บทที่ 26: ไม่มีความเมตตาในสงคราม (อ่านฟรีวันที่10พฤษภาคม)
บทที่ 26: ไม่มีความเมตตาในสงคราม
โอ้!
ซูเฮยไกล้เข้ามาอีกเพียงไม่กี่ก้าวเขาสาวเท้าเข้าไปยังตำแหน่งของซูหยุน, ในทันใดนั้นกลิ่นอายของเขาก็เพิ่มขึ้นในขณะที่เขาปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา หมัดพุ่งตรงไปยังหน้าอกของซูหยุน
ด้วยการประทะกันครั้งนี้แม้ว่าจะไม่สามารถฆ่า ซูหยุน ได้ทันทีแต่ด้วยพลังอำนาจมหาศาลที่ส่งเข้าไปในกำปั้นถ้าซูหยุนไม่ป้องกันเขาอาจมีโอกาสได้รับบาดเจ็บสาหัส, นอกจากนี้ถึงแม้ว่าจะถูกบล็อค,เนื่องจากพลังวิญญาณที่ส่งเข้าไปภายในกำปั้น ซูหยุน อาจได้รับบาดเจ็บสาหัส
รุนแรงเหลือเกิน!
การประทะครั้งนี้มีไว้โดยเฉพาะเพื่อฆ่าหรือทำร้ายอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม
เช่นเดียวกับกำปั้นที่ใกล้เข้ามา ...
ตูม!
ฝ่ามือของซูหยุนจับยึดกำปั้นเหล็กที่หนักเหมือนเหล็กราวกับว่ามันเป็นเพียงสายลมที่แผ่วเบา
พลังแห่งการโจมตีกระจายตัวและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากการปะทะกัน ...
"อะไรกัน?"
ตงมู่แทบจะกระโดดขึ้นไปในอากาศขณะที่ทั้งสองตาเปิดกว้าง เมื่อมองไปยังสถานการณ์แปลก ๆ ในเวทีช่วยไม่ได้ที่ใบหน้าของเขาฉาบไปด้วยการแสดงออกที่ขุ่นเคือง
สาวกซูหยุนที่ถูกขับไล่ออกจากสำนักภายในของตระกูลซูได้จับกุมกำแพงเหล็กอันยิ่งใหญ่อย่างง่ายดายด้วยมือเพียงข้างเดียว ที่ซูเฮยได้อัดพลังวิญญาณไว้ในกำปั้นของเขา!
"ซูเฮยเจ้าไม่กินข้าวกลางวันมาหรือ?" ตงมู่ตะโกนอย่างตกตะลึง
ผู้คนที่อัดแน่นเงียบทั้งหมด
ซูเฮยเผยรูปลักษณ์แห่งความหงุดหงิดเช่นกัน เขาไม่อยากจะเชื่อฉากที่อยู่ตรงหน้า
หลังจากเฝ้าดูสถานการณ์อย่างระมัดระวังแล้วเขาก็คืนสติของตัวเอง ต้องเป็นเคล็ดลับ เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าซูหยุนจะเป็นคู่ต่อสู้ที่จัดการได้ยากลำบาก
นอกจากนี้หัวหน้าและศิษย์สหายของเขามาดูว่าเขาจะพ่ายแพ้หรือไม่?
ซูเฮยสูดหายใจลึกใบหน้าของเขาแข็งกร้าวขึ้นและรุนแรงขึ้น เขาอาบร่างของเขาด้วยกลิ่นอายรัศมีอีกครั้งและกระโดดพุ่งไปข้างหน้า เขายกขาขึ้นเพื่อส่งลูกเตะที่รุนแรงหนักหน่วงตรงไปหาซูหยุน
แม้จะมีความรวดเร็ว,ในวินาทีต่อมาลูกเตะที่รวดเร็วยิ่งกว่าได้เข้าปะทะไปเต็มหน้าท้องของซูเฮย
ตูม!!
ร่างทั้งร่างของซูเฮยถูกเหวี่ยงข้ามไปยังขอบเวทีและชนเข้ากับขอบของวงแหวน เขากอดท้องแน่นตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด
อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยวเขาสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
ไม่มีเสียงโห่ร้องในกลุ่มผู้ชมไม่มีการวิจารณ์ ทุกๆคนต่างยืนนิ่งเงียบ
พวกเขาไม่ใช่คนโง่เง่า เมื่อไม่นานมานี้การเตะอย่างรวดเร็วของซูหยุนทำให้พวกเขาประจักษ์แล้วว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ...
ตามข่าวลือซูหยุนเป็นแค่เพียงขยะ แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องจริง เขาไม่อ่อนแอเลย
"เขาไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก"ตงมู่กล่าว
ซูหยุนสาวเท้าเข้าไปหาซูเฮย
นัยน์ตาของซูหยุนไม่ได้เป็นสายตาที่เฉยชาตั้งแต่เริ่มต้นการประลองเว้นแต่ว่าคนๆนี้อุบัติขึ้นมาจากเจตนาการฆ่าที่น่ากลัว
ซูเฮยเงยหน้าขึ้นมองซูหยุนเห็นกระบี่และเริ่มตระหนักถึงความหวาดกลัวที่สุดของความตายที่กำลังจะมาถึง หน้าผากของเขาเริ่มรู้สึกมึนงงหัวใจเริ่มเต้นอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว
โอ้!
จู่ ๆ ก็มีเท้าเตะตรงเสยไปที่หัวซูเฮยโดยไร้ซึ่งความเมตตา
ตูม!!
ซูเฮยถูกส่งไปลอยไปในอากาศอีกครั้ง กลิ่นอายทางจิตวิญญาณที่ปกคลุมศีรษะของเขาแตกกระจายออก ซูเฮยกลิ้งไปสองสามตลบบนเวทีก่อนที่จะหยุดลง ร่างกายของเขายังคงแน่นิ่ง ไม่รู้ว่าเขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่
อย่างไรก็ตามซูหยุนยังคงไม่หยุด
เขาย่างเท้าเดินต่อไปหาซูเฮยทีละก้าวทีละก้าว กลิ่นอายทางจิตวิญญาณที่ล้อมรอบตัวเขาค่อยๆประทุขึ้นมาอัดแน่นหนาขึ้นทำให้ปิดผนึกและบีบอัดพื้นที่ทั้งหมดภายในเวที ไม่นานมันก็ปกคลุมร่างกายของเขาทั้งหมด
"คู่ประลองที่สามสิบเจ็ดหยุดเดี๋ยวนี้!" ผู้ตัดสินเข้าใจว่ามีบางอย่างผิดปกติและเรียกออกมาอย่างรวดเร็ว
"ซูหยุน?" เจ้าจะทำอะไร? นี่เป็นแค่การประลอง ... เจ้าคิดจะฆ่าเขาจริงๆเหรอ? " ตงมู่ยืนขึ้นกระโดดเข้าไปบนเวทีและเรียกเขาออกมา
"ซูหยุน?" เห็นได้ชัดแล้วเจ้าชนะทำไมเจ้ายังจะลงมืออีก? "
"หยุดเดี๋ยวนี้" ตงมู่แผดเสียงขึ้น
ผู้ตัดสินอีก 4 คนของการประลองยกคิ้วขึ้น
ผู้ตัดสินรีบวิ่งไปหาซูหยุนเพื่อยับยั้งเขา
หลังจากซูหยุนเห็นเขาก็หยุดเท้าลง
หากผู้ตัดสินไม่แยแสกับการประลองนี้ซูหยุนคงจะไม่สนใจและฆ่า ซูเฮย ได้อย่างง่ายดาย
เขาไม่ได้มีความเกลียดชังหรือไม่พอใจต่อซูเฮย
เหตุผลเดียวที่เขาทำอย่างนี้เป็นเพราะซูเฮยมีเจตนาฆ่าระหว่างการโจมตีแรกของเขา
ตั้งแต่ซูเฮยตั้งใจหมายจะเอาชีวิตของเขาดังนั้นทำไม ซูหยุน จะสุภาพ?
อย่างไรก็ตามนี่คือจุดสิ้นสุดของการประลอง นอกจากนี้เพื่อที่จะเข้าสู่สำนักภายในของตระกูลซูและทำตามแผนของเขาต่อไปเขาจะต้องปฏิบัติตามกฎการประลองในปัจจุบัน
ผู้ตัดสินรีบวิ่งไปทางด้านซูเฮยและยกศีรษะขึ้น หลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้วพวกเขาก็สรุปได้ว่าถึงแม้กลิ่นอายของวิญญาณจะอ่อนแอมากในตอนนี้ แต่สมองแค่เพียงกระทบกระเทียนอย่างแรงดังนั้นซูเฮยจึงสลบไป ซูเฮยไม่ตายผู้ตัดสินถามตงมู่ทันทีเพื่อพาเขาไปรักษา
"ท่านด้วยความเคารพ,เขาโกง! เขาต้องการฆ่าซูเฮยจริงๆ! เขาทำลายกฎ! " หลังจากตงมู่เห็นทัศนคติที่ไม่แยแสของผู้ตัดสินต่อผลของการแข่งขัน แต่เขาต้องการให้ซูหยุนถูกลงโทษ ดังนั้นเขาจึงไม่พอใจและตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ของเขา
"ในการต่อสู้กำปั้นไม่มีตาและตราบเท่าที่ซูหยุนไม่ได้ฆ่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีการลงโทษใด ๆ นี่เป็นกฎ " ผู้ตัดสินพูดออกมาอย่างเย็นชา
ตงมู่ยังลังเล "แต่ ... แล้วเขา ... "
"เจ้าเป็นผู้แพ้ที่บาดเจ็บ? !! การฝึกฝนคือกษัตริย์ ผู้เข้าประลองไม่ใช่สมาชิกคนดูดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลซู "
หลังจากที่ผู้ตัดสินเสร็จสิ้นเขาไม่สนใจการโต้แย้งของตงมู่และยังคงจัดต่อไป
ตงมู่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเดือดดานและซูหยุนก็ก้าวออกจากเวที หลังจากที่เขามา,ตงมู่จ้องเขม็งไปที่ซูหยุนขณะที่เขาเดินออกไปพร้อมกับลูกน้องของเขา
สาวกที่อยู่รอบๆซูนหยุนไม่ได้ดูถูกเขาอีกต่อไป ศิษย์หลายคนตอนนี้หวาดกลัวซูหยุน
บางทีชื่อเศษขยะคงไม่เหมาะสมกับเขาอีกต่อไป
ในมุมของการประลอง,คนที่แต่งกายหรูหราได้ชมฉากนี้
"ดูเหมือนว่าเขาจะมีทักษะบางอย่าง" ผู้นำกลุ่มกล่าว
"ฮึ! นั่นคือความสามารถของเขาทั้งหมด" คนที่อยู่ข้างๆเขาเย้ยหยันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
"ข้าได้จัดการทุกอย่างแล้วหากเขายังมีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่กี่รอบและพบกับเจ้าในการประลอง,เจ้าเหนือกว่าไม่นับส่วนเเสริม! "
"คุณชายทำไมท่านถึงห่วงว่าจะแพ้?"
"ข้าดูกังวล?"
"ใช่!
"เราจะได้เห็นกัน!"
ซูหยุน กลับไปหา ซินหยาง และ ซินเอียว เขาเห็นใบหน้าซีดๆที่นั่งอยู่ในลาน
ซูหยุนสังเกตเห็นร่างของเขาพรุนไปด้วยรอยแผลเป็นและใบหน้าเขียวช้ำ ซินเอียวกำลังใช้ยากับบาดแผลของ ซินหยาง
"เกิดอะไรขึ้น" ซูหยุนถาม
"เราเพิ่งได้พบกับไอ้เวรนั่น" ซินหยางพูดด้วยเสียงหดหู่ ด้วยบาดแผลที่ใบหน้าของเขาทำให้ซูหยุนเจ็บใจที่เห็นเขาทางนี้
"สำนักภายใน?"
"ไม่ใช่,ซูหนานอี้"
ไม่ต้องรอให้ซินหยางต่อซินเอียวได้สาปแช่งอย่างไม่สุภาพว่า "พี่ชายของข้าจับคู่กับเขาได้ ทั้งๆที่ซินหยางแพ้ไปสิบครั้ง แต่ซูหนานอี้ก็ไม่ลดละ เขายังจะสู้ต่อและเริ่มรุนแรงขึ้นในการปะทะกะยพี่ชายข้า ตอนนี้พี่ชายข้าได้รับบาดเจ็บจริงๆ! ซูหนานอี้นี่น่ารังเกียจมากๆ! "
"เจ้าได้พบกับเขาแล้วหรอแค่สามนัด" ซูหยุนขมวดคิ้ว
"ฮึ!!!"
"บ้าเอ้ย..ข้าเชื่องช้าไปหน่อยข้ามันไร้ประโยชน์! ขะ ... ข้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ "ซินหยางรำพึงรำพันขณะที่เขากอดศีรษะและกัดฟัน
เขาฝึกซ้อมอย่างหนักและเพื่อเป้าหมายเดียวเท่านั้น ซินหยางจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร?
"ซูหนานอี้แข็งแกร่งมากและไม่ขาดแคลนยาบ่มเพาะ นอกจากนี้เขาสวมเกราะมันไม่ใช่ความผิดของเจ้าที่เจ้าไม่สามารถชนะเขาไปได้ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและทางเลือกเดียวของเจ้าก็คือฝึกซ้อมให้หนักขึ้นในอนาคต "ซูหยุนปลอบโยน
ซินเอียวพยักหน้าและซินหยางถอนหายใจหนัก
วาบบบบ….
ทันใดนั้นตั๋วในเมือซูหยุนและซินเอียวได้ปล่อยแสงสว่างจ้า ...
หลังจากสามวันการแข่งขันได้กำจัดสาวกหลายคนแล้ว นักเรียนขยะส่วนใหญ่ของสำนักภายนอกถูกตัดออก ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ยังคงเป็นชนชั้นสูงหรือสำนักภายในของสำนัก
ซูหยุนผ่านรอบสองได้อย่างง่ายดายขัดต่อความคาดหวังของทุกคน เนื่องจากซินเอียวไม่ได้พบกับคนใดที่แข็งแกร่งจริงๆนางจึงผ่านไปได้ พวกเขาได้รับอนุญาตให้พักผ่อนหนึ่งวันแล้วการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
กว่าครึ่งของสาวกภายนอกถูกถอดออกจากการแข่งขันดังนั้นโอกาสในการพบกับสำนักภายในของสำนักต่างเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
สาวกเหล่านี้ส่วนใหญ่ในสำนักภายนอกจะพ่ายแพ้หากพวกเขาได้พบกับสาวกสำนักภายใน
ซินหยางกลับบ้านเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บของเขา ซินเอียวและซูหยุนอยู่รอที่ลานกว้าง พวกเขากำลังรอการจับคู่ชุดถัดไปที่จะแสดงบนกระดาน
ทันใดนั้นตั๋วที่อยู่ในมือของซูหยุนก็สว่างขึ้น
ซินเอียวพูด "พี่ซูหยุนข้าจะไปดูเพื่อเป็นกำลังใจให้กับท่าน!"
"ได้!" ซูหยุนพยักหน้า
ทั้งคู่เดินแยกกันไป ซินเอียวเดินไปทางผู้ชมเพื่อหาสถานที่เพื่อเชียร์ซูหยุน ขณะเดียวกันซูหยุนก็ก้าวขึ้นสู่เวทีแรก
คู่ประลองยังไม่ออกมา ซูหยุนรออย่างเงียบๆ มีคนดูจำนวนมากมารวมตัวกันในการแข่งขันครั้งนี้ เกือบร้อย
เมื่อร่างของซูหยุนปรากฏอยู่ในสายตาของเหล่าสหายศิษย์ร่วมสำนักพวกเขารวทตัวกันเพื่อรอดูการแข่งขันของเขาราวกับรอการแสดงที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง
หลายคนไม่เชื่อว่าซูหยุนจะชนะ ดังนั้นผู้มีคนจำนวนมากขึ้นๆเข้ามาดูการแข่งขัน เห็นความเชื่อมั่น
เพียงแค่นั้นความพลุกพล่านก็ระเบิดออกจากด้านข้างของเวที
ซูหยุนและซินเอียวมองไปที่เสียงของความสับสนวุ่นวายและเห็นว่าซูหนานอี้กำลังเดินไปยังบริเวณนี้
ใบหน้าของซินเอียวจู่ ๆ ก็เลือนหายไปและริมฝีปากของนางซีดลง "มันเป็น... นั่นพี่ซูหยุนเขาคือคู่ประลองของท่านจริงๆเหรอ?"