ตอนที่ 032 – วิชาพลองวายุสลาตัน
ตอนที่ 032 – วิชาพลองวายุสลาตัน
“ศิษย์พี่หญิง เขาคือใครกัน?” ไช่เสวี่ยกล่าวถามอย่างอยากรู้
ศิษย์พี่หญิงรู้จักบุคคลนี้อย่างแน่นอน ไช่เสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินมองหน้ากันและภายในใจเต็มไปด้วยความอยากรู้ เมื่อคิดอีกครา อาจารย์ใหญ่อนุญาติให้พวกนางออกมาข้างนอก หรือว่าอาจารย์ใหญ่จะรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน? มองไปยังเหล่ายอดฝีมือบนแท่นชมอีกครา เป็นเหล่านักศึกษาที่แข็งแกร่งหนึ่งในสามอันดับต้นของเมืองเมฆาดาราและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นก็เข้ามาทีละคน แม้ว่าเหลียงชิวแห่งสถาบันอสูรอำมหิตจะไม่มา แต่ก็มีหวังเจิ้นผู้มาด้วยตัวเอง มันแน่ชัดแล้วว่าจำต้องมีบุคคลที่มีความสำคัญ
อาจจะเป็นไปได้ว่าเมืองเมฆาดารากำเนิดอัจฉริยะอีกคน?
นอกจากนี้เขาและศิษย์พี่หญิงยังดูคล้ายพวกเขาต่างมีความสัมพันธ์ที่ดี...
แต่พวกเขาทั้งสองต่างรู้ดีว่าศิษย์พี่หญิงมีทัศนคติเช่นไรกับเหล่าบุรุษ
“เขาคือถังเทียน” หานปิงหนิงยับยั้งตนเองให้สงบ พยายามอย่างหนักเพื่ออดกลั้นตนเองจากคำทักทายของถังเทียนที่ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจ
“อ้า! เขาคือถังเทียน?”
“เขาคือถังเทียน?”
ไช่เสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินอ้าปากค้างพร้อมกัน พวกนางทั้งสองมีหน้าที่ไม่เชื่อ แท้จริงบุรุษเบื้องล่างนั่นคือถังเทียน? ตำนานผู้งมงายยุทธ์ ถังเทียนศิษย์เศษสวะผู้ที่ซึ่งโดนไล่ออกจากสถาบัน? ถังเทียนที่เชียนฮุ่ยชื่นชอบในปีนั้น?
เชียนฮุ่ย… เป็นไปได้เช่นไร...
ไช่เสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินมองหน้ากันอีกครา พวกนางทั้งสองรู้อย่างชัดเจนว่าศิษย์พี่หญิงของพวกนางเลื่อมใสเชียนฮุ่ยอย่างมาก
ไช่เสวี่ยลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็อดกลั้นมิได้อีกต่อไปพลางกล่าวตะกุกตะกัก “ศิษย์พี่หญิง ชื่นชอบเชียนฮุ่ยนั้นไม่เป็นปัญหา แต่ชื่นชอบบุรุษของนาง มันค่อนข้างจะ…”
เหอเสี่ยวฉินเป็นคนที่ตรงไปตรงมามากกว่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ศิษย์พี่หญิง มีปลามากมายในท้องทะเล ทำไมท่านถึงจับได้รองเท้าที่พุพัง!”
ปากของหานปิงหนิงกระตุก นางยับยั้งการกระตุ้นเพื่อที่จะชักกระบี่ของนางออกมาฟันทั้งสองคนด้านข้างของนาง นางสำรวมอาการและสงบนิ่ง หันไปมองยังทั้งสองนางด้วยสีหน้าที่จริงจัง “พวกเจ้าคิดมากกันไปแล้ว ในความจริงข้านั้นชื่นชอบเพียงสตรี”
การแสดงออกของไช่เสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินแข็งค้าง พวกนางตกตะลึง ประหลาดใจจนทำให้พวกนางมิสามารถพูดอันใดได้อีก
หานปิงหนิงหันกลับมา ราวกับว่านางมิได้พูดอันใด
ในเวลานั้นผู้คนต่างจดจำถังเทียนผู้ซึ่งอยู่บนสนามได้
“เขาคือถังเทียน มิใช่ว่าถังเทียนเป็นศิษย์เศษสวะหรือ?”
“ใช่ เขาอยู่ตั้งห้าปี ถ้าหากเขามิใช่เศษสวะแล้วจะเรียกว่าอะไร?”
“แต่ทำไมเหล่ายอดฝีมือถึงต่างมากันที่นี่? พวกเขาเบื่อหน่ายจนต้องมานั่งทรมานไข่เล่นอย่างนั้นหรือ?”
“อืม เรื่องเบื่อหน่ายน่าจะเป็นความจริง เพียงแต่ทรมานไข่? เจ้าลองมองดูไปที่เหล่ายอดฝีมือแล้วหรือ ทั่วทั้งร่างของพวกเขาต่างเปรียบดั่งทองแดงและเหล็ก แม้ว่าจะเป็นไข่ก็คงเป็นไข่เหล็กกล้า…”
กลุ่มคนพยายามที่จะลดเสียงของพวกเขาลง แต่ซือหม่าเซียงซานและคนอื่นๆ ต่างมีความรู้สึกไวต่อการได้ยิน และสามารถได้ยินทุกสิ่งอย่างชัดเจน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินประโยคอันหยาบคายเหล่านั้น เหล่ายอดฝีมือก็นั่งไขว่ห้างอย่างมิได้ตั้งใจ
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
เมื่อผู้ตัดสินเข้ามายังสนาม เขาก็ตกใจกับฉากในกลุ่มผู้คนที่มากันมากมาย และเขาเกือบจะสงสัยตนเองว่าเขาได้เดินมาผิดสถานที่หรือไม่ มองไปยังแท่นชมหน้าตาของคนเหล่านั้นช่างคุ้นนัก ทำให้หัวใจของกระเด็นออกมาและหนังหัวก็ชาด้าน เพียงแค่เลือกใครก็ตามที่อยู่ที่นั่น การแข่งขันของพวกเขาคงจะแปรเปลี่ยนเป็นการแข่งที่ร้อนแรงภายในดวงตะวันในทันที
ซือหม่าเซียงซาน หานปิงหนิง หวังเจิ้น...
หลังจากเป็นผู้ตัดสินใจในงานชุมนุมยุทธ์มาห้าปี ด้วยประสบการณ์ถึงห้าปี เขาจะจดจำบุคคลเหล่านั้นมิได้เลยหรือ?
พระเจ้า นะ...นี้มันการแข่งขันรอบคัดเลือกงั้นหรือ?
ในขณะนั้น คู่ต่อสู้อีกคนก็เข้ามาสู่สนาม ทำให้ผู้ตัดสินรู้สึกตัวขึ้นมา
เงาร่างที่รวดเร็วและดุร้าย ก้าวมาบนสนาม น้ำเสียงของเขามีร่องรอยของรังสีสังหาร “ข้าขอถามหน่อย นี่ใช่สนามที่ 3897 หรือไม่?”
ยามเมื่อผู้ตัดสินมองผู้เข้าแข่งขันอย่างชัดเจน ภายในใจของเขาก็หนาวสั่นสะท้าน
เขาเปลือยเปล่าตั้งแต่เอวขึ้นไป ต่ำกว่าเอวของเขาสวมด้วยกางเกงหยาบๆที่ทำมาจากหนังสัตว์ ผิวของเขาดำคล้ำเงางามราวกับเหล็ก เท้าเปล่า และภายในมือของเขาถือไว้ด้วยพลองทองแดง ทั้งสองด้านของกระบองทองแดงเต็มไปด้วยตะปูเล็กๆ แต่สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดที่ทำให้ผู้คนจดจำคือดวงตาของเขา
รวดเร็วและดุร้ายและยังเปล่งประกายไปด้วยรังสีสังหาร
“โอ้?” หมิงกวงแสดงท่าทางอย่างคาดมิถึง “ดูคล้ายพลังของบุรุษผู้นั้นจะไม่เลวเลย!
หวังเจิ้นเห็นด้วย “ดูเหมือนว่าประสบการณ์การต่อสู้เขามากมายนัก”
ซือหม่าเซียงซานยืดนั่งตัวตรงเล็กน้อย สีหน้าเสิ่นหยวนแสดงถึงความประหลาดใจ
หานปิงหนิงหรี่ตาของนาง ในขณะที่สีหน้าไช่เสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินผู้ซึ่งอยู่ด้านข้างนางแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง
เมื่อผู้ตัดสินใจเห็นผู้เข้าร่วมประลองแล้ว และด้วยการมองเพียงคราเดียว บุรุษหนุ่มผู้ซึ่งเท้าเปล่าถือพลองทองแดง บอกได้เลยว่าไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอน
“เอาล่ะ” ผู้ตัดสินพยักหน้า
บุรุษเท้าเปล่าหันไปมองยังถังเทียน
ดวงตาของถังเทียนสว่างวาบ เขาก็โบกมือทักทายในทันที “อะฮ้า หนุ่มน้อย เจ้าคือคู่ต่อสู้ของข้า?”
บุรุษเท้าเปล่าหันไปที่ผู้ตัดสินใจ “พวกเราเริ่มกันได้หรือยัง?”
ผู้ตัดสินใจกล่าวถามถังเทียนในทันที “เจ้าพร้อมแล้วหรือยัง?”
“ข้าพร้อมมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว” ถังเทียนตะโกนดังลั่น
เมื่อเสียงของเขาเปล่งออก ชายหนุ่มก็สลายหายไปในอากาศ แรงลมจากพลองทันใดนั้นก็ปรากฏที่ด้านหลังหัวของถังเทียน
ถังเทียนประหลาดใจ เขามิได้คาดว่ายามเมื่อคู่ต่อสู้กล่าวว่าพร้อมสู้แล้ว มันจะหมายความว่าเขาจะต้องสู้ในทันที แต่การตอบสนองของเขาก็รวดเร็วอย่างยิ่ง เขาก้มลงกวาดขวาซ้ายของเขาไปด้านหลัง
ปัง!
ขาของถังเทียนถูกหยุดด้วยพลองทองแดงของบุรุษเท้าเปล่า
พวกเขาทั้งสองก็ก้าวถอยออกพร้อมกัน และก็แยกออกจากกันอีกครา
“เจ้ากล้ายิ่งนักที่แอบลอบโจมตี!” รอยยิ้มของถังเทียนสลายหายไป และแทนที่ด้วยสีหน้ารังเกียจ จ้องมองไปยังคู่ต่อสู้ แค่นเสียงอย่างเย็นชา “เจ้าเสร็จแน่!”
ท่าทางของบุรุษเท้าเปล่ามิได้แยแสสนใจ ราวกับเขามิได้ยินที่ถังเทียนกล่าว
ถังเทียนย่อเอวลงกางแขนออกทั้งสองแขน นิ้วทั้งสิบของเขาเล็งไปที่บุรุษเท้าเปล่าคู่ต่อสู้ของเขา
หานปิงหนิงผู้ซึ่งเฝ้าดูอยู่แท่นชม ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าวันนั้นยามเมื่อถังเทียนกำลังปะทะกับแรดเหล็กเกราะดำ และนั้นคือท่าทางที่เขาแสดงอยู่ในตอนนี้
ในชั่วพริบตา มันราวกับว่าถังเทียนแปรเปลี่ยนเป็นคนละคนกันเลย สีหน้าของเขาปราศจากอารมณ์ขัน ดวงตาทั้งสองแน่วแน่และสงบปราศจากการเคลื่อนไหว เหยียดแขนทั้งสองของเขาออก กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างของเขาก็กระจายตัดออกอย่างชัดเจน รูปทรงของกล้ามดูแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง
ซือหม่าเซียงซานผู้ซึ่งนั่งหลังตรงเล็กน้อย ดวงตาของเขาก็ขยับเล็กน้อย เขาพลางยืดตัวตรงมากขึ้น
ทุกผู้คนที่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของถังเทียน ซึ่งที่กำลังคุยกันอย่างดุเดือดในแท่นชมก็เงียบลงในทันที
บุรุษเท้าเปล่าผู้ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของถังเทียนเช่นกัน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง พลองยาวทองแดงภายในมือเขาก็ยืดออกตรงไปอย่างรวดเร็ว โดยตัวพลองชี้ตรงไปยังถังเทียน
แม้ว่าบุรุษเท้าเปล่าจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกกดดัน ดวงตาของเขาก็มิได้บ่งบอกถึงความหวาดกลัว ด้วยประกายแวววับอันเป็นลาง ร่างของเขาก็สลายหายไปเบื้องหน้าสายตาของถังเทียน
ในขณะเดียวกันถังเทียนก็หรี่ตาของเขาพลางจ้องมอง ร่างส่วนบนก็เขาก็เหวี่ยงราวกับลูกตุ้ม ในทันทีการเคลื่อนไหวของเขาก็เลือนลาง
พลองยาวทองแดงกวาดไปยังร่างของเขา
ปัง!
พลองยาวทองแดงยังมิทันสัมผัสพื้น แต่พลังของมันก็แยกพื้นออก และเศษพื้นจำนวนนับไม่ถ้วนก็กระจายปลิวออกไป
หมัดของถังเทียนปรากฏออกมาและเจาะไปยังทางซี่โครงซ้ายของบุรุษเท้าเปล่าปราศจากสัญญาณใดๆ
[หมัดอัสนีบาต]!
พลังของบุรุษเท้าเปล่ามันมากกว่าสามัญ พลองยาวทองแดงเพิ่งจะปรากฏออกมาให้เห็น เพียงแต่มันดูคล้ายกับคาดเดาการโจมตีของถังเทียนได้ และร่างของเขาก็หมุนตัวหลบหลีกหมัดอัสนีบาตของถังเทียนไปด้านข้างในทันที ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้ส่วนปลายของพลองราวกับงูพิษ ‘ผลัะ’ ฟาดไปยังถังเทียน
ถังเทียนใช้ออกท่าเท้าท่องไพรอย่างฉับพลัน ราวกับไถลไปบนพื้นน้ำแข็ง หลบผ่านส่วนของพลองที่เป็นดั่งงูพิษ
บุรุษเท้าเปล่าหมุนร่างของเขาราวกับลูกข่าง หมุนครบรอบออกไปอีกทิศทาง ก่อนที่จะปล่อยออกพลองยาวทองแดงอีกครา
เปรี้ยง!
เสียงลึกลับอันดังก้องปรากฏออกมาจากพลอง ทำให้หัวใจของผู้คนสั่นสะท้าน
ถังเทียนกระโดดออกไปยังด้านข้าง
ร่างของบุรุษเท้าเปล่าราวกับตุ๊กตาล้มลุก เอียงไปอีกด้านหนึ่งและนำพาพลองกลับมาฟาดอีกพื้นที่
จากการแปรเปลี่ยนของเสียงพลอง ถังเทียนรู้ได้ว่าพลังของพลองนั่นแปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นอีกครา!
อีกคราที่บุรุษเท้าเปล่าเอียงร่างไปด้านอื่น พลองยาวทองแดงก็แข็งแกร่งขึ้น พลองเริ่มที่จะกลายเป็นเลือนลาง มิสามารถที่จะจับทางได้ด้วยตาเปล่า และลมที่พัดพาขึ้นมาด้วยการเคลื่อนไหวของพลองทำผู้เหล่าผู้ชมรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ
ถังเทียนมองออกถึงส่วนหนึ่งของวิชา บุรุษเท้าเปล่าใช้ร่างของเขาเป็นแกนนำ นำพาการเคลื่อนไหวของพลอง ทุกคราที่เขาเอียงข้างหนึ่ง พลังพลองทองแดงจะเพิ่มขึ้น ตอนนี้บุรุษเท้าเปล่าหมุนเป็นลูกข่างอย่างรวดเร็ว พลังพลองทองแดงของเขาก็กลายเป็นลึกลับ มิว่าจะเป็นการตีหรือฟาดมันคงจะน่ากลัวอย่างยิ่ง ตราบเท่าที่เขายังคงฟาดอยู่อย่างนี้ เขาคงก็จะพ่ายแพ้ต่อความแข็งแกร่ง เพียงแค่มองไปยังเงาพลองของบุรุษเท้าเปล่ามันช่างยุ่งเหยิงนัก แต่มันก็ปกคลุมเพียงระยะจำกัด
ในขณะนี้ ถังเทียนหลบหลีกอย่างต่อเนื่องและเฝ้าดูศึกษาจากมัน
วิชาพลองอันใดกัน...
“วิชาพลองอันใดกัน?” หมิงกวงผู้ซึ่งอยู่บนแท่นชมอดมิได้ที่จะกล่าวถาม “มันเป็นการโจมตีที่แปลกประหลาด”
“[วิชาพลองวายุสลาตัน]” หวังเจิ้นมีความรู้เกี่ยวกับวิชานี้ “วิชาพลองนี้มีผู้คนฝึกฝนได้น้อยนัก”
นี้เป็นคราแรกที่หมิงกวงได้ยินเกี่ยวกับวิชาพลองนี้พลางตกใจ “ทำไมกัน? มันดูช่างรุนแรงยิ่งนัก! ข้ามิคาดคิดว่าการแข่งขันรอบคัดเลือกจะมีผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้!”
“วิชาพลองวายุสลาตัน เจ้าจะต้องมีพรสวรรค์ตั้งแต่กำเนิด มันใช้ออกด้วยพลังบริสุทธ์” หวังเจิ้นอธิบาย “ขณะที่ร่างเคลื่อนไหวนำพาพลังพลอง เจ้าสามารถมองเห็นรูปแบบของเขาได้ มันคล้ายคนเมามายเพียงแต่ในความเป็นจริงมันมีภัยคุกคามซ่อนเร้นอยู่ ยามเมื่อวิชาพลองพายุร่ายรำขึ้น เขาจะมีความได้เปรียบ”
“แล้วถังเทียนจะไม่เป็นอันตรายหรือ?” หมิงกวงยกคิ้วของเขา
“ช่วงเวลาที่ดีในการตอบโต้วิชาพลองวายุสลายตัน คือการปะทะไม่กี่ครั้งในช่วงแรก เป็นช่วงที่พลังของพลองยังไม่ได้ขยายพลังเพิ่มขึ้น ตอนนี้พลังของพลองปกคลุมหลายชั้น มันแสดงออกถึงพลังอันแท้จริง” หวังเจิ้นกล่าว
วูบ วูบ วูบ!
พลองทองแดงอันหนักหน่วงเข้าใกล้จนถึงจุดสูงสุดของความเร็วกวาดขึ้นรวดเร็วอย่างยิ่ง เกิดเสียงดังทั่วไปทั้งสนาม เศษหินทรายบนพื้นต่างปลิวลอยอย่างต่อเนื่อแล้วปะทะอีกครากับภาพติดตาของพลอง
ร่างของบุรุษเท้าเปล่าถูกปกคลุมไปด้วยภาพติดตาของพลองอย่างสิ้นเชิง
มันดูคล้ายกับวายุสลาตันที่กำลังสับสนวุ่นวาย ครึกโครมอยู่บนสนามเล็กๆ
ถังเทียนมิคาดคิดว่าคู่ต่อสู้คนแรกของเขาจะทรงพลังเช่นนี้
อย่างไรก็ตามเขามิได้รับความกดดันจากพลังพลองของคู่ต่อสู้
เขาจับจ้องอย่างมีสมาธิ ความวอกแวกทั้งหมดถูกโยนทิ้งไว้เบื้องหลังหัวของเขา คู่ต่อสู้ของเขาคล้ายดั่งพายุเล็กๆ ทุกสิ่งอย่างที่ผ่านเข้าไป กลับกลายเป็นเพียงทรายและหิน
อย่างน้อยพลองทองแดงก็หนักถึง 60 จิน ยามเมื่อการร่ายรำเริ่มขึ้น พลังของมันช่างน่ากลัวนัก
ถังเทียนหยุดการเคลื่อนไหว และเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ของเขา
ภาพเงาสีทองเหลืองทันใดนั้นก็แปรเปลี่ยนทิศทาง เสียงปะทะดังลั่นตรงมายังถังเทียน
การแสดงของถังเทียนใจเย็นและสงบนิ่ง มองไปยังคู่ต่อสู้ ร่างของเขาเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย หมัดขวาแนบไปยังเอวของเขา
นี้มัน...
ผู้ชมบนแท่นชมต่างผงะถอยหลังฉับพลัน ด้วยความรุนแรงและทรงพลังของพลองทองแดง หากจะปะทะด้วยกำลังโดยตรง มันไม่ต่างอะไรกับการขุดหลุมฝังตัวเอง
ถังเทียนมิต้องการมีชีวิตอยู่แล้วอย่างไร?
ขาซ้ายของถังเทียนทันใดนั้นก็จะฝังแน่นบนพื้นสนาม มีสีหน้าสงบนิ่งและใจเย็น ก็แปรเปลี่ยนเป็นร้าจกาจในทันที ขาซ้ายของเขาปลดปล่อยพลังคล้ายดังศรทั้งร่างกระโจนไปข้างหน้า
ทุกย่างก้าวของถังเทียนหนักหน่วงอย่างหาที่เปรียบมิได้ มันจมลึกลงไปในพื้น
ภายในดวงตาของทุกผู้คนตกตะลึง ถังเทียนคล้ายดั่งกระทิงป่าเถื่อนคลุ้มคลั่ง ก่อเกิดเศษดินจำนวนนับไม่ถ้วนเบื้องหลังของเขา เสียงครึกโครมดังก้องตามหลังเขาพุ่งตรงไปยังพายุ
อย่างไรก็ตาม สายตาถังเทียนผู้ซึ่งมองดูร้ายกาจสำหรับทุกคน แท้จริงแล้วกลับดูสงบนิ่งและใจเย็น แม้ว่าพลังนี้ในสายตาผู้คนอาจจะทำให้พวกเขาอึดใจจนหายใจไม่ออก แต่ในสายตาเขา มันยังคงไม่แข็งแกร่งเพียงพอ!
รอบข้างเขา มีเจ้าแมลงวันวัวผู้ซึ่งมีความแข็งแกร่งผิดปกติและดื้อรั้น! และยังมิได้กล่าวถึงพี่ใหญ่สือโถวสุดยอดพลังของการทำลายอันผิดปกติ! แม้ว่าถ้าหากพวกเขาต้องสุ่มเลือกใครคนหนึ่งจากเหมืองหิน กวาดแกว่งพลังของค้อนยักษ์ พวกเขาต่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งที่สุด!
หนุ่มน้อย เจ้ามิได้รู้เลยว่าปู่ผู้นี้จักต้องผ่านอันใดมาบ้างจนกลายเป็นข้าดั่งเช่นทุกวันนี้...
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ