ตอนที่แล้วตอนที่ 026 – ถ้างั้นก็ต้องสู้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 028 – ช่างแปลกประหลาดนัก!

ตอนที่ 027 – แรดเหล็กเกราะดำ


ตอนที่ 027 – แรดเหล็กเกราะดำ

*ขอเปลี่ยนชื่อสัตว์อสูรตัวนี้เป็น แรดเหล็กเกราะดำนะครับ

แรดเหล็กเกราะดำจ้องมองไปยังถังเทียน

สัตว์อสูรระดับสี่จะเริ่มมีสติปัญญาเล็กน้อย และในบึงหยกทะเลไผ่แห่งนี้ มันเปรียบเป็นดั่งราชา ด้วยเกียรติของมันมิเคยถูกท้าทายโดยผู้อื่นมาก่อนภายในดินแดนของตนเอง

มันค่อยๆก้าวเดินไปยังถังเทียน ด้วยขาสั้นแต่แข็งแกร่งทั้งสี่ ทุกย่างก้าวของมันพัดพาฝุ่นปลิวว่อน และเกิดเสียงดังก้องให้ได้ยิน

หมัดที่มันได้รับเมื่อครู่ ทำให้มันเจ็บปวดนัก และยังเป็นความรู้สึกที่แปลกสำหรับมัน!

ม่านตาอันสลัวของมันปลดปล่อยประกายของลางร้าย ด้วยเกล็ดสีเขียวเข้ม มันทำให้แลดูคล้ายเกราะโบราณของนักรบ เต็มไปด้วยความกดดัน นอของมันบนหน้าผากทื่อด้านหยาบกร้านแต่ดูแข็งแกร่งและหนาแน่น อย่างไรก็ตาม มันก็แทงทะลุทะลวงร่างศัตรูผู้ซึ่งทำร้ายมันมามากมาย

เสียงครึกโครมดุจอัสนีบาต

พื้นดินสั่นสะเทือนไม่มากดั่งเช่นก่อนหน้านี้ แต่ทุกเสียงยังคงสะท้านไปทั่วจิตใจของผู้คน

บนปลายกิ่งไผ่ เด็กหญิงตัวน้อยหน้าซีดพลางรีบอ้อนวอนว่า “พี่สาว ท่านช่วยพี่ชายได้หรือไม่?”

หานปิงหนิงขบริมปากของนางเบาๆ ส่ายหัวอย่างช่วยมิได้ “ข้ามิได้นำกระบี่มาด้วย”

ความแข็งแกร่งทั้งหมดอยู่ในกระบี่ของนาง ถ้าหากนางมีกระบี่อยู่ในมือ นางอาจจะสามารถจัดการกับแรดเหล็กเกราะดำได้

เด็กหญิงตัวน้อยกลับกลายเป็นหมองหม่น

บนพื้นดินแรดเหล็กเกราะดำเข้าใกล้ถังเทียนเรื่อยๆ

หานปิงหนิงเฝ้าดูบุรุษกับสัตว์อสูรอย่างตั้งอกตั้งใจ และจิตใจของนางก็ระส่ำระสาย การกระทำของถังเทียนที่เขาได้ช่วยเด็กหญิงตัวน้อย ทำให้นางมองเห็นว่าเขาเป็นคนที่กล้าหาญและมีเมตตา แต่เขายังคงพยายามที่จะต่อสู้กับแรดเหล็กเกราะดำ เขาประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปนัก!

สัตว์อสูรระดับสี่ขั้นกลางมันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง และหานปิงหนิงแน่ใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

หมัดที่คล้ายดั่งอัสนีบาตที่ถังเทียนได้ใช้ออกทำให้นางตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ แต่เพียงเพื่อจัดการสัตว์อสูรระดับสี่ขั้นกลางแล้ว กระบวนท่าสังหารของวิชาการต่อสู้ระดับสองนั้นยังคงมิเพียงพอ

หานปิงหนิงขบคิดแผนการอย่างไว โอกาสสำเร็จในการคว้าถังเทียนและหนีคือศูนย์

แต่ในช่วงเวลานี้นางรู้ว่าวิธีนี้มิได้ผล วิชาตัวเบาของนางงดงามและว่องไวแต่พวกมันมิเหมาะสมกับความเร็ว ถ้าหากนางจำต้องแบกคนผู้หนึ่งแล้ว พวกนางคงมิอาจหนีรอดจากแรดเหล็กเกราะดำ

ถ้าหากเพียงมีกระบี่มันก็คงจะดี...

หานปิงหนิงรู้สึกหงุดหงิด นางขบริมฝีปากรูปทรงกระจับของนาง ถ้าหากนางมีกระบี่ นางจะสามารถลงไปและถ่วงเวลาแรดเหล็กเกราะดำได้ชั่วครู่ ซึ่งถังเทียนสามารถจะมีโอกาสหลบหนี และหลังจากนั้นนางก็จะใช้วิชาตัวเบาหลบหนีออกมา

“กระบี่?”

เด็กหญิงตัวน้อยดวงตาเปล่งประกาย หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ที่ห้อยอยู่ที่คอของนาง และใช้กำลังของนางเป่ามัน

เสียงแหลมของขลุ่ยไม้ไผ่ดังออกไปไกล

ถังเทียนได้ยินเสียงขลุ่ยไม้ไผ่ แต่เขาก็มิได้เสียสมาธิ เนื่องจากเขาจดจ่อความสนใจทั้งหมดของเขาไปยังแรดเหล็กเกราะดำ

ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งนัก!

ถังเทียนดูราวกับพบเจอนักรบโบราณที่สวมผ้าคลุมบนไหล่และเกราะหนัก คลืบคลานอย่างช้าๆ ตรงมายังเขา ด้วยความมุงร้ายและรังสีปราณอันรุนแรง

มองดูแล้ว มันไม่ง่ายดายนักที่จะชนะ...

ถังเทียนหรี่ตาของเขา เท้าทั้งสองตรึงไปกับพื้นดิน แน่นิ่งมิเคลื่อนไหว

แรดเหล็กเกราะดำย่างก้าวจนกระทั่งมันห่างเพียงสามจั้งจากถังเทียนและก็หยุดลง

หนึ่งบุรุษ หนึ่งอสูร เผชิญหน้ากัน

ทันใดนั้นแรดเหล็กเกราะดำก็ย่อขาทั้งสี่ของมันเล็กน้อย

ในขณะเดียวถังเทียนก็ย่อเอวของเขาลง

โฮก!

ทันใดนั้นแรดเหล็กเกราะดำก็คำรามก้อง มันย่อขาของมันในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยพลัง ร่างอันใหญ่โตและหนักหน่วงของมันหายไปในอากาศ

“โอ้ โอ้ โอ้!”

ถังเทียนก็คำรามกึกก้องในทันทีเช่นเดียวกัน เท้าของเขาจมลึกลงไปในโคลน ปลดปล่อยพลังออกไป และก็เช่นเดียวกัน เขาหายไปในพริบตา

ในชั่วพริบตาเงาร่างทั้งสองก็ชนปะทะกันและกันในอากาศเสียงดังลั่น

ปัง!

ดวงตาของถังเทียนเบิกกว้างจ้องเขม็ง ท่าขี่ม้าของเขาสมบูรณ์แบบ ขาทั้งสองตรึงลงลึกและลึกไปในโคลนและน้ำในบึงก็ท่วมจนมาถึงเข่าของเขา ทั้งสองมือคว้าจับไปนอของแรดเหล็กเกราะดำ ราวกับทั้งร่างของเขาหลอมไปด้วยเหล็ก ทำให้เขาเอนไปด้านหลังจนต่ำอย่างมาก กล้ามเนื้อทุกส่วนต่างตึงยืดไปหมด

ใช้จุดแข็งโดยตรงเข้าปะทะ!

ใช้จุดแข็งความดุร้ายเข้าปะทะ!

เวลาคล้ายหยุดลงในช่วงนี้ หนึ่งบุรุษ หนึ่งอสูร กล้ามเนื้อบนร่างทั้งสองต่างเร่งเร้าจนถึงขีดจำกัดของพวกเขา

ถังเทียนลืมเลือนทุกสิ่งที่เขารู้ ด้วยดวงตาของเขามีเพียงแรดเหล็กเกราะดำเบื้องหน้าเขา

หานปิงหนิงผู้ซึ่งอยู่บนยอดกิ่งไผ่เฝ้ามองดูหนึ่งบุรุษและหนึ่งอสูรแข่งขันกำลังกันอย่างตกตะลึง มันทำลายสามัญสำนึกของนางสิ้น เนื่องจากมันเป็นการต่อสู้ที่มิอาจสามารถเทียบเคียงกันได้

ช่างเป็นพลังความแข็งแกร่งอันดุร้ายยิ่งนัก!

ความแข็งแกร่งของมนุษย์จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้เช่นไร?

แรดเหล็กเกราะดำระดับสี่ขั้นกลาง ด้วยความแข็งแกร่งอันเกรี้ยวกราด มันมิใช่ที่นักสู้จะสามารถแข่งขันด้วยได้อย่างแน่นอน

ถังเทียน...

“อึก!” ถังเทียนเริ่มร้องเสียงอู้อี้ภายในลำคอของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว ทั่วร่างทุกของความแข็งแกร่งของเขาพองโตราวกับลูกโป่งจะระเบิดออก!

หยาบกร้านและดุร้าย ชั่วร้ายและป่าเถื่อน!

ในตอนนี้ถังเทียนแลดูคล้ายกับอสูรอย่างแท้จริง

แรดเหล็กเกราะดำถูกกดดันแน่นในดิน ปากของมันจมลงในโคลน มันกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง เมื่อใดกันที่มันเคยถูกลูบคมถึงเพียงนี้? เมื่อใดกันที่ความภาคภูมิใจในกำลังของมันถูกกำราบโดยผู้คน?

ขาของมันก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง ร่างของมันดิ้นลนอย่างหนัก

ไม่ช้าหัวของมันก็ค่อยๆเงยขึ้นมาอย่างแน่วแน่ ขาของมันก็ยืดขึ้นทีละนิด ถังเทียนใช้ออกกำลังของเขาทั้งหมดเพื่อกดมันลงไปแต่กำลังตอบโต้มาจากมือนี้ก็ยิ่งมากอย่างยิ่งและยังเป็นกำลังที่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้

ทันใดนั้น นอของแรดเหล็กเกราะดำก็เปล่งประกายของแสงสีเขียว

พรั่งพรูไปด้วยความดุร้ายและพลังอันผิดปกติ ราวกับมันเป็นค้อนยักษ์ กระแทกดันเข้าไปในมือที่ถังเทียนคว้าไว้อย่างแน่นและดันทะลุเข้าไปในร่างของเขา

ราวกับถังเทียนถูกฟาดด้วยอัสนีบาต ปัง ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไป

สีหน้าหานปิงหนิงแปรเปลี่ยนไป ถังเทียนตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

สัตว์อสูรระดับสี่ขั้นกลางเข้าสู่อาการบ้าคลั่ง สัตว์อสูรที่มีพลังงานคล้ายดั่งปราณแท้จริงและมันเป็นพรสวรรค์แต่กำเนิดของมัน ยิ่งระดับสัตว์อสูรสูงเท่าใด ความแข็งแกร่งของพรสวรรค์ก็มากเท่านั้น

ดวงตาแรดเหล็กเกราะดำแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มคล้ายดั่งหยกสองชิ้น และซุกซ่อนไว้ด้วยพลังรังสีความอันตรายและเหยียดหยาม

มันก้าวเดินไปยังถังเทียนอย่างเชื่องช้าราวกับมันเป็นดั่งราชาสัตว์อสูรผู้สง่างามและเต็มไปด้วยความจองหองและก้าวร้าว

หานปิงหนิงมิเคยคิดว่านางจะได้ผจญกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเช่นนี้

สีหน้าของนางซีดเผือด

นางรู้สึกหมดหนทางภายในใจ แม้ถ้าหากนางมีกระบี่ในมือแล้วล่ะก็ นางก็มิรู้ว่านางจะกล้าพอที่จะท้าทายราชาสัตว์อสูรเบื้องหน้านางหรือไม่

“ลูกน้อย ลูกน้อย เจ้าอยู่ที่ใดกัน?” เสียงกระวนกระวายใจแว่วผ่านมาจากป่าไผ่

[คั่นหนังสือ : คาดว่า 小囡 , 囡囡 เสี่ยวน่าน,น่านน่าน ลูกน้อย,ลูกรัก คำที่ใช้เรียกเด็กเล็กๆด้วยความรักใคร่และเมตตา ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อหรือเรียกลูกน้อยนะครับ แต่ในตอนหน้า เด็กหญิงคนนี้ก็เรียกแทนตัวเองว่า น่านน่าน]

สีหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยก็แสดงความสุขออกมาทันที นางตะโกนก้อง “มารดา! กระบี่! โยนกระบี่มาทางนี้!”

มารดาของเด็กหญิงตัวน้อยก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ฟิ้ว กระบี่ที่อยู่ในฝักก็บินผ่านป่าไผ่ไป

ราวกับตื่นจากความฝันของนาง หานปิงหนิงก็เลื่อนมือของนางพลางดึงกระบี่ออกจากฝัก

กระบี่อยู่ในมือนางแล้วและหานปิงหนิงก็ได้ตัดสินใจภายในใจนางแล้ว ความกังวลและความไม่มั่นใจต่างถูกนางลบออกไปในทันที นางกระซิบไปยังเด็กหญิงตัวน้อย “เกาะต้นไผ่ไว้ให้แน่นนะ”

เด็กหญิงตัวน้อยก็กอดด้วยแขนและขาของนางอย่างรวดเร็ว

สายตาหานปิงหนิงแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เอนกายลง ราวกับนางเป็นปักษายักษ์ นางเหินลงไปเสื้อผ้าของก็ปลิวไสวในอากาศ

นางล่อนลงไปยังพื้นอย่างเบาบาง บนพื้นช่างยุ่งเหยิงนัก แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาชั่วครู่ที่บุรุษผู้หนึ่งและสัตว์อสูรได้ต่อสู้กัน แต่ดินโคลนก็กระจัดกระทายไปทั่วสถานที่

“แรดเหล็กเกราะดำ!” สตรีในป่าไผ่ส่งเสียงกรีดร้อง “ลูกน้อย!”

“มารดา…”  เด็กหญิงตัวน้อยมิสามารถอดกลั้นได้อีก ปากของนางบิดเบี้ยวและนางเริ่มร้องไห้อย่างดัง

ความกังวลของหานปิงหนิงก็สลายหายไป นางยื่นออกแขนอันบอบบางของนางพลางชี้กระบี่ไปยังแรดเหล็กเกราะดำ

อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าแรดเหล็กเกราะดำมิได้สังเกตเห็นตัวนาง มันหยุดชะงักเท้าทันใดนั้นมันก็ก้มร่างลงเล็กน้อย นอของมันชี้ไปยังถังเทียนผู้ที่ซึ่งนอนอยู่บนพื้นไม่ไกลนัก

สัตว์อสูรระดับสี่และที่เหนือกว่า มันมีสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งต่อภัยคุกคามที่อยู่รอบๆ!

เป็นไปได้หรือที่มันจะไม่สังเกตถึงตัวนางที่เข้าใกล้มัน?

ยามเมื่อหานปิงหนิงอยู่ในอาการสับสน ถังเทียนผู้ที่ซึ่งปราศจากการเคลื่อนไหวอยู่บนโคลนก็สั่น

หานปิงหนิงเบิกตาของนางกว้าง หรือว่า...

เขากดดันฝ่ามือลงบนพื้นและหลังจากนั้นทั้งสองมือของเขาก็เปื้อนไปด้วยโคลน

ถังเทียนพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆ

หานปิงหนิงมองไปยังถังเทียนในอาการงุนงง เขาได้รับการโจมตีจากแรดเหล็กเกราะดำเมื่อครู่แต่เขายังสามารถลุกขึ้นมาได้ ความแข็งแกร่งของร่างกายหนุ่มคนนี้มีขนาดไหนกัน?

“จะ...จะ...เจ้า ตายแน่!”

ได้ยินเสียงคำรามต่ำสั่นระริกอย่างหนักหน่วง

ถังเทียนพยายามลุกขึ้นยืน ท่อนบนอันเปลือยเปล่าของเขาเต็มไปด้วยโคลน เขาถ่มเลือดออกจากปากของเขาพลางค่อยๆเงยหน้าของเขาขึ้น

ร่างของแรดเหล็กเกราะดำสั่นพลางก้าวถอยหลัง

ม่านตาของหานปิงหนิงหดเล็กลง นางกำด้ามกระบี่อย่างแน่นภายในมือโดยมิรู้ตัว สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจ

ม่านตาของถังเทียนแต่งแต้มไปด้วยโลหิต!

สภาวะบ้าคลั่ง...หรือว่านั่นจะเป็นสภาวะบ้าคลั่ง?

หานปิงหนิงก็มิแน่ใจนัก แม้ว่ามันจะมิใช่คราแรกที่นางพบเจอสภาวะบ้าคลั่ง ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้านาง นางมิมั่นใจนักว่าเหตุใดรัศมีของความเกรี้ยวกราดที่ปลดปล่อยออกมามันช่างทำให้หัวใจของผู้คนหนาวสั่นอันตรายถึงเพียงนี้

ถังเทียนย่อกายลงต่ำ เขาพลางตั้งท่าขี่ม้า เช่นเดียวกับที่เขาทำก่อนหน้านี้

แรดเหล็กเกราะดำเปล่งเสียงคำรามต่ำ

ถังเทียนหัวร่อเบา ม่านตาอันแดงกล่ำโปร่งแสงภายในดวงตาของเขา ทำให้รอยยิ้มของเขาดูประหลาดแลชั่วร้าย ยิ้มอันชั่วร้ายยังปรากฏอยู่มิได้จางหายไป แต่ร่างของถังเทียนก็สลายหายไปแล้ว

แรดเหล็กเกราะดำคำรามอีกครา ย่อขาทั้งสี่และปลดปล่อยพลังของมัน

เงาทั้งสองปะทะกันอีกครา!

ปัง!

โคลนกระจายไปทั่วทิศทาง บุรุษและสัตว์อสูรก็ปะทะกันอย่างรุนแรงในทันที ก่อเกิดเป็นหลุมภายใต้พวกเขา

โฮก โฮก โฮก!

“ฮู ฮู ฮู!”

บุรุษและอสูรต่างหอบหายใจปนกัน

รังสีสีเขียวปรากฏขึ้นอีกคราบนนอ เพียงแต่ครานี้ ถังเทียนเตรียมรับมืออยู่แล้ว

“โง่เง่า!”

ถังเทียนขบฟันของเขาแน่นพลางหัวร่ออย่างน่ารังเกียจ ขณะที่เขายังคงคว้าจับอยู่บนนอเขาก็ปลดปล่อยพลังตีลังกาขึ้นไปในทันที และนั่งไปยังบนหลังของแรดเหล็กเกราะดำ

ปราศจากคำกล่าวหมัดถังเทียนก็ระดมต่อยลงไปยังหลังของแรดเหล็กเกราะดำราวกับพิรุณโปรยปราย

หมัดจุลวินาศ!

พลังทำลายหมัดจุลวินาศของถังเทียนในสภาวะบ้าคลั่งเพิ่มขึ้นอย่างยิ่ง แต่ละหมัดแทรกซึมไปด้วยพลังทำลายอันแข็งแกร่ง และพวกมันก็เจาะทะลวงเขาไปในแรดเหล็กเกราะดำ กายากระเรียนหมุนโคจร คลื่นพลังปราณแท้จริงคมกริบดั่งจะงอยปาก ไม่นาน เส้นสายที่ละเอียดและราบเรียบราวกับว่าเกิดจากโดนหั่นด้วยมีดปรากฏบนเกราะเกล็ดอันงดงามและสลับซับซ้อน

ปัง!

เสี้ยวเล็ก ๆ ของเกล็ดเกราะชิ้นหนึ่งแตกออก กระเด็นไปในอากาศ

ถังเทียนสังเกตเห็นจุดนี้ เขาเร่งพลังทำลายไปยังจุดที่เกราะแตกนี้ หมัดจุลวินาศดั่งจงอยปากกระเรียนอันแหลมคม ในที่สุดก็สร้างบาดแผลรอยหนึ่งขึ้น

แรดเหล็กเกราะดำขยับตัวของมันอย่างมิอาจควบคุมได้ แต่มิว่ามันจะพยายามเยี่ยงไร ถังเทียนผู้ซึ่งติดเป็นตังเม เขาติดแน่นอยู่บนหลังของมันและใช้ออกหมัดแล้วหมัดเล่าลงบนเกราะ

ทันใดนั้นแรดเหล็กเกราะดำก็ร้องโหยหวยก่อนที่มันจะเหยียดขาทั้งสี่พลางพุ่งเข้าไปยังป่าไผ่

ถังเทียนทราบได้ในทันทีว่าแรดเหล็กเกราะดำกำลังจะทำอันใด ผิวหนังเจ้าอันธพาลตัวนี้ช่างแข็งและหยาบเหลือเกิน ต้นไผ่ทำได้เพียงแค่เกาแก้คันให้กับมันเท่านั้น เพียงแต่เทียบกับถังเทียนแล้วมันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

“มารับความตายซะ!”

ถังเทียนเบิกตากว้างพลางรำคามดั่งอัสนีบาตจากลำคอของเขา

เขาเมินทุกสิ่งอย่างและเพียงระดมปล่อยหมัดออกครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่งลงบนเกราะของแรดเหล็กเกราะดำ

เปรี้ยง!

หัวแรดเหล็กเกราะดำฝ่าเข้าไปยังป่าไผ่ดั่งพายุต้นไผ่ตามทางแยกออกเป็นแนว

ต้นไผ่สีเขียวที่แข็งปะทะเข้ากับร่างถังเทียน ทั้งหมดต่างแตกเป็นชิ้นๆปลิวกระจายออกดั่งศร บาดไปยังร่างของถังเทียน กิ่งก้านไผ่ฝังลงไปบนร่างของเขา เกิดเป็นเส้นสายโลหิตมากมายเพิ่มขึ้น

ถังเทียนมิรู้สึกตัวในยามที่เขาอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง หมัดโปรยปรายลงบนเกราะด้านหลังของแรดเหล็กเกราะดำ

“พี่ชาย!”

“ถังเทียน!”

เสียงกรีดร้องดังมาแต่ไกล มิมีผู้ใดคาดว่าแรดเหล็กเกราะดำจะพุ่งเข้าไปในป่าไผ่

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด