ตอนที่ 050 – เสี่ยงตาย
ตอนที่ 050 – เสี่ยงตาย
ถังเทียนแรกเริ่มก็วิ่งไปสำรวจอาโม่หลี่อยู่ชั่วครู่ มองดูว่าเขาบาดเจ็บหนักเท่าใด แล้วเขาก็วิ่งอย่างกระหายไปเก็บเกี่ยวสินทรัพย์สงครามของเขา
ทุกผู้คนต่างหันมองไปด้านข้างอย่างแนบเนียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามผู้เชี่ยวชาญผู้ที่ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี
สามผู้เชี่ยวชาญรู้สึกอึดอัดใจอย่างยิ่ง ดังนั้นพวกเขาถึงกระทำตัวราวกับพวกเขากำลังสนทนาถึงบางอย่างกันอยู่
“เหตุการณ์ในครานี้ มันจะต้องมีบางอย่างผิดปกติ” เหลียงชิวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ถูกต้องแล้ว มันจะต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน ผนังแสงและหินนั้นทั้งหมดแตกต่างกัน ข้าสงสัยว่าจะต้องมีผู้ใดบางคนกระทำอันใดบางอย่าง ถ้าหากไม่ นี่มันคงจะจบลงแล้ว” ซือหม่าเซียงซานเป็นคนที่กระหายในการขบคิดกระบวนการนี้ และดวงตาของเขาก็ดูคล้ายดวงตาของวิฬาร์ในความมืด
ผู้คนรอบข้าง ผู้ซึ่งกำลังแอบฟังบทสนทนาของผู้เชี่ยวชาญทั้งสาม ก็เคร่งเครียดในทันที ขณะที่ทุกคนต่างรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง ในตอนนี้พวกเขาได้ยินมันจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสามนี้ พวกเขาก็รู้สึกกดดันและเคร่งเครียดในทันที
ในช่วงเวลานั้นเอง ก็เกิดเสียงระเบิดของความสุขขึ้นอย่างกะทันหัน ทำลายบรรยากาศรอบๆ
“อ้า อ้า! เจ้าสารเลวนี้ช่างเป็นแพะอ้วนจริง! โว้ โว้ โว้! ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินระดับสี่ โว้ โว้ โว้! หินดาราระดับสี่!”
ทุกอารมณ์และความเคร่งเครียดและบรรยากาศอันหมองมัว ก็ถูกทำลายในทันที
เหลียงชิวพึมพำ “มันเป็นเพียงยันต์จิตวิญญาณขั้นเงิน… และเป็นเพียงหินดารา… หรือเจ้าจงใจกระทำเช่นนี้…”
ซือหม่าเซียงซานพึมพำกับตัวเขาเอง “กระทำไปเถอะ กระทำต่อไป ได้โปรด อย่างน้อยเจ้าก็กระทำให้มันดีขึ้นเล็กน้อยแล้ว ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินและหินดาราอันใดกัน ทั้งหมดมันเป็นแค่เพียงการกระทำอันหลอกลวง!”
หานปิงหนิงก็แสดงความคิดเช่นกัน “แสดงภาพลักษณ์ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าต่อไป…”
ดวงตาของผู้คนรอบข้างต่างกระตุก และพวกเขาก็เสแสร้งทำเป็นมิได้ยินอันใดต่อไป ถังเทียนเป็นคนที่สามารถสังหารคนได้โดยไม่กระพริบตา พวกเขามิอาจจะขัดใจเขาได้อย่างแน่นอน เมื่อยามที่ถังเทียนสังหารโจวเผิงด้วยวิธีที่ตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพปราศจากความลังเล มันราวกับเป็นการฆ่าไก่ตัวหนึ่ง แม้กระทั่งผู้เข้าร่วมตระกูลโจวคนอื่นพลันได้รับเคราะห์กรรมเช่นเดียวกัน
บุคคลประเภทนี้ ไม่ควรที่จะไปขัดใจเขาได้!
“โว้! ร่างนี้ก็มีเหมือนกัน!”
“โว้! นี้ก็เป็นของดี!”
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามต่างมองหน้ากัน และทั้งหมดเห็นด้วยว่าควรจะหุบปากของพวกเขาไว้ ด้วยการหารือเกี่ยวกับเรื่องร้ายแรงดังกล่าวในบรรยากาศที่แปลกประหลาดน่าอึดอัดใจนี้ มันเป็นไปได้ยากนัก
ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงครึกโครมดังก้องให้ได้ยิน เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มล่วงหล่นลง
เอ๋?
ถังเทียนหยุดลงพลางมองไปเหนือหัวที่อยู่ข้างบน
เขาคุ้นเคยกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการพังทลายและยุบตัวขนาดนี้ที่เขาได้พบเจอและมีความรู้สึกแหลมคมขึ้น และไม่นานที่เท้าของเขาก็สั่นสะเทือน เขาสามารถรู้ได้เลยว่ามันจะทำให้เริ่มเกิดการยุบตัวลง และมันอยู่เหนือหัวพวกเขา
“พวกมันอยู่เหนือหัวพวกเรา!” ถังเทียนตะโกนไปยังหานปิงหนิง เนื่องจากในที่นี่ เขาคุ้นเคยกับนางมากที่สุด
ถ้าหากเป็นซือหม่าเซียงซาน เขาคงจะสงสัย ราวกับเขาไม่มั่นใจในถังเทียนว่ามีแรงจูงใจซ่อนเร้น แต่เป็นหานปิงหนิงที่จะไม่สงสัยในตัวเขา นางพลันยืนขึ้นพลางกล่าวถาม “ผู้ใดในที่นี่รู้วิธีใช้ค้อนบ้าง?”
“ข้าเอง!” บุรุษร่างใหญ่และแข็งแรงยืนขึ้น ถือค้อนฟักทองยาวภายในมือของเขา มันเป็นค้อนขนาดใหญ่อันแปลกประหลาดที่ทำให้ผู้คนถึงกับสูดลมหายใจเข้า ด้วยร่างใหญ่และกำยำ ราวกับร่างของเขาก่อสร้างมาจากทองแดงและเหล็ก เมื่อเทียบกับอาโม่หลี่แล้วเขาอยู่ในระดับที่สูงกว่ามาก
บุรุษร่างใหญ่สูดหายใจเข้า ทันใดนั้นก็ตะโกน ยกตั้งขึ้นและค้อนฟักทองภายในมือของเขาก็สว่างวาบด้วยรังสีสีเหลือง ค้อนของเขาตุบไปยังส่วนบนของถ้ำ!
ตูม!
พื้นถ้ำที่เกิดขึ้นจากหินพลันพังทลายและหินหลายก้อนก็ล่วงหล่น
เงาร่างที่ว่องไวพลันทิ้งตัวลงไปและคว้าบุรุษร่างใหญ่เอาไว้ มันคือซือหม่าเซียงซาน เขาสะบัดข้อมือของเขา และบุรุษร่างใหญ่ด้วยร่างกำยำของเขาก็เหินไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
เงาหลายร่างก็ล่วงหล่นอย่างช้าๆ
“อาจารย์ใหญ่” “อาจารย์ใหญ่!”
หลายคนต่างกรีดร้องออกมาพร้อมกัน
สีหน้าของถังเทียนดูประหลาดใจ “ตาเฒ่า ท่านก็อยู่ที่นี้ด้วยงั้นหรือ!”
อาจารย์ใหญ่ของผลึกฟ้า นางแอ่นเหนือ อสูรอำมหิต และเช่นเดียวกับตาเฒ่าเว่ย ทั้งสี่ล้อมรอบอยู่ที่บุคคลหนึ่ง
ใต้เท้าอู่!
หลายคนต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับการต่อสู้มาครั้งใหญ่
“นี่ เจ้าคนที่เรียกว่าอู่ เจ้าจะมิสามารถหลบหนีไปได้อีกแล้ว!” อาจารย์ของอสูรอำมหิตตะโกน “เจ้าได้ติดตั้งกับดักเอาไว้ เจ้าจะต้องมีเจตนาอันใดแน่!”
“ข้าขอแนะนำทางที่ดีเจ้าจะต้องกล่าวบอกเรื่องราวมาตามตรง!” อาจารย์ใหญ่ของนางแอ่นเหนือกล่าวอย่างเย็นชา
อาจารย์ใหญ่ของผลึกฟ้าจ้องมองไปยังตาเฒ่าเว่ย ตาเฒ่าเว่ยก็ชำเลืองมอง “เจ้าจะมองมาที่ข้าเพื่ออันใดกัน?”
อาจารย์ใหญ่ผลึกฟ้าพึมพำ “ข้าพนันว่าเจ้ารู้อยู่แล้ว พวกเราเป็นหุ้นส่วนกันมากว่ายี่สิบปี เจ้ามีความตั้งใจอันใด ข้าสามารถบอกพวกมันได้ในทันที”
เหล่าศิษย์ทั้งหมดต่างตกตะลึง แม้กระทั่งอาจารย์ใหญ่อีกสองคนก็ยังตกตะลึง ตาเฒ่านี้ไม่ได้ดูน่าประทับใจนัก แต่เขาและอาจารย์ใหญ่ผลึกฟ้าต่างเคยเป็นหุ้นส่วนกัน ตาเฒ่าผู้นี้มาจากที่ใดกัน?
ซือหม่าเซียงซานและเสิ่นหยวนจ้องมองด้วยความงุนงง พวกเขาได้ยินมาก่อนว่าตาเฒ่าเว่ยและอาจารย์ใหญ่ของพวกเขามีข้อขัดแย้งกัน แต่มิมีผู้ใดคาดคิดว่าพวกเขาจะเป็นหุ้นส่วนกันมาก่อน สีหน้าเสิ่นหยวนซีดขาวอย่างที่ไม่เคยเป็น ราวกับรู้วันนี้จะต้องมาถึง ผลึกฟ้าและสถาบันคาราเมลต่างเป็นพี่น้องกันงั้นหรอกหรือ? แล้วที่เขายังคงมุ่งหน้าไปหาเรื่องกับสถาบันคาราเมล...
อาจารย์ใหญ่ของสถาบันผลึกฟ้ามีชื่อเสียงภายในเมืองเมฆาดารา มิมีผู้ใดรู้เกี่ยวกับอดีตของเขา แต่ทุกคนรู้ว่าเขาแข็งแกร่งและเป็นคนที่มีเกียรติไม่แม้แต่จะเห็นแก่ตัว
ตาเฒ่าเว่ยหัวร่อ “แน่ล่ะ เจ้ามองออก แต่มันก็ไม่ได้ยากอะไรที่ข้าจะบอกออกไปเช่นเดียวกัน เหล่าสมบัติทั้งหมดจะต้องเป็นของข้า! สถาบันคาราเมลเล็กนักและยากจน ศิษย์ทั้งสองของข้าไม่ค่อยมีอันใดเลย พวกเราน่าสงสารเพียงใด!”
ซือหม่าเซียงซานและคนอื่นต่างแสดงออกอย่างแปลกๆ แท้จริงแล้ว เหล่าคนที่อยู่ในสังกัดเดียวกับก็มักจะมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ตาเฒ่าเว่ยและถังเทียนมีบุคลิกที่คล้ายคลึงกันนัก
“ตกลง!” อาจารย์ใหญ่ของนางแอ่นเหนือตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ข้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน!” อาจารย์ใหญ่ของอสูรอำมหิตพยักหน้า
พลังของตาเฒ่าเว่ยทำให้สองอาจารย์ใหญ่ประหลาดใจนัก และสมบัติดาราขั้นทองแดงระดับสามสำหรับพวกเขา มิได้มีค่ามากนัก การที่จะต้องจ่ายในราคาถูกเพื่อให้ได้เป็นสหายกับเขา พวกเขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ก็ได้ บอกได้เลยว่า จะมิมีผู้ใดในที่นี้จะแย่งชิงไปจากเจ้า” อาจารย์ใหญ่ผลึกฟ้ากล่าวอย่างเย็นชา
“เจ้าสามารถที่จะเดาได้งั้นหรือ? ฮ่าฮ่า!” ใต้เท้าอู่หัวร่อออกมาดัง “เพียงแค่พึ่งพาสองสามคนรวมกับเจ้า เจ้าจะทำอันใดได้? เรียกผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงเบื้องหลังของพวกเจ้าทั้งหมดเข้ามาได้เลย!”
“ข้าคาดเดามิได้?” ตาเฒ่าเว่ยหัวร่ออย่างเย็นชา “ยามเมื่อข้าพบเห็น [ดวงตาโลหิต] ข้าก็เข้าใจมันทันที ให้ข้าบอกเจ้า บังเอิญว่าข้านั้นก็มี [ดวงตาโลหิต] ของกลุ่มดารากล้องจุลทรรศน์เช่นเดียวกัน สมบัติดาราขั้นทองแดง มันใช้ได้เพียงอย่างเดียว และมันใช้เพียงระบุเส้นชีพจรโลหิตว่าดีหรือไม่ดี ข้ากล่าวถูกหรือไม่?”
“เจ้า…” การแสดงออกของใต้เท้าอู่แข็งค้าง
“นั่นคือการคาดเดาที่เยี่ยมมาก เจ้าวางแผนได้ยิ่งใหญ่นัก และทำให้เจ้ามืองใช้งานชุมนุมยุทธ์มาที่นี่ มีโอกาสประมาณเก้าถึงสิบส่วนที่เจ้าจะได้รับเส้นชีพจรโลหิต แล้วให้ข้าเดาอีกว่า เจ้าจะต้องครอบครองสักสองวิชาลับของการบ่มเพาะเส้นชีพจรโลหิต แต่เหล่าวิชาลับนั้นต้องการโลหิตอย่างมาก และมันต้องการแบบที่สมบูรณ์ด้วย ถ้าเจ้าทำสิ่งนี้ภายในกลุ่มดาราในเส้นทางสวรรค์ เจ้าอาจจะดึงความสนใจจากผู้อื่นได้ ดังนั้นเจ้าจึงมายังดาราอู่อันแห่งนี้ ซึ่งเป็นดาราที่อยู่พรมแดนนี้ เจ้าเสแสร้งใช้ประตูดาราแห่งนี้ จัดฉากเหตุการณ์ต่างๆ และแม้กระทั่งผู้คนจะตายตก ก็จะมิมีผู้ใดสงสัยและตั้งคำถามจากเจ้า ทำไมมันจะไม่มีผู้คนที่เสียชีวิตภายใต้การบุกเบิกประตูดารากัน? การเสียชีวิตมากมายเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก!”
ตาเฒ่าเว่ยจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ใต้เท้าอู่ด้วยเจตนาสังหารภายในดวงตาของเขา
“ประตูดาราเป็นของแท้ และวงกตวิญญาณก็ของแท้เช่นเดียวกัน เพื่อผลประโยชน์ของทุกคน ทุกคนก็กลับกลายเป็นโง่เขลา เจ้าจึงดำเนินการอย่างเงียบๆ เก็บเกี่ยวเส้นชีพจรโลหิต ใช้ดวงตาโลหิตแยกแยะความแตกต่างและค้นหาเป้าหมาย และทำให้พวกเขาหายไปอย่างเงียบๆ และเก็บเกี่ยวเส้นชีพจรโลหิตที่เจ้าต้องการ เนื่องจากเจ้าได้ติดตั้งวงกตจิตวิญญาณไว้แล้ว เจ้าเพียงมิได้รู้ว่าเจ้าจะล้มเหลวในขั้นตอนสุดท้าย”
ตาเฒ่าเว่ยจ้องมองอย่างจดจ่อไปที่ใต้เท้าอู่ เน้นคำกล่าวที่ละคำอย่างช้าๆ “ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่? ใต้เท้าอู่แห่งวิญญาณนิล!”
ใต้เท้าอู่หวาดกลัวอย่างยิ่งจ้องมองไปยังตาเฒ่าเว่ย “เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่”
“โว้! ตาเฒ่า ท่านช่างเก่งกาจยิ่งนัก!” ถังเทียนตะโกนขณะที่เขามองด้วยความตะลึง
บรรยากาศและอารมณ์ทั้งหมดต่างสลายไปภายในอากาศทันที ท่าทางอันลี้ลับและความเข้าใจอันลึกซึ้งของตาเฒ่าเว่ยถูกทำลายในทันที
ตาเฒ่าเว่ยกรอกตาของเขา เขาอดมิได้ที่จะก้มหน้าของเขาพลางตะโกน “มันจะทำให้เจ้าตายหรือไม่ถ้าเจ้าจะเงียบสักครา?!”
“อา! ทำไมข้าจะต้องเงียบด้วยเล่า!” ถังเทียนประหลาดใจ
ตาเฒ่าเว่ยหันกลับอย่างหงุดหงิดพลางมองไปยังอาจารย์ใหญ่สถาบันผลึกฟ้า “ใช่แล้ว มันก็ประมาณนี้แหละ” แล้วไม่ลืมที่จะกล่าวเสริมว่า “ข้าขอกล่าวไว้ก่อนเลย เหล่าสมบัติดาราขั้นทองแดงจะต้องเป็นของข้า!”
ใต้เท้าอู่เงยหน้าขึ้นและใช้พลังของเขาทั้งหมดกรีดร้อง “มันเป็นใครกัน? ใครที่มันทำลายแผนการข้า! ออกมา! ออกมา!”
“หยุดตะโกนได้แล้ว คนอื่นๆต่างมีสถานะที่สูงส่งและพวกเขาจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่นอน พวกเขาจะลงโทษเจ้าแน่” ตาเฒ่าเว่ยกล่าวอย่างอวดดี “เจ้าจะต้องยอมรับผิดแต่โดยดีเสียเถอะ แล้วเจ้าจะไม่ทรมานมากนัก พวกเราก็จะไม่ต้องเสียพลังมากมาย”
“ถูกต้องแล้ว!” อาจารย์ใหญ่แห่งนางแอ่นเหนือกล่าวอย่างแค้นเคืองขณะที่เขากำลังคร่ำครวญอยู่ “มันจะต้องมีผู้อาวุโสที่กระทำผิดร่วมกันกับเจ้าและจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าไปแน่!”
พวกเขาทั้งหมดเข้าใจว่าจะต้องมีผู้คนที่อยู่ในระดับสูงช่วยเหลือเขาเป็นแน่ ถ้าหากไม่ เพียงด้วยพลังของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะติดตั้งกับดักพวกนี้ ความแข็งแกร่งของวงกตวิญญาณไม่สามารถคาดเดาได้ รวมกับสมบัติดาราขั้นทองแดงระดับสามและฝ่ายตรงข้ามนี้ มันเป็นวิชาที่ไร้ที่ตินัก ทั้งสี่ต่างอยู่ในนี้มาเป็นเวลานานแล้วและพวกเขาก็มิได้สัมผัสอันใดได้เลย
“เหอะ พวกเจ้าทั้งหมดเนี้ยนะที่จะหยุดข้าได้?” ใต้เท้าอู่หัวร่ออย่างเย็นชา ความหวาดกลัวบนใบหน้าของเขาหายไป รังสีของเขาก็เพิ่มขึ้น เขากล่าว “ตั้งแต่ที่เจ้าไม่ต้องการออก งั้นข้าจะบีบเจ้าออกมาเอง!”
กระบี่เรียวยาวสีดำของใต้เท้าอู่ภายในมือของเขาก็เริ่มที่จะวาดโค้งขึ้น และด้วยการกระแทกมันก็เกิดเสียงที่ทำให้หูของผู้คนอื้ออึง
ร่างของเขาก็เคลื่อนไหวราวกับเขาเป็นอสูรกาย ลำแสงเงาร่างสีดำของเขารวดเร็วดุจดั่งอัสนีบาตพุ่งไปยังอาจารย์ใหญ่แห่งนางแอ่นเหนือ
“ระวัง! มันเป็นสมบัติขั้นทองแดง [กระบี่ทะลวงร่าง] จากกลุ่มดาราปลาบิน!”
อาจารย์ใหญ่แห่งนางแอ่นเหนือกลืนน้ำลายพลางสงบนิ่ง กระบี่ของนางปลดปล่อยน้ำโปรยออกมา ได้ยินเสียงราวกับพายุฝนโปรยปราย ที่เหลือทั้งสามมิได้ลังเลและพลันออกกระบวนท่าเช่นเดียวกัน
ด้วยแรงระเบิดพลังมันก็ท่วมท้นจากสี่ทิศทาง
ผู้คนรอบๆต่างตกอยู่ในอาการตกใจ แรงระเบิดพลังปราณแท้จริงขั้นห้าปะทะชนกันก่อเกิดเป็นพลังทำลายล้าง
ซือหม่าเซียงซาน หานปิงหนิง และเหลียงชิวมิได้ถอยออกไป พวกเขาจับศาสตราวุธภายในมือของพวกเขา ถ้าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็จะสามารถรับมือได้ตลอดเวลา ถังเทียนก็มิได้ถอยไปเช่นกัน หลังจากทั้งหมดนี้ มันหายากนักที่จะได้พบเห็นศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้
ใต้เท้าอู่มีความสามารถทรงพลังมากเหนือกว่าที่ผู้คนจะจินตนาการได้ หนึ่งปะทะสี่ และเขายังคงตอบรับมัน ร่างของเขารวดเร็วยิ่ง ถังเทียนมิสามารถจับตามองภาพเงาสีดำและเงาร่างของเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์ กระบี่ภายในมือของใต้เท้าอู่ที่ฮึกเหิมบิดทะลวงเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
อย่างไรก็ตาม ก่อนการต่อสู้อันรุนแรงนี้ ใต้เท้าอู่ก็ได้รับบาดเจ็บมาแล้ว และก็มีโลหิตไหลซึมเล็กน้อย คราแรกมันเริ่มที่จะชุ่มโชกชุดของเขา และการเคลื่อนไหวของกระบี่ของเขาก็เริ่มที่จะเชื่องช้าลง
อาจารย์ใหญ่ทั้งสี่เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีประสบการณ์อย่างมากในการต่อสู้นี้ พวกเขาฉลาดและมั่นคงเกี่ยวกับกลยุทธ์การต่อสู้ และพวกเขาทั้งหมดก็มีเจตนาที่จะหน่วงเหนี่ยวใต้เท้าอู่
ใต้เท้าอู่รู้สึกถึงเจตนาของทั้งสี่พลางกระตุ้นปราณแท้จริงของเขา บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏสีแดงก่ำ ความเร็วของเขาก็พลับเพิ่มขึ้นและกระบี่เรียวสีดำภายในมือของเขาก็เกิดเสียงดังแหลม
สีหน้าของทั้งสี่ต่างแข็งค้าง พวกเขารู้ได้ว่าใต้เท้าอู่จะเสี่ยงชีวิตของเขา เขาคงจะใช้ออกพลังของเขาทั้งหมด
เงาร่างของใต้เท้าอู่พุ่งออกไปทั้งสองข้าง การเปลี่ยนแปลงที่มิสามารถรับรู้ได้ปรากฏขึ้นในกระบวนการต่อสู้ของทั้งสี่ ลำแสงเยือกเย็นปรากฏขึ้นในดวงตาของใต้เท้าอู่ ร่างของเขาส่ายและหลอกล่อทั้งสี่เคลื่อนไหวออก ด้วยเสียงตะโกนของเขา กระบี่เรียวยาวภายในมือของเขาก็ปลดปล่อยลำแสงสว่างแพรวพราว
ตูม!
กระบี่ทะลวงร่างระเบิดออก แปรเปลี่ยนออกไปเป็นสิบเสี้ยว ราวกับฝนที่เทกระหน่ำ แตกกระจายจากหนึ่งไปทั่วทุกที ราวกับเป็นศรอันแหลมมากมาย ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่ทั้งสี่แปรเปลี่ยนไป และพวกเขาพลันออกกระบวนท่าป้องกันเพื่อปกป้องร่างของพวกเขา!
ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ร่างของใต้เท้าอู่ราวกับปลาไหล และได้โอกาสที่จะผละออกจากการต่อสู้
วิชาฝ่ามือของเหลียงชิว แส้ของซือหม่าเซียงซาน และกระบี่ของหานปิงหนิง ชักออกมาพร้อมกัน พวกเขาทั้งสามชาญฉลาดอย่างยิ่ง พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะต้องขัดขวางการหนีของใต้เท้าอู่
ใต้เท้าอู่สูดหายใจเข้าลึก สีหน้าของเขาแดงแจ๋เป็นสีแดงเข้ม ขณะที่เขากวัดแกว่งแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว เสียงดังก็ปะทะไปที่ทั้งสามคนด้วยกัน
ตูม!
แขนเสื้อของเขาต่างถูกทำลายออกเป็นชิ้นๆ และเผยให้เห็นผิวของเขาและโลหิตสดๆหลั่งไหลทั่วแขนทั้งสองของเขา
ใต้เท้าอู่ถุยโลหิตสดๆออกมาจากปากของเขา ความดุร้ายและเล่ห์เหลี่ยมปรากฏขึ้นมาภายในดวงตาของเขา ด้วยการหยิบยืมแรงนี้ เขาก็เริ่มเพิ่มความเร็วของเขาขึ้น
ถังเทียนตกตะลึง ฝ่ายตรงข้ามก็รีบเร่งพุ่งเข้ามาหาเขา!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ