ตอนที่แล้วตอนที่ 066 – เมืองไตรวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 068 – ต่อสู้

ตอนที่ 067 – กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์


ตอนที่ 067 – กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์

 

“กองขยะ?” การแสดงออกของอวี้เป่ากลายเป็นปลงตก แต่เพียงไม่นานก็เริ่มหัวร่อออกมาเสียงดังด้วยความโอ้อวดว่า “นายท่านช่างรู้วิธีที่จะเล่นตลกจริง! มันจะมีกองขยะในร้านข้าได้เช่นไร? สิ่งของเหล่านี้ พวกมันถูกขุดขึ้นมาจากซากปรักหักพังของราชวงศ์โรมันโบราณ…”

ทหารขัดจังหวะอย่างเย็นชา “เหล่าเฉาช่างโง่เขลานัก ถึงได้ขายสิ่งของโรมันโบราณเหล่านี้ให้เป็นกองขยะแก่เจ้า”

อวี้เป่าจ้องมองอย่างตกตะลึงไปที่ทหาร สหายคนนี้มิใช่เขาเป็นจิตวิญญาณหรอกหรือ? อวี้เป่ามั่นใจว่าเขามิเคยพบเห็นนายน้อยผู้นี้และจิตวิญญาณทั้งสองของเขามาก่อน

เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันจะอ่านใจได้?

มิว่าจะมองไปมุมใดที่ทหาร เขาก็เป็นจิตวิญญาณอย่างแน่นอน แต่ระดับของเขาสูงเท่าใดกันสำหรับจิตวิญญาณถึงมีสติปัญญาเช่นนี้? อวี้เป่าเคยได้ยินมาอย่างมากว่าจิตวิญญาณเหล่านี้มีความสามารถแปลกประหลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกจิตวิญญาณระดับสูง พวกมันต่างน่ากลัวเนื่องจากพลังของพวกมัน และความสามารถลึกลับของพวกมันสามารถที่จะใช้มนุษย์เป็นของเล่นและทำให้พวกเขาราวกับอยู่ในนรกได้เลย

ใบหน้าที่ว่างเปล่าของทหารกลับกลายดูน่าหวาดกลัวและอันตรายเพิ่มขึ้นภายในสายตาของอวี้เป่า

เขาฝืนยิ้ม “อา ท่านเป็นคนกันเองนี้เอง! เมื่อท่านเป็นสหายของเหล่าเฉา งั้นพวกเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ข้าได้สิ่งเหล่านี้มาจากเหล่าเฉาในราคาห้าแก่นจิตวิญญาณขั้นสี่ นายน้อย จากการทำงานหนักของข้าได้โปรดมอบรางวัลแก่ข้าด้วย”

ทหารกล่าวขอสิบแก่นจิตวิญญาณจากถังเทียน ส่งพวกมันไปให้อวี้เป่าและหันไปยังกองขยะ ยามเมื่อทหารเข้าไปในร้านค้าแล้ว เขาก็ได้ยินชัดเจนกับคำสนทนาของเจ้าของร้านของร้านทั้งสองข้าง

ดวงตาของอวี้เป่าสว่างวาบ ด้วยการกวาดมือทั้งสองข้าง เขาก็ใช้ออก ‘นางแอ่นสามถลา’ และกวาดแก่นจิตวิญญาณทั้งหมดได้อย่างหมดจด

“ว้าว ไม่เลว!” ถังเทียนมีสีหน้ายอมรับ ยอมรับที่อวี้เป่ามีวิชาอาวุธลับที่โดดเด่น

อวี้เป่ากล่าวตอบอย่างเคารพ “ขอบคุณสำหรับคำชมเชยขอรับ!” เขาดูละโมบอย่างเงียบๆขณะที่เขาใช้ออกกลโกงเล็กน้อย กองขยะเหล่านั้นที่เขาได้มาจากเหล่าเฉามันมีค่าเพียงแก่นจิตวิญญาณเดียว แต่เขามีถึงสิบแก่นจิตวิญญาณในตอนนี้ ซึ่งหมายความว่ามันเป็นกำไรสิบเท่าตัวและเขาค่อนข้างพึงพอใจ นอกจากนี้ในช่วงที่แก่นจิตวิญญาณได้มาอยู่ภายในมือของเขา เขาก็สามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นแก่นจิตวิญญาณพฤกษาธาตุที่เป็นของวานรไม้จันทร์มรกตซึ่งเป็นของหายาก

นอกเหนือจากนี้มันเป็นแก่นจิตวิญญาณของวานรที่ไม่มีส่วนอื่นที่มีคุณค่าใดๆ และอสูรจิตวิญญาณดาราดังกล่าวก็มีกล้ามเนื้อที่หนาและมีความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง และยากที่จะรับมือได้ พวกที่อ่อนแอมิมีโอกาสที่จะเอาชนะพวกมันได้ ขณะที่ผู้แข็งแกร่งต่างเลือกที่จะหาแก่นจิตวิญญาณขั้นห้าแทน เนื่องจากมิมีผู้ใดที่จะเต็มใจทำงานที่ไม่คุ้มค่าเช่นนี้

แก่นจิตวิญญาณของวานรไม้จันทร์มรกตนี้มันเป็นวัสดุคุณภาพสูงที่ใช้ในการสร้างยันต์จิตวิญญาณวิชาหมัดระดับสี่ ซึ่งทำให้มันมีราคาที่สูงกว่าราคาแก่นจิตวิญญาณขั้นสี่ธรมดา

คุ้มค่านัก!

ความสนใจของถังเทียนเปลี่ยนไปยังทหารผู้ที่ซึ่งโยนกองขยะทิ้ง ถังเทียนเบียดเข้าไปและมองดูกองขยะให้ดีขึ้น ซึ่งกลายเป็นกองเศษเหล็กรูปร่างแปลกประหลาดและปรากฏว่าเป็นเศษชิ้นส่วนของพวกกลไก ดูจากสีของมันแล้วมันเป็นสีทองแดง มิต้องสงสัยเลยที่อวี้เป่าไม่แม้แต่กระทั่งโน้มน้าวใจเขาในเหล่าวัตถุโบราณนี้ เนื่องจากสิ่งของทองแดงนี้มันจะไม่ขึ้นสนิมเลยแม้ว่ามันจะเป็นวัตถุโบราณ และปรากฏว่ามันมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี

“ลุงทหาร มันมีสิ่งใดที่ท่านต้องการในนี้?” ถังเทียนอดมิได้ที่จะกล่าวถาม

“เจ้าจะได้รู้ในมิช้านี้” ทหารไม่แม้แต่จะเงยหน้าของเขา และถังเทียนก็สามารถกล่าวได้ว่าเขาคล้ายจะปะติดต่อเรื่องราวบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว

มันคล้ายว่าทหารจะใช้เวลานาน และถังเทียนอดมิได้ที่จะรอต่อไป ดังนั้นเขาถึงเริ่มสำรวจร้านอย่างลวกๆ อวี้เป่ารู้ว่านายน้อยเบื้องหน้าของเขานั้นมิได้โง่เขลา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเริ่มที่จะกระทำการอธิบายต้นกำเนิดความเป็นมาอย่างซื่อสัตย์

ทันใดนั้น กายากระเรียนของถังเทียนก็พลันเคลื่อนไหว จากชั้นวางฝั่งตรงข้ามของร้าน มันสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอ่อนๆ

ถังเทียนประหลาดใจ เขาเดินไปยังชั้นวางและค้นหาแหล่งที่มาของคลื่นพลังนั้น

กระเรียนทองสัมฤทธิ์ มีขนาดเท่าฝ่ามือทารก วางอยู่เงียบๆบนชั้นวาง ถังเทียนหยิบกระเรียนทองสัมฤทธิ์ขึ้นมา และเป่าฝุ่นที่เกาะเคลือบอยู่บนผิวของมัน กระเรียนทองสัมฤทธิ์ตัวเล็กก็ดูสะอาดใหม่เอี่ยม ดูเหมือนจะทำมาจากไม้หลายอย่างกลายเป็นขนทองสัมฤทธิ์ที่ดูประณีต และมันก็ซับซ้อนอย่างยิ่ง กระเรียนตัวเล็กมีรูเล็กๆอยู่บนสุดของหัวมัน ถังเทียนคาดเดาว่ามันใช้ไว้สำหรับสอดใส่เส้นเชือกทำเป็นพวกเครื่องประดับ

“กระเรียนทองสัมฤทธิ์ตัวเล็กถูกนำมาเมื่อสองสามปีที่แล้ว มันไม่ค่อยมีค่านัก ข้ามิรู้ว่าทำไมช่างฝีมือถึงทำมัน มันก็ดูสวยงามดี ถ้าหากนายน้อยชื่นชอบ ข้ามอบให้ท่านได้เลย!” อวี้เป่าเสนออย่างใจกว้าง ในความจริงแล้ว เขาได้มาโดยไม่ต้องจ่ายสักแดงเดียว และเขารู้ว่าอีกฝ่ายก็คงไม่หลงกลแน่ เขาจึงทำเป็นใจกว้างและไม่ใส่ใจเงินสักแดงเดียว เมื่อกระเรียนทองสัมฤทธิ์ตัวเล็กนี้ดูใหม่ มันจะต้องถูกสร้างมาในเร็วๆนี้และมิได้มีค่านัก ดังนั้นมันเป็นเพียงแค่ของประดับตกแต่งเท่านั้น

ตามที่คาด ถังเทียนหยิบเอาแก่นจิตวิญญาณสิบชิ้นและโยนไปให้อวี้เป่า “ข้าต้องการมัน”

อวี้เป่าแสยะยิ้มกว้างจนถึงหู คนฟุ่มเฟื่อยเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจจริง “ขอบพระคุณในความใจกว้างของนายน้อย!”

ถังเทียนเล่นกระเรียนทองสัมฤทธิ์ตัวเล็กนี้ ด้วยความรู้สึกที่ว่ากระเรียนนี้อาจจะมีความเชื่อมโยงกับนิกายกระเรียน แต่เขาก็มิสามารถสัมผัสได้ถึงกายากระเรียน ยามเมื่อกระเรียนอยู่ภายในมือของเขา มันมิได้มีการตอบสนองใดๆเว้นเสียแต่การเคลื่อนไหวของคลื่นพลังที่เพิ่มขึ้น ถังเทียนก็ใส่ภายในคลังศาสตราวุธคนโทของเขา

“มีสถานที่ใดบ้างที่ขายยันต์จิตวิญญาณ?” ถังเทียนกล่าวถามอย่างลวกๆ

อวี้เป่ากล่าวถามในทันที “ระดับและขั้นใดที่ท่านต้องการหรือ? หากท่านต้องการในราคาที่เหมาะสม ร้านยันต์หลินจี้นั่นไม่เลวนัก มันมีหลากหลายอย่างในราคาที่ถูก อย่างไรก็ตามร้านของเขามีเพียงยันต์ขั้นเงินเป็นส่วนใหญ่ ถ้านายน้อยต้องการยันต์ระดับสูงขั้นทอง มันจะดีกว่าหากไปที่เรือนสมบัติยันต์ ซึ่งขายยันต์จิตวิญญาณหายากโดยเฉพาะ แต่ราคามันสูงเกินกว่าฐานะผู้คนสามัญธรรมดาเช่นข้า แน่นอนว่าหากเป็นนายน้อยเช่นท่านแล้ว มันก็คงจะมิมีปัญหาอันใด”

“สถานที่ใดที่ขายยันต์จิตวิญญาณการบ่มเพาะปราณระดับสี่?” ถังเทียนกล่าวถาม

“ระดับสี่…” อวี้เป่านิ่งงัน สามารถที่จะเข้ามาภายในเมืองไตรวิญญาณได้ จะต้องมีปราณแท้จริงอย่างน้อยขั้นสี่ ผู้ใดกันจะที่จะต้องการซื้อยันต์ระดับสี่? นอกจากนี้ ในความเห็นของเขา ผู้คนที่ร่ำรวยเช่นนี้จะขาดแคลนยันต์จิตวิญญาณได้เยี่ยงไรกัน? อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกย้อนไปถึงงานอดิเรกของนายน้อยทั้งหมดในก่อนนี้ อวี้เป่าก็คาดคิดว่ามันอาจจะเป็นงานอดิเรกปกติเช่นกัน

“นายน้อยต้องการที่จะซื้อยันต์จิตวิญญาณระดับสี่ อา!” อวี้เป่าแสร้งทำขบคิดหนักต่อถังเทียน “ข้าจดจำได้ว่ามันมีร้านค้าอยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองเรียกว่าร้านค้ายันต์ไซ่เหล่ย ร้านของเขาสะสมยันต์แปลกประหลาดโดยเฉพาะ แม้กระทั่งยันต์ขั้นทองสำหรับพื้นฐานวิชาการต่อสู้ก็มี”

“ยันต์ขั้นทองสำหรับพื้นฐานวิชาการต่อสู้!” ถังเทียนงุนงง มันเป็นคราแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับยันต์ขั้นทองของพื้นฐานวิชาการต่อสู้

อวี้เป่าปรากฏความเห็นใจ “มันมักจะมีผู้คนที่มีรสนิยมแตกต่างกันเสมอในโลกนี้”

เขาประจบถังเทียนปราศจากความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากภายในสายตาของเขา นายน้อยผู้นี้อาจจะมีงานอดิเรกที่คล้ายคลึงกัน ถ้าหากไม่ทำไมเขาถึงต้องการที่จะซื้อยันต์จิตวิญญาณระดับสี่กัน? และเขาแม้กระทั่งมายังเมืองไตรวิญญาณเพื่อที่จะซื้อยันต์จิตวิญญาณระดับสี่ ถ้ามันเป็นคนอื่นแล้วล่ะก็ อวี้เป่าคงอาจจะชี้นิ้วต่อว่าที่เขาทำตัวปัญญาอ่อนเช่นนี้

“เสร็จแล้ว” ทหารพลันปรากฏขึ้นมาจากเบื้องหลัง

ถังเทียนและอวี้เป่าหันไปเมื่อได้ยินทหาร และขณะที่อวี้เป่าจ้องอย่างตกตะลึงไปยังกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์เบื้องหน้าทหาร ถังเทียนก็ตื่นเต้นร่ำร้องและวิ่งเข้าไปหา “ลุงทหารมันคือสิ่งใดกัน?”

กระจอกเทศทองสัมฤทธิ์สูงกว่าถังเทียนเล็กน้อยและคล้ายคลึงกับนกกระจอกเทศ เว้นเสียแต่ว่ามันสร้างมาจากชิ้นส่วนของทองแดง ด้วยขาที่มั่นคงแข็งแรงทั้งสองมันให้ความรู้สึกหนักหน่วง บนหลังของนกกระจอกเทศมันมีอานไว้สำหรับขี่อยู่ด้วย

“กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ซึ่งเป็นพาหนะขับขี่สำหรับค่ายทหารเกณฑ์ของกองทัพกางเขนใต้”ทหารกล่าวตอบอย่างบางเบา

ปราศจากความลังเล ถังเทียนก็พลิกตัวเขาและขึ้นขี่มัน

“ใส่หินดาราตรงนี้” ทหารเปิดเผยด้านหลังของคอนกกระจอกเทศเพื่อแสดงร่องรอย ซึ่งมันสามารถพอดีกับหินดาราอย่างสมบูรณ์ ถังเทียนมิมีความลังเลที่จะใส่มันเข้าไปหนึ่งอัน

พรึบ

กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์เปิดเปลือกตาห้อยๆของมันขึ้นและลูกตาสีทองแดงภายในก็เริ่มที่เคลื่อนไหวอย่างช้า

“ปลดปล่อยจิตวิญญาณนักสู้ของเจ้าประทับลงตรงนี้” ทหารชี้ไปยังหลังหัวของนกกระจอกเทศ

ถังเทียนกระทำคำแนะนำได้อย่างรวดเร็วและตามที่คาดการเชื่อมต่ออ่อนๆก็เกิดขึ้นระหว่างเขาและนกกระจอกเทศ และถังเทียนก็เคลื่อนไหว

ตุบ ตุบ!

กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ก็เริ่มที่จะก้าวเดินและวิ่งไปรอบๆสนาม แม้ว่ามันจะดูคล้ายเงอะงะยามที่มันวิ่งแต่มันก็รวดเร็วนัก ในตอนแรกมันยังคงมิสามารถรักษาสมดุลได้ ดังนั้นเมื่อมันวิ่งไปรอบมันก็ไม่มั่นคง ไม่นานหลังจากนั้นถังเทียนก็จับเคล็ดลับได้ นกกระจอกเทศก็เดินได้สง่างามมากขึ้น

“ความเร็วของนกกระจอกเทศมันไม่ได้ถือว่าเร็วนัก เกือบจะใกล้เคียงกับความเร็วของวิชาตัวเบาระดับห้าของนักสู้ อย่างไรก็ตาม มันมิได้สูญเสียปราณแท้จริงหรือพลังของผู้ขับขี่เลย ทำให้มันเหมาะสมที่จะเดินทางในระยะไกล นั่นคือสาเหตุที่ค่ายทหารเกณฑ์ของกองทัพกางเขนใต้ขนานนามมันว่าค่ายนกกระจอกเทศ”

ความรอบรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาต่างๆของทหารทำให้อวี้เป่ารู้สึกพ่ายแพ้และชื่นชม

ร้านของอวี้เป่ามีมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาได้พบเห็นเหตุการณ์และผู้คนมาทุกประเภท แม้ว่ามันจะมีผู้คนที่มีบุคคลที่น่ากลัว แต่มิมีผู้ใดที่สามารถจะสร้างกลไกกระจอกเทศจากกองขยะมาก่อน ในตามจริงแล้ว อวี้เป่าเคยได้ยินเกี่ยวกับกลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ของกองทัพกางเขนใต้มาก่อน แต่มิเคยคาดฝันว่าจะเขาจะได้พบเห็นบุคคลที่ยังมีชีวิตสามารถจะฟื้นฟูนกกระจอกเทศอันเป็นตำนานตัวนี้ได้

เขาก็ยิ่งเชื่อมากขึ้นว่าถังเทียนจะต้องมีภูมิหลังที่น่าเกรงขาม

จิตวิญญาณที่มีความรอบรู้เช่นนี้สามารถปรากฏเพียงในตระกูลที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และกองทัพกางเขนใต้ก่อนหน้านี้เป็นหนึ่งในสามกองทัพใหญ่จากราชวงศ์แมงป่อง! มีประวัติย้อนกลับไปไกลมาก และเหล่าเด็กน้อยก็ต่างรู้น้อยมากในปัจจุบันนี้

อวี้เป่าสามารถเห็นภาพที่เมืองไตรวิญญาณบ้าคลั่ง ยามเมื่อกลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ปรากฏขึ้นบนถนน

ด้วยความฉลาด อวี้เป่าคาดคิดว่ามันเป็นการโฆษณาที่สมบูรณ์แบบในทันทีและคิดคติพจน์ภายในใจของเขา

“กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ฟื้นคืนจากกองขยะ เป็นผลงานชิ้นเอกของยุคสามกองทัพที่ยิ่งใหญ่!”

“ตราบเท่าที่ท่านมีสายตาที่ดี ท่านสามารถที่จะค้นหาทองคำได้จากก้อนกรวด!”

“ลองเข้ามาเสี่ยงโชคของท่าน ร้านค้าอวี้จี้ที่ไม่ต้องประเมินสิ่งพิเศษ สำหรับคนที่มีโชคและหยั่งรู้!”

ร้านค้าอวี้จี้ที่ไม่ต้องประเมินสิ่งพิเศษ ฮ่าฮ่า นามนี้ช่างยอดเยี่ยมนัก!

ด้วยนกกระจอกเทศที่ประกาศ เขาสามารถที่จะขายกองขยะได้โดยเฉพาะในตอนนี้ ตราบเท่าที่ราคาของมันระดับต่ำ มันจะต้องมีผู้คนที่ต้องการจะลองเสี่ยงโชคของพวกเขา ในตอนนี้เขาสามารถที่จะเปิดการค้ากองขยะได้อย่างเปิดเผย! ฮี่ฮี่ เขาช่างมีความคิดที่ชาญฉลาดยิ่งนัก!

มันราวกับว่าอวี้เป่ามองเห็นทางเดินสีทอง

ถังเทียนวิ่งอย่างรวดเร็ว ขณะที่การควบคุมนกกระจอกเทศได้ง่ายดายด้วยตราประทับของจิตวิญญาณนักสู้ ทำให้มันสามารถวิ่งได้ราวกับสายลม

กลุ่มผู้คนหนึ่งผ่านที่ร้าน จากหางสายตาของนาง สตรีนางหนึ่งก็เหลือบเห็นภายในร้านค้าและหยุดฝีเท้าของนางในทันที เพียงชั่วครู่ นางก็โผล่ออกมาด้วยความมึนงงของนางพลางอุทานว่า “กลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์!”

พวกที่เหลือก็ต่างหยุดฝีเท้าลงด้วยเสียงอุทานของนางและทุกคนก็มองเข้ามาภายในร้านค้า

“มันคือกลไกกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์จริงๆ!”

“ว้าว! สิ่งของโบราณของกองทัพกางเขนใต้!”

“ช่างยอดเยี่ยมนัก!”

เด็กหนุ่มสองสามคนต่างตื่นเต้นและดวงตาของพวกเขาก็สว่างวาบ ในชั่วพริบตาพวกเขาก็รีบเร่งเข้ามาภายในร้าน

ท่าทางของอวี้เป่าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นภาพนี้

บัดซบ ทำไมพวกมันมาที่นี่กัน?

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด