ตอนที่ 027 – แรดเหล็กเกราะดำ
ตอนที่ 027 – แรดเหล็กเกราะดำ
*ขอเปลี่ยนชื่อสัตว์อสูรตัวนี้เป็น แรดเหล็กเกราะดำนะครับ
แรดเหล็กเกราะดำจ้องมองไปยังถังเทียน
สัตว์อสูรระดับสี่จะเริ่มมีสติปัญญาเล็กน้อย และในบึงหยกทะเลไผ่แห่งนี้ มันเปรียบเป็นดั่งราชา ด้วยเกียรติของมันมิเคยถูกท้าทายโดยผู้อื่นมาก่อนภายในดินแดนของตนเอง
มันค่อยๆก้าวเดินไปยังถังเทียน ด้วยขาสั้นแต่แข็งแกร่งทั้งสี่ ทุกย่างก้าวของมันพัดพาฝุ่นปลิวว่อน และเกิดเสียงดังก้องให้ได้ยิน
หมัดที่มันได้รับเมื่อครู่ ทำให้มันเจ็บปวดนัก และยังเป็นความรู้สึกที่แปลกสำหรับมัน!
ม่านตาอันสลัวของมันปลดปล่อยประกายของลางร้าย ด้วยเกล็ดสีเขียวเข้ม มันทำให้แลดูคล้ายเกราะโบราณของนักรบ เต็มไปด้วยความกดดัน นอของมันบนหน้าผากทื่อด้านหยาบกร้านแต่ดูแข็งแกร่งและหนาแน่น อย่างไรก็ตาม มันก็แทงทะลุทะลวงร่างศัตรูผู้ซึ่งทำร้ายมันมามากมาย
เสียงครึกโครมดุจอัสนีบาต
พื้นดินสั่นสะเทือนไม่มากดั่งเช่นก่อนหน้านี้ แต่ทุกเสียงยังคงสะท้านไปทั่วจิตใจของผู้คน
บนปลายกิ่งไผ่ เด็กหญิงตัวน้อยหน้าซีดพลางรีบอ้อนวอนว่า “พี่สาว ท่านช่วยพี่ชายได้หรือไม่?”
หานปิงหนิงขบริมปากของนางเบาๆ ส่ายหัวอย่างช่วยมิได้ “ข้ามิได้นำกระบี่มาด้วย”
ความแข็งแกร่งทั้งหมดอยู่ในกระบี่ของนาง ถ้าหากนางมีกระบี่อยู่ในมือ นางอาจจะสามารถจัดการกับแรดเหล็กเกราะดำได้
เด็กหญิงตัวน้อยกลับกลายเป็นหมองหม่น
บนพื้นดินแรดเหล็กเกราะดำเข้าใกล้ถังเทียนเรื่อยๆ
หานปิงหนิงเฝ้าดูบุรุษกับสัตว์อสูรอย่างตั้งอกตั้งใจ และจิตใจของนางก็ระส่ำระสาย การกระทำของถังเทียนที่เขาได้ช่วยเด็กหญิงตัวน้อย ทำให้นางมองเห็นว่าเขาเป็นคนที่กล้าหาญและมีเมตตา แต่เขายังคงพยายามที่จะต่อสู้กับแรดเหล็กเกราะดำ เขาประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปนัก!
สัตว์อสูรระดับสี่ขั้นกลางมันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง และหานปิงหนิงแน่ใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
หมัดที่คล้ายดั่งอัสนีบาตที่ถังเทียนได้ใช้ออกทำให้นางตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ แต่เพียงเพื่อจัดการสัตว์อสูรระดับสี่ขั้นกลางแล้ว กระบวนท่าสังหารของวิชาการต่อสู้ระดับสองนั้นยังคงมิเพียงพอ
หานปิงหนิงขบคิดแผนการอย่างไว โอกาสสำเร็จในการคว้าถังเทียนและหนีคือศูนย์
แต่ในช่วงเวลานี้นางรู้ว่าวิธีนี้มิได้ผล วิชาตัวเบาของนางงดงามและว่องไวแต่พวกมันมิเหมาะสมกับความเร็ว ถ้าหากนางจำต้องแบกคนผู้หนึ่งแล้ว พวกนางคงมิอาจหนีรอดจากแรดเหล็กเกราะดำ
ถ้าหากเพียงมีกระบี่มันก็คงจะดี...
หานปิงหนิงรู้สึกหงุดหงิด นางขบริมฝีปากรูปทรงกระจับของนาง ถ้าหากนางมีกระบี่ นางจะสามารถลงไปและถ่วงเวลาแรดเหล็กเกราะดำได้ชั่วครู่ ซึ่งถังเทียนสามารถจะมีโอกาสหลบหนี และหลังจากนั้นนางก็จะใช้วิชาตัวเบาหลบหนีออกมา
“กระบี่?”
เด็กหญิงตัวน้อยดวงตาเปล่งประกาย หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ที่ห้อยอยู่ที่คอของนาง และใช้กำลังของนางเป่ามัน
เสียงแหลมของขลุ่ยไม้ไผ่ดังออกไปไกล
ถังเทียนได้ยินเสียงขลุ่ยไม้ไผ่ แต่เขาก็มิได้เสียสมาธิ เนื่องจากเขาจดจ่อความสนใจทั้งหมดของเขาไปยังแรดเหล็กเกราะดำ
ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งนัก!
ถังเทียนดูราวกับพบเจอนักรบโบราณที่สวมผ้าคลุมบนไหล่และเกราะหนัก คลืบคลานอย่างช้าๆ ตรงมายังเขา ด้วยความมุงร้ายและรังสีปราณอันรุนแรง
มองดูแล้ว มันไม่ง่ายดายนักที่จะชนะ...
ถังเทียนหรี่ตาของเขา เท้าทั้งสองตรึงไปกับพื้นดิน แน่นิ่งมิเคลื่อนไหว
แรดเหล็กเกราะดำย่างก้าวจนกระทั่งมันห่างเพียงสามจั้งจากถังเทียนและก็หยุดลง
หนึ่งบุรุษ หนึ่งอสูร เผชิญหน้ากัน
ทันใดนั้นแรดเหล็กเกราะดำก็ย่อขาทั้งสี่ของมันเล็กน้อย
ในขณะเดียวถังเทียนก็ย่อเอวของเขาลง
โฮก!
ทันใดนั้นแรดเหล็กเกราะดำก็คำรามก้อง มันย่อขาของมันในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยพลัง ร่างอันใหญ่โตและหนักหน่วงของมันหายไปในอากาศ
“โอ้ โอ้ โอ้!”
ถังเทียนก็คำรามกึกก้องในทันทีเช่นเดียวกัน เท้าของเขาจมลึกลงไปในโคลน ปลดปล่อยพลังออกไป และก็เช่นเดียวกัน เขาหายไปในพริบตา
ในชั่วพริบตาเงาร่างทั้งสองก็ชนปะทะกันและกันในอากาศเสียงดังลั่น
ปัง!
ดวงตาของถังเทียนเบิกกว้างจ้องเขม็ง ท่าขี่ม้าของเขาสมบูรณ์แบบ ขาทั้งสองตรึงลงลึกและลึกไปในโคลนและน้ำในบึงก็ท่วมจนมาถึงเข่าของเขา ทั้งสองมือคว้าจับไปนอของแรดเหล็กเกราะดำ ราวกับทั้งร่างของเขาหลอมไปด้วยเหล็ก ทำให้เขาเอนไปด้านหลังจนต่ำอย่างมาก กล้ามเนื้อทุกส่วนต่างตึงยืดไปหมด
ใช้จุดแข็งโดยตรงเข้าปะทะ!
ใช้จุดแข็งความดุร้ายเข้าปะทะ!
เวลาคล้ายหยุดลงในช่วงนี้ หนึ่งบุรุษ หนึ่งอสูร กล้ามเนื้อบนร่างทั้งสองต่างเร่งเร้าจนถึงขีดจำกัดของพวกเขา
ถังเทียนลืมเลือนทุกสิ่งที่เขารู้ ด้วยดวงตาของเขามีเพียงแรดเหล็กเกราะดำเบื้องหน้าเขา
หานปิงหนิงผู้ซึ่งอยู่บนยอดกิ่งไผ่เฝ้ามองดูหนึ่งบุรุษและหนึ่งอสูรแข่งขันกำลังกันอย่างตกตะลึง มันทำลายสามัญสำนึกของนางสิ้น เนื่องจากมันเป็นการต่อสู้ที่มิอาจสามารถเทียบเคียงกันได้
ช่างเป็นพลังความแข็งแกร่งอันดุร้ายยิ่งนัก!
ความแข็งแกร่งของมนุษย์จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้เช่นไร?
แรดเหล็กเกราะดำระดับสี่ขั้นกลาง ด้วยความแข็งแกร่งอันเกรี้ยวกราด มันมิใช่ที่นักสู้จะสามารถแข่งขันด้วยได้อย่างแน่นอน
ถังเทียน...
“อึก!” ถังเทียนเริ่มร้องเสียงอู้อี้ภายในลำคอของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว ทั่วร่างทุกของความแข็งแกร่งของเขาพองโตราวกับลูกโป่งจะระเบิดออก!
หยาบกร้านและดุร้าย ชั่วร้ายและป่าเถื่อน!
ในตอนนี้ถังเทียนแลดูคล้ายกับอสูรอย่างแท้จริง
แรดเหล็กเกราะดำถูกกดดันแน่นในดิน ปากของมันจมลงในโคลน มันกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง เมื่อใดกันที่มันเคยถูกลูบคมถึงเพียงนี้? เมื่อใดกันที่ความภาคภูมิใจในกำลังของมันถูกกำราบโดยผู้คน?
ขาของมันก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง ร่างของมันดิ้นลนอย่างหนัก
ไม่ช้าหัวของมันก็ค่อยๆเงยขึ้นมาอย่างแน่วแน่ ขาของมันก็ยืดขึ้นทีละนิด ถังเทียนใช้ออกกำลังของเขาทั้งหมดเพื่อกดมันลงไปแต่กำลังตอบโต้มาจากมือนี้ก็ยิ่งมากอย่างยิ่งและยังเป็นกำลังที่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้
ทันใดนั้น นอของแรดเหล็กเกราะดำก็เปล่งประกายของแสงสีเขียว
พรั่งพรูไปด้วยความดุร้ายและพลังอันผิดปกติ ราวกับมันเป็นค้อนยักษ์ กระแทกดันเข้าไปในมือที่ถังเทียนคว้าไว้อย่างแน่นและดันทะลุเข้าไปในร่างของเขา
ราวกับถังเทียนถูกฟาดด้วยอัสนีบาต ปัง ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไป
สีหน้าหานปิงหนิงแปรเปลี่ยนไป ถังเทียนตกอยู่ในอันตรายแล้ว!
สัตว์อสูรระดับสี่ขั้นกลางเข้าสู่อาการบ้าคลั่ง สัตว์อสูรที่มีพลังงานคล้ายดั่งปราณแท้จริงและมันเป็นพรสวรรค์แต่กำเนิดของมัน ยิ่งระดับสัตว์อสูรสูงเท่าใด ความแข็งแกร่งของพรสวรรค์ก็มากเท่านั้น
ดวงตาแรดเหล็กเกราะดำแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มคล้ายดั่งหยกสองชิ้น และซุกซ่อนไว้ด้วยพลังรังสีความอันตรายและเหยียดหยาม
มันก้าวเดินไปยังถังเทียนอย่างเชื่องช้าราวกับมันเป็นดั่งราชาสัตว์อสูรผู้สง่างามและเต็มไปด้วยความจองหองและก้าวร้าว
หานปิงหนิงมิเคยคิดว่านางจะได้ผจญกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเช่นนี้
สีหน้าของนางซีดเผือด
นางรู้สึกหมดหนทางภายในใจ แม้ถ้าหากนางมีกระบี่ในมือแล้วล่ะก็ นางก็มิรู้ว่านางจะกล้าพอที่จะท้าทายราชาสัตว์อสูรเบื้องหน้านางหรือไม่
“ลูกน้อย ลูกน้อย เจ้าอยู่ที่ใดกัน?” เสียงกระวนกระวายใจแว่วผ่านมาจากป่าไผ่
[คั่นหนังสือ : คาดว่า 小囡 , 囡囡 เสี่ยวน่าน,น่านน่าน ลูกน้อย,ลูกรัก คำที่ใช้เรียกเด็กเล็กๆด้วยความรักใคร่และเมตตา ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อหรือเรียกลูกน้อยนะครับ แต่ในตอนหน้า เด็กหญิงคนนี้ก็เรียกแทนตัวเองว่า น่านน่าน]
สีหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยก็แสดงความสุขออกมาทันที นางตะโกนก้อง “มารดา! กระบี่! โยนกระบี่มาทางนี้!”
มารดาของเด็กหญิงตัวน้อยก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ฟิ้ว กระบี่ที่อยู่ในฝักก็บินผ่านป่าไผ่ไป
ราวกับตื่นจากความฝันของนาง หานปิงหนิงก็เลื่อนมือของนางพลางดึงกระบี่ออกจากฝัก
กระบี่อยู่ในมือนางแล้วและหานปิงหนิงก็ได้ตัดสินใจภายในใจนางแล้ว ความกังวลและความไม่มั่นใจต่างถูกนางลบออกไปในทันที นางกระซิบไปยังเด็กหญิงตัวน้อย “เกาะต้นไผ่ไว้ให้แน่นนะ”
เด็กหญิงตัวน้อยก็กอดด้วยแขนและขาของนางอย่างรวดเร็ว
สายตาหานปิงหนิงแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เอนกายลง ราวกับนางเป็นปักษายักษ์ นางเหินลงไปเสื้อผ้าของก็ปลิวไสวในอากาศ
นางล่อนลงไปยังพื้นอย่างเบาบาง บนพื้นช่างยุ่งเหยิงนัก แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาชั่วครู่ที่บุรุษผู้หนึ่งและสัตว์อสูรได้ต่อสู้กัน แต่ดินโคลนก็กระจัดกระทายไปทั่วสถานที่
“แรดเหล็กเกราะดำ!” สตรีในป่าไผ่ส่งเสียงกรีดร้อง “ลูกน้อย!”
“มารดา…” เด็กหญิงตัวน้อยมิสามารถอดกลั้นได้อีก ปากของนางบิดเบี้ยวและนางเริ่มร้องไห้อย่างดัง
ความกังวลของหานปิงหนิงก็สลายหายไป นางยื่นออกแขนอันบอบบางของนางพลางชี้กระบี่ไปยังแรดเหล็กเกราะดำ
อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าแรดเหล็กเกราะดำมิได้สังเกตเห็นตัวนาง มันหยุดชะงักเท้าทันใดนั้นมันก็ก้มร่างลงเล็กน้อย นอของมันชี้ไปยังถังเทียนผู้ที่ซึ่งนอนอยู่บนพื้นไม่ไกลนัก
สัตว์อสูรระดับสี่และที่เหนือกว่า มันมีสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งต่อภัยคุกคามที่อยู่รอบๆ!
เป็นไปได้หรือที่มันจะไม่สังเกตถึงตัวนางที่เข้าใกล้มัน?
ยามเมื่อหานปิงหนิงอยู่ในอาการสับสน ถังเทียนผู้ที่ซึ่งปราศจากการเคลื่อนไหวอยู่บนโคลนก็สั่น
หานปิงหนิงเบิกตาของนางกว้าง หรือว่า...
เขากดดันฝ่ามือลงบนพื้นและหลังจากนั้นทั้งสองมือของเขาก็เปื้อนไปด้วยโคลน
ถังเทียนพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆ
หานปิงหนิงมองไปยังถังเทียนในอาการงุนงง เขาได้รับการโจมตีจากแรดเหล็กเกราะดำเมื่อครู่แต่เขายังสามารถลุกขึ้นมาได้ ความแข็งแกร่งของร่างกายหนุ่มคนนี้มีขนาดไหนกัน?
“จะ...จะ...เจ้า ตายแน่!”
ได้ยินเสียงคำรามต่ำสั่นระริกอย่างหนักหน่วง
ถังเทียนพยายามลุกขึ้นยืน ท่อนบนอันเปลือยเปล่าของเขาเต็มไปด้วยโคลน เขาถ่มเลือดออกจากปากของเขาพลางค่อยๆเงยหน้าของเขาขึ้น
ร่างของแรดเหล็กเกราะดำสั่นพลางก้าวถอยหลัง
ม่านตาของหานปิงหนิงหดเล็กลง นางกำด้ามกระบี่อย่างแน่นภายในมือโดยมิรู้ตัว สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจ
ม่านตาของถังเทียนแต่งแต้มไปด้วยโลหิต!
สภาวะบ้าคลั่ง...หรือว่านั่นจะเป็นสภาวะบ้าคลั่ง?
หานปิงหนิงก็มิแน่ใจนัก แม้ว่ามันจะมิใช่คราแรกที่นางพบเจอสภาวะบ้าคลั่ง ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้านาง นางมิมั่นใจนักว่าเหตุใดรัศมีของความเกรี้ยวกราดที่ปลดปล่อยออกมามันช่างทำให้หัวใจของผู้คนหนาวสั่นอันตรายถึงเพียงนี้
ถังเทียนย่อกายลงต่ำ เขาพลางตั้งท่าขี่ม้า เช่นเดียวกับที่เขาทำก่อนหน้านี้
แรดเหล็กเกราะดำเปล่งเสียงคำรามต่ำ
ถังเทียนหัวร่อเบา ม่านตาอันแดงกล่ำโปร่งแสงภายในดวงตาของเขา ทำให้รอยยิ้มของเขาดูประหลาดแลชั่วร้าย ยิ้มอันชั่วร้ายยังปรากฏอยู่มิได้จางหายไป แต่ร่างของถังเทียนก็สลายหายไปแล้ว
แรดเหล็กเกราะดำคำรามอีกครา ย่อขาทั้งสี่และปลดปล่อยพลังของมัน
เงาทั้งสองปะทะกันอีกครา!
ปัง!
โคลนกระจายไปทั่วทิศทาง บุรุษและสัตว์อสูรก็ปะทะกันอย่างรุนแรงในทันที ก่อเกิดเป็นหลุมภายใต้พวกเขา
โฮก โฮก โฮก!
“ฮู ฮู ฮู!”
บุรุษและอสูรต่างหอบหายใจปนกัน
รังสีสีเขียวปรากฏขึ้นอีกคราบนนอ เพียงแต่ครานี้ ถังเทียนเตรียมรับมืออยู่แล้ว
“โง่เง่า!”
ถังเทียนขบฟันของเขาแน่นพลางหัวร่ออย่างน่ารังเกียจ ขณะที่เขายังคงคว้าจับอยู่บนนอเขาก็ปลดปล่อยพลังตีลังกาขึ้นไปในทันที และนั่งไปยังบนหลังของแรดเหล็กเกราะดำ
ปราศจากคำกล่าวหมัดถังเทียนก็ระดมต่อยลงไปยังหลังของแรดเหล็กเกราะดำราวกับพิรุณโปรยปราย
หมัดจุลวินาศ!
พลังทำลายหมัดจุลวินาศของถังเทียนในสภาวะบ้าคลั่งเพิ่มขึ้นอย่างยิ่ง แต่ละหมัดแทรกซึมไปด้วยพลังทำลายอันแข็งแกร่ง และพวกมันก็เจาะทะลวงเขาไปในแรดเหล็กเกราะดำ กายากระเรียนหมุนโคจร คลื่นพลังปราณแท้จริงคมกริบดั่งจะงอยปาก ไม่นาน เส้นสายที่ละเอียดและราบเรียบราวกับว่าเกิดจากโดนหั่นด้วยมีดปรากฏบนเกราะเกล็ดอันงดงามและสลับซับซ้อน
ปัง!
เสี้ยวเล็ก ๆ ของเกล็ดเกราะชิ้นหนึ่งแตกออก กระเด็นไปในอากาศ
ถังเทียนสังเกตเห็นจุดนี้ เขาเร่งพลังทำลายไปยังจุดที่เกราะแตกนี้ หมัดจุลวินาศดั่งจงอยปากกระเรียนอันแหลมคม ในที่สุดก็สร้างบาดแผลรอยหนึ่งขึ้น
แรดเหล็กเกราะดำขยับตัวของมันอย่างมิอาจควบคุมได้ แต่มิว่ามันจะพยายามเยี่ยงไร ถังเทียนผู้ซึ่งติดเป็นตังเม เขาติดแน่นอยู่บนหลังของมันและใช้ออกหมัดแล้วหมัดเล่าลงบนเกราะ
ทันใดนั้นแรดเหล็กเกราะดำก็ร้องโหยหวยก่อนที่มันจะเหยียดขาทั้งสี่พลางพุ่งเข้าไปยังป่าไผ่
ถังเทียนทราบได้ในทันทีว่าแรดเหล็กเกราะดำกำลังจะทำอันใด ผิวหนังเจ้าอันธพาลตัวนี้ช่างแข็งและหยาบเหลือเกิน ต้นไผ่ทำได้เพียงแค่เกาแก้คันให้กับมันเท่านั้น เพียงแต่เทียบกับถังเทียนแล้วมันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
“มารับความตายซะ!”
ถังเทียนเบิกตากว้างพลางรำคามดั่งอัสนีบาตจากลำคอของเขา
เขาเมินทุกสิ่งอย่างและเพียงระดมปล่อยหมัดออกครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่งลงบนเกราะของแรดเหล็กเกราะดำ
เปรี้ยง!
หัวแรดเหล็กเกราะดำฝ่าเข้าไปยังป่าไผ่ดั่งพายุต้นไผ่ตามทางแยกออกเป็นแนว
ต้นไผ่สีเขียวที่แข็งปะทะเข้ากับร่างถังเทียน ทั้งหมดต่างแตกเป็นชิ้นๆปลิวกระจายออกดั่งศร บาดไปยังร่างของถังเทียน กิ่งก้านไผ่ฝังลงไปบนร่างของเขา เกิดเป็นเส้นสายโลหิตมากมายเพิ่มขึ้น
ถังเทียนมิรู้สึกตัวในยามที่เขาอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง หมัดโปรยปรายลงบนเกราะด้านหลังของแรดเหล็กเกราะดำ
“พี่ชาย!”
“ถังเทียน!”
เสียงกรีดร้องดังมาแต่ไกล มิมีผู้ใดคาดว่าแรดเหล็กเกราะดำจะพุ่งเข้าไปในป่าไผ่
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ