ตอนที่แล้วตอนที่ 028 – ช่างแปลกประหลาดนัก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 030 – เปิดตัวอย่างทรงพลัง!

ตอนที่ 029 – คลังศาสตราวุธคนโท


ตอนที่ 029 – คลังศาสตราวุธคนโท

 

“เจ้ามิรู้เกี่ยวกับการเสริมสร้างจิตวิญญาณนักสู้?” หานปิงหนิงมองไปยังถังเทียน

ถังเทียนส่ายหน้าหัวด้วยสีหน้ามึนงง “ข้ามิรู้เลย”

สายตาของหานปิงหนิงก็เปล่งประกาย “รอจนเจ้าบรรลุถึงขั้นสี่หรือเหนือกว่า เจ้าจะสามารถที่จะสร้างจิตวิญญาณนักสู้ได้ มันแตกต่างจากทุกวิชาการต่อสู้ที่เจ้าเข้าใจ พวกเราสามารถที่ประทับส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณลงบนยันต์ได้ ซึ่งเป็นยันต์จิตวิญญาณในทุกวันนี้”

ถังเทียนก็เข้าใจกระจ่าง “มิต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องบรรลุถึงขั้นสี่หรือเหนือกว่าเพื่อจะสร้างยันต์จิตวิญญาณ”

“ถูกต้อง” หานปิงหนิงพยักหน้า “ยันต์จิตวิญญาณแต่ละใบจักต้องประทับจิตวิญญาณนักสู้ เช่นนั้น จิตวิญญาณนักสู้ของคนผู้นั้นก็จะอ่อนแอลง เพื่อเสริมสร้างจิตวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น สิ่งที่เหล่านักสู้ต่างจำต้องบ่มเพาะ นั่นคือการใช้แก่นจิตวิญญาณ มันมีหลายวิธีที่จะใช้แก่นจิตวิญญาณและหากจิตวิญญาณนักสู้คงที่ เจ้าจะดูอ่อนเยาว์ด้วยผลของมัน”

“มันดูน่าประทับใจจริง” ถังเทียนพยักหน้าราวกับเขาเข้าใจ

ชั่วครู่หานปิงหนิงมิรู้ว่าจะกล่าวเช่นไรอีกนางพลางเบี่ยงเบนเรื่องอย่างลวกๆ “เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนเป็นเงินหรือเจ้าต้องการแลกเปลี่ยนมันเป็นสิ่งของอย่างอื่น?”

“สิ่งของอย่างอื่น?” ถังเทียนก็ตื่นเต้นเกือบจะในทันที “มีสิ่งใดที่ข้าแลกเปลี่ยนได้บ้าง?”

“เจ้าอาจจะต้องการสิ่งของที่ใช้ไว้สำหรับบ่มเพาะ เช่นหินดารา ซึ่งเพิ่มความรวดเร็วในการบ่มเพาะของเจ้าได้ แต่ก็มิเหมาะสำหรับผู้คนที่มีการบ่มเพาะที่ต่ำกว่าขั้นสี่ ถ้าเจ้าใช้หินดาราเร็วเกินไป และรากฐานของเจ้ายังไม่แข็งแกร่ง มันจะเป็นผลเสียในภายภาคหน้าของเจ้าได้” เจ้าของร้านกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว “ถ้าหากเจ้าต้องการศาตราวุธ เจ้าสามารถพิจารณากระบี่แกะขาวจากกลุ่มดาราแกะ หรือจะเป็นคันศรจากกลุ่มดาราธนู ทั้งสองต่างไม่เลวนัก”

“ข้ามีศาตราวุธของข้าแล้ว” ถังเทียนส่ายหัวพลางหยิบพวกมันออกมาจากกระเป๋าของเขา

“สนับมือเหล็กดำจากกลุ่มดาราเตาหลอม!” สายตาของเจ้าของร้านสว่างวาบ “มันศาตราวุธที่ดี! กลุ่มเหล็กดำจากกลุ่มดาราเตาเป็นของหายากและยอดเยี่ยม พวกมันกำเนิดขึ้นเพียงน้อยนิดในแต่ละปี ยากนักที่จะหาซื้อมันได้ ข้ามิอยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าจะหามันมาไว้ในครอบครองได้”

“มันทรงพลังอย่างยิ่ง?” สายตาถังเทียนสว่างวาบ

“ใช่แล้ว มันแน่นอนว่าไม่เลวเลย” เจ้าของร้านพยักหน้าหลายคราพลางกล่าว “แม้เมื่อเทียบกับกลุ่มดาราแกะและกลุ่มดาราธนูแล้ว กลุ่มดาราเตาหลอมจะเป็นเพียงกลุ่มดาราเล็กๆ กลุ่มดาราเตาหลอมก็มักจะกำเนิดศาสตราวุธชั้นยอดเยี่ยมอยู่เสมอ มีสี่กลุ่มใหญ่ของศาสตราวุธเตาหลอมได้แก่ กลุ่มเหล็กดำ กลุ่มทองแดง กลุ่มเงิน และกลุ่มทอง กลุ่มเหล็กดำมุ่งเน้นไปที่ความทนทานและยังเป็นที่รู้จักกันถึงความอัศจรรย์ในความสามารถของการป้องกัน ถ้าเจ้าจะกล่าวถึงความสำคัญของมันอย่างถูกต้อง สี่กลุ่มของดาราเตาหลอมเป็นดั่งอัญมนีของเมืองเมฆาดาราอย่างลับๆ มันมีราคาเป็นอย่างมาก”

ถังเทียนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง

“เจ้ามีสนับมือเหล็กดำจากกลุ่มดาราเตาหลอม สิ่งของนั้นข้ามิอาจประเมินราคามันได้” ผู้ประเมินราคาหัวร่อ “อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้ยังมีสมบัติดาราที่น่าสนใจ”

“มันคือสิ่งใด” ถังเทียนกล่าวถามทันที

[คลังศาตราวุธคนโท] จาก กลุ่มดาราคนโท” ผู้ประเมินราคาหยิบเอาสร้อยคอและบนสร้อยเป็นแจกกันขนาดเท่าเล็บมือ และผลึกแจกันเป็นประกายบริสุธท์ เปล่งประกายพริ้งและเงางาม

“คลังศาสตราวุธคนโทสามารถเก็บศาสตราวุธได้ถึง 6 ชิ้น และยังสามารถเก็บสิ่งอื่นได้อีก แต่ความจุของมันมีจำกัด นี่เป็นสมบัติดาราของกลุ่มดาราคนโทและผู้คนต่างเรียกสิ่งนี้ว่า [แจกันศาสตราวุธ]” ผู้ประเมินราคาสบโอกาสแนะนำสินค้า “ด้วยสิ่งนี้ เจ้าสามารถบอกลากระเป๋าเดินทางเพื่อความสบายในการเดินทางได้เลย ถ้าหากเจ้ามีสิ่งของหลายอย่าง โอ้ เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าควรจะใช้คลังศาสตราวุธนี้ ปราศจากการถูกปล้นและสูญหายของสิ่งของ เพียงแค่ตั้งจิตศาสตราวุธจะบินเข้ามาในมือเจ้าทันที บุรุษหนุ่มที่มีความทะเยอทะยานควรจะมี [คลังศาสตราวุธคนโท]

“สิ่งสำคัญคือ!” ผู้ประเมินราคายกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว “สิ่งของของเจ้าเพียงพอที่จะแลกเปลี่ยนมันได้หนึ่งชิ้น”

ปราศจากความลังเล ถังเทียนแบฝ่ามือของเขา “งั้นข้าขอแลกเปลี่ยนกับสิ่งนี้!”

แจกันเล็กก็วางลงบนฝ่ามือของเขา และเมื่อถังเทียนโคจรปราณแท้จริงเข้าไปในแจกันเล็ก มันก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงและเข้าสู่ร่างของถังเทียน

ถังเทียนสามารถที่จะรู้สึกได้ทันทีภายในร่างของเขามีบางอย่างที่พิเศษ

ตามที่คาดไว้ ภายในที่ว่างภายในจิตใจของเขาปรากฏคลังศาสตราวุธ และเขาสามารถที่จะเปิดคลังออกได้ทุกยามที่เขาต้องการ

เขาลองที่จะใส่สนับมือเหล็กดำของเขาไปในคลังศาสตราวุธ และด้วยความคิดนั้น สนับมือเหล็กดำภายในมือของเขาก็หายไป

ทันใดนั้นถังเทียนก็รู้สึกเต็มไปด้วยพลัง

น่าสนใจนัก!

เพียงมองดูสนับมือเหล็กดำปรากฏออกมาและสลายหายไปภายในมือของเขาอย่างไม่รู้จบ กำลังเล่นด้วยความสนุกสนานคล้ายกับเด็กน้อย

หานปิงหนิงใช้มือของนางถูไปยังหน้าผากของนาง ขณะที่นางมิสามารถจะทนดูเขาได้อีก ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเสียใจ นางไม่น่าจะนำเจ้าตัวตลกนี้มายังร้านค้าของครอบครัวนางเลย

หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการละเล่นของเขา ถังเทียนก็รู้สึกพึงพอใจใส่สนับมือเหล็กดำกลับเข้าไปยังคลังศาสตราวุธคนโท ‘หมับ!’ เขากำหมัดของเขาคารวะด้วยความฮึกเหิม “ว้าว บุรุษหนุ่มถัง เจ้าช่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง!”

ท่าทางของหานปิงหนิงแปรเปลี่ยนเป็นแข็งค้างและว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง นางรู้สึกเสียใจอย่างแน่แท้แล้ว

“โอ้ คุณหนูหาน ไปกันเถอะ บุรุษหนุ่มผู้นี้ต้องการที่จะไปฝึกแล้ว!”

ด้วยความพึงพอใจถังเทียนโบกมือพลางเริ่มเดินไปอย่างมีความ

[คั่นหนังสือ : ตามที่โน็ตอังกฤษได้บอกไว้ ประโยคนี้คล้ายกับพวกการ์ตูนที่มีฉากแบล๊คกาวน์เป็นสายรุ้งขึ้นมาแล้วก็วิ่งโบกมือด้วยสีหน้ามีความสุขอะไรประมาณนี้นะครับ แต่ผมขอแก้เป็นโบกมือเดินไปอย่างมีความสุข]

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

หานปิงหนิงก็กลับถึงบ้านตามปกติ

ภายในใจของนางต่างระลึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อค่อนวันที่ผ่านมา นางตระหนักได้ว่ายิ่งภาพความทรงจำของนางเรียงร้อยชัดเจนมากขึ้นเท่าใด นางก็พบว่ามีเรื่องราวมากมายที่นางมิอาจอธิบายได้

บิดาและมารดาของหานปิงหนิงต่างมองหน้ากัน ลูกสาวของเขากำลังจมอยู่กับความคิด แรกทั้งสองเพียงกังวลเล็กน้อย แต่พวกเขาก็กลายเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น

บิดาของนางกระแอมไออย่างเบา “ปิงหนิง ได้ยินว่าเจ้ามีสหายใหม่ในวันนี้?”

หานปิงหนิงตื่นจากการจมอยู่ในความคิดของนาง พลางร้องเสียง ‘โอ้’ อย่างมิได้ตั้งใจ “อืม เขาค่อนข้างเป็นบุคคลที่น่าสนใจ”

ค่อนข้างน่าสนใจ...

บิดาและมารดาต่างลอบมองหน้ากันอีกครา ทันใดนั้นความกังวลก็กระจายบนดวงตาของพวกเขา น่าสนใจ? เมื่อใดที่ลูกสาวของพวกเขายกย่องบุคคลอื่น บอกกล่าวพวกเขาน่าสนใจ? ลูกสาวของพวกเขาเข้าสถาบันมาแล้วหลายปี แต่มิเคยพบเจอนางยกย่องเด็กหนุ่มว่าน่าสนใจมาก่อน!”

คาดมิถึง!

นี่เป็นคราแรก!

จักต้องมีปัญหาแน่แล้ว!

“นวี่เอ๋อร์!” มารดาของหานปิงหนิงอดกลั้นมิได้ “แม้ว่าเจ้าจะชื่นชอบเชียงกวนเฉียนฮุ่ย แต่เจ้ามิควรไปชื่นชอบบุรุษของนางเช่นเดียวกัน!”

[คั่นหนังสือ : นวี่เอ๋อร์ 女儿 = ลูกสาว]

ท่าทางของหานปิงหนิงแข็งค้าง นางขมวดคิ้วของนาง “ทำไมข้าจะต้องชื่นชอบเขาด้วย?”

บุรุษผู้นั่นทั้งหยาบคาย มีปัญหาทางจิต และเป็นคนที่ไม่แน่นอนเช่นนั้น ทำไมข้าจะต้องไปชื่นชอบบุคคลเช่นนั้นกัน?

บิดาของนางจ้องมอง “เชียงกวนเฉียนฮุ่ย? เชียงกวนเฉียนฮุ่ยเป็นอันใด? ปิงหนิงของพวกเรา ก็สามารถเปรียบเทียบได้เท่าเชียงกวนเฉียนฮุ่ย! พวกนางต่างมีความสามารถชิงชัยกันได้!”

หานปิงหนิงมิรู้จะกล่าวเช่นไรดี ขณะที่นางเฝ้ามองดูบิดามารดาของนางปราศจากคำพูดที่จะกล่าว

นางมิรู้ว่าจะจัดการบิดามารดาของนางเช่นไรดี นางพลางกล่าว “ข้าจะไปฝึกกระบี่แล้ว”

เบื้องหลังนาง บิดามารดาของนางก็พูดคุยกันอย่างออกรส

“ชิงชัย? ทำไมท่านต้องกล่าวถึงเรื่องชิงชัย? อันธพาลเช่นถังเทียนจะเหมาะสมกับลูกสาวของเราได้อย่างไรกัน?”

“ช่างตาต่ำนัก! จะมีกี่คนกันที่สามารถจะสังหารแรดเหล็กเกราะดำขั้นสี่ระดับกลางได้? มันดูคล้ายเฉียนฮุ่ยจะฉลาดนัก! เมื่อคิดถึงมันแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะสามารถมองเห็นศักยภาพดั่งกล่าวในตัวของถังเทียน”

“ถึงอย่างนั้น...”

“เจ้ายังคงมิเข้าใจ? มีผู้ใดกันที่ลูกสาวของเราจะยกย่องเขา? ด้วยบุคลิกเย็นชาของนาง ในที่สุดนางก็รู้จักหลงใหลในผู้อื่นแล้วและเจ้ายังคงมิยอมให้กำลังใจนาง? เว้นแต่ว่าเจ้าต้องการให้ลูกสาวของเราอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต? เจ้าคิดหรือว่านางจะเป็นคนที่ยอมรับมันถ้านางมิเต็มใจ?”

“เป็นความคิดที่ดี! มีเหตุผลอย่างยิ่ง! ตาเฒ่า ท่านช่างมีสายตาอันกว้างไกลเหลือเกิน!” ทันใดนั้นมารดาของหานปิงหนิงก็คิดอันใดออกพลางตบขาอ่อนของนางอย่างต่อเนื่อง “มิได้การแล้ว พวกเราจำต้องหาโอกาสไปสืบดู…”

“อย่างได้รีบร้อน!” ปรากฏรังสีเปล่งประกายภายในดวงตาของบิดาหานปิงหนิง “อย่าได้กระตุ้นตัวนาง ลูกสาวของเราเป็นคนขี้อายหากพวกเราพูดคุยเรื่องนี้กันทุกวัน นางคงมิอาจจะสามารถรับมันได้…”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ถังเทียนกลับไปยังบึงหยกทะเลไผ่เพื่อฝึกวิชาตัวเบาอันต่ำต้อยของเขา ก่อนหน้านี้เขามิรู้เขารับชัยชนะมาได้อย่างไรยามที่สู้กับแรดเหล็กเกราะดำ รอยฟกช้ำปกคลุมทั่วร่างของเขา ถ้าหากมิใช่เพราะยางราชินีต่อของเสี่ยวน่านน่าน เขาคงอาจจะปางตายอยู่ในตอนนี้

ชัยชนะเช่นนี้ มันควรจะดีกว่าถ้าเกิดขึ้นลงน้อย

เพื่อให้ได้ชื่อหนุ่มเทพ ชัยชนะทั้งหมดของเขาควรแสดงออกถึงความร่าเริงภายในหัวใจของเขา

“พี่ชาย!”

เสี่ยวน่านน่านร้องเรียกอย่างร่าเริงจากป่าไผ่ เงาร่างสีชมพูกระเด้งไปมาระหว่างต้นไผ่ราวกับนางเป็นลูกชิ้น นางใช้ความยืดหยุ่นของต้นไผ่เหินบินอย่างรวดเร็ว

หวืด เสี่ยวน่านน่านใช้เสี้ยวพลังของนางและกระโจนเป็นเส้นโค้งภายในอากาศ เหวี่ยงตัวนางเองเข้าอ้อมแขนของถังเทียนแต่ไกล

ถังเทียนมองไปยังท้องฟ้าอย่างกังขา หื้มมม มันคล้ายผิดพลาดแล้ว

เส้นโค้งที่ว่าพาดผ่านบนหัวของเขาและมิมีที่ท่าว่าจะหยุด

“ว๊าาาาา พี่ชาย เร็วเข้า รับข้าที!”

ถังเทียนตอบสนองอย่างเร็ว เขาเหยียดเท้าขวาของเพื่อแยกขาของเขาพลางเบิกตากว้าง ด้วยสีหน้าของเขาบวมขึ้นราวเขาต้องการที่จะดูดนมมารดาของเขา เขาวิ่งด้วยกำลังทั้งหมดของเขา

ในการย่างก้าวสุดท้าย ถังเทียนปักหลักอย่างแน่นหนาภายในดินและกระโจนไปข้างหน้าคว้าตัวเสี่ยวน่านน่านได้อย่างเฉียดฉิว

“พี่ชายช่างน่าทึ่งนัก!” เสี่ยวน่านน่านตบมืออวบๆของนางอย่างมีความสุข

ถังเทียนจ้องมองด้วยสติที่ยังมิอยู่กับร่องกับรอยพลางคำราม “น่าทึ่งอันใด? ไร้สาระ!”

ริมฝีปากของเสี่ยวน่านน่านก็เบะออกในขณะที่ดวงตาของนางก็เอ่อไปด้วยน้ำตา “น่านน่านพึ่งเรียนวิชาตัวเบา…”

ถังเทียนสังเกตถึงเหตุการณ์นี้พลางยิ้มบานราวกับดอกไม้ “อั๊ยย่ะ นั่นคือสิ่งที่ข้ากำลังจะกล่าว มิต้องสงสัยเลยคุณหนูน้อยผู้นี้สามารถเหินบินได้ท่าทางที่สง่างามเช่นนี้!”

“จริงหรือ? ท่านพูดจริงหรือไม่?” สีหน้าเสี่ยวน่านน่านสว่างขึ้นและน้ำตาก็สลายหายไป

“มันทั้งหมดมาจากก้นบึ้งของหัวใจของข้าเลย!”

“มันหมายถึงอันใดกัน?”

ทุกวันถังเทียนชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อราวกับเปียกฝน ไม่ไกลจากเขา น่านน่านมักจะถือถุงขนมกินอย่างมีความสุข มิว่าจะเป็นเนื้อตากแห้ง ผลไม้เชื่อมหรือถั่ว ปากเล็กๆของนางถูกเติมตลอดราวกับกินได้มิมีที่สิ้นสุด

ค่อนวันผ่านไป และรอยฟกช้ำบนร่างก็ถังเทียนก็หายไปแล้ว ผิวหนังใหม่แทนที่และมิหลงเหลือรอยแผลเป็น

ถึงแม้ว่าเขาจะจดจำมิได้ถึงการต่อสู้ที่หนักหน่วง ถังเทียนกลับพบว่ากายากระเรียนภายในร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากขึ้น แม้ว่าปราณแท้จริงที่มิได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่กายากระเรียนแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ถังเทียนสังเกตว่ายามเมื่อใดก็ตามที่เขากระตุ้นโคจรปราณแท้จริง ปราณแท้จริงหลั่งไหลมาจากทั่วทุกแหล่งอย่างต่อเนื่อง

เขาใช้ออกปราณแท้จริงได้ดั่งใจ

ในที่สุดเขาก็สำเร็จ [ท่าเท้าท่องไพร] แล้ว ดั่งถังเทียนก็เริ่มบ่มเพาะ [แปดก้าวจักจั่น]

[แปดก้าวจักจั่น] เป็นวิชาตัวเบาระดับที่มีผลให้ใช้ปราณแท้จริงมากขึ้น ในบรรดาวิชาตัวเบาระดับสาม การระเบิดพลังของมัน [แปดก้าวจักจั่น] สามารถเทียบได้เป็นหนึ่งในสามอันดับแรก

การระเบิดพลังด้วยแปดย่างก้าวเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก

แต่มันยังคงอ่อนแออย่างชัดเจน มันสิ้นเปลืองปราณแท้จริงเป็นอย่างมาก และมันยังคงมิเหมาะสมกับการเดินทางเป็นเวลานาน มันเป็นวิชาตัวเบาที่เหมาะสมกับการต่อสู้

แต่สิ่งที่ถังเทียนมิได้คาดคิดคือการฝึกฝนท่าเท้าท้องไพรทำให้เขาแทบกระอักเลือด แต่เขาก็เชี่ยวชาญแปดเก้าจักจั่นได้อย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ถังเทียนตระหนักได้ว่าแปดก้าวจักจั่นสิ้นเปลืองปราณแท้จริงอย่างมาก

แต่เมื่อมีกายากระเรียน มันก็มิได้เป็นเรื่องยากอันใด

ถังเทียนมิได้คาดหวังว่ายามเมื่อกายากระเรียนบรรลุถึงจุดสูงสุด มันจะทำให้ปราณแท้จริงโคจรดั่งกับคลื่น รวมเข้ากับแปดก้าวและปราณแท้จริง เขามิได้แสดงออกถึงอาการเหนื่อยล้าอันใดเลย

ตำราปราณกระเรียนเป็นของมีค่าของนิกายกระเรียนแน่แท้แล้ว

ตาเฒ่าเว่ยยังคงมีของดีอยู่ในมือบ้าง!

ถังเทียนรู้สึกภูมิใจในสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จ

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
11 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด