บทที่ 22: กระหายพลัง
บทที่ 22: กระหายพลัง
หลังจากกลับไปที่กระท่อมเล็ก ๆ ของเขาในป่าเขาก็ปิดประตูลง
เกี่ยวกับการเดิมพันซูตงฟางจริงๆแล้วเขาไม่ได้คิดอะไรมาก
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม,จุดประสงค์ของเขาไม่ได้เป็นกังวลชิงเอ๋อ สิ่งที่เขาต้องการก็คือภายในสามปีเขาจะแอบพาชิงเอ๋อออกห่างจากตระกูลซูดังนั้นนางจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนกับในชีวิตที่แล้วของนาง
แต่ทว่า,ซูหยุนไม่อยากจะแพ้เดิมพันในการแข่งขัน
หากเขาพลิกแพลงเพื่อกลับไปสำนักภายในของสำนักตระกูลซูเขาจะพลิกฟื้นผลประโยชน์สำหรับการบ่มเพาะได้มาก สถานที่ด้านนอกของสำนักตระกูลซูลึกสุดหยั่งไม่มีอะไรที่นี่
กระนั้นการใช้วิธีการหลากหลายเพิ่มระดับของผู้บ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วแน่นอนแต่ไม่เป็นประโยชน์ในระยะยาว
ซูหยุนเริ่มหยิบสิ่งของออกจากแหวนมิติของเขา เขานำ“เตาผลึกธรรมชาติ”ที่เขาซื้อจากโรงประมูลออกมา เขาวางมันลงในช่วงกลางของห้องและย้ายโต๊ะไป จากนั้นเขาเริ่มจัดเตรียมวัสดุจากแหวนมิติของเขาและวาดอาคมรอบๆเตาผลึกธรรมชาติ
สร็จแล้วเขาก็วางส่วนผสมปรับแต่งอย่างระมัดระวังภายในเตาผลึกธรรมชาติ
หลังจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนบนพื้นและเอาถุงเล็ก ๆ ของผงธาตุกำมถันกระจายไปรอบ ๆเตาผลึกธรรมชาติอย่างระวังภายในอาคมรอบๆรอบเตา
อาคม
จะมีช่องว่างระหว่างการเขียนที่วาดบนพื้น เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็นเส้นที่เขียนบนพื้นอาจจะไม่สมบูรณ์แบบ
เส้นที่ถูกแก้ไขไหม่ประสิทธิภาพจะมีมนต์ขลังอาคมจะมีความแข็งแกร่ง มันต้องมีทักษะพื้นฐานในการประกอบด้วยความเชี่ยวชาญอาคมเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามในรูปแบบอาคมต้องเฉียบขาดซึ่งถ้าบางเส้นมีขนาดใหญ่เกินไปอาคมจะไม่เพิ่มอำนาจในเตาหลอมได้ แต่เมื่อลวดลายถูกประกอบดีเลิศสำหรับอาคมอำนาจอาคมจะยิ่งใหญ่ไม่เพียงแต่จะเพิ่มพูนแต่ยังสามารถมอบประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
อาคมนี้ง่ายมากมันแค่เสริมพลังสิ่งของหรือมนุษย์
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงโครงร่าง,แต่มันก็เป็นงานที่ไม่ได้ทำเสร็จง่ายๆ แม้ว่าต้นแบบอาคมที่ประกอบขึ้นมาไม่ได้ดีที่สุดแต่รูปแบบในอาคมที่ก่อตัวนี้มีขนาดใหญ่ แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญอาคมระดับเก้า,การรวมตัวกันของการก่อรูปแบบที่สมบูรณ์ได้,ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
ผู้เชี่ยวชาญอาคมอาชีพเป็นที่นิยมอย่างมากในแผ่นดินใหญ่เพราะด้วยเทคนิคการสร้างรูปแบบต่างๆ,หนึ่งรูปแบบสามารถผลิตชิ้นงานได้นับไม่ถ้วน สำหรับการปลูกฝังอำนาจจิตวิญญาณ,รูปแบบเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญอาคมที่ได้รังสรรค์เป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นหลายๆสำนักได้เชิญผู้เชี่ยวชาญอาคมที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้พวกเขากลั่นอำนาจพลังวิญญาณ เนื่องจากความต้องการของระดับการบ่มเพาะของผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับต่ำมากซูหยุนใช้เวลาสั้นๆศึกษาเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญจึงช่วยเขาทางการเงิน แม้ว่าเขาจะไม่เก่งที่จะสร้างรูปแบบแต่สำหรับยุทธวิธีรูปเเบบขั้นพื้นฐาน,เขาเป็นที่มีฝีมืออย่างมาก ซูหยุนมีฝีมือเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างรูปแบบและเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเจ็ดในชีวิตที่ผ่านมาของเขา
สำหรับการประกอบรูปแบบพวกเขาจำเป็นต้องใช้สสารบริสุทธิ์คล้ายเมล็ดที่บรรจุ“พลังทางจิตวิญญาณ” ซึ่งทำให้มันมีราคาแพงมาก กระเป๋าเล็กๆที่มีผงธาตุกำมถันวิหคทองคำมี“พลังทางจิตวิญญาณ”มีราคประมาณหนึ่งหมื่นเหรียญจิตวิญญาณ
หลังจากพักใหญ่ของการประกอบรูปแบบ,รูปแบบของ“แก่นแท้เพลิงวิญญาณทมิฬ”ก็สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย
ซูหยุนกระตุ้นการก่อรูปทันที
เปรี้ยะ!!เปรี้ยะๆๆ!!!
ทันใดนั้นกลุ่นควันพวยพุ่งออกมาจากเตาผลึกวิญญาณไม่นานเตาถูกปกคลุมไปด้วยลำแสงที่สว่างจ้ารอบ ๆการก่อรูปแบบที่มันถูกกระตุ้น ทั่วทั้งห้องโทรมๆในป่าเต็มเปี่ยมไปด้วยแสงไฟหลากสีสันพร่างพราวละลานตาภายใน มันเป็นภาพที่วิจิตสวยงามอย่างแท้จริง
ส่วนผสมการหลอมใช้เวลาเจ็ดคืนก่อนที่จะพร้อมและสามารถนำออกจากเตา ในระยะเวลาอันสั้นไม่อาจปล่อยให้สูญเปล่าในขณะที่รอ
ซูหยุนหยิบเม็ดยาบ่มเพาะที่เขาซื้อออกมาและเริ่มบ่มเพาะ
ด้วยความช่วยเหลือของวัสดุการบ่มเพาะที่ดี,การบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตามธรรมชาติหลังจากที่ขจัดโรคร้าย,เขามีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะเริ่มการบ่มเพาะอย่างเต็มที่, เขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่กระหายมากเหมือนเพิ่งพบบ่อน้ำในฤดูใบไม้ผลิอันแสนหอมหวาน เขาเริ่มบ่มเพาะอย่างบ้าคลั่งและไม่ได้ใช้เวลาใด ๆพักเหนื่อย
ซูหยุนนั่งเข้าฌานอยู่ในกระท่อมในช่วงระหว่างวัน,และบ่มเพาะเม็ดยาบ่มเพาะที่เขาซื้อมา, หลังจากนั้นซูหยุนได้เดินไปที่ลานไกล้ๆกับกระท่อมของเขาและฝึกพื้นฐานการฟันกระบี่
วันนี้,สัมผัสจิตวิญญาณของเขาทะลุ 110 นอกจากนี้การบ่มเพาะขั้นเจ็ดของเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีพรสวรรค์ในฝึกฝนรวดเร็วเป็นสองเท่าของคนธรรมดาเขาสามารถเพิ่มความเร็วโดยใช้เทคนิคการบ่มเพาะ อย่างไรก็ดี,เขาไม่กล้าลืมพื้นฐานของเขาเพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีความมั่งคั่งของความรู้ในหัวของเขาร่างกายของเขาก็ไม่สามารถไล่ตามได้ทัน ดังนั้นเขาจะต้องวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อผลประโยชน์ในระยะยาว
นับตั้งแต่นั้นศิษย์สำนักภายนอกจะเห็นนายน้อยที่น่าอับอายซูหยุนในเขตรอบๆบ้านของเขาฝึกซ้อมทักษะกระบี่ซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ ด้วยเหตุนี้ศิษย์ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจเขา
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับซูหยุนคือการฝึกเคล็ดวิชาของกระบี่
ขณะพักไหญ่,หนึ่งการพลิกแพลงสร้างหนึ่งกระบี่หนึ่งการฝึกฝนเริ่มจากรูปแบบแรกของเคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง จากนั้นเขาได้เริ่มใช้ด้ามดาบในตำนาน
หลังจากฝึกผ่านมาได้ไม่กี่วันอย่างหนักหน่วง,เขาพบว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลง ด้วยการเข้าฌานอย่างต่อเนื่องและการใช้รูปแบบกระบี่มีชั้นบาง ๆ ของกลิ่นอายจิตวิญญาณครอบคลุกทั่วร่างกายของเขาหลอดเลือดและแม้กระทั่งอวัยวะภายใน
ร่างกายของเขาเริ่มเสริมสร้างความแข็งแกร่ง
นี้เป็นจุดคอขวดสำหรับการพัฒนาของขั้นเจ็ดของเขตแดนพื้นฐานจิตวิญญามันเป็นสัญญาณว่าเขาได้เข้าใกล้ขั้นที่แปด
ซูหยุนได้รับความสุขสัมผัสจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 190 ในขณะนี้ เขามีได้รับความสามารถในการเรียกคืนพลังทางจิตวิญญาณเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าที่ผ่อนคลาย เขาเริ่มมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนอย่างหนักและร่างกายของเขายังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับจิตวิญญาณและกลิ่นอายจิตวิญญาณของเขา
สิบวันต่อมายาที่หลอมชุดแรกของเตาผลึกธรรมชาติออกมา
กลิ่นหอมที่ทำให้น่าหลงไหลแม้กระทั่งกระตุ้นการเต้นหัวใจของซูหยุน
หลังจากปิดการใช้งานเตาหลอมเขาหยิยลูกปัดหลากสีทั้งหกจากภายในเตา
"เม็ดยาชีวัณห้าเทพเจ้า"
เม็ดยาเปิดชีพจรลมปราณ
เม็ดยาโลหิตผลาญวิญญาณ
เม็ดยาจิตสีชาด
เม็ดยาชำระไขกระดูก
เม็ดยาม่อจรื่อหลิงอวิ๋นศักดิ์สิทธิ์
ศิษย์ชั้นหัวกระทิของนิกายต่าง ๆแม้กระทั่งโอกาสคิดหวังถึงความเข้าใจในการสร้างเม็ดยาเหล้านี้ยังหาได้ยากมากๆ
แต่การเข้าใจในแก่นแท้ของการสร้างเม็ดยาล้ำค่าเหล่านี้พวกเขาจะต้องรวมอัจฉริยะของอัจฉริยะมา
เม็ดยาชีวัณห้าเทพเจ้า
จะได้รับผลประโยชน์ของเม็ดยา,คนๆนั้นจะต้องกลืนเข้าไปร่างกายจะสามารถดูดซับผลประโยชน์ของเม็ดยาอื่น ๆ ที่สร้างขึ้น
เม็ดยาชีวัณห้าเทพเจ้าจะต้องได้รับการบ่มบ่มเพาะอย่างครบถ้วนเพื่อประสิทธิภาพไม่เหือดหายไป
เม็ดยาเปิดด่านเส้นชีพจรลมปราณเปิดใช้งานเส้นโลหิต,ซึ่งได้สร้างปริมาณของกลิ่นอายทางจิตวิญญาสูงขึ้น
เม็ดยาโลหิตผลาญชีพจะขยายเส้นโลหิตเพิ่มขึ้นโดยการยืดขยายพวกมันช่วยให้การไหลเวียนกระแสโลหิตเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
เม็ดยาจิตสีชาดช่วยสงบจิตใจและร่างกายลงเพื่อบ่มเพาะเม็ดยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เม็ดยาชำระไขกระดูกช่วยยกระดับร่างกายด้านกายภาพและเพิ่มพื้นที่ในร่างกายในการดูดซับ
สุดท้าย,เม็ดยาม่อจรื่อหลิงอวิ๋นศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในหกเม็ด เม็ดยาม่อจรื่อหลิงอวิ๋นศักดิ์สิทธ์แสดงการปรับแต่งขั้นสุดท้าย มันไม่เพียง แต่จะเพิ่มพูนจิตวิญญาณ,ซึ่งเขาได้ดูดซับอำนาจพลังงานวิญญาณมากขึ้น แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งของเลือด,กระดูก,เส้นเอ็นและอวัยวะภายใน นอกจากนี้มันยังยกระดับประสิทธิภาพของเม็ดยาทั้งห้าก่อนหน้านี้
ซูหยุนย้ายเตาผลึกธรรมชาติออกจากการสร้างรูปแบบ ในขณะที่เขาเตรียมวัสดุจากแหวนมิติเสร็จสิ้นพร้อมทึ่จะหลอมเพิ่มอีก,เขาเปลี่ยนอาคม“แก่นแท้เพลิงวิญญาณทมิฬ.”
หลังจากเตรียมพร้อมสองชั่วโมงเขาได้เปลี่ยนอาคมเพลิงวิญญาณทมิฬเป็น“อาคมกรรมฐานวิญญาณศักดิ์”
ต่อมาเขาก็สร้างรูปแบบ
จากนั้นเขาก็นั่งลงและเริ่มกลืนเม็ดยาเข้าไปในร่าง
หลังจากย่อยเม็ดยาชีวัณห้าเทพเจ้า,ร่างกายของซูหยุนก็เริ่มปรากฏผลออกมา
เจ็ดวันที่ผ่านมาเขานั่งอยู่อย่างนั้น
หลังจากเจ็ดวันซูหยุนตรวจสอบร่างกายของเขา
อำนาจจิตวิญญาณภายในร่างกายของเขาผันแปรไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาและมากมายท่วมท้น สัมผัสจิตวิญญาณของเขาตอนนี้ได้เกินสองร้อยไปเป็นสองร้อยสามสิบ นี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจมากเนื่องจากเฉพาะผู้บ่มเพาะขั้นที่สิบเท่านั้นที่จะมีสัมผัสจิตวิญญาณสูง
โครงสร้างกระดูกของเขาได้รับผลโดยเฉพาะ,ขณะที่มันเปลี่ยนเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจากการย่อยสลาย ซูหยุนเหมือนได้รับการเกิดใหม่,ดวงตาของเขาตอนนี้สดใสและคมกริบ,กระดูกที่อัดแน่นภายในและมัดกล้ามเนื้อของร่างกาย รูปร่างของเขาสมบูรณ์แตกต่างจากลักษณะก่อนหน้าที่อ่อนแอ
อย่างไรก็ตามปริมาณที่กินยังไม่เพียงพอ
หลังจากเสร็จสิ้นการย่อยสลาย,ร่างกายก็กลับสู่สมดุล
ขณะที่ซูหยุนฝึกซ้อมมากขึ้นยาที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขาจะดูดซับรวมกันอยู่ในร่างกายของเขา
จำเป็นต้องใช้การฝึกฝน มันกลายเป็นว่าซูหยุนเพียงแค่ฝึกเทคนิคทางกายภาพเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ดีที่สุด
พร้อมกับวันได้ผ่านไปซูหยุนปิดด่านฝึกตนและบ่มเพาะ
สำหรับกลยุทธ์การต่อสู้ต่างๆเขาจงใจไม่ได้พยายามที่จะเรียนรู้เพราะเขามีเวลาไม่มาก ไม่มีใครสามารถฝึกวรยุทธที่แตกต่างกันในช่วงเวลาสั้น ๆ ในระหว่างการแข่งขันจะขึ้นอยู่กับร่างกายและอำนาจจิตวิญญาณของตัวเองในการประลอง
หนึ่งเดือนอาจจะเป็นเวลาที่สั้นหรือนาน ซูหยุนยังคงมีสองพันเหรียญจิตวิญญาณ,เพราะเหตุนี้ซูหยุนจึงไม่ได้ทำงาน แต่เขาหมกมุ่นกับตัวเองในการฝึกร่างกายของเขาตลอดเวลาและไม่เคยหยุดพัก
สำหรับคนที่กำลังหิวจริงๆพวกเขายินดีที่จะทำทุกสิ่งเพื่ออาหาร กระนั้นคนที่กระหายพลัง แต่ไร้ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับโอกาสพวกเขาจะฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง
อีกไม่นานการประลองยุทธของตระกูลซูสำหรับศิษย์ภายในและภายนอกจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ...