ตอนที่ 058 – ลุง
ตอนที่ 058 – ลุง
ถังเทียนแยกออกมาจากอาโม่หลี่และคนอื่นอย่างรวดเร็ว แต่มิมีผู้ใดรู้สึกว่ามันแปลกไป อย่างที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าถังเทียนจะต้องไปยังกองกำลังชั้นนอก จากที่ทุกคนได้เห็น แม้ว่าถังเทียนจะต้องไปยังกองกำลังชั้นนอก ใต้เท้าข่งคงจะสังเกตเเห็นเขา และคงวางแผนที่จะจัดการเขาด้วยตัวเอง
พวกเขาทุกคนคิดว่าพวกเขาจะต้องใช้ช่วงเวลานี้ฝึกให้หนัก และเวลาต่อมาที่พวกเขาจะได้เจอกัน พวกเขาจะเก่งยิ่งขึ้นและไม่ล้าหลังห่างไกลจาบุรุษหนุ่มผู้เสียสตินี้
ก่อเกิดเป็นภาพเงาของบุรุษผู้นั้นภายในใจ พวกเขาก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวแทนที่
ถังเทียนก้าวขึ้นรถม้าอีกคัน แต่เมื่อเทียบกับรถม้าบินของใต้เท้าข่งแล้ว รถม้านี้สามารถที่จะกล่าวได้ว่าเป็นรถที่น่าขัดสนเข็ญใจนัก
ถังเทียนมิใช่คนเดียวที่ถูกส่งออกมา มองไปข้างหน้า มีคนอื่นเจ็ดคนอายุประมาณสิบสามและสิบสี่ปี พวกเขาทั้งหมดมิได้มีสีหน้าที่มีความสุข และมีสีหน้าที่หมองคล้ำขณะที่แทบจะไม่พูดอันใดสักคำ
ถังเทียนมิได้สนทนากับพวกเขา ในขณะนี้เขามิมีเวลาแล้ว
ถังเทียนพยายามอย่างยิ่งภายในการฝึกโหดของทหารทุกวัน
“เจ้าไม่กินงั้นหรือ? ข้าบอกเจ้าให้! ถ้าหากเป็นลูกน้องของข้าแล้วฝึกเช่นนี้ ข้าจะทุบตีมันจนขี้แตกเลยเชียว!” ทหารลอยขึ้นสูงพลางตะโกนเข้าไปในหูของถังเทียน
ทหารเริ่มที่จะบ้าคลั่ง ราวกับเขาเปลี่ยนเป็นอีกบุคคลหนึ่ง มันคล้ายกับเขาหลงใหลในการทรมานถังเทียนอย่างยิ่ง
ตัวตนเก่าที่แข็งทื่อและจืดชืดอยู่ที่ใดกัน? ทหารผู้ที่ซึ่งแทบจะไม่กล่าวคำอันใดเลยเมื่อวันก่อน ตอนนี้หลงใหลที่ยื่นคอคำรามและตะโกนแล้ว ตราบเท่าที่ถังเทียนมิได้กระทำตามมาตรฐาน เขาจะสาปแช่งด้วยความโกรธและถ่มน้ำลายของเขาลงมา ปราศจากความเมตตา
มันเป็นเช่นเดียวกับคืนนั้น จิตวิญญาณขุนพลได้พบพานวิญญาณของเขาแล้ว
น่าเสียดายนัก มันเป็นเพียงเลือดเย็นและวิญญาณที่บ้าคลั่ง
“สวะ! เงยหน้าของเจ้าขึ้น มันผ่านมาเพียงสิบวันเอง! และเจ้าก็แทบจะไม่มีการพัฒนาอันใดเลยหรือ? เจ้าจะโง่เขลาลดน้อยลงได้หรือไม่? ข้าเคยฝึกทหารเกณฑ์มา 463,619 คนแล้ว และพวกมันทั้งหมดก็ต่างแข็งแกร่งกว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า! ด้วยมาตรฐานของเจ้า ภายในกองทัพ เจ้าไม่มีความสามารถแม้กระทั่งทำความสะอาดหรือว่าปรุงอาหาร!”
ทหารผู้ซึ่งลอยอยู่ในอากาศ นั่งขัดสมาธิ พ่นน้ำลายไปยังหัวของถังเทียน
ถังเทียนมิได้หวาดกลัวเลย มือของเขาค่อยๆหดลงมา เขาก็ยอกย้อน “ฮ่าฮ่า! นี้ไง ข้าคาดคิดไว้ว่าเจ้าจะต้องยิ่งใหญ่และเป็นบุคคลสำคัญภายในอดีต แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญการฝึกทหารเกณฑ์ ผายลมน้อย!”
“ผู้เชี่ยวชาญฝึกทหารเกณฑ์ ผายลมน้อย…” ใบหน้าของทหารที่ไร้อารมณ์พลันวาบเป็นเส้นสีดำราวกับคลื่นกระพริบผ่าน
“มาเถอะ! ให้บุรุษหนุ่มเทพผู้นี้แสดงให้เจ้าผายลมน้อยดูว่าทำไมข้าถึงสมควรได้รับการเรียกว่าบุรุษหนุ่มอัจฉริยะ!” ถังเทียนมิได้มีความเกรงกลัวเลยพลางตะโกนด้วยความโกรธ และมือของเขาก็กลายเป็นรวดเร็วและเร็วยิ่งขึ้น
ในช่วงสองสามวันของการฝึกอันทรมาน กรงเล็บเหยี่ยวของเขาก็กลายเป็นร้ายกาจอย่างยิ่ง ด้วยนิ้วตะขอทั้งสิบปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีโลหิต และเสียงหวีดหวิวก็ดังออกมาทุกการเคลื่อนไหว
เมื่อเทียบกับการฝึกแห่งความเพียรอันเก่าของเขาแล้ว รูปแบบการฝึกนรกในตอนนี้เป็นที่น่าทึ่งอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
ทหารเฝ้ามองไปยังเงาของกรงเล็บพลางตกตะลึง ก่อนหน้านี้ภายในการฝึกแห่งความเพียรของถังเทียน เขามักจะลอบสังเกตการณ์อยู่ภายในความมืด แต่จากประสบการณ์ของเขาแล้ว ความชำนาญการฝึกของถังเทียนเป็นเพียงเรื่องปกติ เนื่องจากความจริงที่ว่าพรสวรรค์ของถังเทียนนั้นย่ำแย่อย่างยิ่ง
การกล่าววลีที่ย่ำแย่ และไม่ถูกต้อง มันช่างยอดแย่อย่างยิ่ง มันเป็นพรสวรรค์ที่ยอดแย่ที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเห็นมาภายในอดีต
แต่ความดื้อรั้นและความอุตสาหะของถังเทียน ซึ่งมันทำให้เขาสั่นสะท้าน
ก่อนหน้านี้ ทหารมิได้คาดคิดเกี่ยวกับการเปิดค่ายทหารเกณฑ์แห่งนี้ จนกระทั่งถังเทียนเข้ามาและกล่าวถามเขาว่ามันยังมีสิ่งใดที่เขาต้องการที่จะกระทำอยู่หรือไม่ และนั้นเองก็กระตุ้นให้เขากระทำเช่นนั้น หลังจากที่หลับมาเนินนาน สหายร่วมรบของเขาต่างสลายกลายเป็นฝุ่นผง และมีเพียงเขาที่เหลืออยู่ แปรเปลี่ยนเป็นจิตวิญญาณขุนพลที่ถูกปลุกขึ้น
ทหารมิเข้าใจได้เลยว่าทำไมค่ายทหารแห่งนี้ถึงตกไปอยู่ในมือของถังเทียน
อย่างไรก็ตาม ยามเมื่อถังเทียนเริ่มต้นรูปแบบการฝึกทหารเกฑณ์ ทหารตกใจมากเป็นคราแรกในชีวิตของเขา ทหารมิได้ตกใจด้วยความจริงที่ว่าถังเทียนสามารถทนทานมันได้ จากตอนต้น ทหารรู้ดีอยู่แล้วว่าถังเทียนสามารถที่จะสำเร็จรูปแบบการฝึกนี้ มีเพียงมันจะต้องใช้เวลามากเท่านั้น ภายในช่วงเวลาสั้นๆนี้ เขาก็เข้าใจถังเทียนดีแล้ว พลังและความดื้อรั้นของถังเทียนทำให้เขามีอารมณ์และความรู้สึกตื่นเต้น
แต่ในครานี้ สิ่งที่ทำให้ทหารตกใจเกี่ยวกับถังเทียนคือความเร็วในการพัฒนาของถังเทียน ราวกับว่าความเร็วที่เขาพัฒนามันเกิดกว่าขีดจำกัดที่เขาคาดการณ์ไว้
สำหรับผู้ฝึกสอนด้วยประสบการณ์ฝึกทหารเกณฑ์ 463,619 คนของกองทัพที่ทรงอำนาจ เกี่ยวกับการประเมินความเร็วของการพัฒนาแต่ละบุคคลแล้วนั้น ทหารมีความสามารถถึงขั้นสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ความเร็วของการพัฒนาของถังเทียนเกินกว่าขีดจำกัดที่เขาคาดการณ์ไว้!
ในวันแรกถังเทียนใช้เวลาจนกระทั่งเช้า ที่ซึ่งในช่วงเวลาสุดท้ายเขาก็มิสามารถจะป้องกันได้อีกต่อไป
ในตอนเริ่มของวันที่สอง ทหารได้แอบเพิ่มความยากของการฝึกฝน
ถังเทียนมิได้รู้ว่าความยากของการฝึกที่เขากำลังฝึกอยู่นั้นมันเปรียบเทียบได้กับยุคสมัยก่อนของกองทัพกางเขนใต้ได้เลย
ในวันที่เก้า ความยากของการฝึกของถังเทียนก็บรรลุไปยังความยากที่สุด
ภายใต้การฝึกที่มีเจตนาการทรมานและน่ากลัวนี้ กรงเล็บเหยี่ยวของเขาก็บรรลุไปถึงขั้นสมบูรณ์ และแม้กระทั่งขยับเลื่อนไปอีกขั้นหนึ่ง กรงเล็บเหยี่ยวของถังเทียนไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าวิชาการต่อสู้ธรรมดาระดับสี่แล้ว การพัฒนาที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงที่สุดแล้วคือปราณกระเรียนภายในร่างของถังเทียน แม้ว่ามันจะเป็นคราแรกที่ทหารได้พบเห็นปราณกระเรียน จากที่มองดูคราแรก เขาก็สามารถระบุข้อดีและข้อบกพร่องได้
การฝึก ‘โดนทุบตี’ นี้ทั้งหมดมันมิใช่บางสิ่งที่เขาจะลืมเลือนไปจากใจของเขาได้เลย
แม้ว่าปราณแท้จริงของถังเทียนจะบรรลุไปถึงขอบเขตสูงสุดของขั้นสามแล้ว แต่สำหรับทหาร มันเป็นเพียงแค่ปริมาณเท่านั้น แต่คุณภาพมันยังคงมีช่องว่างของการพัฒนาอยู่ กายากระเรียนมิได้รับการพัฒนาใดๆเกี่ยวกับคุณภาพ สำหรับทหารแล้ว มันหมายความว่าปราณแท้จริงที่ฝึกฝนมันไม่ได้มาตรฐาน เขาได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะ ‘ขัดเกลา’ กายากระเรียนของถังเทียน
ถ้าหากมันมิใช่เพราะถังเทียน ทหารก็คงมิคาดคิดถึงวิธีการนี้ได้
มีเพียงบุรุษผู้นี้เท่านั้นที่สามารถจะทนการฝึกที่บ้าคลั่งนี้ได้
แขนของถังเทียนโบกสะบัดอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงกรีดแหลมและดวงแสงเบื้องหน้าของเขาก็ถูกกระแทกบนกำแพงเปลวเพลิง พลังอำนาจของมันทำให้กระดอนกันไปอย่างไม่หยุดหย่อน
“บุรุษหนุ่มเทพ?” ทหารกล่าวอย่างเย็นชา “มิเคยมีใครกล้าที่จะประกาศตัวเองว่าเป็นเหมือนเทพมาก่อน”
แม้ว่าคำกล่าวนี้จะบางเบา คำกล่าวของทหารก็เต็มไปด้วยความก้าวร้าว
แต่ถังเทียนก็ไม่ได้หวาดกลัวพลางหัวร่อออกมาเสียงดัง “ดูเหมือนท่านจะโง่เขลาและอ่อนหัดนัก ลุง! ให้บุรุษหนุ่มเทพผู้นี้เปิดสายตาของท่าน และช่วยให้ท่านได้ทราบว่าโลกนี้กว้างใหญ่เพียงใด และเช่นเดียวกับจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันไร้ขอบเขตของบุรุษหนุ่มผู้นี้”
“ลุง...” ใบหน้าราบเรียบของทหารมีเส้นสีดำสามเส้นปรากฏขึ้นมาบนหน้าผากของเขา
“เว้นเสียแต่ว่าท่านยังอยากกระทำตัวเป็นคนหนุ่มอยู่? นี่ ลุง ผู้คนจะต้องรู้จักตัวของพวกเขาเองนะ แม้ว่าท่านจะมิต้องการที่จะยอมรับมันก็ตาม ท่านมิได้ยังหนุ่มและอ่อนวัยอีกต่อไปแล้ว ในทางตรงกันข้ามบุรุษหนุ่มเทพผู้นี้ ท่านคือลุงผู้ที่อยู่มานานจนโลกเปลี่ยนแปลงไปมากมาย มันมิมีอันที่จะต้องแอบซ่อน!” ถังเทียนหลงลืมในความจริงที่ว่าเขาได้ตะโกนไปยังทหารหลายคราและต่อสู้กับดวงแสง
“ลุงผู้ที่ซึ่งอยู่ผ่านมานานหลายยุคหลายสมัยของโลก…” ใบหน้าของทหารกระจายไปด้วยเส้นสายสีดำ
“อาฮ่า! วู้ฮู้ ลุงทหารมีการเปลี่ยนไปอันยิ่งใหญ่ ลุงทหารมีการเปลี่ยนไปอันยิ่งใหญ่ โอ้ โอ้ โอ้ เขามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขามีความเศร้าโศกเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ความเศร้าโสกเล็กน้อย ความเศร้าโศกเล็กน้อย…” ถังเทียนร้องเพลงด้วยเสียงสูง
ทหารผู้ที่ซึ่งลอยอยู่ในอากาศอย่างแข็งค้าง และในชั่วครู่ เส้นสีดำบนใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ “งั้นพวกเรามาดูกัน ผู้ใดกันแน่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ใดกันแน่ที่จะมีความเศร้าโศก!”
ดวงแสงทั้งหมดภายในสถานที่ป่าเถื่อนอันกว้างใหญ่นี้ พลันหยุดในวงโคจรของพวกมัน และพวกมันทั้งหมดก็พลันแผ่ขยายเป็นดวงตาสีโลหิต
ดวงแสงทั้งหมดแปรเปลี่ยนร่างของพวกมัน และหันไปเผชิญหน้าที่ซึ่งถังเทียนยืนอยู่
ดวงแสงทั้งหมดต่างโจมตีไปยังถังเทียน
บทเพลงของถังเทียนพลันหยุดลงทันที และเสียงกรีดร้องอันหวาดกลัวของเขาก็ดังลั่นไปทั่วโลกและสวรรค์
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“โชคร้ายอันใดเยี่ยงนี้ ทุกคราที่ข้ามายังสถานที่ผุพังนี้ มันทำให้หัวใจของอึดอัดนัก!” สารถีผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้ารถ เป็นบุรุษสวมเสื้อคลุมสีขาวทรงผมโล้นเกรียน อดมิได้ที่จะบ่น เสื้อคลุมของเขามีแถบสีดำ ซึ่งมันหมายถึงว่าเขาเป็นนักสู้ที่อยู่ขั้นโลหะจากสมาคมนักสู้แห่งแสง
นักสู้ขั้นโลหะคือระดับต่ำสุดของนักสู้ในสมาคมนักสู้ แม้ว่าจะเป็นสมาชิกใหม่ที่ซึ่งยังมิได้ทำอันใดแต่ได้ผ่านบททดสอบก็จะสามารถกลายมาเป็นนักสู้ขั้นโลหะได้เลย แน่นอนว่า ถ้าสมาชิกใหม่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แล้วหลังจากนั้นผ่านบททดสอบขั้นทองแดงแล้ว เขาก็จะเลื่อนขั้นเป็นนักสู้ขั้นทองแดงในทันที
ด้านข้างของเขามีนักสู้ขั้นโลหะอีกผู้คนหนึ่งผู้ที่ซึ่งเต็มไปด้วยหนวดเครา เขาปลอบใจ “มันก็มิได้เลวร้ายนัก พวกเราเพียงมาที่นี่เพียงเป็นการส่งคน บุคคลกลุ่มนี้มันช่างเวทนานัก”
“จริงอย่างที่ว่า” บุรุษหัวโล้นเกรียนกล่าว “โชคดีนักที่ข้ามิได้ถูกส่งมายังสถานที่ผุพังแห่งนี้ในปีนั้น”
“เจ้ามิได้บาดหมางกับผู้ใด เจ้าจะถูกส่งมาที่นี่ได้เยี่ยงไรกัน?” บุรุษกำยำมีเคราส่ายหัวของเขา “มีเพียงผู้คนที่ได้บาดหมางต่อบุคคลสำคัญเท่านั้นถึงได้ถูกส่งมายังสถานที่นี่ ผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถแม้แต่จะกลายเป็นนักสู้ขั้นโลหะ และพวกเขาก็ถูกกำหนดชะตามาให้ปกป้องสถานที่นี่ชั่วนิรันดร์”
“ข้าสับสนยิ่งนัก ทำไมท่านผู้นำถึงต้องสร้างค่ายกองกำลังชั้นนอกภายในสถานที่รกร้างที่แม้กระทั่งนกสักตัวยังไม่มีแห่งนี้?” บุรุษหัวโล้นเกรียนมีท่าทางที่สับสน
“เจ้ามิรู้อย่างงั้นหรือ” บุรุษกำยำมีเคราอธิบาย “เมื่อนานมาแล้ว ท่านผู้นำได้พบเจอสมบัติในสถานที่แห่งนี้ แต่ท้ายสุดแล้ว หลังจากค้นหาเป็นเวลาครึ่งเดือน พวกเขาก็มิได้พบอันใด และผู้นำตอนนั้นคือนักสู้ขั้นเงินเชียวนะ”
“นักสู้ขั้นเงิน!” บุรุษหัวโล้นเกรียนอ้าปากค้าง “อย่าบอกข้านะว่าเขาเป็นหัวหน้ากองกำลังงั้นหรือ?”
หัวหน้ากองกำลังทุกคนภายในสมาคมนักสู้บนกลุ่มดาราอมตะต่างเป็นนักสู้ขั้นเงิน
“เป็นไปได้เยี่ยงไร?” บุรุษกำยำมีเคราส่ายหัวของเขา “มันเป็นเวลานานมาแล้ว และข้าได้ยินจากศิษย์พี่ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ มีพลังความเข้มข้นอย่างยิ่ง และถ้าหากมันถูกปล่อยทิ้งไว้มันก็คงจะเสียเปล่า ดังนั้นผู้นำจึงสร้างค่ายกองกำลังชั้นนอกไว้ที่นั่น น่าเสียดายนัก สถานที่แห่งนั้นมีสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย และยามที่เข้าหรือออกมันอันตรายอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีผู้ใดที่ต้องการจะไปที่นั่น มันเป็นสถานที่ที่ไม่สมบูรณ์ ดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง และจนกระทั่งตอนนี้ มันก็มีเรื่องเล่าออกมา”
“เรื่องเล่า? เรื่องเล่าอันใดกัน?” บุรุษหัวโล้นเกรียนกล่าวถาม
“มันเป็นเวลาเมื่อยี่สิบปีก่อน มันมีจิตวิญญาณอสูรดาราที่ค่อนข้างทรงพลัง และมันก็พลันปรากฏขึ้นภายในกลุ่มดาราอมตะ และความสูญเสียในช่วงเวลานั้นก็ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่สืบค้นมา จิตวิญญาณอสูรดาราตัวนั้นมันมาจากสถานที่แห่งนั้น ผู้นำต่างกังวลเรื่องนั้นมันจะเกิดขึ้นอีกครา ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงที่จะเปิดค่ายกองกำลังชั้นนอกขึ้นอีกครา เพื่อทำหน้าที่เป็นหน้าด่าน” บุรุษกำยำมีเคราอธิบาย
“สถานที่เช่นนั้นคงมิมีผู้ใดยินดีที่จะไป” บุรุษหัวโล้นเกรียนถอนหายใจ
“ใช่แล้ว มิมีผู้ใดยินดีที่จะไป แต่ยังคงจำต้องมีผู้คนที่จะต้องไป ดังนั้นเจ้าคงเข้าใจแล้วสินะ มันเป็นสถานที่แห่งการเนรเทศ” บุรุษกำยำมีเครากล่าว
“ไม่สงสัยเลย!” บุรุษหัวโล้นเกรียนมองคล้ายรู้แจ้งแล้ว “อย่างที่ข้าได้กล่าวไป ค่ายกองกำลังชั้นนอกที่ดีเช่นนี้ ทำไมมันจะต้องมาสร้างในสถานที่นรกเช่นนี้!”
“แท้จริงแล้วมันยังมีประโยชน์อยู่” บุรุษมีเครากล่าว “ผู้นำรู้ได้ว่าผู้คนไม่ยินดีที่จะไปที่นั่น แต่ใครก็ตามที่ไปยังค่ายกองกำลังสุสานชั้นนอกนั้น ถ้าพวกเขามิมีโอกาสที่จะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักสู้ขั้นโลหะ หลังจากสามปีแล้ว ตราบเท่าที่พวกเขายังคงอยู่ที่นั่น พวกเขาจะได้รับสิทธิพิเศษของนักสู้ขั้นโลหะ สำหรับบุคคลสามัญ ไปยังสถานที่แห่งนั่นมันก็มิได้เลวร้ายนัก ยกเว้นแต่ว่าพวกเขาจะต้องยังคงมีชีวิตอยู่”
“มันก็จริง!” บุรุษหัวโล้นเกรียนพยักหน้าของเขา “บททดสอบขั้นโลหะมันยากนักหากปราศจากพลังที่เพียงพอ ไปที่นั่นและมีสิทธิพิเศษเช่นเดียวกับนักสู้ขั้นโลหะ ครอบครัวก็คงไม่จำเป็นต้องกังวลแล้ว”
“ถูกต้อง…”
ตามที่ทั้งสองคนได้สนทนากัน ผู้คนที่อยู่ข้างล่างพวกเขาก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นออกมาจากถ้ำของเขาซึ่งมันดูคล้ายกับรังผึ้งซึ่งหนาแน่นไปสุดสายตา
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ