ตอนที่ 038 – เฮ่อ!
ตอนที่ 038 – เฮ่อ!
[คั่นหนังสือ : ชื่อตอนคือ 鹤/เฮ่อ ที่แปลว่า กระเรียน แต่มันเป็นชื่อคนครับฉะนั้นขอทับศัพท์เพื่อให้มันไม่ปนมั่วกับ ผู้อาวุโสกระเรียน]
เสียงแหบต่ำของผู้อาวุโสกระเรียนดังก้องทั่วห้องโถง
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทุกคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก กล่าวตามตรง พวกเรา เพื่อนิกายกระเรียนบรรลุผ่านมาถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะเป็นเรื่องที่ซาบซึ้งใจที่พวกเรามีในตอนนี้ พวกเจ้าทุกคนต่างตกอยู่ภายในสถานการณ์กดดันอย่างมาก ถ้ามิได้ความสามัคคีของพวกเรา กลุ่มดาราสวรรค์คงจะมีผู้ครอบครองคนใหม่แล้ว ประวัติของพวกเราย้อนกลับไปไกลนัก และพวกเราก็มีอดีตอันรุ่งโรจน์ แต่ตอนนี้ที่พวกเราอยู่ในขั้นนี้ ถ้าพวกเรากล่าวถึงอดีตของพวกเรา มันคงจะเพียงเรื่องน่าหัวร่อ ถ้าพวกเรายังเป็นอยู่เช่นนี้ มิมีใครจะรู้ได้ว่านิกายกระเรียนจะอยู่ได้นานเพียงใด”
“ถึงกระนั้น ข้าก็สามารถที่จะเห็นวันที่จะฟื้นตัวของนิกายกระเรียน!” ดวงตาของอาวุโสกระเรียนเปล่งประกายสดใสอย่างมาก
“กายากระเรียนเป็นหนึ่งในมรดกตกทอดที่นิกายกระเรียนได้สูญหายไป แต่ในตอนนี้ มันกลับปรากฏขึ้นมาอีกคราแล้ว เพื่อโอกาสของพวกเรา นี้อาจจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของพวกเรา ถ้าหากพวกเรามิได้นำมันกลับมายังนิกายกระเรียน นิกายกระเรียนของพวกเราคงจะหายไปภายในสิบปีนี้”
ห้องโถงกระเรียนเต็มไปด้วยความเงียบกริบ ผู้อาวุโสกระเรียนถอนหายใจขณะที่เขากล่าว ฉุดลากหัวใจของทุกผู้คน
“ดังนั้น ข้าต้องการหนึ่งคนเพื่อที่จะนำมรดกตกทอดของนิกายกระเรียนที่สูญหายไปเก้าร้อยปีกลับคืนมา”
ผู้อาวุโสกระเรียนดูเคร่งขรึม ดวงตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแหลมคมและสำรวจผ่านไปทั่วผู้คนด้านล่างของเขาพลางกล่าว
“การสัมผัสรับรู้ของข้าเลือนลางและข้ามิสามารถที่จะระบุตำแหน่งเฉพาะที่ที่กายากระเรียนปรากฏขึ้นมาได้ ที่นั่นมีผู้คนมากหลายนัก โอกาสมันยังเบาบาง มันอาจจะใช้เวลาถึงสิบปี หรือแม้กระทั่งตลอดชีวิต และพวกเราอาจจะมิได้อันใดเลย เพื่อจากกลุ่มดารากระเรียนสวรรค์อันสงบนี้และออกไปเผชิญอันตรายบนเส้นทางสวรรค์ เจ้าอาจจะสูญสิ้นชีวิตได้เมื่อใดก็ได้ ภารกิจครานี้อันตราย ตรากตรำ และมีโอกาสน้อยนิด มีใครต้องการที่จะอาสา?”
เหล่าศิษย์ต่างมองหน้ากัน ขณะที่พวกเขาคิดว่าการสัมผัสรับรู้ของผู้อาวุโสกระเรียนสมควรจะรับรู้ได้อย่างน้อยพื้นที่ใหญ่ๆ ผู้ใดจะรู้ได้ว่าเขามิสามารถรับรู้สถานที่มิแน่ชัด
เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะต้องมองหาไปทั่วโลกอย่างเดาสุ่ม?
ดวงตาหลายคนแสดงออกด้วยความกลัว กลุ่มดารากระเรียนสวรรค์สงบสุขมาอยู่เสมอและมิมีข้อขัดแย้งใดๆ มันเหมือนกับเป็นโลกที่เป็นดั่งสรวงสวรรค์ แม้ว่ามันจะมิมีความมั่งคั่งแต่มันก็มิมีอันตรายเช่นเดียวกัน แม้ว่าทุกคนต้องการจะรุ่งเรืองดั่งเฉกเช่นในอดีต พวกเขาก็ต่างคุ้นเคยต่อการใช้ชีวิตสงบสุขนี้
ความคิดการค้นหาเป้าหมายที่ระบุไม่ได้ภายในโลกนี้ และเพื่อให้ได้ธรรมเนียมจากฝ่ายตรงข้ามฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องตลกที่เป็นไปไม่ได้
มิมีใครกล่าวออกไป แต่ละคนและเหล่าผู้อาวุโสต่างก้มหน้าของพวกเขาลงและบางคนถึงกับผละถอยหลังภายในฝูงชน หวาดกลัวที่ผู้อาวุโสกระเรียนอาจจะชี้มาที่พวกเขา
ความผิดหวังสว่างวาบขึ้นภายในดวงตาของผู้อาวุโสกระเรียน
ทันใดนั้นเสียงเงียบและสงบนิ่งก็มีเสียงดังก้องภายในห้องโถง
“ศิษย์เฮ่อขออาสาทำภารกิจนี้เอง”
บุรุษร่างสูงเดินหน้ามา รูปร่างของเขามั่นคง เหมือนดั่งกระบี่ เขาสะดุดตาทั่วทั้งห้องโถง ใบหน้าของเขาอ่อนโยนดั่งหยก ด้วยท่าทางสงบสำรวม ดวงตาของเขามืดเข้มและสดใส คล้ายท้องฟ้ายามราตรี
ชุดของเขาขาวราวกับหิมะ ปราศจากรอยด่างจากฝุ่นละออง ผมสีเงินของเขายาวลงมาดุจดั่งน้ำตก ปกคลุมหัวไหล่ของเขา
ความสุขบางเบาปรากฏขึ้นผ่านดวงตาของผู้อาวุโสกระเรียน
“มีผู้ใดที่จะต้องการอาสาอีกหรือไม่?” ผู้อาวุโสกระเรียนกล่าวถามไปรอบๆ
มิมีใครเปิดปากของพวกเขา
มันเป็นไปได้ยากที่จะเห็นผู้อาวุโสกระเรียนโมโหหรือมีความสุข เขาพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น การตัดสินใจเป็นอันสิ้นสุด”
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ห้องอันมืดสลัวสว่างวาบด้วยแสงที่ขนาดเท่าเมล็ดถั่วจากตะเกียง เสียงกระทบดังสะท้อนไปมา
ผู้อาวุโสกระเรียนสังเกตบุรุษหนุ่มที่นั่งอยู่เยื้องไปทางขวาเบื้องหน้าของเขา จากรูปลักษณ์ของเขา เขาดูสงบนิ่งไม่เข้ากับวัย ผู้อาวุโสกระเรียนถอนหายใจเล็กน้อยพลางกล่าวทำลายความเงียบ “มารดาของเจ้า นางมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?”
เฮ่อคำนับพลางกล่าวอย่างสง่างามว่า “มารดาข้ายอมรับการตัดสินใจแล้ว”
“เยี่ยมมาก” ผู้อาวุโสกระเรียนพยักหน้าพลางมองไปที่ใบหน้าที่คุ้นเคยด้านหน้าของเขาราวกับมีภาพเงาของบุคคลอื่นปรากฏขึ้นภายในหัวของเขา “ข้าระลึกถึงบิดาของเจ้ายามเมื่อข้าพบเห็นเจ้า ข้าเฝ้ามองดูเขาเติบโตขึ้นและเจ้าก็โดดเด่นมากกว่าบิดาของเจ้า วิญญาณของบิดาเจ้าคงจะเป็นสุขแล้ว”
“ท่านยกยอข้าเกินไปแล้ว” มันเป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของเฮ่อ
“ยามเมื่อเจ้าถือกำเนิด บิดาของเจ้าตั้งชื่อให้เจ้าว่าเฮ่อเพื่อหวังว่าเจ้าจะนำเกียรติมาให้กับนิกายกระเรียน ผู้ใดจะรู้ว่าภารกิจอันยิ่งใหญ่ของนิกายกระเรียนที่หนักหนาจะกลายมาเป็นเจ้าต้องแบกรับมันในวันนี้” ผู้อาวุโสกระเรียนถอนหายใจ
เฮ่อคำนับเล็กน้อยอีกครา “โปรดอย่าได้เป็นกังวลขอรับ”
“ภายในใจของข้า เจ้าถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพียงแต่ข้ามิเคยคาดคิด...เฮ้อ…” ผู้อาวุโสกระเรียนถอนหายใจอีกคราจ้องมองไปยังบุรุษหนุ่ม “เจ้าโดดเด่นที่สุดในศิษย์รุ่นที่สามนี้ หากจะเก็บเจ้าไว้ในนิกายกระเรียนพรสวรรค์ของเจ้าก็คงจะเสียเปล่า ถ้าเจ้า...ยังมีสิ่งที่ต้องเพื่อตัวเองในวันนี้ เจ้าก็มิจำเป็นจะต้องทำเช่นนี้ นิกายกระเรียนมิได้ดึงดันเจ้า มารดาของเจ้าผิดหวังอย่างมากกับนิกายกระเรียน แท้จริงแล้ว ข้าก็เช่นกัน”
ใบหน้าของเฮ่อยังคงยังสงบ “มารดาข้ารักบิดาข้าอย่างลึกซึ้ง นางมีความสุขยิ่งนักที่ข้าสามารถบรรลุเป้าหมายของความหวังบิดาข้าได้”
“ใช่ มันมิใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาในปีนั้น มารดาของเจ้าเป็นที่เคารพอย่างดี” ผู้อาวุโสกระเรียนนึกถึงเรื่องราวในอดีตก่อนที่จะกลับมาสู่ความเป็นจริงอย่างรวดเร็วพลางหัวร่อ “ยามเมื่อเจ้าชราลง มันจะทำให้เจ้าระลึกถึงอดีต พลังของเจ้าโดดเด่นอย่างยิ่งมากกว่าเหล่าผู้อาวุโสคนอื่น นั้นไม่เป็นกังวล เพียงแต่ตอนที่เจ้ายังเยาว์ เจ้ามิได้มีประสบการณ์เดินทางไกลมากนัก นั่นเป็นสิ่งที่ข้ากังวล ข้าผจญไปบนเส้นทางสวรรค์ยามเมื่อข้ายังเป็นหนุ่ม และมันอันตรายยิ่งนัก เจ้าจะต้องจดจำไว้ว่าบางคราปัญญามันมีประโยชน์กว่าหมัดของเจ้า”
“ขอรับ” เฮ่อคำนับตอบ
“ภารกิจของนิกายกระเรียนอยู่ในมือเจ้าแล้วตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วเช่นกัน ข้ามีสิ่งของจะมอบให้เจ้า”
สีหน้าของผู้อาวุโสกระเรียนดูเข้มงวด เขาลุกขึ้นยืน พลางเดินไปที่มุมห้องและนำกล่องไม้ที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นและเดินกลับมาที่นั่งของเขา
“หลายคนคิดว่าสมบัติดาราของกลุ่มดารากระเรียนสวรรค์คือเสื้อคลุมกระเรียนสวรรค์ขั้นเงิน” ผู้อาวุโสกระเรียนแลดูเข้มงวด
เฮ่อได้ยินพลางอ้าปากค้าง นี่เป็นคราแรกที่เขามีอาการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เขาเข้ามายังกระท่อมนี้
ผู้อาวุโสกระเรียนหัวร่อออกมา เฮ่อเป็นผู้ที่สมบูรณ์แบบในทุกๆด้านและมีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ผู้อาวุโสรู้สึกอึดอัดใจคือเขานั่นเติบโตไวเกินไป การเติบโตของเฮ่อนั้นมีอายุมากกว่าอายุของตัวเขาเอง มันราวกับมิมีสิ่งใดที่จะทำให้เขาประหลาดใจได้
“ฮ่าฮ่า แม้กระทั่งเฮ่อยังตกใจ ช่างหายากนัก” ผู้อาวุโสกระเรียนหัวร่อ
เฮ่ออับอายเล็กน้อย แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้ายามปกติอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสกระเรียนก็หยุดหัวร่อและการแสดงออกของเขาก็กลับมาเคร่งขรึมอีกครา “เสื้อคลุมกระเรียนสวรรค์ขั้นเงินมักจะถูกพบเห็นว่าเป็นดั่งมรดกสืบทอดของนิกายกระเรียน มันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสมบัติระดับสูงของกลุ่มดารากระเรียนสวรรค์ กลุ่มดารากระเรียนสวรรค์เป็นกลุ่มดาราเล็กๆ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ยังมิมีผู้ใดรู้ว่าสมบัติดาราที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่ [เสื้อคลุมกระเรียนสวรรค์] ขั้นเงิน แต่เป็น [กระบี่กระเรียน] ขั้นทอง
ร่างของเฮ่อแข็งค้างอย่างไม่คาดคิด และสีหน้าของเขาก็แต่งแต้มไปด้วยความไม่เชื่อ
ผู้อาวุโสกระเรียนดูคล้ายภาคภมิใจ เพียงแต่เก็บน้ำเสียงของเขาแน่นดั่งโลหะ
“กระบี่เล่มนี้ถูกถือเป็นสมบัติดาราชิ้นแรกยามเมื่อปรมาจารย์กระเรียนเข้าสู่กลุ่มดารากระเรียนสวรรค์คราแรก และมันเป็นกระบี่ที่ติดตามอยู่ข้างกายเขา พลังของเขาน่าอัศจรรย์ จนไปถึงจุดที่เขากลายเป็นเซียน และกระบี่เล่มนี้เพียงถูกชักออกมาจากฝักเพียงสามครา ฉะนั้นแทบจะมิมีใครรู้เกี่ยวกับมัน และแม้แต่ศิษย์ที่อยู่รอบตัวเขาก็มิรู้เกี่ยวกับมัน ปรมาจารย์กระเรียนล่วงรู้ได้ว่านิกายกระเรียนจะตกต่ำลง และไม่อยากให้เป็นที่ดึงดูดผู้คนที่มีความโลภในกระบี่ มันจึงมิได้ปรากฏออกมาตั้งแต่ที่เขาได้จากไป ทุกรุ่นจะมีเพียงศิษย์คนเดียวที่ได้รับเลือกให้พิทักษ์กระบี่เล่มนี้ และข้าก็คือศิษย์คนนั้นที่เป็นคนพิทักษ์กระบี่ในรุ่นนี้”
เฮ่อมองผู้อาวุโสกระเรียนด้วยความงุนงง เขามิคาดคิดว่านิกายของเขาจะมีความลับที่รู้เพียงศิษย์คนเดียวเท่านั้น
สมบัติดาราขั้นทอง!
ถ้าหากข่าวนี้แพร่ออกไป มันคงจะกระตุ้นให้เกิดหายนะในทันที เหล่าผู้เชี่ยวชาญอาจไม่เสี่ยงเพียงเพื่อ [เสื้อคลุมกระเรียนสวรรค์] ขั้นเงิน แต่ถ้าพวกเรากล่าวถึงสมบัติดาราขั้นทองแล้วละก็ เหล่าผู้คนในตำนานอาจจะมิสามารถเก็บความสงบนี้ไว้ได้
แต่ละกลุ่มดาราอาจจะมีมากกว่าหนึ่งของความลับดารา สมบัติดาราชิ้นเหล่านี้ต่างสืบทอดมาประสบการณ์นานเป็นล้านล้านปี สมบัติดาราที่เกิดภายในกลุ่มดาราเดียวกันจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน สมบัติดาราเหล่านี้มักมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่สมบัติดาราที่ต่างกันก็มีพลังต่างกันหลายช่วงตัว ฉะนั้น ผู้คนจะจำแนกสมบัติดาราไว้ในระดับต่างๆ
ขั้นโลหะ ขั้นทองแดง ขั้นเงิน ขั้นทอง และสมบัติขั้นเซียน
อันดับสูงสุดจะเป็นสมบัติขั้นเซียน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น อย่างเช่นกระบี่ใจคลั่งราชสีห์ของกลุ่มดาราสิงห์ และคันศรสวรรค์ของกลุ่มดาราธนู มีเพียงกลุ่มดาราใหญ่ๆเท่านั้นที่สามารถให้กำเนิดสมบัติขั้นเซียน
สมบัติขั้นทองเป็นรองเพียงสมบัติขั้นเซียนเท่านั้น นักสู้ทุกคนปรารถนาในสมบัติเหล่านี้ทุกยามเวลา สมบัติขั้นทองแต่ละชิ้นไม่สามารถหาได้ตามตลาด มีเพียงกลุ่มดาราอันดับต้นที่เหมาะสมสามารถที่จะกำเนิดสมบัติดาราขั้นทองได้เท่านั้น
คลังศาสตราวุธคนโทของถังเทียนเป็นเพียงสมบัติขั้นโลหะ เป็นเพียงระดับต้น
จากมุมมองอื่น อันดับของกลุ่มดาราจะเป็นตัวบ่งบอกคุณค่าของสมบัติดาราของกลุ่มดารานั้น
ถ้าผู้อื่นรู้ว่าในความจริงแล้วกลุ่มดารากระเรียนสวรรค์ได้กำเนิดสมบัติดาราขั้นทอง...
หัวใจของเฮ่อก็สั่นสะท้าน
นิกายกระเรียนสามารถที่ยืนยัดควบคุมกลุ่มดารากระเรียนสวรรค์ได้นี้ เพียงเพราะเหล่าผู้ทรงพลังไม่แม้แต่จะชำเลืองมองกลุ่มดารากระเรียนสวรรค์ พวกเขาคิดว่ากลุ่มดารากระเรียนสวรรค์นั้นยากจน ถ้าพวกเขารู้ว่ากลุ่มดารากระเรียนสวรรค์ให้กำเนิดสมบัติดาราขั้นทองแล้วล่ะก็...
มิจำเป็นต้องกล่าว เฮ่อรู้ได้เลยว่านิกายกระเรียนจะเป็นเช่นไร นิกายคงจะพังทลายในภัยพิบัติเป็นแน่
“ตอนแรก ข้าวางแผนไว้ว่าจะมอบกระบี่เล่มนี้ให้บิดาของเจ้า เขาเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นและมีความหวังของบุรุษหนุ่มเท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา ข้ามักจะคิดว่าอนาคตของนิกายกระเรียนจะขึ้นอยู่ในมือของเขา แต่ผู้ใดจะรู้กันว่าสวรรค์ช่างเล่นตลก บิดาของเจ้าก็จากไปและเจ้าจะต้องมาแบกรับความปรารถนาของเขา บางทีนี้อาจจะเป็นโชคชะตา
ผู้อาวุโสกระเรียนวางกล่องไม้ไว้เบื้องหน้าเฮ่อ
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ชะตาของนิกายกระเรียนตกอยู่ในมือของเจ้าแล้ว เฮ่อ”
ดวงตาผู้อาวุโสกระเรียนจับจ้องไปยังสีหน้าของเฮ่อ
เฮ่อเปิดกล่องไม้ด้วยความงุนงง ผู้อาวุโสกระเรียนกล่าวหลายอย่าง และมันก็ส่งผลต่อเขาอย่างสุดซึ้ง นิกายกระเรียนมีความลับอันน่าตระหนกทำให้เขารู้สึกขุ่นข้องใจ เขามิคาดคิดว่าเขาจะเป็นผู้ที่จะต้องแบกรับความลับอันยิ่งใหญ่นี้ยามเมื่อเขาเติบโตภายในนิกายกระเรียน
นอกจากนี้ บิดา...
เขาเปิดกล่องไม้และพบกระบี่โบราณไม่หรูหราปรากฏตรงหน้าของเขา
มิมีร่องรอยเล็กน้อยบนตัวกระบี่ หรือสิ่งที่เปล่งประกายบนตัวมัน ด้านบนของฝักกระบี่เขียนสลักไว้ด้วยตราประทับโบราณ ‘กระเรียน’
มิมีใครจะสามารถเชื่อมโยงกระบี่ที่เรียบง่ายปราศจากของตกแต่งกับสมบัติขั้นทองได้
นิ้วของเฮ่อลูบคลำอักษรคำว่า ‘กระเรียน’
ชื่อของเขาเองก็คือ ‘กระเรียน’ และกระบี่เล่มนี้ก็เรียกว่า ‘กระเรียน’ เช่นเดียวกัน พวกเขาทั้งสองต่างพบกันเป็นเพราะโชคชะตางั้นหรือ?
ราวกับว่ากระบี่รู้สึกถึงความคิดของเฮ่อ ฉับพลันตัวอักษร ‘กระเรียน’ บนฝักกระบี่ก็เปล่งแสงส่องประกาย อักษร ‘กระเรียน’ เคลื่อนตัวคล้ายโลหะเหลว และมันก็ลอยอย่างช้าๆจากฝักกระบี่มาอยู่ตรงหน้าสายตาของเฮ่อ
ด้วยลำแสงของแสงก็แทรกซึมเข้าสู่มือของเฮ่อ
เฮ่อแบมือของเขาก็พบรอยประทับรูปกายากระเรียนบนฝ่ามือของเขา
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ