ตอนที่แล้วตอนที่ 058 – ลุง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 060 – บุรุษหัวล้านเปียวเกอ

ตอนที่ 059 – จิ่งเหาแห่งกองกำลังชั้นนอก


ตอนที่ 059 –  จิ่งเหาแห่งกองกำลังชั้นนอก

 

เมื่อถังเทียนเปิดตาของเขาขึ้น เขาก็รู้ถึงความกระปรี้กระเปร่าและผ่อนคลายกว่าปกติ นี่เป็นคราแรกของการพักผ่อนของเขานั้บตั้งแต่ที่เขาเข้าไปยังค่ายฝึกทหารเกณฑ์ นอนหลับยาวสิบแปดชั่วโมง ความเหน็ดเหนื่อยของเขาทั้งหมดหายไป และรอยฟกช้ำทั้งหมดก็ฟื้นตัวและสลายหายไปแล้ว

ตุบ เขากระโดดลงมาจากเตียง ยกแขนทั้งสองข้างของเขาเหยียดออกอวยพรตัวเอง

“ถังเทียน สู้ สู้!”

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้นมา ขณะเดียวกันกับที่เสียงร้อนใจดังออกมาจากประตู

“ออกมาได้แล้ว! พวกเรามาถึงที่หมายแล้ว! เร็วเข้า!”

ถังเทียนงุนงง หลังจากนั้นก็รีบเร่งตัวเองและขึ้นไปเปิดประตูในทันที

พวกเรามาถึงแล้ว?

เขาอยากรู้นัก ค่ายกองกำลังชั้นนอกของสมาคมนักสู้แห่งแสงจะเป็นเยี่ยงไรกัน? ได้ฟังตาเฒ่าเว่ยและที่เหลือกล่าวชื่นชมสมาคมนักสู้แห่งแสงราวกับเป็นสรวงสวรรค์ที่ดอกไม้เบ่งบานไปทั่วทุกที่ ถังเทียนมีความคาดหวังเป็นอย่างมากกับสมาคมนักสู้แห่งแสงนี้ ยามเมื่อตอนที่เขาแยกออกมาจากอาโม่หลี่และที่เหลือมันกะทันหันเกินไป และยังเป็นในช่วงเวลานั้น เขาก็ได้ถูกทรมานโดยลุงทหารทั้งวันทั้งคืน ยามเมื่อเขาผละจากการฝึก เขาก็รู้สึกสับสนและเหนื่อยล้า

เมื่อออกมาจากห้อง เขาก็พบเด็กสองสามคนตามเส้นทาง และถังเทียนก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว ก่อนหน้านี้ เขามิได้สังเกตพวกเขา แต่ในตอนนี้ เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าสีหน้าของพวกเขาทั้งหมดมันดูย่ำแย่ ถังเทียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเนื่องจากภายในสายตาของเขา เด็กหนุ่มผู้ที่ได้ถูกเลือกเข้าร่วมจากสมาคมนักสู้แห่งแสงมันควรจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและมีความคึกคะนองดั่งเช่นอาโม่หลี่และพวกที่เหลือ

แต่จากสิ่งที่เขาเห็นผู้คนเหล่านี้มิได้มีจิตใจที่เข้มแข็งและความคึกคะนองเลย พวกเขายังคงเด็ก แต่พวกเขาก็ทำให้ถังเทียนรู้สึกอึดอัดและจิตใจหดหู่ลง

มันช่างแปลกจริง!

ถังเทียนมึนงง แต่เขาก็มิได้สนใจมันมากนัก เขามิได้วางแผนที่จะอยู่ภายในสมาคมนักสู้แห่งแสงนานนัก และวางแผนไว้ว่าตัวเขาเองจะต้องสำเร็จวิชาการต่อสู้ระดับสามของเขาให้สมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นก็ไปหาเชียนฮุ่ย

เป้าหมายของเขาคือเส้นทางสวรรค์ และสมาคมนักสู้แห่งแสงมันเป็นเพียงแค่แท่นหินให้เขาก้าวไป

ประตูรถเปิดออกและนักสู้ขั้นโลหะก็ตะโกนออกมา “ออกไปจากรถม้าได้แล้ว”

เหล่าเด็กทุกคนต่างมองหน้ากัน แต่ก็มิมีใครขยับ ในขณะที่เป็นเช่นนั้น ถังเทียนก็ก้าวออกไป และเป็นคราแรกที่เขาออกจากประตูรถม้า

ยามเมื่อถังเทียนออกจากประตูรถ เขาก็ตกตะลึงกับฉากเบื้องหน้าของเขาในทันที

เบื้องหน้าของเขาเป็นภูเขาสูงตั้งชัน ภูเขามันตั้งตระหง่านและดูคดไปคดมา แต่มันทำให้ถังเทียนถึงกับหนาวสั่น ยอดเขามันเต็มไปด้วยหลุมถ้ำหนาแน่น และมันราวกับเป็นรังผึ้งขนาดมหึมา กระแสจากอากาศที่หนาวเย็นจากภูเขาพัดผ่านมา มันก็เกิดเสียง ‘หวีดหวิว’ ที่น่าหวาดหวั่น ราวกับว่ามันมีสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนอยู่บนภูเขาลูกนั้น เสียงดังออกมาและก็เงียบไป

เด็กทุกคนต่างสั่นสะท้านด้วยสีหน้าเย็นเยียบ และก็กลายเป็นซีดขาว และนักสู้ขั้นโลหะทั้งสองคนก็ปรากฏความสงสารและความประชดบางอย่างบนสีหน้าของเขาพวก

“โว้! สถานที่แห่งนี้มันก็มิได้เลวร้ายนัก!”

เสียงตะโกนของถังเทียนที่ไม่ถูกเวลามันดังเข้าไปภายในหูของทุกคน เขามองไปยังยอดภูเขาที่คล้ายกับรังผึ้งขนาดมหึมา ด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น “ถ้าหากพวกเราสามารถปีนขึ้นภูเขานั่นไป ฉากที่ได้เห็นมันคงจะเป็นทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง!”

“มิมีผู้ใดสามารถที่จะปีนขึ้นไปบนยอดได้” น้ำเสียงเย็นเยียบกล่าวออกมาจากเบื้องหลังเขา

ถังเทียนหันไปตามเสียงที่ได้ยิน ก็พบเห็นบุรุษวัยกลางคนสวมใส่ชุดคลุมสีเทาปรากฏอยู่เบื้องหลังของเขา ร่างของเขามีสัญญลักษณ์ที่โดดเด่นอยู่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักสู้ขั้นทองแดง

บุรุษหัวโล้นเกรียนและบุรุษมีเคราก็หยุดรอยยิ้มของพวกเขาในทันที “ใต้เท้าจิ่งเหา! เด็กใหม่ทั้งหมดมีแปดคน และพวกเขาทั้งหมดถูกให้พายังที่นี่”

จิ่งเหามองอย่างไม่แส “แล้วเสบียงเล่า?”

“ทั้งหมดอยู่นี่” บุรุษมีเครากล่าวตอบในทันที “เนื่องจากพวกเราคิดว่าครั้งต่อไปที่พวกเราจะมามันจะเป็นอีกสามเดือนข้างหน้า พวกเขาเลยนำเสบียงสำหรับหนึ่งเดือนมาให้”

การแสดงออกของจิ่งเหาคล้ายเอื่อยเฉื่อย พยักหน้าของเขา “ข้าขอบคุณพวกเจ้ามาก”

เมื่อกล่าวเสร็จเขาก็เดินไปยังส่วนเสบียงของรถ และด้วยมือเดียว กองเสบียงก็สลายหายไปในทันที

“โอ้ ท่านก็ใช้คลังศาสตราวุธคนโทเช่นกันหรือ?” ดวงตาถังเทียนสว่างวาบ

จิ่งเหามองอย่างเย็นชาไปที่ถังเทียนคราหนึ่ง แล้วเมินเขา และก็กล่าวกับนักสู้ขั้นโลหะทั้งสองคน “พวกเจ้าไปกันได้แล้ว”

“ขอรับ!” พวกเขาทั้งสองก็รีบลบลานในทันที

เพียงชั่วครู่ รถม้าก็ทะยานขึ้นไปในอากาศอีกคราและสลายหายไปปราศจากร่องรอย

ภายในห้องคนขับ ราวกับเขาได้ปลดเปลื้องจากภาระออก บุรุษหัวโล้นเกรียนก็ปาดเหงื่อออกบนใบหน้าของเขา “ปราณของใต้เท้าจิ่งเห่ากดดันรุนแรงอย่างยิ่ง! ข้ามิรู้เลยว่าพวกระดับสูงคิดอันใดอยู่ ถึงได้ให้ใต้เท้าจิ่งเหามาอยู่ในที่นี่”

“มิใช่เพราะเขาได้บาดหมางกับใครบางคนหรือ?” บุรุษมีเคราก็พ่นลมออกมาอย่างเคร่งเครียดเช่นเดียวกัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้า “ถ้าหากไม่ แล้วผู้ที่แข็งแกร่งเฉกเช่นใต้เท้าจิ่งเหา ทำไมเขาถึงต้องมาอยู่ที่นี่?”

พวกเขาทั้งสองต่างพ่นลมถอนหายใจ

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

จิ่งเหาชำเลืองมองอย่างเกียจคร้านไปยังผู้คนใหม่พลางกล่าว “ตามข้ามา”

เขาก็หันไปยังเบื้องหน้าและเริ่มย่างก้าวเดินในทันที ขณะที่พวกที่เหลือก็รีบเร่งตามให้ทัน ทั่วสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหลุมหนาแน่นทุกขนาด และบางแห่งยามเมื่อย่างก้าวไปก็จะเกิดเสียงโหยหวนขึ้นมา ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกหวาดกลัว

“ถ้าหากเจ้าตกลงไป จะมิมีผู้ใดช่วยเจ้าได้” จิ่งเห่าบอกกล่าวกลุ่มคนจากด้านหน้าอย่างเย็นชา

เด็กใหม่กลับกลายเป็นยิ่งหวาดกลัวกว่าก่อน ขณะที่ถังเทียนถามอย่างอยากรู้ “ข้างล่างมีอันใดกัน?”

“หลุมแห่งความตาย” จิ่งเหากล่าวแก่พวกเขา และใช้ออกวิชาตัวเบา

ทุกคนก็ได้ใช้ออกวิชาตัวเบาของพวกเขาในทันที และติดตามอย่างใกล้ชิด แปดก้าวจักจั่นของถังเทียนเรียกความสนใจของพวกเขาได้ทั้งหมด และแม้กระทั่งจิ่งเหาก็มีความอยากรู้ภายในดวงตาของเขา “วิชาตัวเบาระดับสาม?”

“ใช่แล้ว แปดก้าวจักจั่น!” ถังเทียนหัวร่ออย่างซุกซน

บางคนหัวร่อเพียงเบาๆ ขณะพวกที่เหลือต่างแสดงออกถึงความรังเกียจ จิ่งเหาส่ายหัวของเขา และสายตาที่เขามองไปยังถังเทียน เป็นสายตาที่กำลังมองคนตาย ปราศจากพลังของวิชาระดับสี่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่รอดที่นั่น แต่เขาก็มิมีความคิดที่จะใส่ใจพวกมัน

บางคนต่างเหินขึ้นสูง และเมื่อมาถึงปากทางเข้าถ้ำ พวกเขาก็ตระหนักได้ว่า ถ้ำที่ใต้เท้าของพวกเขาและถ้ำอื่นๆมีความแตกต่างกัน

มันมีเชือกผูกแน่นติดอยู่กับหินที่ปากทางเข้าถ้ำ และปลายเชือกก็มุ่งเข้าสู่ภายในถ้ำ

ปราศจากคำกล่าว จิ่งเห่าก็ก้มเอวของเขาราวกับค้างคาวอันปราดเปรียว เขาก็ย่องไปบนเชือก รีบเร่งเข้าไปสู่ความมืด เมื่อมองเห็นเช่นนั้น เด็กใหม่ก็รีบเร่งติดตามไปเบื้องหลัง บางคนมีการแสดงออกราวกับมันเป็นเรื่องตลก วิชา [แปดก้าวจักจั่น] รู้กันอย่างดีว่ามันเป็นวิชาที่ทะยานพุ่งออกไป มันมีความยากอย่างยิ่งที่จะใช้ออกขณะเดินบนเชือก

สารเลวตัวนี้สามารถเพียงคว้าจับเชือก และใช้ขาและมือของเขาปีนเชือกลงไปเท่านั้น

ถังเทียนมิได้กล่าวอันใดทั้งสิ้นและกระโจนเข้าไป

ทุกคนต่างจ้องมองด้วยสายตาเบิกกว้างของพวกเขา หรือว่าบุรุษผู้นี้จะเป็นบ้า?

ถังเทียนยืนบนเชือกอย่างมั่นคงและผ่อนคลายตัวเอง จากนั้นสายตาของทุกคนก็ต่างสังเกตเห็นรองเท้าธรรมดาสามัญขั้นทองแดงบนเท้าของเขา

ผู้คนที่มีสายตาที่ดีก็ประหลาดใจ “รองเท้าอาชาทะยาน!”

“มิน่าล่ะ…”

สายตาของทุกคนก็กลับกลายเป็นตื่นเต้นในทันที รองเท้าอาชาทะยานเป็นสมบัติที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง และสามารถยกระดับมาตรฐานของวิชาตัวเบาได้ สมบัติประเภทนี้เป็นที่หลงใหลของทุกผู้คน มิมีผู้ใดสามารถเกลียดชังวิชาตัวเบาของตัวพวกเขาเองที่มันจะดียิ่งขึ้น สรุปแล้ววิชาตัวเบาที่แข็งแกร่ง มันจะควบคุมพวกมันได้ง่ายขึ้นระหว่างการต่อสู้

ถังเทียนไม่ชอบท่าทางของพวกเขา พวกเขาต่างมีดวงตาที่ชั่วร้าย ซึ่งถังเทียนสามารถบอกได้ในทันที

ถังเทียนไม่แม้แต่จะกังวลที่จะต้องสนทนากับพวกเขา ขณะที่เขายืนมั่นคงอยู่บนเชือก มีแรงสั่นกระเพื่อมของเชือกเล็กน้อย

น้ำเสียงอย่างไม่พอใจของจิ่งเหาดังมาจากเบื้องหน้า “พวกเจ้ากำลังทำอันใดกัน?”

ราวกับพวกเขาถูกปลุกให้ตื่นจากความฝัน ทุกคนต่างเริ่มเร่งรีบไปข้างหน้าภายในทันที ส่วนถังเทียนก็ติดตามเอ้อละเหยอยู่เบื้องหลังของทุกคน

ตัวถ้ำเป็นสีดำสนิท และที่กำแพงก็มีตะไคร่ที่มันปลดปล่อยแสงออกมา ปลดปล่อยแสงสว่างและความเงียบสงบเข้ามาภายในถ้ำ ดวงตาของทุกคน เมื่อเทียบกับคนสามัญธรรมดาแล้ว ต่างมีไหวพริบมากกว่านัก และด้วยแสงสว่างเพียงน้อยนิดนี้ พวกเขาก็สามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างได้อย่างชัดเจน

เชือกมีความยาวมากกว่าสามจั้ง ซึ่งที่ผู้คนหลังจากบรรลุไปถึงปลายทางของเชือกแล้วก็เดินไปยังตรอกหินมีความกว้างเท่าช่วงแขน

ถังเทียนมองไปข้างล่างเท้าของเขา เพียงเห็นตัวเองลอยอยู่ภายในอากาศ มันเต็มไปด้วยตรอกหินหนาแน่นไขว่กันไปมาที่ดูบิดเบี้ยวและผสานกัน เชื่อมต่อกันไปทุกที่ ทางเชื่อมต่อของตรอกหินเหล่านี้มันเหมือนดั่งเส้นชีพจรภายในรังผึ้งแห่งนี้ มันดูพิเศษอย่างยิ่ง ด้วยรูปลักษณ์ถังเทียนไม่สามารถมองเห็นแม้กระทั่งพื้นดิน

ช่างเป็นสถานที่แปลกประหลาดนัก!

ถังเทียนรู้สึกกังวล สถานที่แห่งนี้เข้าใจยากนักและมีบรรยากาศที่หนาวเย็นและมืดมนทำให้ถังเทียนไม่ชอบสถานที่แห่งนี้นัก

การเคลื่อนไหวของจิ่งเหารวดเร็วอย่างยิ่ง เหินทะยานไปผ่านไปยังตรอกหินอย่างต่อเนื่อง ขณะส่วนที่เหลือก็ติดตามไปยังตรอกหินที่ซับซ้อนนี้ อย่างรวดเร็ว ก็สามารถได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่เบื้องหน้า ขณะที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ก็มีแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากปรากฏเบื้องหน้าของเขา

แม่น้ำมีความกว้างอยู่ประมาณแปดสิบเก้าจั้ง ด้วยระดับกระแสของน้ำที่มากมาย มันก็หลั่งไหลเชี่ยวกรากทำให้เกิดเสียงดังมากมาย

ที่ริมแม่น้ำไปข้างหน้า ห่างไปเล็กน้อย ปรากฏถ้ำใต้น้ำตกมหึมาเบื้องหน้าดวงตาของถังเทียน บนพื้นที่สูงขึ้นไป ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำ สังเกตเห็นบ้านไม่กี่หลังตั้งอยู่ ราวกับมันเป็นเมืองเล็กๆ

แม่น้ำที่ไหลตกลงมาอย่างเชี่ยวกรากก่อเกิดให้เป็นละอองหิมะสีขาว ราวกับมันกองหิมะที่ซึ่งมิสามารถดับได้ด้วยไฟ

จิ่งเหานำกลุ่มไปยังด้านข้างของน้ำตก ที่ซึ่งมีหมอกปกคลุมอยู่ และเสียงน้ำที่กระทบตกลงทำให้หูอื้อชา ร่างของจิ่งเหาพลันสว่างขึ้นด้วยดวงแสงสลัว มุ่งตรงไปยังน้ำตกและรีบเร่งไปอีกฝั่งตรงกันข้าม

น้ำที่ซึ่งหลั่งไหลอย่างรวดเร็วและรุนแรงอย่างมาก ที่ดูคล้ายคลึงกับคมดาบ ถูกผ่าครึ่งออกโดยจิ่งเหา

ทุกคนต่างเพียงรู้สึกถึงคลื่นแสงของคมดาบ ตัดผ่าแยกน้ำตกออกครึ่งหนึ่ง!

ทุกคนต่างจ้องมองด้วยดวงตาของพวกเขาและอ้าปากค้าง พลังอันใดกัน!

ช่างทรงพลังอย่างยิ่ง…

ถังเทียนมองดูจิ่งเหาอย่างว่างเปล่าข้ามผ่านไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ และตื่นตะลึงความแข็งแกร่งของจิ่งเห่าอย่างสิ้นเชิง ความแข็งแกร่งของจิ่งเหา เมื่อเทียบกับใต้เท้าอู่ภายในวงกตวิญญาณแล้วมันห่างไกลกันอย่างมาก

ความคิดนั้นทำให้ถังเทียนระเบิดไปด้วยความตื่นเต้น!

ตามที่คาดไว้ของสมาคมนักสู้แห่งแสง คัดเลือกกองกำลังชั้นนอกอย่างสุ่มแต่ยังคงมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังเช่นนี้

ถังเทียนกำหมัดแน่นอย่างตื่นเต้น ทั่วร่างของเขาสั่นสะท้านเพราะความตื่นเต้นมากเกินไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั่วร่างของเขาก็รู้สึกถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ขณะที่เมืองเมฆาดารา มันเป็นไปได้ยากที่จะพบเจอนักสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้

มันคือเป้าหมายที่ข้าจะต้องก้าวข้ามไป และข้าจะต้องทำให้ได้

เขาแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด...

ทันใดนั้น จิ่งเหาผู้ซึ่งอยู่อีกฝั่งริมแม่น้ำ ก็เงยหน้าจ้องมองไปยังถังเทียน

ดวงตาคู่นั้นก็เปล่งประกายสดใสก็สว่างจ้าแพรวพราว

ต้องการที่จะสู้กับข้างั้นหรือ?

เหลือบมองพินิจอย่างรวดเร็วปราศจากอารมณ์ จิ่งเหาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมุมปากของเขาก็ปรากฏร่องรอยของรอยยิ้ม

ทุกคนกลับคืนสติของพวกเขา พวกเขามิสามารถที่จะกระทำวิธีการของจิ่งเหาที่ข้ามผ่านไปได้ ผู้คนต่างมีดวงตาแหลมคมสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วถึงหินที่ปรากฏอยู่กลางน้ำตก ราวกับพวกมันเป็นแท่นหินเหยียบ ทำให้พวกเขาข้ามผ่านแม่น้ำไปได้อย่างรวดเร็ว

คนแล้วคนเล่า เหล่าเด็กก็ข้ามผ่านแม่น้ำได้อย่างรวดเร็ว

ปราศจากคำกล่าว จิ่งเหาก็ทะยานและเหินบินขึ้นไปภายในอากาศ

หลังจากนั้นไม่นาน เมืองเล็กๆก็ปรากฏเบื้องหน้าของทุกคน กลุ่มนักสู้กำยำยืนอยู่หน้าปากทางเข้า ใบหน้าทั้งหมดเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเยาะเย้ย ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปยังเหล่าเด็ก จิ่งเหาไม่ได้หยุดลงและเดินเข้าไปในเมือง

หลังจากที่จิ่งเหาผ่านเข้าไปข้างในแล้ว บุรุษกำยำก็เดินออกมาและยืนเรียงรายกัน หัวโล้นเกรียนซึ่งมีท่าทางที่ดุร้าย แสยะยิ้มอย่างหน้ารังเกียจ

“ฮ่าฮ่า! เด็กน้อย หยิบเอาสิ่งของที่ดีของพวกเจ้าและมอบพวกมันมาให้ข้า! อย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลาค้นตัวเจ้า! บอกกล่าวตามตรง ทางที่ดีเจ้าอย่าได้ทำให้พวกเราโกรธ!”

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด