ตอนที่ 051 – เปลวเพลิงเตาหลอม
ตอนที่ 051 – เปลวเพลิงเตาหลอม
ถังเทียนรู้สึกหนาวสั่นจนไปถึงกระดูกสันหลัง
ฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว เขาสามารถเห็นเพียงเงาวูบวาบสีดำเลือนลาง
บัดซบ!
“เพลิงเตาหลอม!” ถังเทียนคำราม สนับมือเหล็กดำเตาหลอมก็เปล่งประกายเปลวเพลิงออกมา ปราณแท้จริงทั้งร่างของเขาก็ถูกกระตุ้นพร้อมกัน ราวกับกายากระเรียนที่สองรู้สึกถึงอันตรายได้เช่นเดียวกัน มันก็โคจรอย่างรวดเร็ว
ผู้ใดจะคาดคิดว่า ถังเทียนจะใช้ออกหมัดที่เขาเชี่ยวชาญ
มหาวินาศ!
มันเป็นคราแรกที่ถังเทียนใช้ออกมหาวินาศขณะที่เขาสวมใส่สนับมือเหล็กดำ เขาสามารถพบถึงความแตกต่างได้ในทันที กระแสความร้อนหลั่งไหลจากหมัดกลับเข้าสู่ภายในร่างของเขา พร้อมด้วยปราณแท้จริงที่เขากระตุ้นใช้ออก มันไหลย้อนกลับไปที่สนับมือ
กระแสความร้อนในตอนนี้ขจัดความหวาดกลัวของถังเทียนไปทั้งหมด
พลังของมันดูคล้ายธรรมดาไม่มีอันใดเป็นพิเศษภายในความพิเศษนี้ แม้กระทั่งเปลวเพลิงอันชั่วร้ายก็ดูคล้ายแผ่วเบา
ใต้เท้าอู่รู้แล้วว่าเขาจะต้องสิ้นท่า ด้วยหมัดของถังเทียน มันไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ มันกระแทกเข้าที่อกของเขาอย่างหนักหน่วงและมั่นคง
ปุ!
หมัดที่กระทบเนื้อมันมิได้เกิดเสียงดังออกมา เปลวเพลิงทะลวงร่างของใต้เท้าอู่ในทันที ใบหน้าใต้เท้าอู่แข็งค้างและตัวเขาก็นิ่งไป เขามองไปยังถังเทียนด้วยความไม่น่าเชื่อว่าหมัดของถังเทียนจะชกถูกเขา
ผู้ที่ชมดูมิสามารถที่จะตอบสนองได้ทัน
ปัง!
เปลวเพลิงก็ลุกโชนจากร่างของใต้เท้าอู่ ในชั่วพริบตา เปลวเพลิงก็ส่องประกายครอบคลุมใต้เท้าอู่
“เปลวเพลิงเตาหลอม!” อาจารย์ใหญ่สถาบันอสูรอำมหิตตะโกนด้วยความตกใจ
อาจารย์ใหญ่นางแอ่นเหนือและผลึกฟ้าจ้องมองไปยังถังเทียนด้วยความงุนงง
ทุกผู้คนต่างจ้องมองไปยังถังเทียนและกองเปลวเพลิงด้วยความงุนงง
เปลวเพลิงพลันสว่างวาบดูคล้ายจะนำพาความชั่วร้ายออกมาแล้วเผาผลาญวูบวาบ
ภายใต้เปลวเพลิงนี้ บุรุษหนุ่มก็หอบหายใจ เปลวเพลิงเปล่งประกายและพลังงานอันน่ากลัวก็พรั่งพรูออกมา
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“มันคือเปลวเพลิงเตาหลอมจริงๆ!” อาจารย์ใหญ่นางแอ่นเหนือพึมพำกับตัวเอง “ศาสตราวุธเตาหลอม มันเป็นเพียงศาสตราวุธระดับล่างและมันยากที่จะปลดปล่อยเปลวเพลิงเตาหลอมได้ ‘ศาสตราวุธเตาหลอมเหล็กดำ’ มันแทบจะมีโอกาสปลดปล่อยเปลวเพลิงเพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น
อาจารย์ใหญ่ผลึกฟ้าตกใจเป็นอย่างยิ่ง “ตามตำนานว่าไว้ ตราบเท่าที่มันสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงเตาหลอมได้ ศาสตราวุธเหล็กดำก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้”
“มันก็เป็นเพียงตำนาน ข้ามิเคยเห็นมันมาก่อน” คำกล่าวตาเฒ่าเว่ยเต็มไปด้วยความสุขบนใบหน้าของเขาขณะที่เขาชี้ไปยังอาโม่หลี่ “อาโม่หลี่ มานี่ ลองกระตุ้นเปลวเพลิงเตาหลอมของเจ้า”
“โอ้” อาโม่หลี่ยกดาบเหล็กดำภายในมือของเขาขึ้นพลางตะโกนออกมาว่า “เตาหลอม!”
ฟู่! เปลวเพลิงสีแดงก็ระเบิดออกมา ปกคลุมไปทั่วดาบ
ดวงตาของอาจารย์ใหญ่ทั้งสามพลันแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ และรู้สึกริษยา หึงหวง และเกลียดชัง พวกเขาดูคล้ายเป็นเช่นนั้น ด้วยการชิงตัวอาโม่หลี่ในตอนนั้น อาจารย์ใหญ่อสูรอำมหิตก็กลายเป็นทุบอกพลางกระทืบเท้าของเขา
เปลวเพลิงมอดดับไป และใต้เท้าอู่ก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่เหลืออะไรไว้เลย
“สหายคนนี้ก็ยากจนเช่นกันงั้นหรือ!” ถังเทียนจ้องมองไปด้วยความว่างเปล่าและมีข้อสงสัยเล็กน้อย
ตามที่คาดไว้หากผู้คนที่เป็นหัวหน้าเลวร้ายอย่างไรลูกน้องก็เลวร้ายอย่างนั้น...
สีหน้ายกย่องของอาจารย์ใหญ่ทั้งหลายพลันสลายหายไป และอาการตกตะลึงของทุกผู้คนก็หายไปเช่นเดียวกัน
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง!” ตาเฒ่าเว่ยเบิกตากว้างรู้สึกไม่พอใจ
อาจารย์ผลึกฟ้าก็เปิดปากของเขา “พวกเราจะทำเช่นไรต่อไปในตอนนี้?”
“รายงานท่านเจ้าเมือง” อาจารย์ใหญ่นางแอ่นเหนือกล่าว “วิญญาณนิลมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่”
ด้วยความรวดเร็วอาจารย์ที่เหลือสองสามคนก็เห็นด้วยที่จะรายงานท่านเจ้าเมือง
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ผลกระทบของเรื่องนี้อยู่เหนือกว่าที่ถังเทียนจินตนาการไปไกลนัก ทั่วทั้งดาราอู่อันนี้ตกอยู่ในบรรยากาศที่กระวนกระวาย ด้วยพลังความมืดดั่งเช่นวิญญาณนิล กำลังเริ่มแผ่ขยายกรงเล็บอันชั่วร้ายของมันมายังพรมแดนของดาราอู่อันนี้ เจ้าเมืองของทุกเมืองได้ร่วมมือกันดำเนินการจัดเตรียมเหล่านักสู้อิสระเข้ามาช่วยเหลือ
เพียงแต่เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับถังเทียน
อย่างแรกที่ถังเทียนทำยามเมื่อเขากลับมาถึงสถาบันคาราเมล คือการเข้าสู่ประตูกางเขนของกลุ่มดารากางเขนใต้
ถังเทียนก็พบทหารอยู่ภายในนั้น
“นี่เจ้าเข้ามาได้เยี่ยงไรกัน?” ถังเทียนอดมิได้ที่จะกล่าวถามออกไป ทหารคนนี้เต็มไปด้วยความลี้ลับ และเขาก็เป็นราวกับยาสีฟัน เหนียวติดเหนียวแน่นและมันยังไม่ถึงเวลาที่มันจะต้องถูกบีบออกมาจากหลอด
ทหารยังคงนิ่งเงียบ
และเช่นเดียวกัน เขาก็มิสามารถจะบีบเค้นอันใดออกมาได้ในครานี้
ถังเทียนรับรู้ได้อย่างง่ายๆ และเริ่มต้นบ่มเพาะ
“กลุ่มดารากางเขนใต้ การใช้งานของเจ้าไม่ถูก” ทหารกล่าวอย่างนุ่มนวล
“ใช้งานไม่ถูก?” ถังเทียนประหลาดใจ เขามองไปยังทหารอย่างสับสน “งั้นบอกข้าหน่อย ข้าควรจะใช้งานอย่างไร?”
ทหาร “เจ้าจะต้องโจมตีไปที่กำแพงหมอก”
“กำแพงหมอก?” ดวงตาของถังเทียนมองไปยังกำแพงหมอก
มันมีความเสียหายอยู่สองจุดของกำแพงหมอก จุดแรกเนื่องจากอัสนีบาตสังหาร และจุดที่สองมาจากมหาวินาศ เขารู้อยู่แล้ว แต่เขาก็จดจ่อเพียงแต่การบ่มเพาะและมิได้ใช้เวลาเกี่ยวกับมันมาก ดังนั้นเขาจึงมิได้สนใจมัน
โจมตีไปยังกำแพงหมอก?
ถังเทียนเริ่มที่จะไตร่ตรองและทันใดนั้นเขาก็มีคำกล่าวถาม “แล้วเจ้ารู้ได้เยี่ยงไรกัน?”
ทหารนิ่งเงียบ
ถังเทียนจ้องมองไปยังทหาร แต่ทหารก็ยังคงนิ่ง ถังเทียนถอนสายตาเก็บความกังวลใจและแปรเปลี่ยนเป็นขบคิด เฮ้อ นี่มันอาจจะเป็นวิธีการที่ดีในการฝึกฝนก็ได้
เขายืนขึ้นเบื้องหน้าของกำแพงหมอกพลางเริ่มต้นใช้ออกฝ่ามือไร้เงา ‘ปัง ปัง ปัง’ เขาเริ่มต้นฝึกฝน
พลังของฝ่ามือไร้เงาอ่อนแอกว่ามหาวินาศมากนัก แต่กำแพงหมอกมันก็ถูกบดขยี้ด้วยการโจมตีของถังเทียน
ถังเทียนอดมิได้ที่จะตบลงไปบนหัวของเขา ทำไมเขาถึงมิได้คาดคิดเกี่ยวกับวิธีการเช่นนี้มาก่อน? เขาเคยคิดเกี่ยวกับเส้นทางการฝึกฝนของเขาในอดีต ใช้ออกหมัดของเขาไปเพียงในอากาศและมันดูโง่เง่านัก
บุรุษหนุ่มผู้เป็นหนุ่มเทพก็ได้รับแรงกระตุ้นอีกครา!
มันเป็นคราแรกที่เขาได้รับรู้ความดุร้ายโหดเหี้ยมของผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด ถังเทียนเพียงรู้สึกได้ว่าพลังปราณของเขาไม่มีที่สิ้นสุดที่เขาสามารถใช้ได้ภายในร่างของเขา ในความคิดของเขามันสามารถที่ใช้วิชาการต่อสู้ทั้งสี่ของเขา และเชี่ยวชาญพวกมันเพื่อฝึกฝนกระบวนท่าสังหาร โว้ โว้ โว้ งั้นเขาก็คงจะน่ายำเกรงแล้ว!
หลังจากที่ถังเทียนได้ยินอาจารย์ใหญ่ผลึกฟ้ากล่าวว่าสนับมือเหล็กดำสามารถกระตุ้นเปลวเพลิงเตาหลอมตอนที่อยู่ภายในวงกตวิญญาณ และมันเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเพิ่มขึ้นของเขา เขาก็ตัดสินใจเดินทางไปที่เหมืองหินเพื่อพบพี่ใหญ่สือโถว สือโถวได้รับรู้ว่าเขาสามารถอัญเชิญเปลวเพลิงเตาหลอมได้และก็ตกอยู่ในอาการตะลึงและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงมอบวิธีการบ่มเพาะของสนับมือเหล็กดำขั้นต่อไปให้กับเขา
วิธีการเรียบง่ายนัก เขาจะต้องเพียงสวมใส่สนับมือในระหว่างที่เขาอัญเชิญเปลวเพลิงเตาหลอม ใช้ออกกระบวนท่าโจมตีอย่างต่อเนื่อง เปลวเพลิงเตาหลอมภายในสนับมือก็จะพัฒนาและไปสู่ขั้นต่อไปด้วยตัวเอง
หลังจากนั้น ถังเทียนก็มิเคยถอดสนับมือออกอีกเลย
เปลวเพลิงเตาหลอมลุกโชติและมีชีวิตชีวา ทุกขั้นตอนเข้ากันได้ดีอย่างยิ่ง มิว่าถังเทียนจะใช้ออกฝ่ามือ หมัดหรือกรงเล็บ มันก็ง่ายดายราวกับปลอกกล้วยเข้าปาก
ภายในอดีตเขามิได้มีเปลวเพลิงเตาหลอม ถังเทียนรู้สึกว่ามันไม่ชัดเจนเพียงพอ ในตอนนี้เขาชกกำลังแพงหมอกทุกวัน และความแข็งแกร่งของสนับมือเหล็กดำก็เริ่มเติบโตขึ้น ยกตัวอย่างเช่น [ฝ่ามือไร้เงา] ยามเมื่อสวมใส่สนับมือเหล็กดำ พลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อยถึงสองส่วน
สนับมือเหล็กดำช่างน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง และถังเทียนก็กำลังมองหาสมบัติขั้นทองแดง
ครานี้เขาได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากมาย นอกเหนือจากนี้ยันต์วิตวิญญาณขั้นเงิน เขาก็ยังได้สมบัติขั้นทองแดง
สมบัติขั้นทองแดงจากกลุ่มดาราม้าแกลบ [รองเท้าอาชาทะยาน]
กลุ่มดาราม้าแกลบตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกลุ่มดาราม้าบิน กลุ่มดาราคนโทก็ตั้งอยู่ทางเหนือ และมันเป็นกลุ่มดาราที่เล็กอย่างยิ่ง ใหญ่กว่ากลุ่มดารากางเขนใต้เล็กน้อย
ถังเทียนชื่นชอบรองเท้าอาชาทะยานคู่นี้นัก รองเท้าทองธาตุสีทองแดงที่สลักไว้ด้วยรูปลูกอาชาน่ารัก พวกมันดูราบเรียบภายในผ้าและไม่เป็นที่สะดุดตา แต่พวกมันก็รู้สึกสบายอย่างยิ่งเวลาสวมใส่ ยามเมื่อสัมผัสกับพื้น ถังเทียนสามารถรู้สึกได้เลยว่าร่างของเขากลับกลายเป็นเบาขึ้น
และเมื่อยามถังเทียนโคจรปราณแท้จริงเข้าสู่มัน เขาก็รวดเร็วราวกับสายลม และแปดก้าวจักจั่นก็ระเบิดพลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับถังเทียนสมบัติชิ้นนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง
หลังจากทดลองใช้หลายครา ถังเทียนในที่สุดก็สามารถที่จะเข้าใจและใช้สมบัติได้อย่างสบายใจ สมบัติทุกชิ้นคงจะมีจิตวิญญาณนักสู้อยู่ภายในพวกมัน และพวกมันก็เป็นแหล่งกำเนิดของพลังสมบัติดาราตราบเท่าที่เรากระตุ้นปราณแท้จริงเข้าไป จิตวิญญาณนักสู้ก็คงจะตื่นขึ้น สมบัติทุกชิ้นมีความแตกต่างกัน บางอันมีความสามารถในการสนับสนุน บางอันสามารถที่จะเพิ่มปราณแท้จริง และบางอันก็ปลดปล่อยปราณแท้จริงออกไปได้
ยิ่งระดับและขั้นของสมบัติสูงเท่าใด จิตวิญญาณนักสู้ภายในมันก็แข็งแกร่งมากเท่านั้น
จิตวิญญาณนักสู้สมบัติขั้นทองแดง เมื่อเทียบกับจิตวิญญาณนักสู้สมบัติขั้นโลหะ มันแข็งแกร่งกว่ามาก จิตวิญญาณนักสู้ของรองเท้าอาชาทะยาน ยังเป็นเพียงลูกอาชา ยามเมื่อโคจรปราณแท้จริงลงไปภายในจิตวิญญาณนักสู้ลูกอาชานี้ มันก็พุ่งออกไปอย่างร่าเริง ซึ่งเป็นภาพที่แปลกประหลาดนัก
ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินมิสามารถใช้งานได้กับถังเทียน ดังนั้นเขาคงจะขายพวกมันเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นหินดารา หินดาราเป็นสกุลเงินตราภายในเส้นทางสวรรค์
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“นี่ พื้นฐานถัง ข้าได้ยินมาว่าสมาคมนักสู้แห่งแสงคัดเลือกผู้คนเข้าร่วม!” อาโม่หลี่รู้สึกตื่นเต้น
ถังเทียนไม่แม้กระทั่งเงยหน้าของเขาขึ้น “งั้นไปเถอะ ไปเถอะ!”
“มันคือสมาคมนักสู้แห่งแสง! ขั้นต่ำสุดในการเข้าร่วมจะต้องมีปราณแท้จริงขั้นห้า!” อาโม่หลี่คล้ายอิจฉา ปราณแท้จริงขั้นห้าภายในดาราอู่อันนี้มันเป็นพลังระดับแนวหน้าของเหล่านักสู้เลย
“โอ้ ข้าต้องการที่จะฝึกฝน” ถังเทียนยังคงมิได้เงยหน้าของเขาขึ้น
หลังจากฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสิบวัน ฝ่ามือไร้เงาของถังเทียนในที่สุดก็เชี่ยวชาญสมบูรณ์แบบ เขาตัดสินใจที่จะฝึกฝน [กรงเล็บเหยี่ยว] [วิชาห่วงโซ่สัมพันธ์] และ [แปดก้าวจักจั่น] บรรลุถึงความสมบูรณ์และหลังจากนั้น ก็จะฝึกฝนวิชาการต่อสู้ระดับสี่
“อย่าเพิ่งฝึกในตอนนี้” ตาเฒ่าเว่ยพลันปรากฏตัวขึ้น
ถังเทียนหยุดมองไปยังตาเฒ่าเว่ยอย่างอยากรู้
“ผู้คนสมาคมนักสู้แห่งแสงกำลังมา” ตาเฒ่าเว่ยกล่าว
ถังเทียนรู้สึกสับสน “แล้วมันเกี่ยวอันใดกับพวกเรางั้นหรือ?”
“โอ้ เดินไปคุยไปกันดีกว่า” ตาเฒ่าเว่ยกล่าว
ขณะที่เดินอยู่ เขาก็ฟังตาเฒ่าเว่ยอธิบาย และในตอนนั้นในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจความหมายนี้
ดาราอู่อันนี้เป็นดาราที่อยู่ในพรมแดนและไม่ได้รวมอยู่ภายในเส้นทางสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นสมาคมนักสู้แห่งแสงหรือวิญญาณนิล มันก็มิได้สำคัญ แต่ในเวลานี้ วิญญาณนิลทำให้เกิดความวุ่นวายดังกล่าว ดาราอู่อันต่างอยู่ในความตระหนกทันที และได้ติดต่อกับสมาคมนักสู้แห่งแสงอย่างรวดเร็ว พวกเขานั้นได้รับคำสั่งโดยเฉพาะให้มาตรวจสอบ
“สมาคมนักสู้แห่งแสงเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของวิญญาณนิล” ตาเฒ่าเว่ยกล่าว “อย่างไรก็ตามในครานี้ สมาคมนักสู้แห่งแสงก็มีภารกิจอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือคัดเลือกกลุ่มเยาวชนที่โดดเด่น นี่คือธรรมเนียมของสมาคมนักสู้แห่งแสง ท่านเจ้าเมืองก็ได้รับเรื่องราวนี้ไว้แล้ว และถ้าหากผู้ใดได้ถูกรับเลือก ดาราอู่อันก็จะพลันกลายเป็นหนึ่งในดินแดนที่ได้รับการคุ้มครองจากสมาคมนักสู้แห่งแสง”
“ข้าต้องการที่จะไปพบเชียนฮุ่ย” ถังเทียนมองไปยังอาโม่หลี่แล้วก็มองไปยังตาเฒ่าเว่ย
“เจ้าดูแคลนสมาคมนักสู้แห่งแสง กลุ่มดาราอมตะเป็นสถานที่ที่สมาคมนักสู้แห่งแสงมีอำนาจมากที่สุด” ตาเฒ่าเว่ยตำหนิเขา
“ทรงพลังขนาดนั้น?” ถังเทียนตกตะลึง ภายในใจของเขา กลุ่มดาราอมตะเป็นกลุ่มดาราที่ใหญ่อย่างยิ่ง
“เหลวไหล!” ตาเฒ่าเว่ยกล่าวต่อ “ถ้าหากเจ้าทั้งสองสามารถเข้าสู่สมาคมนักสู้แห่งแสงได้งั้นข้าก็คงไม่จำเป็นต้องกังวลอันใดแล้ว พวกเขาบ่มเบาะและดูแลศิษย์ของพวกเขาในวิธีการที่เหมาะสมแต่ละบุคคล และวิชาการต่อสู้ของพวกเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ประเภทที่พวกเราจะมีได้ เหล่าอาจารย์ต่างมีระดับสูงกว่ามาตรฐานนัก ในวันนั้น บุรุษที่มีนามว่าอู่ ถ้าเทียบระดับภายในสมาคมนักสู้แห่งแสงแล้วล่ะก็ มันเป็นได้แค่สาวกธรรมดาคนหนึ่ง ชื่อเสียงของวิญญาณนิลชั่วร้าย ขณะที่สมาคมนักสู้แห่งแสงสามารถถือได้ว่าดีงาม
ในขณะที่ถังเทียนและอาโม่หลี่ติดตามตาเฒ่าเว่ยไปยังคฤหาสน์ท่าเจ้าเมือง พวกเขาก็ตระหนักได้ว่ามันเต็มไปด้วยผู้คน
ซือหม่าเซียงซาน หานปิงหนิง และเหลียงชิวยืนเรียงรายด้วยความโกรธ
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชื่อเสียงของถังเทียนก็เพิ่มขึ้น จิตวิญญาณหอกเดียวดายขั้นเงิน จิตวิญญาณขุนพลมันถือว่าอยู่ในปราณแท้จริงขั้นสี่ และรวมกับที่มันเป็นระดับปรมาจารย์ในวิชาหอกด้วย แต่มิว่ามันจะน่ากลัวสักเท่าใด มันก็ยังคงถูกทำลายโดยถังเทียน และใต้เท้าอู่ผู้ซึ่งถูกเผาจนสลายกลายเป็นเถ้าถ่านที่มีความแข็งแกร่งอันน่าทึ่ง มันมีข่าวลือว่าอย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในขั้นห้าของปราณแท้จริง แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าเขาถูกเผาด้วยความบังเอิญก็ตาม
เพียงแต่ ขั้นห้าของปราณแท้จริงเนี้ยนะ….
นั่นมันคือระดับพลังที่หลายคนต่างใฝ่ฝันถึง!
จากผลงานที่โดดเด่นนี้ ภายในเมืองเมฆาดารา เขาก็คู่ควรกับการได้รับอันดับหนึ่ง ถังเทียนผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสวะของศิษย์สวะ ที่ซึ่งผู้คนหลายคนต่างหัวเราะเยาะเย้ยเขา เพียงแต่ในตอนนี้ มิมีใครกล้าที่จะเยาะเย้ยเขาแล้ว วิธีการที่ถังเทียนสังหารโจวเผิงอย่างดุร้ายและไม่กระพริบตาในก่อนหน้านี้ ได้ถูกแพร่กระจายไปยังผู้อื่นโดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์นั้น
อย่าได้ขัดใจเขาเป็นอันขาด!
อย่าได้ทำให้เขาโกรธเป็นอันขาด!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าได้คิดจะใช้กลโกงจากรูปลักษณ์อันโง่เขลาของเขา นั่นมันคือการเสแสร้งทั้งหมด มันคือการเสแสร้งอย่างแท้จริง
ทุกๆวันถังเทียนจะประกาศตัวเองว่า ‘บุรุษหนุ่มผู้เป็นหนุ่มเทพ’ และผู้ใดก็ตามที่คิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องตลก แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องจริง ถ้าหากเจ้าไม่เชื่อมันงั้นเจ้าก็คงจะเป็นคนโง่คนหนึ่งแล้ว!
ยามเมื่อที่ถังเทียนปรากฏตัว ศิษย์ทั้งหลายที่กำลังสนทนากันอยู่ก็จะเงียบลงในทันทีและเงียบสนิท ขณะที่ทุกคนต่างมองไปยังเขาเปล่งประกายไปด้วยความเลื่อมใส ทุกคนต่างก้าวไปด้านข้างและเปิดเส้นทางให้เขาเดิน
“อื้ม?” เขายืนอยู่ที่ระเบียง จ้องมองไปยังสถานที่ไกล มันเป็นบุรุษวัยกลางคนที่กำลังจ้องมองฉากทั้งหมด ด้วยใบหน้าที่แปกประหลาด
เหล่าศิษย์ต่างรวมกลุ่มกันอย่างเรียบง่ายบริสุทธ์ และสามารถที่จะทำให้พวกเขามีความรู้สึกเช่นนั้นได้ มันจะต้องบุคคลที่พวกเขาเลื่อมใสอย่างลึกซึ้ง
เขาอดไม่ได้ที่จะสำรวจถังเทียนอย่างจริงจัง
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ