ตอนที่ 061 – อุโมงค์ของจิตวิญญาณขุนพล
ตอนที่ 061 – อุโมงค์ของจิตวิญญาณขุนพล
เปียวเกอตื่นขึ้นมาเมื่อยามที่เขาถูกสาดด้วยน้ำอันเย็นเฉียบ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกเสียใจที่เขาตื่นขึ้นมา
“บอกข้ามา เจ้าซ่อนสมบัติของข้าไว้ที่ใดกัน” น้ำเสียงของถังเทียนเลื้อยเข้าไปภายในหูของเปียวเกอ
เปียวเกอยังคงมึนงง “สมบัติของเจ้า?”
“ถูกต้องแล้ว!” ถังเทียนยืนขึ้น อ้าแขนกว้างพลางกล่าวด้วยที่หน้าที่ชอบธรรมและคาดหวัง “ตอนนี้เจ้าเป็นเชลยของข้า สมบัติทั้งหมดของเจ้าก็ต้องเป็นของข้า”
เปียวเกอก็พลันเข้าใจพลางหัวร่อทั้งน้ำตา “มันก็อยู่ทั้งหมดที่นั่นไง วิธีการของเจ้า… มันช่างรอบคอบนัก…”
“อย่าได้เล่นลิ้นกับข้า!” ถังเทียนมองไปยังเปียวเกอด้วยความรังเกียจ “ภายในสิ่งของกองใหญ่นี้ มันไม่มีแม้กระทั้งสมบัติขั้นทองแดงหรือยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินเลย! เจ้าโกหก! สมาคมนักสู้แห่งแสงจะยากจนเช่นนี้ได้เยี่ยงไร? ให้ข้าบอกต่อเจ้า อย่าได้คิดว่าข้าเป็นคนนอก เกี่ยวกับสมาคมนักสู้แห่งแสง ข้ารู้ว่าพวกเขานั้นร่ำรวย”
ถังเทียนนึกถึงเกี่ยวกับรถหรูหราที่ใต้เท้าข่งมี และผนังก็เต็มไปด้วยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินระดับสี่และถังเทียนก็ลุกโชติไปด้วยความหลงใหล
มองเห็นเปียวเกอยังคงเงียบ ถังเทียนก็กล่าวอย่างจองหอง “แม้กระทั่งข้ายังมีสมบัติขั้นทองแดงบนตัวข้า แต่เจ้ากลับไม่มีอันใดเลย มันจะเป็นไปได้เยี่ยงไร? ให้ข้าบอกเจ้าทุกคน เจ้าทางที่ดีควรคายสมบัติของพวกเจ้ามาอย่างเชื่อฟัง ใครก็ตามที่กล้าจะแอบซ่อน โอ้ งั้นถ้าพวกเจ้าจะมีอันใดขาดหายไปจากร่างกายพวกเจ้า ก็อย่าได้โทษข้าว่าไร้เมตตาแล้วกัน”
ถังเทียนเอ่ยย้อนคำกล่าวของเปียวเกอ
น้ำตาล่วงหล่นเป็นสายบนใบหน้าเปียวเกอ ผู้ใดกันที่กล่าวว่าผู้ที่อยู่ในสมาคมนักสู้แห่งแสงจะเป็นผู้ผลิตเงินทอง
“พวกเราไม่มีจริงๆ…” เปียวเกอกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น
ถังเทียนก้มใบหน้าของเขา เขามองอย่างไม่เป็นมิตร เขานวดหมัดของเขาเกิดเสียง ‘หมับ หมับ’ “ดูเหมือนว่าข้าจะต้องทำให้เจ้าจดจำให้ออก!”
เปียวเกอลนลานและทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่งพลางรีบเร่งกล่าว “ข้าจำได้แล้ว! ข้าจำได้แล้ว! มีอยู่สถานที่หนึ่งที่มีสมบัติ!”
ถังเทียนก็รู้สึกร่าเริง
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ถังเทียนมองไปยังอุโมงค์เบื้องหน้าด้วยความตกใจ “สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนมันค่อนข้างเก่าแก่นัก”
“มันเคยมีผู้อาวุโสอยู่ที่นี่ เขาได้ทำผิดพลาดและถูกส่งมาที่นี่ อุโมงค์นี้จะนำเจ้าไปยังที่ที่เขาเคยอยู่” เปียวเกออธิบาย “เขาเคยกล่าวไว้ก่อนจากไป ตราบเท่าที่เจ้าบรรลุไปถึงอุโมงค์ที่ลึกที่สุดที่เขาเคยอยู่ เจ้าจะสามารถรับสิ่งของของเขาทั้งหมด”
“ฟังดูน่าเหลือเชื่อ!” ถังเทียนรู้สึกตื่นเต้น เขาพลันนึกถึงคำถามที่ว่า “ทำไมถึงมิมีผู้ใดเข้ามาบ้าง?”
“มันมีจิตวิญญาณขุนพลที่แข็งแกร่งอยู่ที่นั่น พวกเราได้ลองแล้วแต่พวกเราก็มิอาจเอาชนะเขาได้” เปียวเกออธิบาย
“เข้าใจล่ะ...” ถังเทียนหรี่ตาพลางพยักหน้า “ตกลง ข้าจะลองดู”
บุรุษหัวล้านมิได้โกหกเขา เขาสามารถรู้สึกได้ถึงบางที่ภายในอุโมงค์จะมีพลังปราณจางๆอยู่ แม้ว่าพลังปราณนี้จะเจือจาง มันก็เผยถึงความอันตราย
ความสุขแสดงอยู่บนใบหน้าของเปียวเกอ ให้สารเลวตัวนี้เข้าไปข้างใน และถ้าหากเขาถูกสังหารโดยจิตวิญญาณ ฮี่ฮี่...
ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขาก็แข็งค้าง น้ำเสียงของเขาสั่น มองไปยังถังเทียน “เจ้า เจ้า เจ้า… เจ้ากำลังจะทำอันใด?”
ถังเทียนรวบเชือกมาและผูกกลุ่มอันธพาลนี้ อันธพาลเห็นมือและขาของพวกเขาต่างถูกมัดแน่นราวกับเป็นเกี๊ยว ถังเทียนก็ปรบมือของเขาพลางมองดูอย่างภูมิใจ “ด้วยวิธีนี้ จะมิมีผู้ใดในพวกเจ้าสร้างปัญหาให้ข้าได้ รอจนกว่าข้าจะออกมา จากนั้นข้าก็จะปล่อยพวกเจ้าไป”
“นี่ ถ้าหากว่าเจ้ามิสามารถกลับออกมา…” เปียวเกอกล่าถามด้วยน้ำเสียงสั่น
ถังเทียนหัวร่อเบา “อย่าได้เป็นกังวล ข้าจะต้องออกมาอย่างแน่นอน!”
หลังจากนั้น เขาก็มิได้ใส่ใจกับผู้คนเหล่านี้อีกต่อไป เขาหันหลังพลางเดินเข้าไปในอุโมงค์
อุโมงค์มิได้มืดสนิท ในทางตรงกันข้าม มันก็สว่างกำลังดี จากส่วนลึกของอุโมงค์พัดอากาศออกมา นำพากลิ่นเหม็นสาบ สีหน้าของถังเทียนขึงขังและเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง อุโมงค์นี้สร้างด้วยหินทั้งหมด ปลายทางมิสามารถมองเห็นได้ พลังงานของมันหนาแน่นและด้อยกว่าเล็กน้อยของพลังงานที่อยู่เบื้องหลังประตูกางเขน
มันเป็นเวลานานมากแล้วตั้งแต่ที่มิมีผู้ใดเข้ามาในอุโมงค์แห่งนี้ เนื่องจากมันถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนา สามารถพบเห็นใยแมงมุมไปทั่ว อุโมงค์มืดและลึก เสียงฝีเท้าของถังเทียนดังก้องทั่วทั้งอุโมงค์ ถ้าหากคนขลาดเขลาเข้ามาที่นี่ เขาอาจจะวิ่งหนีไปในทันที แต่นอกเหนือจากสีหน้าของถังเทียนที่ขึงขังแล้ว เขาก็มิมีความหวาดกลัวใดๆ
ขณะที่เขาเดินเข้าไปลึกภายในอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง หินรอบตัวก็ของเริ่มปรากฏร่องรอยเป็นพักๆ ร่องรอยนี้ดูไม่คล้ายกับเป็นอักษร พวกมันแทบจะอ่านไม่ได้ แต่ถังเทียนก็หมกมุ่นอยู่กับสิ่งนี้จนเขาเริ่มที่จะพึมพำกับตัวเอง หินรอบตัวเขาทนทานและแข็งแรง มันมิใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะชกออกด้วยหมัดของเขาเพื่อทำลายทุกอย่าง แต่การที่จะสลักอักษรได้นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำได้อย่างแน่นอน
ต้องมีความแข็งแกร่งของนิ้วมากเพียงใดกันถึงจะทำเช่นนี้ได้!
ภายในใจถังเทียนเต็มไปด้วยความชื่นชมโดยเฉพาะยามเมื่อเขาพบเห็นร่องรอยที่แทบจะอ่านไม่ออกนี้ มันราวกับพวกมันเป็นหลักเกี่ยวกับวิชาการต่อสู้
ผู้อาวุโสที่อุทิศตนให้กับวิชาการต่อสู้ก็เข้ามาภายในใจของถังเทียนในทันที
ถังเทียนเลื่อมใสบุคคลดังกล่าว
ขณะที่เขาเดินอยู่ เขาก็กอดอกพลางพึมพำ “ผู้อาวุโส ไม่ว่าสมบัติอันใดและวิชาการต่อสู้ ได้โปรดมอบพวกมันให้ข้าเถอะ! ข้าจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวัง บุรุษหนุ่มเทพผู้นี้จะเป็นผู้สืบทอดที่ดี ข้าจะนำความรุงเรืองมาให้…”
มิรู้ว่าเป็นเพราะเขาได้ยินคำกล่าวของถังเทียนหรือไม่ เงาทึบพลันปรากฏเบื้องหน้าของถังเทียน
จิตวิญญาณขุนพล!
ถังเทียนปราดเปรียวและเขาก็หยุดฝีเท้าของเขาอย่างรวดเร็วพลางตั้งท่าป้องกัน
จิตวิญญาณขุนพลเป็นชายชรารูปร่างผอมบาง ร่างของเขางอเล็กน้อยและแขนของเขาก็ยาว
ดวงตาของถังเทียนจับจ้องไปยังมือของจิตวิญญาณขุนพล ฝ่ามือหดตัว นิ้วราวกับตะขอและเล็บต่างราวกับมีดแหลมคมสีดำ มันดูน่ากลัวยิ่ง สีหน้าของถังเทียนขึงขัง ชายชรากำลังแอบอยู่มีปราณที่มืดมนและทำให้ถังเทียนหลั่งเหงื่อเย็นเยียบและขนของเขาก็ลุกชัน
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมบุรุษหัวล้านและสหายของเขาถึงมิกล้าเข้ามา
เมื่อเห็นเล็บของจิตวิญญาณขุนพลนี้แล้วและร่องรอยที่เขาเห็นบนกำแพง ถังเทียนรู้ได้เลยว่า จิตวิญญาณขุนพลเบื้องหน้าของเขาอาจจะเป็นผู้อาวุโสที่ได้กลายเป็นจิตวิญญาณนักสู้ก่อนที่เขาจะตายตก
ถังเทียนคำนับอย่างจริงจังและเอ่ยปาก “ผู้อาวุโส ข้ามาเพื่อรับสมบัติของท่าน แม้ว่าท่านจะยังคงปกป้องสมบัติของท่านอยู่ ท่านจะต้องไม่มีความสุขแน่นอน พวกมันต่างปกคลุมไปด้วยฝุ่นและมันก็ไม่ได้แสดงคุณค่าของมันเหมือนเมื่อก่อน มันน่าเสียดายนักที่พวกมันไม่สามารถเปล่งประกายภายในสนามรบ”
จิตวิญญาณขุนพลจ้องมองไปยังถังเทียนอย่างเงียบๆ
ถังเทียนจ้องมองไปยังจิตวิญญาณขุนพลและกล่าว “ผู้อาวุโส ถ้าท่านต้องการจะทดสอบข้า ก็เข้ามาหาข้าได้เลย! ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นถึงความสามารถของข้า และข้าจะไม่ทำให้พวกมันอัปยศ!”
การแสดงออกของถังเทียนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและกล่าวด้วยเสียงต่ำ “เตาหลอม!”
ฟู่!
เปลวเพลิงปกคลุมทั้งสองหมัดของเขา ในตอนนี้เปลวเพลิงบนสนับมือเหล็กดำเป็นสีเขียวเจือจาง
หลังจากจำนวนชั่วโมงของการฝึกที่นับไม่ถ้วน จิตวิญญาณนักสู้ของสนับมือเหล็กดำก็เปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ ถังเทียนมักรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของสนับมือเหล็กดำกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้
แต่ในตอนนี้ ภายในดวงตาของเขา มันมีเพียงร่างจิตวิญญาณขุนพลที่กำลังแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
ดวงแสงอันเยือกเย็นส่องประกายภายในดวงตาของจิตวิญญาณขุนพล ถังเทียนเห็นเพียงเงา หลังจากนั้นเขาก็มองตามไปยังร่องรอยของจิตวิญญาณขุนพล!
ช่างรวดเร็วนัก!
แต่ยามเมื่อถังเทียนอยู่ภายในค่ายทหารเกณฑ์ เขามักจะถูกทรมานด้วยดวงแสงเสมอ เขาฝึกฝนความว่องไวภายในสัญชาตญาณของเขา หลายคราที่ดวงตามันไม่น่าเชื่อถือพอ เนื่องเพราะบางครามันยากที่จะจับตามองทัน และบางคราฝ่ายตรงข้ามก็สามารถที่จะสร้างภาพลวงตาได้
ยามเมื่อถังเทียนอยู่ในระหว่าง ‘ฝึกโดนทุบตี’ เขาได้เผชิญหน้ากับดวงแสงที่เข้ามาราวกับพายุ ถ้าหากเขาต้องการที่พึ่งพาดวงตาของเขาเพื่อจะมองพวกมัน ตามหลักแล้วมันก็คงเป็นไปไม่ได้
วิธีการของถังเทียนคือการฝึกฝนในสัญชาตญาณของเขาเอง
วิธีการนี้มิใช่บางอย่างที่ทหารได้สอนเขา มันเป็นบางอย่างที่เขาได้คิดค้นขึ้นมาด้วยตัวเอง เขาตระหนักได้ว่าตราบเท่าที่เขาสงบนิ่ง สัญชาตญาณของเขาจะกลายเป็นปราดเปรียวอย่างยิ่ง ยามเมื่อเขาค้นพบประโยชน์ของสัญชาตญาณนี้ ถังเทียนก็ถูกบังคับให้เริ่มฝึกการทรมานมากยิ่งขึ้น ‘ฝึกโดนทุบตี’ มิใช่เพียงแค่จะพัฒนาปราณแท้จริงภายในร่างของเขา มันยังพัฒนาสัญชาตญาณของเขาให้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
สัญชาตญาณมันราวกับทองแดงที่หยาบ ขณะที่มันถูกขัดเกลาอย่างต่อเนื่อง มันก็กลับกลายเป็นส่องประกาย ไม่ว่าสิ่งใดที่มันสัมผัสได้มันก็จะดียิ่งขึ้น
นี่คือสาเหตุที่ถังเทียนสามารถทนทานได้นานภายใน ‘ฝึกโดนทุบตี’ และทนทานได้นานและนานยิ่งขึ้น
แทบจะไม่ปรากฏความลังเลใดๆ ถังเทียนเอนตัวของเขา และนิ้วของเขาก็กลายเป็นตะขอ เขาเอียงตัวไปด้านซ้ายในทันที
ติง!
เสียงแหลมดังขึ้น ถังเทียนสามารถสัมผัสได้ถึงเส้นสายเบาบางของปราณแท้จริงที่เจาะทะลวงเข้าไปภายในนิ้วของเขา
น่าเหลือเชื่อนัก!
ถ้าหากมิใช่เพราะกายากระเรียนของเขามีความสามารถที่จะแปรเปลี่ยนความเสียหายไปเป็นปราณแท้จริง เขาก็คงจะได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมากเช่นเดียวกับนักสู้ธรรมดาคนอื่น ที่ต้องมาเผชิญกับปราณแท้จริงที่ผิดปกติเช่นนี้! แม้ว่าพลังของจิตวิญญาณขุนพลจะอยู่เพียงขั้นสี่ แต่ด้วยรูปแบบของการโจมตี มันเป็นวิธีที่แปลกประหลาด ส่วนของพลัง มันก็แข็งแกร่งมากกว่าจิตวิญญาณขุนพลขั้นสี่ทั่วไป
ถังเทียนตระหนักได้ถึงพลังเช่นนั้น เขามิกล้าที่จะรอช้าไปมากกว่านี้และเขาก็ใช้ออกกรงเล็บเหยี่ยวของเขาไปยังจิตวิญญาณขุนพลราวกับพายุคลั่ง
เสียงหวีดหวิวปกคลุมไปทั่วทั้งอุโมงค์ราวกับน้ำกับไหลเชี่ยวกรากผ่าน
มันมีเพียงคำเดียวที่จะอธิบายเกี่ยวกับกรงเล็บเหยี่ยวของถังเทียน เร็ว! มันรวดเร็วอย่างยิ่ง! ในระหว่างการ ‘ฝึกโดนทุบตี’ ถ้าเขาช้าลงเพียงเล็กน้อย ดวงแสงก็จะกระแทกเขาอย่างหนักหน่วงทิ้งรอยฟกช้ำบนตัวเขา และทุกๆวัน เขาก็ทนยืนหยัดต่อดวงแสงที่โจมตีมายังเขาราวกับพายุคลั่งมากกว่าหกชั่วโมง ด้วยการฝึกแบบบ้าคลั่งเช่นนี้ กรงเล็บเหยี่ยวที่เขาได้ดัดแปลงแน่นอนว่ามันไม่ธรรมดา!
กรงเล็บเหยี่ยวของถังเทียนอาจจะมิได้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดารูปแบบต่างๆของกรงเล็บเหยี่ยว แต่มันแน่นอนว่ามันมีความรวดเร็วในการโจมตี มันบรรลุไปยังขีดสูงสุดของกรงเล็บเหยี่ยว
แต่ถังเทียนมิเคยคาดคิดว่าการโจมตีของจิตวิญญาณขุนพลไม่แน่นอนว่าจะด้อยไปกว่าของเขา
นิ้วทั้งสิบของเขาราวกับแท่งเหล็กสิบแท่ง ยามเมื่อมันพุ่งไปในอากาศ มันก็เกิดเสียงหวีดหวิวแหลมคม
ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงมากมายปลดปล่อยขึ้นมาระหว่างพวกเขา
คลื่นแล้วคลื่นเล่าของปราณแท้จริงไหลไปสู่ปลายนิ้วของถังเทียน และเข้าสู่ร่างของถังเทียนอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ถูกดูดซับโดยกายากระเรียน
ความถี่ของการโจมตีระหว่างทั้งสองฝ่ายช่างน่าทึ่ง เพียงช่วงเวลาสั้นๆ มันก็ปรากฏคลื่นพลังของปราณแท้จริงมากกว่าสามร้อยครั้ง ราวกับกระทิงวิ่งเข้าไปในมหาสมุทร มันก็สลายหายไปภายในกายากระเรียนในร่างของถังเทียน
จิตวิญญาณขุนพลคาดมิถึงว่าจะมีใครบางคนที่สามารถที่ดูดซับปราณแท้จริงของผู้อื่นได้
ผลของการผลักดันและผลุนผลันรุนแรงของปราณแท้จริงของเขาเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่ง ความเร็วของการโจมตีของจิตวิญญาณขุนพลเริ่มที่จะเชื่องช้าลง สัญชาตญาณของถังเทียนแหลมคมยิ่งและเขาก็สังเหตเห็นความเปลี่ยนแปลงในทันที
เสียงฟู่ดังยาวออกมา การโจมตีของถังเทียนก็รุนแรงยิ่งขึ้น แต่เขามิได้สนใจเกี่ยวกับปราณแท้จริงของเขาที่กำลังหมดสิ้น และใช้ออกทั้งหมดเพื่อโจมตี
เสียงแหลมคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นเสียงโหยหวนที่แหลมคม ทันใดนั้นรังสีที่รุนแรงก็ระเบิดขึ้น กระทบไปบนกำแพงหิน ภายในชั่วพริบตา กำแพงหินก็เกิดรอยขีดข่วนมากมายนับไม่ถ้วน รูนิ้วและเศษชิ้นส่วนที่แตกออก หนึ่งมนุษย์และหนึ่งจิตวิญญาณต่อสู้กัน ทำให้กำแพงหินทั้งสี่แห่งเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน
ติง!
เสียงไฟดังขึ้น ฝ่ามือของถังเทียนก็ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว
เปลวเพลิงสีเขียวดูดุร้ายน้อยกว่าแต่มันก็สง่างามยิ่งขึ้น!
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่พรั่งพรูมาจากหมัดของเขา!
ถังเทียนมีความสุขอย่างยิ่ง!
สนับมือเหล็กดำพัฒนาขึ้นแล้ว!
สนับมือเตาหลอมขั้นทองแดง!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ