ตอนที่แล้วตอนที่ 052 – การทดสอบพรสวรรค์ที่น่ากังวล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 054 – สนามแห่งข้อบกพร่องและหนุ่มเทพ

ตอนที่ 053 – คำเตือนของคุณชายข่ง


ตอนที่ 053 – คำเตือนของคุณชายข่ง

 

ถังเทียนรู้ว่าทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยพลัง เบื้องหลังประตูกางเขนเขาฝึกฝนด้วยกำลังทั้งหมดของเขา

กลุ่มดาราอมตะ! เชียนฮุ่ย!

ข้ากำลังไปหาแล้ว!

ผัวะ!ผัวะ!ผัวะ! ถังเทียนสวมใส่สนับมือเหล็กดำเผชิญหน้ากับกำแพงหมอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองมือของเขาปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง ฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าตบลงไปที่กำแพงหมอก ทุกฝ่ามือมันราวกับดาวตกระเบิดออกมา ตามวิธีการของพี่ใหญ่สือโถว ทุกคราที่เขากระแทกออกไป มันราวกับตีหลอมสนับมือ เนื่องจากจิตวิญญาณนักสู้ของสนับมือขัดเขลาขึ้น

จิตวิญญาณนักสู้ภายในสนับมือเหล็กดำเป็นเปลวเพลิงที่วูบไหวไปมา

หลังจากสองสามแสนครั้งผ่านไป ถังเทียนก็รู้สึกว่าเปลวเพลิงจิตวิญญาณนักสู้ภายในสนับมือแปรเปลี่ยนเป็นเข้มข้นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และมันก็ไม่เหมือนก่อนหน้า ที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่มั่นคง ราวกับมันสามารถมอดดับได้ทุกเวลา

วิธีการของพี่ใหญ่สือโถวถูกต้องแล้ว และถังเทียนก็มีขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้น ถ้ามันเป็นผู้อื่นแล้วเพียงจะต้องใช้เวลาอันน้อยนิดแปรเปลี่ยนเป็นสองสามแสนครั้งนี้ เก้าถึงสิบส่วนจะรู้สึกว่ามันนั้นไม่คุ้มค่าเลย แต่ถังเทียนก็เป็นสุข อย่างไรก็ตามมันเป็นการฝึกทั้งหมด และสามารถที่จะพัฒนาเติบโตสนับมือเหล็กดำให้กลับกลายเป็นสมบัติขั้นทองแดง โอกาสอันดีเช่นนี้ไม่สามารถหาจากที่ใดได้แล้ว!

ฝ่ามือไร้เงาของถังเทียนได้บรรลุมาถึงขั้นเชี่ยวชาญสมบูรณ์แล้ว แต่แม้เขาจะไม่ได้พักเลยสักคราภายในชั่วเวลานี้ เขาก็ยังคงห่างไกลจากกระบวนท่าสังหาร [ดาวตกโปรยปราย]

ฝ่ามือไร้เงาขั้นสมบูรณ์แบบสามารถสร้างเงาทำลายออกได้ถึงสิบสองเงาเล็ก แต่กับกระบวนท่าสังหาร [ดาวตกโปรยปราย] แล้ว สามารถที่จะระเบิดออกเป็นสามสิบหกลำแสงของปราณได้ มันมีรังสีของการหน่วงเหนี่ยวและปกคลุมอย่างน่าทึ่ง

เหงื่อของถังเทียนหลั่งไหลราวกับเปียกฝน ทุกฝ่ามือที่เขาได้ใช้ออก เงาของฝ่ามือจะระเบิดออกเป็นสิบสองเงาฝ่ามือเล็กไปภายในอากาศ และกำแพงหมอกเบื้องหน้าของเขาก็ ปุ ปุ ปุ แตกออกเป็นชิ้นๆ

ทหารที่ลอยอยู่เบื้องหลังถังเทียนมิได้พูดกล่าวอันใดทั้งสิ้น

ฝ่ามือไร้เงามันไม่ได้เหมาะสมที่จะทำลายกำแพงหมอก มันเป็นวิชาการต่อสู้ประเภทกลางเวหา และมันเป็นพลังการรุก เมื่อเทียบกับหมัดจุลวินาศมันต่ำกว่ามาก แต่การโจมตีของมันมีรัศมีกว้าง แม้ว่ามันจะคืบหน้าไม่รวดเร็ว หลังจากหนึ่งแสนครั้งมันก็ทำลายกำแพงหมอกเป็นวงกว้างขนาดใหญ่

ดินแดนเบื้องหลังประตูกางเกง พื้นที่มันถูกขยายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมันมีพื้นที่ประมาณเจ็ดสิบแปดจั้ง มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่มันถูกขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก

ถังเทียนฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง

ผู้คนภายนอกมิได้เชื่อว่าพรสวรรค์ของเขานั้นย่ำแย่ แต่เขารู้ตัวของเขาว่าเขานั้นมิมีพรสวรรค์อันใดเลย เมื่อเทียบกำลังของผู้อื่นแล้ว จำนวนหยาดเหงื่อที่เขาได้หลั่งไหลออกมาจากการฝึกหนักเขานั้นสูญเสียไปมากเกินกว่าผู้อื่นแล้ว และมันมิมีโชคในการกระทำนี้ มันยังคงมีเวลาอีกสองสามวันก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังกลุ่มดาราอมตะและเขาก็วางแผนที่จะบรรลุถึงกระบวนท่าสังหารของฝ่ามือไร้เงาภายในสองสามวันนี้

เหลือเพียง 200,000 ครั้ง...

ถังเทียนประคองตัวเองโดยการเท้าเข่าของเขา หยาดเหงื่อหลั่งไหลราวกับฝน ล่วงหล่น และหอบหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง

ทหารที่ลอยอยู่เงียบๆเบื้องหลังเขา

ทันใดนั้นทหารก็กล่าวถาม “ทำไมเจ้าถึงฝึกหนักเช่นนี้?”

“ทำไม?” ถังเทียนผู้ที่ซึ่งเพิ่งจะฟื้นฟูกำลังมาได้เล็กน้อย ก็ยืดหลังของเขาขึ้น ทั่วใบหน้าของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ผมของเขาเปียกโชกระเหยเป็นไอน้ำ เขามองไปยังทหารอย่างจริงจังพลังกล่าว “ข้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น!”

“แข็งแกร่งขึ้น?” น้ำเสียงของทหารมิได้เปลี่ยนแปลง ด้วยสีหน้าที่ขาวปราศจากอารมรณ์ เขาคล้ายกับตุ๊กตาที่สามารถพูดได้ “ทำไมเจ้าถึงต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น?”

“เพราะมีหลายสิ่งอย่างที่ข้าต้องการกระทำ!” ถังเทียนมีสีหน้าที่มั่นคง ขณะที่เขาพลันกล่าวถามกลับอย่างอยากรู้ “ทหาร เจ้ามิมีสิ่งใดที่ต้องการกระทำบ้างหรือ?”

ทหารยังคงเงียบ และขณะที่ถังเทียนกำลังจะเตรียมพร้อมที่จะเริ่มฝึกอีกครา เขาก็พลันเปิดปากของเขา “มี”

ถังเทียนพลันหยุดทุกสิ่งอย่างที่เขากำลังกระทำอยู่ในตอนนั้น เวลานี้เขาอยากรู้จริงๆ เขาพลันขยับเข้าใกล้ “ทหาร เจ้าต้องการทำอันใดกัน? มิใช่ว่าเจ้าเคยกล่าวว่า ความผิดของเจ้าได้รับการชำระล้างแล้วมิใช่หรือ?”

ถังเทียนยังคงจดจำได้ที่ทหารได้กล่าวไว้ ‘เพื่อที่จะให้ร่างแปรเปลี่ยนเป็นจิตวิญญาณ กรรมของเขาจะต้องถูกชำระล้างแล้ว’

ทหารกลับมาเงียบอีกครา

“ตั้งแต่ที่เจ้ามีสิ่งที่หวังจะต้องกระทำ งั้นก็เริ่มกระทำพวกมันซะ!” ดวงตาของถังเทียนสว่างวาบด้วยแสง “เจ้าต้องทนทุกข์ทรมารมาหลายปี เช่นเดียวกับรูปปั้นหลายรูป และมีเพียงเจ้าที่กลายมาเป็นจิตวิญญาณ มันหมายความเจ้านั้นมิใช่รูปปั้นสามัญธรรมดา! ว๊า ฮ่าฮ่า! ต้องกระทำเช่นนี้สิ วู้ฮู้ แบบบุรุษหนุ่มเทพผู้นี้!”

ทหารมองไปยังถังเทียนปราศจากสีหน้าทางอารมณ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกกล่าวเลยว่าเขามีความสุขหรือโกรธ

“สู้สู้! พลทหารหนุ่มเทพ!” ถังเทียนยกแขนทั้งสองข้างของเขาพลางใช้กำลังของเขาตบไปที่ทหารสองครา ปาดเช็ดเหงื่อของเขาออก และหันไปฝึกซ้อมต่อ

ทหารมองยังแผ่นหลังของถังเทียนอย่างเงียบๆ และสงบนิ่ง

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

คืนนั้น ถังเทียนมิได้ฝึกบ่มเพาะ

ถังเทียนนั่งอยู่ด้านข้างป้ายหลุมศพตลอดทั้งคืน ยามเมื่อดวงตะวันขึ้นและส่องแสงลงบนพื้น ถังเทียนก็คล้ายรู้สึกเหมือนเพิ่งจะตื่นจากความฝันของเขา

เขาปัดฝุ่นที่ก้นของเขาให้สะอาด จ้องมองไปยังป้ายหลุมศพพลางกล่าวเบาๆ “มารดา ข้ากำลังจะจากไปแล้ว อย่าได้เป็นกังวล ข้ากล้าหาญอย่างยิ่งและข้าก็มิได้หวาดกลัวต่อสิ่งใด ลูกชายของท่านเติบโตเป็นบุรุษแล้วในตอนนี้! มารดา ข้ากำลังจะไปตามล่าความฝันของข้า”

ดวงตาของถังเทียนแลดูอ่อนโยนขณะที่เขาพึมพำ

หลังจากมองดูเป็นเวลานาน ถังเทียนก็พลันหันหลังกลับพลางเดินลงจากภูเขา

ยามเมื่อถังเทียนเร่งรีบไปยังกำแพงเมือง เขาก็เห็นรถม้าขนาดใหญ่ต่อพ่วงกันกับอีกสามคัน ผู้คนที่เดินทางต่างรวมตัวกันภายในรถม้าขนาดใหญ่ และท่ามกลางพวกเขา ถังเทียนสังเกตเห็นตาเฒ่าเว่ยและอาจารย์เฉิน อาจารย์เฉินได้ถูกรับเข้ามาเป็นอาจาร์สอนวิชาพื้นฐานการต่อสู้ภายในสถาบันคาราเมลโดยตาเฒ่าเว่ย

“อาจารย์เฉิน!” ถังเทียนตะโกนขณะที่เขาโบกแขนทั้งสองข้างของเขา เพียงชั่วครู่ เขาก็เหินร่างไปหาอาจารย์เฉิน

บนใบหน้าของอาจารย์เฉิน เขาเปิดเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ถังเทียน เจ้าทำให้ข้าภูมิใจนัก”

มองดูบุรุษที่ฮึกเหิมผู้นี้ อาจารย์เฉินก็แลดูอ่อนโยน เขาให้กำลังใจอย่างจริงจัง “ถังเทียน เจ้าจะต้องจดจำไว้ว่า มิว่าเรื่องอันใดจะเกิดขึ้น เจ้าจะต้องไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!”

ถังเทียนสามารถได้ยินความห่วงใยและอบอุ่นจากคำกล่าวของอาจารย์เฉิน ภายในหัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นและพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “อาจารย์! ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้”

ตาเฒ่าเว่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างพลางกล่าว “บุรุษหนุ่มถัง อย่าได้ทำให้สถาบันคาราเมลของเราขายหน้า!”

“ตาเฒ่า ท่านห่วงตัวเองจะดีกว่านะ ยามเมื่อพวกเราอัจฉริยะทั้งสองไปจากสถาบันและท่านจะไม่มีคะแนนสะสมเพียงพอสำหรับปีหน้า พวกเราจะมิได้ช่วยท่านอีกต่อไปแล้ว!” ถังเทียนแลบลิ้นออกไปยังตาเฒ่าเว่ย

ตาเฒ่าเว่ยหัวร่อ “บุรุษหนุ่ม ไปให้พ้นซะ!”

ปราศจากการล่ำราที่ซึ้งใจอันมากมาย ถังเทียนก็โบกมือไปยังทั้งสองคนพลางกระโดดขึ้นไปยังรถม้า

มองผ่านไปภายในกระจกของรถม้า เขามองออกไปข้างนอกและทันใดนั้น ถังเทียนก็รู้สึกเศร้าโศก เขาอยู่ที่นี้มาเป็นเวลาสิบเจ็ดปีแล้ว และในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องจากไป แต่เขาก็อดกลั้นด้วยพลังของเขาทั้งหมด นี้มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ เขาควรจะมองไปข้างหน้าในอนาคตของเขา!

เพียงไม่นานผู้คนอื่นก็เริ่มที่ขึ้นมายังรถม้า

ทุกคนต่างทักทายกันและพวกเขาก็มีกำลังใจที่ดี น้ำตาของหานปิงหนิงกำลังหลั่งไหลออกมาจากดวงตาของนาง

รถม้ามีขนาดใหญ่ ตกแต่งภายในมิได้หรูหรานัก แต่มันก็สะดวกสบายเป็นอย่างมากเนื่องเพราะมันมีพื้นที่ขนาดใหญ่

รถม้าก็เริ่มที่จะเคลื่อนตัวและทุกคนก็ต่างโบกมือของพวกเขาอย่างเต็มกำลัง มิว่าพวกเขาจะทรงพลังสุดยอดแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงเป็นเพียงวัยรุ่น รถม้ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ในชั่วพริบตา มันก็มิสามารถเห็นได้แม้แต่เงา เมืองเมฆาดาเลือนลางหายไปอย่างช้าๆจากเบื้องหน้าดวงตาของพวกเขา เหล่าคนหนุ่มสาวค่อยๆกลับไปยังที่นั่งของพวกเขา แต่ในเวลานี้พวกเขาต่างไม่มีกำลังใจที่เยอะอีกต่อไป นี่มันเป็นคราแรกที่พวกเขาต่างจากบ้านไป

หลังจากเพียงครึ่งชั่วโมง อารมณ์ของทุกคนก็เริ่มที่จะสงบลง และบรรยากาศภายในรถม้าก็เริ่มอบอุ่นขึ้นอย่างช้าๆ

“มันเป็นรถม้าอันใดกัน มันเดินทางได้รวดเร็วอย่างยิ่ง!” อาโม่หลี่พิงไปที่หน้าต่างมองดูด้วยความตกใจ

คุณชายข่งหัวร่อ “มันเป็นรถม้าที่เป็นสมบัติดาราของกลุ่มดาราม้าบิน มันใช้สำหรับเดินทางในระยะไกล และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก รถม้านี้มีความสมดุลในทุกทาง และสามารถที่จะรองรับได้ถึงสองร้อยคน แต่พวกเราปกติจะบรรทุกเพียงสามสิบคนเท่านั้น ขณะที่เราปรับเปลี่ยนการลักษณะการบ่มเพาะอย่างอื่น”

“ความเร็วนี้มันรวดเร็วกว่าแปดก้าวจักจั่นของข้าซะอีก!” ถังเทียนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

“ฮ่าฮ่า วิชาตัวเบาระดับสามมันไม่สามารถเทียบได้กับสมบัติดารารถม้านี้หรอก แต่สมบัติดารารถม้านี้มันต้องใช้หินดาราในการเคลื่อนที่เช่นกันและในการเดินทางนี้ มันจะต้องการอย่างน้อยหินดาราระดับสี่”

ยามเมื่อทุกคนได้ยิน พวกเขาตกใจจนอ้าปากค้าง

ทุกคนต่างเคยพบเห็นหินดาราระดับสี่มาแล้ว เพียงแต่ภายในเมืองเมฆาดารา มันเป็นสิ่งที่หายาก อย่างไรก็ตามในการเดินทางครานี้มันคงสิ้นเปลืองหินดาราระดับสี่เป็นอย่างมาก สมาคมนักสู้แห่งแสงดูเหมือนจะร่ำรวยภายในสายตาของทุกคนทันที

คุณชายข่งหัวร่อ “ดาราอู่อันนี้มันเป็นดวงดาราที่อยู่ใกล้กับพรมแดน มันมิได้ตั้งอยู่ภายในเส้นทางสวรรค์ นี่มันเป็นคราแรกที่พวกเจ้าทั้งหมดต่างออกไปผจญภัยข้างนอก มันมีบางสิ่งที่จะข้าต้องบอกกล่าวกับพวกเจ้า”

ทุกคนต่างตั้งใจฟัง

“พรสวรรค์ของพวกเจ้าทั้งหมดต่างดียิ่ง แต่อย่าได้ภูมิใจไป ยามเมื่อเจ้าไปถึงภูเขากลุ่มดาราอมตะ เจ้าจะตระหนักได้ว่ามีผู้คนอื่นที่มีพรสวรรค์ภายในจักรวาลนี้เหนือกว่าที่เจ้าจะจินตนาการไว้ เจ้าก็จะตระหนักได้ว่าวีถีชีวิตระหว่างสมาคมนักสู้แห่งแสงและเมื่อเมฆาดาราก็แตกต่างเช่นเดียวกัน สมาคมนักสู้แห่งแสงต่างส่งเสริมการประลองและการต่อสู้ การแข่งขันภายในสมาคมนักสู้แห่งแสงนั้นสูงนัก ไม่ว่ามันจะเป็นความสำเร็จผลงานหรือทรัพยากร ถ้าเจ้าต้องการมันมากขึ้น เจ้าจะได้รับจากการต่อสู้กับผู้อื่น ยิ่งเจ้าสามารถทำได้ดีเท่าใด เจ้าก็จะสามารถที่จะได้รับการสนับสนุนดูแลจากสมาคมนักสู้แห่งแสง ข้าจะเลือกบางคนในพวกเจ้าและดำเนินการให้เจ้าไปยังภูเขากลุ่มดาราอมตะ มันเป็นที่ที่อันตรายและกดดัน แต่เจ้าเป็นคนฉลาดกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจมัน”

คุณชายข่งกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่เจ้าทำได้ดี เจ้าจะได้รับผลตอบแทน ผลตอบแทนนี้มันเหนือกว่าที่พวกเจ้าจะคาดไว้เสียอีก และอีกอย่าง ทุกสถาบันที่เจ้าได้เข้าศึกษา ตระกูลของพวกเจ้าก็จะได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกัน พลังของสมาคมนักสู้แห่งแสงมันเหนือกว่าจินตนาการของพวกเจ้านัก ดังนั้นในช่วงเวลานี้ อย่าได้คิดจะไปยังที่พวกเจ้ากำลังจะไป เจ้าจะต้องจดจ่ออยู่กับการทำเยี่ยงไรให้แข็งแกร่งขึ้น ยามเมื่อเจ้าแข็งแกร่งขึ้น เหล่าอาจารย์จะสังเกตเห็นศักยภาพของเจ้ารวดเร็วยิ่งขึ้น

“บอกกับพวกเจ้าทุกคน สิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งสำคัญเพียงหนึ่งเดียว อย่าได้พึ่งพาในโชค การแข่งขันจะมีอย่างต่อเนื่องและโหดร้ายกว่าที่เจ้าจะคาดการณ์ไว้”

คุณชายข่งมองสำรวจทุกคน

กลุ่มคนต่างเริ่มที่จะรู้สึกกดดันเป็นอย่างยิ่งขณะที่สีหน้าของพวกเขาแข็งค้าง

“ยามเมื่อเจ้ามิสามารถก้าวตามผู้อื่นทัน มันไม่มีใครที่จะตำหนิเจ้าหรือทุบตีเจ้า มีเพียงสิ่งสำคัญอย่างเดียวนั้นคือเจ้าจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในเหล่าภารกิจที่อันตราย ความตายของเจ้าจะเงียบเชียบ จะมิมีผู้ใดรับรู้ได้” คุณชายข่งดูเคร่งขรึม “ข้ามิได้ล้อเล่น”

สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยน ด้วยคำกล่าวของคุณชายข่ง ทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน มิมีใครสามารถจินตนาการได้ว่าสมาคมนักสู้แห่งแสง ที่ทุกคนต่างบีบเค้นและหัวรั้นที่จะเข้าร่วม มันจะเต็มไปด้วยอันตราย

“พวกเจ้าทุกคนจะตระหนักได้ว่า เพียงช่วงเวลาชั้นๆ เหล่าหน้าตาที่คุ้นเคยรอบตัวเจ้าจะค่อยๆหายไปทีละน้อย”

มีเพียงไม่กี่คนในพวกเขาสามารถที่จะสงบได้ แต่กู่เสี่ยวอวี้ได้สั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้าในความหวาดกลัว จากผู้คนเหล่านี้ เขามีกำลังที่อ่อนแอและย่ำแย่ที่สุด จนกระทั้งตอนนี้ เขาก็ยังคงมิรู้เลยว่าเขาได้ถูกคัดเลือกได้เยี่ยงไร

“ในระหว่างการเดินทางนี้ ข้าจะแนะนำพวกเจ้าด้วยตัวเอง” คุณชายข่งกล่าวอย่างนุ่มนวล “ทุกคนจดจำไว้ให้ดี!”

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด