใจ
มันอาจจะเป็น........