ตอนที่ 033 – ประกาศชัยชนะ
ตอนที่ 033 – ประกาศชัยชนะ
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้เข้ามา ดวงตาที่ใสกระจ่างของถังเทียนเริ่มที่จะแปรเปลี่ยนเป็นเช่นเดียวกับเปลวเพลิง เปล่งประกายออกมาจากม่านตาของเขา
ในย่างก้าวสุดท้ายถังเทียนคล้ายดั่งแรดเถื่อนขณะที่เขากระทืบเท้าอย่างหนักหน่วง
หยิบยืมเรี่ยวแรงและความเร็วของถังเทียนก็เพิ่มขึ้น พุ่งออกไปยังเงาของพลอง
เสียงลมหายใจดัง มือขวาของเขาก็ยกขึ้นและพร้อมที่จะระเบิดพลัง
เขาใส่น้ำหนักและเรี่ยวแรงทั้งร่างของเขาไปยังหมัด!
ปัง!
เสียงระเบิดจนหูอื้อดังลั่นออกมา หมัดของถังเทียนปะทะเข้ากับพลองทองแดง! เงาของพลองสลายหายไปจากสายตา และยามเมื่ออู้อี้อันน่าหวาดหวั่นของลมสลายหายไป การหมุนควงด้วยความเร็วสูงของบุรุษเท้าเปล่าก็ถูกหยุดอย่างเฉียบพลัน
การระเบิดที่รวดเร็วและเงียบเฉียบอย่างกะทันหัน ทำให้เหล่าผู้ชมตกอยู่ในอาการอึดอัด
บุรุษเท้าเปล่าแสดงออกถึงความประหลาดใจ เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอันใดขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่เขาใช้ออกวิชาพลองของเขา เขามิเคยพ่ายแพ้มาก่อน มิมีผู้ใดที่เทียมเทียบความแข็งแกร่งและมีชัยได้เหนือกว่าเขามาก่อน
มันเป็นไปได้อย่างไร… มันเป็นไปได้อย่างไร...
ทันใดนั้นหมัดอีกหมัดปราศจากที่มาก็ปรากฏออกมากระแทกบนใบหน้าของเขาจากด้านล่าง
หมัดอัสนีบาต!
ปัง!
บุรุษหนุ่มตกใจไม่มีแม้กระทั่งเวลาตอบสนอง หมัดก็กระทบบนใบหน้าของเขาอย่างหมดจด เขาถูกส่งลอยออกไปราวกับเขาถูกกระแทกโดยแรด พลางล้มลงบนสนาม
ตึง ตึง!
พลองทองแดงกระเด็นไปไกล
ผู้ชมต่างเงียบสนิท
หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ ผู้ตัดสินใจก็ฟื้นคืนสติ เขาก็รีบประกาศ “ถังเทียนชนะ!”
ฮู ฮู ฮู!
ถังเทียนรักษาท่าทางของเขา ก่อนที่เขาจะพ่นลมหายใจออกช้าๆ และเปลวเพลิงภายในดวงตาของเขาก็ค่อยๆจางหายไป
บนแท่นชมดูทันใดนั้นก็เกิดความวุ่นวาย
การเปลี่ยนแปลงของการต่อสู้รวดเร็วอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้ พวกเขายังคาดคิดว่าบุรุษเท้าเปล่าได้แสดงให้เห็นถึงวิชาอันทรงพลังและไร้ที่ติ ใครจะรู้ว่าเพียงชั่วพริบตา ถังเทียนก็ได้ชัยชนะ ที่สำคัญถังเทียนมิได้ใช้ออกวิชาที่ท้าทายอันใดเลย เขาเพียงใช้ออกหมัดเปล่าๆเพื่อจบการต่อสู้
เพียงหมัดเปล่าสามารถเอาชนะวิชาพลองได้? นะ...นี้มันเป็นเรื่องน่าขันอย่างมาก!
เมื่อเทียบกับเหล่าผู้อาวุโสต่างมีความสงบมากกว่านี้
“ช่างเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง มันหาได้ยากยิ่ง” ซือหม่าเซียงซานหันไปกล่าวถามเสิ่นหยวน “ข้าได้ยินมาว่าเขาได้ฝึกฝนเวลาพื้นฐานเป็นเวลาถึงห้าปีแล้ว?”
เสิ่นหยวนพยักหน้า “อืม ข่าวลือว่ามาอย่างงั้น”
“ดูคล้ายว่ามันจะแน่ชัดแล้ว เขาใช้ออกการเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเทียบกันระหว่างกล้ามเนื้อและทักษะแล้ว เขาเกือบจะอยู่ในจุดสูงสุด หมัดอัสนีบาตของเขาก็สง่างามนัก มันดูคล้ายว่าหวังเจิ้นมาที่นี่ด้วยสาเหตุนี้” ซือหม่าเซียงซานกล่าวยกย่อง
เสิ่นหยวนกล่าวตอบอย่างซื่อสัตย์ “ในเรื่องนี้ ข้าก็มิแน่ใจนัก”
หมิงกวงอ้าปากค้าง ขณะที่เขาจ้องมองอย่างตกตะลึงไปยังบนสนาม ก่อนจะกล่าวอย่างตะกุกตะกัก “นะ… นะ… นี้…”
หวังเจิ้นเหยียดหยัน ‘ฮึ’ “พลังกำลังของเขา เทียบได้กับอาโม่หลี่ แต่กระบวนท่าของเขาดีกว่าอย่างแน่นอน ข้าเคยพบเห็นพวกเขาทั้งสองแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน และมันเสมอกัน”
เสมอกับอาโม่หลี่… แค่เพียงหลังจากนั้นหมิงกวงก็เงียบเสียงลง
พลังของอาโม่หลี่น่ากลัวอย่างแท้จริง หมิงกวงประสบพบมันมาด้วยตัวเอง ภายในใจของเขา ถ้าถังเทียนเป็นเช่นเดียวกับอาโม่หลี่ ถ้างั้นก็เป็นที่ยอมรับได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ถึงขั้นเสมอได้กับอาโม่หลี่… เขาช่างมีพลังอย่างแท้จริง!
ไช่เสวี่ยจ้องไปยังถังเทียนบนสนามอย่างเงียบ “ทรงพลังอันใดเช่นนี้!”
เหอเสี่ยวฉินก็ดูตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน “หรือว่าเขาเป็นอสูรกาย…”
หานปิงหนิงยังคงใจเย็น นางได้เห็นถังเทียนจัดการแรดเหล็กเกราะดำ ผลลัพธ์นี้มิได้ทำให้นางตกใจมากนัก นางเพียงแค่มิคาดคิดว่าถังเทียนผู้นั้นจะใช้เพียงวิธีดั้งเดิมและเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาปราศจากการแสดงทักษะใดๆ
เพียงแต่ เขาก็เป็นดั่งอสูรกายอย่างแท้จริง...ช่างโหดเหี้ยมนัก!
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ถังเทียนรักษาท่าทางของเขา สีหน้าของเขาสงบ
“โว้ โว้ โว้! พี่ชายเก่งที่สุด!” น่านน่านยกมือของนางพลางตะโกนอย่างตื่นเต้น
ทันใดนั้น คิ้วของถังเทียนก็ขมวดขึ้น และในทันทีเขาก็กระโดดขึ้นราวกับไฟล้นก้น กอบกำลงบนแขนขวาของเขา
“บัดซบ!!! อ๊า… มันช่างเจ็บยิ่งนัก…”
ทั่วทั้งสนามตกอยู่ในความเงียบด้วยอาการตะลึง พลางจ้องมองอย่างเป็นใบ้ไปยังสนาม มองดูฉากตลกขนขันของถังเทียนที่กระโดดไปรอบๆ ด้วยสีหน้าเจ็บปวดของเขา
เทียบเคียงในก่อนหน้า…มันช่างห่างไกลกันอย่างแท้จริง
“ช่างเจ็บอย่างยิ่ง เจ็บยิ่งนัก!”
“น่านน่าน ยางพอกราชินีต่อล่ะ…”
หลังจากที่น่านน่านได้ช่วยพอกยางราชินีต่อให้ถังเทียน ใบหน้ายู่ยี่ของถังเทียนก็เริ่มที่จะราบเรียบขึ้น เขาวิ่งไปยังทางเดินของสนามและโบกมือของเขาไปยังหานปิงหนิงพลางตะโกนอย่างเสียงดัง “นี่ คุณหนู ท่านได้ตกตะลึงเพราะหนุ่มเทพผู้นี้หรือไม่?”
หานปิงหนิง “…..”
ทันใดนั้น ถังเทียนก็พบเห็นเสิ่นหยวนที่เหนือแท่นชมขึ้นไป พลางโบกมือไปยังเขาอย่างตื่นเต้น เปล่งเสียงตะโกนจากลำคอของเขา “พี่หยวนหยวน! พี่หยวนหยวน!”
สีหน้าของเสิ่นหยวนแดงเรื่อ ในที่สุดเขาก็ได้รู้แล้วในความรู้สึกของหานปิงหนิงในก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลาสั้นๆ ภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทำไมเขามิยอมใช้โอกาสเพื่อจะหนีออกไปแต่แรก
ถังเทียนอุ้มน่านน่านขี่หลังของเขา พลางกระโดดขึ้นไปยังแท่นชมไม่กี่ก้าว
และนั้นเอง เสิ่นหยวนที่เหม่อลอยพบว่าถังเทียนปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา เขาแทบต้องการเอาหัวของเขาชนกำแพงเสียจริง ทำไมเขายังคงอยู่ที่นี้?!
“พี่หยวนหยวน! ยันต์จิตวิญญาณของท่านช่างทรงพลังอย่างยิ่ง! มันมีประโยชน์มาก!” ถังเทียนตะโกน
เสิ่นหยวนหัวร่ออย่างรุนแรง ขณะที่เขาคิดในใจตัวเอง ‘ช่างเยาะเย้ยนัก ช่างเยาะเย้ยนัก ช่างเยาะเย้ยนัก…’
ดวงตาถังเทียนสว่างวาบกล่าวตอบ “ข้าฝึกฝนพวกมันทั้งหมด วิชาทั้งห้าอย่างมันช่างทรงพลังสุดยอดนัก!”
เสิ่นหยวนยิ่งหัวร่อมากยิ่งขึ้น พลางคิด ‘นี้มันน่าเชื่อถือได้หรือ เจ้าหมอกควันนี้มันช่างไร้แก่นสารเกินไป…’
“พี่หยวนหยวนช่างน่าอัศจรรย์นัก พี่ใหญ่สือโถวยังยกย่องในการจับคู่วิชายันต์นั้น ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด! โว้ โว้ โว้!” ถังเทียนร้องตะโกนอย่างตื่นเต้น
รอยยิ้มของเสิ่นหยวนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งเหมือนไม้ คิดกับตัวเอง ‘มันกำลังพ่นเรื่องไร้สาระอันใด ได้โปรดไปให้พ้น…’
“ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด?” ซือหม่าเซียงซานแทรกอย่างตื่นเต้นขณะที่เขาได้ยินคำกล่าว
“อ๊า อ๊า อ๊า เจ้าก็รู้จักมันเหมือนกัน?” ถังเทียนราวกับว่าเขาได้ค้นพบโลกใหม่ หันไปจ้องที่ ซือหม่าเซียงซานด้วยท่าทางเบิกบานใจ
“แน่นอนข้าก็พอรู้มาบ้าง!” ซือหม่าเซียงซานกล่าว ใบหน้าของเขายิ้ม “บางทีพวกเราน่าจะสามารถประลองกันได้”
“ถ้างั้นเจ้าก็คงจะพ่ายแพ้ต่อข้าแล้ว!” น้ำเสียงของถังเทียนเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ความเงียบปกคลุมไปทั่วพื้นที่และสายตาของทุกคนก็มองอย่างแปลกประหลาด มองไปยังถังเทียนอย่างเวทนา
หานปิงหนิงร้องกล่าว “เจ้ารู้หรือไม่เขาเป็นใคร?”
ถังเทียนส่ายหัวพลางกล่าว “ไม่ ข้ามิรู้จักเขาหรอก”
หานปิงหนิงกำลังจะเปิดเผยถึงตัวตนของเซียงซานแต่ก็ได้ยินถังเทียนกล่าวต่อประโยคของเขา กล่าวว่า “เพียงแต่ตราบเท่าที่เป็นศัตรูของข้า พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ให้กับข้า”
หานปิงหนิงและผู้คนอื่นๆที่ได้ยินนี้ต่างก็ตกตะลึง
“ศัตรูทุกผู้คนจะต้องพ่ายแพ้ มิใช่หรือ?” สีหน้าของถังเทียนดูคล้ายราวกับว่าเขากล่าวความจริง
หานปิงหนิงอยากจะกล่าวบอกเพียงแต่นางสูญเสียคำกล่าว นางจ้องมองไปยังถังเทียนผู้ซึ่งปราศจากความหวาดกลัวและเปล่งประกายไปด้วยความสงบ สีหน้าอันตลกบนใบหน้าหมิงกวงและเสิ่นหยวนสลายหายไป ในขณะที่พวกเขาเงียบพลางขบคิดถึงคำกล่าวของถังเทียน
แปะ แปะ แปะ!
เสียงปรบมือทำให้ทุกคนต่างออกมาจากภวังค์ และผู้ที่ปรบมือมิใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตัวซือหม่าเซียงซานเอง เขาพลางกล่าวอย่างรื่นเริงว่า “นี่ช่างเป็นคำกล่าวที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมา”
“ด้วยคำกล่าวนี้ แม้ว่าถ้าหากพวกเราได้เจอกันในงานประลอง ข้าจะมิสังหารเจ้า”
“ข้าจะทำลายตันเถียนของเจ้าและช่วยให้เจ้าได้ไตร่ตรองถึงความพ่ายแพ้ตลอดไป มันจะเป็นเรื่องที่อัศจรรย์และน่าสนใจเพียงไร”
น้ำเสียงของซือหม่าเซียงซานดูอ่อนโยน เพียงแต่คำกล่าวของเขาเยือกเย็นไปจนถึงกระดูกของทุกผู้คน
ด้วยน้ำเสียงร่าเริงของซือหม่าเซียงซานปรากฏขึ้นมาทันใดนั้น เขาก็พลางมองไปยังท้องฟ้าพลางยิ้มและกล่าว “ข้าแทบจะทนรอมันมิไหวเลย”
เขาหันและเดินจากไปหลังจากกล่าวจบ
“เขาเป็นใครกัน?” ถังเทียนถามหานปิงหนิงอย่างอยากรู้
“ซือหม่าเซียงซาน” หานปิงหนิงมองไปยังถังเทียนด้วยสีหน้าเป็นห่วง นางรู้ว่านิสัยของซือหม่าเซียงซานนั้นแปลกประหลาด ผู้ใดจะรู้เขาอาจจะทำอย่างนั้นจริงๆก็ได้
ถังเทียนก็ร้อง ‘โอ้’ “งั้นเขาคือผู้ที่ถูกเชียนฮุ่ยทุบตีมาตั้งหลายครั้ง?”
ซือหม่าเซียงซานผู้ที่เพิ่งจะย่างก้าวออกไปพลันโซเซ
ซ่านกวนเชียนฮุ่ยเป็นดั่งหนามหยอกในชีวิตของเขา หลายปีที่ผ่านมา เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในเงามืด เขาพยายามท้าทายเอาชนะนางอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ทุกครา เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช
สตรีบัดซบนั่น!
สารเลว!
ซือหม่าเซียงซานฟื้นคืนสู่ความสงบของเขาขณะที่เขาหันกลับมา จิตสังหารก็ปะทะตรงไปยังถังเทียน
หานปิงหนิงก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว มือของนางคว้าจับไปที่กระบี่ข้างเอวของนาง พลางหรี่ตาของนาง
จิตสังหารอันเยือกเย็น นางมิสามารถที่จะทำลายมันได้!
ซือหม่าเซียงซานจ้องมองไปยังถังเทียนอย่างเย็นชา
หวังเจิ้นทันใดนั้นก็เปิดปากกล่าว “ซือหม่า ถ้ามิมีอันใดแล้ว ก็ไปตัดสินกันในการแข่งขัน”
จิตสังหารก็สลายหายไปอย่างฉับพลัน ขณะที่ซือหม่าเซียงซานหัวร่อออกมา “เจ้ามันช่างกล้าหาญจริง! การแข่งขันปีนี้ในที่สุดก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นนัก”
เขาโบกมือของเขา “หนุ่มเทพ แล้วพวกเราจะได้พบกันอีกครา!”
หลังจากนั้น เขาก็หายไป
หานปิงหนิงผ่อนคลายลงพลางคิดถึงความอึดอัดใจของเสิ่นหยวนก่อนหน้านี้ นางกล่าวอย่างห้วนๆ “กลับกันเถอะ”
ไช่เสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินติดตามอย่างเร่งรีบ
หวังเจิ้นพยักหน้าไปยังถังเทียน ก่อนที่จะจากไปด้วยสายตาการประเมินในดวงตาของเขา
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“พลังกำลังของถังเทียนน่าเกรงขามอย่างมาก” เหอเสี่ยวฉินวิเคราะห์อย่างละเอียด “เขามิได้ดูจะเก่งกาจนัก แต่เขายังสามารถที่จะแสดงออกได้ถึงพลังกำลังเช่นนั้น มันสามารถกล่าวได้ว่ากระบวนที่เขาใช้ออกทรงพลังเช่นเดียวกัน ในตอนนี้ เขาใช้ออก [หมัดอัสนีบาต] และ [ท่าเท้าท่องไพร] ทั้งสองเป็นเพียงวิชาระดับสอง ใช้เพียงวิชาระดับสองเขาก็เอาชนะต่อคู่ต่อสู้ของเขาได้ และเขาถือว่าสามารถที่จะเป็นภัยคุกคามต่อพวกเราได้!”
ไช่เสวี่ยก้มหัวของนางลง ราวกับนางกำลังคิดอันใดอยู่
เหอเสี่ยวฉินสังเกตเห็นไช่เสวี่ยแสดงออกแปลกไป พลางกล่าวถามอย่างอยากรู้ “อาเสวี่ย เจ้าค้นพบบางสิ่ง? การแสดงก่อนหน้าของถังเทียนมิได้เปิดเผยอันใดเพียงพอ ข้าสามารถทำได้เพียงแค่วิเคราะห์มันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สามารถที่จะดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ ถังเทียนจะต้องมีความสามารถบางอย่าง! การแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นมันจะต้องน่าสนใจเป็นอย่างแน่!”
“การค้นพบสิ่งใหม่?” ไช่เสวี่ยเงยหน้านาง การแสดงออกของนางเลิกลั่ก
“ท่าทางของเจ้าช่างแปลกประหลาดนัก เจ้ากำลังคิดถึงสิ่งใดกัน?” เหอเสี่ยวฉินรู้สึกว่าสถานการณ์มันช่างเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดนัก
“ข้าสามารถ… ข้าสามารถที่จะกล่าวออกไปได้หรือ?” ไช่เสวี่ยกล่าวถามอย่างแผ่วเบา
“กล่าวออกมา! มีสิ่งใดกันที่เจ้ามิสามารถกล่าวออกมาได้?” เหอเสี่ยวฉินร้องกล่าวอย่างดัง มองคล้ายสับสนมากยิ่งขึ้น
หานปิงหนิงก็ยังคงได้ยินเช่นกัน นางสามารถบอกได้ว่าไช่เสวี่ยผิดปกติไปอย่างที่นางควรจะเป็น แต่นางยังคงรักษาท่าทางเย็นชาไว้ และมิสามารถจะเปิดปากกล่าวของนางได้
“ศิษย์พี่หญิง ชื่นชอบสตรีเช่นใดกัน?” ไช่เสวี่ยกล่าวถาม มองดูเขินอายและอยากรู้เช่นเดียวกัน
หานปิงหนิงถึงกับเซ เกือบจะล้มลงไปบนพื้น
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ