บทที่ 8 - ข้าเเกร่งพอ!
บทที่ 8 - ข้าเเกร่งพอ!
ชั้นแรกของพื้นที่ทดสอบ: พื้นที่ไร้สภาพ
ที่มีหมอกหนาและท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีดวงจันทร์ไม่มีดวงดาวมีที่ดินเป็นพื้นที่ๆเงียบสนิทไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ซูหยุนก้าวไปข้างหน้าบนพื้นดินที่เย็นยะเยือก
"โอ้—? ว่าแต่เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อของนิกายกระบี่เทวะหรอกหรือ?”
“ข้าได้อ่านตำราและท่องยุทธภพมานาน แต่ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนิกายกระบี่เทวะ ข้าคิดว่ามีน้อยคนนักที่เคยได้ยินชื่อนี้ในทวีปนภายุทธนี้”
หลังจากมันเดินเข้าไปในพื้นที่ไร้สภาพมันกวาดสายตาอย่างระมัดระวังโดยรอบของในขณะที่มันยังคุยกับผู้เฒ่า
“นิกายกระบี่เทวะน่าจะมีลูกศิษย์ของท่านประมุขเหลือรอด ความรุนแรงมันได้ทวีขึ้นเรื่อยๆ ลูกศิาย์ของท่านประมุข พวกอาจารย์ กับศิษย์หลัก อาจเป็นต้นเหตุของภัยพิบัตินิกายกระบี่เทวะ หลังจากที่ท่านประมุขถูกลอบทำร้าย มันเป็นชนวนเหตุให้นิกายสูญเสียความสมดุนในอำนาจ เป็นเหตุให้นิกายล่มสลาย ชื่อของนิกายเลยน่าจางหายไป”
“ท่านจำวันที่ท่านถูกทำร้ายได้มั้ย?”
“วันที่7เดือน8ปีอู่ซร่างตี้!”
“ตอนนี้เป็นปีอู่เวย! เวลาของพวกเราผ่านมาแล้วหนึ่งพันปีเต็ม!” ซูหยุนรู้สึกประหลาดใจกับคำของผู้เฒ่า
ผู้เฒ่าถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก
ตูม!!!!!! ตูม!!!!!!
เสียงดังกึกก้อง!
ซูหยุนกังวลมากในขณะที่มันได้ยินเสียง! มันมองรอบๆมันเห็นกระบี่หล่นมาจากฟ้าร่วงลงตรงหน้ามัน
กระบี่ยาวกว่าร้อยเมตรและกว้างสิบเมตร ใบมีดไม่ได้สวยงามแต่มันกลับปลดปล่อยแรงกดดันออกมารอบๆ
ซูหยุนซัดกำปั้นเข้าไปอย่างไม่คิด แต่ทว่าตัวกระบี่กลับปล่อยแรงกดดันเอ่อล้นออกมากดทับมัน
ตูมมมม!
ผืนดินใต้ฝ่าเท้าของมันยุบลงด้วยแรงกดดันของกระบี่ทันที เเข่าของมันเกือบทรุดลงเพราะแรงดัน
มันได้แต่กัดฟันอดทนรับแรงดันกระบี่
“นี่เป็นการทดสอบที่หนึ่ง! หากเจ้าคิดจะถอนตัวก็รีบบอกว่า เจ้าจะไม่ตายแต่พรสวรรค์ของเจ้าจะเสียไปเท่านั้น!”
เสียงผู้เฒ่าดังขึ้นในจิตใจซูหยุนแต่ในใจของซูหยุนมันมีทางเลือกหรือ?
ซูหยุนพยายามต้านทานแรงกดดันกระบี่เท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้โดนครอบงำ
พื้นดินริ่มปริแตกมากขึ้นและหินโดยรอบเริ่มที่จะพังเป็นชิ้นๆ
ใบหน้าซูยุนเริ่มปกคลุมไปด้วยเหงื่อและมองดูตึงเครียจ
"หืม?"
ทันใดนั้นซูหยุนก็เกิดความสงสัยขึ้น พื้นดินปริแตกเป็นร่องลึกแต่ทำไมร่างกายของมันถึงไม่เป็นอะไร?
การบ่มเพาะของมันไม่ได้สูงมาก แต่มันสามารถทนต่อแรงกดดันดังกล่าวโดยปราศจากแผลบนร่างกายของมันได้อย่างไร?
ผู้เฒ่าบอกว่าการทดสอบนี้จะไม่ทำร้ายชีวิตของมัน แต่จะทำลายพรสวรรค์ ทำไมทำลายพรสวรรค์?
หมายความว่านี่คือการโจมตีทางจิตวิญญาณหรือ?
ซูหยุนสงสัยเรื่องนี้อยู่ในใจ หากนี่คือการทดสอบจิตวิญญาณ มันควรใช้วิชาการนั่งเข้าฌาณในการทดสอบ
จากนั้นซูหยุนสูดลมหายเข้าใจลึกแล้วหลับตาและเริ่มนั่งขัดสมารธิโดยใช้วิชานั่งฌานในความทรงจำของมัน
ด้วยวิชาทางจิตมันกลายเป็นเรื่องง่ายที่จะทนต่อแรงดันกระบี่ หลังจากนั้นแรงดันกระบี่ก้หายไป
ในขณะนั้นกระบี่ได้เริ่มแยกตัวออกจากกันเป็นชิ้นๆ
"เหอ? จบแล้วหรือ?"
ผู้เฒ่าพูดด้วยเสียงประหลาดใจ“ชั้นนี้ประกอบด้วยจิตวิญญาณของท่านบรรพบุรุษหากจิตวิญญาณของเจ้าไม่แข็งแกร่งพอ เจ้าจะไม่สามารถผ่านการทดสอบนี้!”
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าจิตวิญญาณของข้าเข้มแข็งมีความแข็งแกร่งพอ”
“อย่าประเมินค่าตัวเองสูงไป! บอกข้าสิว่า เจ้าทำยังไง?”
ผู้เฒ่าดูเหมือนจะสนใจมาก
“วิชาทางจิตวิญญาณที่เรียกว่า <ฌานสิบผันแปร>.”
“ใช้วิชาด้านจิตวิญญาณ? ข้าไม่ได้บอกว่าใช้ไม่ได้ แต่ไอ้วิชาแบบนี้ไม่อาจทำให้เจ้ารอดได้เสมอไป! ไม่มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งไหนที่ไม่สามารถจะต้านทาน แค่วิชาจิตวิญญาณหรอก เฮ้อ ...เจ้าหนูเจ้ายังไร้เดียงสานัก”
ชั้นที่สอง: ดินแดนเยือกแข็ง
มีหิมะทุกที่ มันเป็นเหมือนสถานที่ๆอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเช่นอาร์กติกหรือขั้วโลกใต้
ซูหยุนก้าวไปข้างหน้าเห็นหยดน้ำแข็งรูปกระบี่มากมายตรงหน้ามัน ทันใดนั้นเสียงลมกระโชกแรงแว่วเข้ามา มันคือพายุน้ำแข็ง!
ซูหยุนตัวสั่นกัดฟันทนกับความเหน็บหนาว ความหนาวเย็นได้แทรกซึมเข้าถึงกระดูกราวกับว่าเลือดจะหยุดไหล
“ชั้นที่สองมีความแตกต่างจากการทดสอบของชั้นแรกเจ้าควรให้ความสนใจ!”เสียงของผู้เฒ่าดังขึ้นอีกครั้ง
อันที่จริงมันแตกต่างกัน นี่ไม่ใช่การโจมตีจิตวิญญาณขณะนั้นซูหยุนเห็นว่ามือของมันเป็นสีม่วงและเท้าของมันถูกแช่แข็ง ผลกระทบของสภาพแวดล้อมได้มีผลต่อร่างของมัน
ที่นี่ไม่มีกลอุยายใดๆ มันคือการทดสอบจิตตานุภาพและแรงใจ!
ด้วยมุมมองความคิดของมันซูหยุนกัดฟันทนต่อความเจ็บปวดทั้งหมดและต้านทานเสียงกรีดร้องของลมกระโชกเศษน้ำแข็ง
แรกเริ่มพายุน้ำแข็งเป็นเหมือนลมพัดเย็นๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อัใด แต่ไม่นานมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นพายุน้ำแข็ง มันเริ่มน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆจนบ้าคลั่งเหมือนฝ่ามือขนาดมหึมาผลักซูหบุน
ซูหยุนรักษาเสถียรภาพของมันด้วยกำลังและแก่นพลังภายในจิตวิญญาณของมันยังคงอยู่ในความสงบ เขาจะไม่ถอยกลับแม่แต่ก้าวเดียว
พายุน้ำแข็งมีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่แรงผลักดันเท่านั้น แต่มันเหมือนกรงเล็บสัตว์ร้ายที่ฉีกกระชากซูหยุนเป็นชิ้นๆ!
“ย้ากกกกกก!”
ซูหยุนคำรามเพื่อกระตุ้นตัวเอง ร่างของมันเต็มไปด้วยบาดแผลและดูเหมือนมันจะมาถึงขีดจำกัดของมันแล้ว แต่ทว่ามันก็ไม่ยอมก้าวถอยหลัง
"เยี่ยม ความมานะมีมากพอ! เจ้าต้องยึดไว้ให้ได้! หากเจ้าไม่ผ่านการทดสอบนี้เจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ร่ำเรียนวิชากระบี่ของข้า! อย่าทำเพื่อข้าจงทำมันเพื่อตัวของเจ้าเอง! ยืนหยัดไว้!”ผู้เฒ่าตะโกน
แม้จะมีอัจฉริยะผ่านชายชรามามากมายหลายคนแต่ก็ไม่มีใครเหมือนซูหยุน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผู้เฒ่าพบซูหยุนดูเหมือนว่าวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่งก็ได้ปรากฎขึ้นอีกในทวีปนี้อีกครั้ง เขาเขาไม่อยากทำลายโอกาสนี้ด้วยมือของตัวเอง ซูหยุนมีความกระตือรือร้นมากกว่าผู้เฒ่าที่เคยผ่านการทดสอบนี้
พายุน้ำแข็งเริ่มเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
แต่ในขณะนี้ซูหยุนได้ทะลุขีดจำกัดของมันไปนานแล้ว
มันแทบจะไม่สามารถประคองร่างกายของมันได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของมัน
อดีตอันว่างเปล่า!
มันสลัดความวอกแวกทั้งหมดไปแล้วพยุงตัวมันเองอย่างเต็มที่ ในที่สุดพายุน้ำแข็งไม่สามารถพัดเขาถอยกลับได้แม้แต่ครึ่งก้าว
สิ้นสุดลง ทุกอย่างกลับเจ้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
“ยินดีด้วยเจ้าหนู! เจ้าผ่านการทดสอบที่สองแล้ว!”ผู้เฒ่าร้องออกมาในความปิติ
“ข้าทำสำเร็จแล้วหรือเนี๊ยะ ฮู้....!”
ซูหยุนถอนหายใจ เสียงของมันอ่อนแรงแต่น้ำเสียงของมันเเน่วแน่
ซูหยุนรู้ว่ามันเป็นคนอ่อนแอ มันไม่สามารถทำอะได้มาก แต่ถ้ามันได้ตัดสินใจที่จะทำมันแล้ว มันจะทำอย่างเต็มที่ ว่ากันตามตรงมันเป็นคนทะเยอทะยานมากเกินไป แต่ว่าเขานั้นมีความตั้งใจที่มุ่งมั่นในสิ่งที่มันทำ มันไม่เคยล้มเลิก!
ผู้เฒ่าพยักหน้าในสัญญาและพูดไม่มาก
ประตูสีเหลืองปรากฏขึ้น ซูหยุนเข้าไปข้างในและมาถึงชั้นที่สาม
ชั้นที่สาม: บึงลาวาแดง
มันมีแต่ความเงียบ มันไม่ได้เย็น แต่ร้อนมาก
มีลาวาผุดขึ้นฟองก๊าซความร้อนดูเหมือนจะระเบิดออกมารอบๆ มันดูเหมือนเหมือนพื้นที่ๆสามารถย่างมนุษย์ได้เลย แต่สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆพิเศษ
ห่างจากซูหยุนเพียงสิบเมตรเป็นกระบี่สีแดงร้อน มันติดอยู่ภายในหินหนืด แต่ไม่มีเส้นทาง
กระบี่ล้อมรอบไปด้วยลาวาใบมีด เผยให้เห็นเปลวไฟที่เผารอบ ๆเหมือนมังกรโอบอุ้มรอบๆกระบี่
ด้านหลังกระบี่สิบเมตรมีประตูที่พาไปสู่การทดสอบที่สี่ หน้าประตูมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผมสีขาวยืนอยู่ด้านหน้า
“เจ้าต้องการเรียนวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่งโดยผ่านการทดสอบนี้หรือไม่?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกน
"เขาเป็นใคร?" ซูหยุนถาม
“นี่คือกระบี่ไร้สรรพสิ่งมรดกตกทอดของท่านบรรพบุรุษ! ด้านหลังนั่นคือร่างจิตของท่าน!”ผู้เฒ่ากล่าวอย่างตื่นเต้น
“ถ้าเจ้าต้องการเคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง เจ้าต้องผ่านการทดสอบที่สาม และปลดปล่อย ‘กระบี่ตะวันแดง’ หากเจ้าชนะเจ้าจะพบกับข้าบนชั้นที่สี่ ข้าจะรอพบเจ้าอยู่ที่นั่น!”
จากนั้นภาพของชายคนนั้นก็จางหายไป หลังจากที่ซูหยุนฟังมันขมวดคิ้วแน่น
ที่ๆมันยืนอยู่ห่างจากกระบี่แค่สิบกว่าเมตร แต่มันไม่ใช่รื่องง่ายๆ การคว้ากระบี่ที่อยู่ตรงกลางแล้วไปยังด่านต่อไปนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันไม่มีไม่มีฐานที่ยืนแล้วมันจะไปยังไง?
“นี่คือชั้นที่สามการทดสอบนี้จะไม่เกี่ยวกับความอดทนกับความทนทาน แต่เพื่อทดสอบจิตใจว่าเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่หรือไม่และสายตาของเจ้ามีความแหลมคมพอมั้ย นี้เป็นเรื่องยาก สรุปแล้วคือเจ้าต้องเอาชนะกระบี่ทั้งหมด แม้ว่าเจ้าจะมีกองทัพแต่เมื่อเจ้าตกอยู่ในหินหนืดเจ้าจะต้องพึ่งพาสามารถที่จะพึ่งพากระบี่ของเจ้าเท่านั้น เมื่อเจ้าตกอยู่ในหินหนืดพรสวรรค์ของเจ้าจะได้รับความเสียหายและเจ้าจะล้มเหลวการทดสอบนี้? เจ้ายังอยากจะทำต่อหรือไม่?”ผู้เฒ่ากล่าว
แต่ซูหยุนยังคงเงียบ
มันจดจ้องกระบี่ที่เสียบในหินหนืด“กระบี่ตะวันแดง” และเพ่งมองมัน เหมือนกับการจู่โจมของงูพิษ มันหรี่ตาลงราวกับเห็นเหยื่อ
มันสลัดความลังเล ซูหนุนขยับตัวแล้วกระโดดขึ้นไปบน“กระบี่ตะวันแดง” เในหนึ่งก้าว
“เจ้าอย่างเพิ่งวู่วาม! เจ้าจะต้องระวังหินหนืด! มันจะทำให้เจ้าล้มเหลว!เฮ้อ....!” ผู้เฒ่าถอนหายใจด้วยความผิดหวังจากการกระทำของซูหยุน
อย่างที่คิดไว้
หลังจากที่ซูหยุนกระโดดออกมา ลาวาได้ระเบิดปะทุขึ้น คลื่นความร้อนปิดกั้นเส้นทางซูหยุน
แต่ความสูงของคลื่นไม่ได้สูงพอ ซูหยุนกระโดดลอยสูงขึ้นไปในอากาศ
คลื่นความร้อนไม่ได้สัมผัสตัวเขา แต่ผู้เฒ่าไม่ได้มีความหวัง มันแตกต่างกันมากสำหรับเขากับซูหยุน ผู้เฒ่ากระโดดสูงมากและดูเหมือนว่าผู้เฒ่าสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่ผลกลับตรงกันข้ามกับความคิดของผู้เฒ่า หลังจากที่มองขณะที่ซูหยุนร่วงลงมาจากที่สูง มันไม่ได้ตกลงไปในหินหนืดมันหยุดอยู่เหนือหินหนืดไม่กี่จ้าง
ผู้เฒ่าประหลาดใจจากผลที่ซูหยุนทำ
ในความเป็นจริงซูหยุนได้เหยียบไปบนด้ามกระบี่ตะวันแดง!
"เหอ?" เจ้าหนูเจ้าทำได้! แต่เจ้าจะตึงดึงกระบี่ขึ้นมา เจ้าจะทำยังไง? ถ้าเจ้าดึงมันออกมาเจ้าจะไม่มีพื้นที่ให้ก้าวเดินแล้วเจ้าจะตาย!”
อย่างไรก็ตามซูหยุนหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ร่างกายของมันมีความมั่นคงยืนอยู่บนด้ามกระบี่ แล้วจ้องไปที่ประตูที่สี่ ทันใดนั้นเขาก็สูดลมหายใจลึกปราณวิญญาณแปรสภาพเท้าและขาของมัน จากนั้นมันก็กระโดดไปทางประตูที่สี่ในหนึ่งก้าวกระโดด
ในขณะที่มันตีลังกา360 องศาและคว้ากระบี่ตะวันแดง มันดึงกระบี่ออกมาได้สำเร็จแล้วทยานเข้าไปทางปประตูที่สี่อย่างรวดเร็ว
ซูหยุนกระแทกลงบนพื้นดิน มันมองดูกระอักกระอ่วน แต่มันก็ข้ามดินแดนประสบผลสำเร็จ
หน้าอกผู้เฒ่าแทบระเบิดออกมาด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคาดคิดเกี่ยวกับวิธีการที่ซูหยุนใช้ในการผ่านการทดสอบที่สาม
ชั้นที่สี่: สุสานกระบี่
มีกระบี่หักเกลื่อนกลาดไปทั่วทุกๆที่ พวกมันปักอยู่ในพื้นดิน บ้างก็เอียงมืดครึ้มไร้ชีวิตชีวา แต่ในท่ามกลางสิ่งเหล่านี้มีชายหนุ่มผมสีขาวยืนอยู่
ชายหนุ่มสูงแปดฟุตหน้าตาหล่อเหลา กระบี่สีดำของเขาปลดปล่อยหมอกสีดำกับสีขาวดูน่าพิศวง
นี่คือกระบี่ของ เคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง แห่งหุบเขาบรรพชน
ซูหยุนเดินย่ำไปทางหุบเหวแรงดันกระบี่กดทับมาที่ซูหยุน
“ข้าจะพ่ายแพ้ให้กับท่านบรรพบุรุษในดินแดนนี้หรือ?” หัวใจของซูหยุนรู้สึกกดดัน
“ไม่หรอก!ตราบใดที่ท่านรู้ว่าเจ้าเป็นผู้ถูกเลือกที่เหมาะสม แต่เจ้าต้องใช้ความแข็งแกร่งของเจ้าทั้งหมด ด้วย กระบี่ตะวันแดง เจ้าต้องพยายามเอาชนะเขาให้ได้!”
“สู้ด้วยกระบี่?”ซูหยุนขมวดคิ้ว
ทั้งความสามารถของท่านบรรพบุรุษและอาวุธที่สูงส่ง ซุหยุนไม่มีสิ่งไหนสู้ได้
ซูหยุนผ่อนลมหายใจช้าลงและจากนั้นก็ก้าวขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจที่จะต่อสู้กับท่านบรรพบุรุษ
นี่เป็นร่างเสมือนของท่านบรรพบุรูษที่ใช้ในการทดสอบในดินแดนนี้ เขาไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่
"เราต้องใช้ทุกอย่างที่มีและบางทีเราอาจจจะผ่านการทดสอบ"
หลังจากที่มันตัดสินใจ มันก้ลงมือทันทีพี้อมกับถ่ายพลังวิญญาณลงไปในกระบี่ตะวันแดงในมือของมัน
วูบบบ!
มันฟันไปข้างหน้าด้วยพลังวิญญาณภายในร่างอย่างเต็มเหนี่ยว เสียงลมหวีดพัดกระบี่ราวกับหมูป่าปรี่เข้าไป
ท่านบรรพบุรุษกระบี่หายไป
ไร้ประโยชน์?
ซูหยุนใจตกหันไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วแล้วถอยกลับออกมาพร้อมกับความตกใจท่านบรรพบุรุษกระบี่ปรากฏกายข้างๆมัน
ท่านบรรพบุรุษกระบี่ ก้าวไปข้างหน้าฟันกระบี่ลงมา กระบี่นั้นรวดเร็วดั่งสายลม แต่ยังบรรจุเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาล
ความแรงกระบี่, การเคลื่อนไหว, มุม ฯลฯ เป็นจริงเหมือนกันกับซูหยุน
นี่คือการเลียนแบบการโจมตีของมัน!
สวบ!
ซูหยุนไม่ทันป้องกันและกระบี่สับลงไปที่ไหล่ซ้ายของมัน มันรีบถอยกลับออกมา เลือดไหลจากไหล่เป็นทาง
“ท่านบรรพบุรุษจะไม่ใช้พลังของท่านโจมตีเจ้า แต่จะใช้พลังของเจ้าแทน! ไม่มีเคล็ดลับในการทดสอบนี้! เจ้าจะชนะได้เจ้าจะต้องเอาชนะตัวเองเท่านั้น!”เสียงผู้เฒ่าโผล่ออกมา
“หากเจ้าถูกกระบี่โจมตีสามครั้ง ถือว่าเจ้าประสบความล้มเหลว เจ้าต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว!” ผู้เฒ่าตะโกนอีกครั้งด้วยความร้อนใจ
แต่ในตอนนี้ซูหยุนกำลังยุ่งไม่ได้สนใจคิดกับคำพูดของผู้เฒ่า
ซูหนุนไม่เลือกที่จะโจมตี แต่ล่าถอยออกมา
เนื่องจากเขาเลียนแบบการโจมตีของซูหยุนหากไม่ได้โจมตีท่านบรรพบุรุษจะเลียนแบบได้ยังไง?
ซูหยุนคิด
ในตอนนั้นท่านบรรพบุรุษได้ยกมือของท่านขึ้นและบรรยากาศทั้งหมดเริ่มสั่น ภาพกลิ่นอายของบรรพบุรุษเริ่มแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่
“เจ้าหนูอย่าพยายามหลบหนีและถ่วงเวลาเพราะเมื่อเจ้าหยุดการโจมตีท่านบรรพบุรุษจะลงมือด้วยตัวท่านเอง เจ้าจะออกจากเคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง ถ้าท่านทำอย่างนั้นเจ้าจะไม่สามารถหลบหนีได้และจะสูญเสียแน่นอน!”
ผู้เฒ่ารู้ผ่านกระทำของซูหยุนอย่างรวดเร็ว
ซูหยุนทำใจไม่นานแล้วรีบผลักความกังวลของมันออกไป ทันใดนั้นมันได้ขยับตัวแล้วพุ่งเข้าไปโจมตีท่านบรรพบุรุษอีกครั้ง
ในขณะที่ท่านบรรพบุรุษเกือบถูกซูหยุนโจมตีโ ท่านก็ได้หายตัวไปอีกครั้งแล้วปรากฏอยู่ในมุมที่โจมตีซูหยุนซ้ำอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ซูหยุนจู่ ๆ ก็ขยับไปด้านข้างแล้วง้างใบมีดของมันตรงไปที่บรรพบุรุษแล้วแทงไปยังร่างเสมือนจริง
เป้ง!
** กระบี่หัก
"อะไรกัน" ผู้เฒ่ารู้สึกประหลาดใจ
“ท่านบรรพบุรุษมักจะหายตัวไปขณะที่จะถูกโจมตีและเหมือนว่าจะเลียนแบบการเคลื่อนไหวแล้วโจมตี ที่จริงแล้วเขาจะเลียนแบบการโจมตีดังนั้นนี่คือโอกาสของข้าเท่านั้นที่จะถูกโจมตี แต่ว่าทำไมข้าถึงประสบโอกาสนะหรือ? ง่ายมากเพราะข้าจงใจ จะทำให้เกิดจุดอ่อนและเมื่อเขาเลียนแบบข้าข้าจะโจมตีจุดอ่อนนี้!”
หลังจากที่ซูหยุนแทงทะลุภาพเสมือนเขาก็กล่าวอย่างจริงจัง
เขาอาจจะไม่สามารถเอาชนะท่านบรรพบุรุษหากท่านบรรพบุรุษใช้พลังเต็มสิบส่วนของตัวเอง แต่ว่าเขาสามารถเอาชนะตัวเองได้
"เยี่ยม! สุดยอด! ฮ่าๆๆ เจ้าหนูทำได้ดีมากโชคดีจริงๆที่สวรรค์ลิขิตให้ได้พบกับเจ้า! โชคดีจริงๆที่เจ้าค้นพบจุดอ่อนได้รวดเร็วนัก! ยอดเยี่ยมจริงๆ!"
ผู้เฒ่าเกือบปรบมือให้
เวลานี้ภาพเสมือนจริงของบรรพบุรุษยังคงยืนนิ่ง เขาไม่ได้โจมตี แต่เพียงยืนอยู่หน้าซูหยุนและผู้เฒ่า
“แม้ว่าเจ้าจะไม่มีกระบี่เลย เจ้าใช้ภูมิปัญญาในขณะที่กวัดแกว่งกระบี่ เจ้าสามารถรักษาความสงบนิ่ง เยือกเย็นและกล้าหาญ นี่เป็นสิ่งที่หายากในการเรียนรู้วิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง เจ้าเสร็จสิ้นการทดสอบของข้าแล้ว เจ้าหนุ่ม!”
จากนั้นภาพที่เสมือนกระจายหายไปแล้วด้ามกระบี่เรียวยาวสีเทาและสีขาวก็หล่นลงบนพื้นดิน
ซูหยุนรีบเดินไปทางนั้นและหยิบมันขึ้นมา
“ฮ่า ๆ ดี! ดีมาก!! เจ้หนูซูหยุนเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าได้รับการยอมรับจากท่านบรรพบุรุษกระบี่! ดังนั้นเจ้าก็ได้กลายเป็นประมุขคนใหม่ของนิกายกระบี่เทวะ! การฟื้นฟูของนิกายกระบี่เทวะตกอยู่บนบ่าของเจ้าแล้ว!”
ผู้เฒ่าพูดในขณะที่หัวเราะเปี่ยมล้นด้วยความสุข
“ข้าเพียงแต่บอกว่าข้าจะเรียนวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่งแต่ไม่ได้บอกว่าข้าจะทำให้นิกายกระบี่เทวะฟื้นคืน ท่านผู้อาวุโสข้าเกรงว่าข้าจะทำมันไม่ได้”
ซูหยุนกล่าวเบาๆในขณะที่เขาวางด้ามกระบี่บนร่างของเขา
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีสิ่งที่ต้องการทำให้สำเร็จ แต่ภาระนี้ ... ช่างมันเอาไว้พูดกันในอนาต ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
ผู้เฒ่าดูเหมือนไม่ได้กังวล เขาหัวเราะขึ้นอีกครั้งแล้วไม่ได้พูดถึงมันอีก
“ข้าสามารถนำกระบี่ออกจากดินแดนนี้ได้หรือไม่? แล้วจะใช้มันยังไง?”
“แน่นอนว่าโลกเสมือนจริงนี้คือการทดสอบสำหรับกระบี่ เมื่อเจ้าตัดสินใจเป็นประมุขคนไหม่เจ้าก็สามารถเลือกกระบี่ที่อยู่ข้างในนี้ได้เหมือนกับทุกๆคน เช่นเดียวกับเจ้าที่ผ่านการทดสอบนี้ ข้าไม่เคยรู้มาก่อน แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว”
"อะไร" ซูหยุนถาม
“อย่าลืมสิ” พี่ตอบ
“อย่าลืม?” ซูหยุนสับสน
“ใช่อย่าลืมว่าที่นี่คือสภาพแวดล้อมเสมือนจริงนี้เป็นปฐมภูมิสำหรับวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง ถ้าหากข้าไม่ได้เข้ามาที่นี่ข้าจะหากระบี่ที่ไหน”
“ถ้างั้น ... ท่านผู้อาวุโสตอนนี้ท่านจะทำอย่างไร?”
“ข้าได้ตายก่อนวัยอันควร! มือสังหารลอบสังหารข้า ข้าได้พบจุดจบของข้าก่อน! แต่มันก็คุ้มค่าข้าคือวิญญาณที่อาศัยอยู่มานานนับหมื่นปี! ข้ามีความสุขและเพลิดเพลินไปกับมัน”
“เอ่อ ...หมื่นปี..” ซูหยุนผงะ
“ท่านบรรพบุรุษกระบี่ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน?”
“ข้าไม่รู้ ท่านเคยบอกข้าว่า ท่านเสียชีวิตที่ทวีปปีศาจ?”
“ทวีปปีศาจ?” ซูหยุนมองดูเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
จู่ๆซูหยุนก้เห็นพื้นที่รอบๆปริแตกและบิดเบือน จากนั้นมันก็กลับออกมาในที่ราบพยัคฆ์ ทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านั้น
“ยินดีด้วยที่เจ้าได้ผ่านการทดสอบตอนนี้เจ้าสามารถฝึกเคล็ดวิชาได้แล้วและตอนนี้ทุกอย่างจะถูกแสดงในเคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่ง! ตราบใดที่เจ้าเพียรพยายามเจ้าจะประสบความสำเร็จ!”
“เจ้าหนูตอนนี้ข้าง่วงแล้วข้าต้องการจะงีบสักหน่อย! ข้าเป็นเพียงจิตวิญญาณข้าแทบจะไม่เคยคุยกับใครมานานมาก ข้าใช้ปราณวิญญาณไปมากไป ข้ายังอ่อนแอและถ้าหากข้ายังคงสภาพแบบนี้อยู่ข้าอาจจะหายไปอย่างถาวร! ลาก่อน เจ้าหนู!”
ผู้เฒ่ากล่าว
หลังจากที่ซูหยุนได้ยินอย่างนี้มันก็มีอารมณ์บูด
"อ่า..ได้ครับ" หากเป็นจิตวิญญาณแล้วเผาผลาญปราณวิญญาณจนหมดอาจจะมีความเสี่ยงที่จะหายไป
แต่เพื่อที่จะทำให้ซูหยุนมีโอกาสได้รับเคล็ดวิชากระบี่ไร้สรรพสิ่งผู้เฒ่าใช้พลังงานอย่างมาก
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามซูหยุน รู้สึกขอบคุณผู้เฒ่าผู้นี้เป็นอย่างมากจากก้นบึ้งในหัวใจของมัน
เขาวางด้ามกระบี่ลงพื้นแล้วคุกเข่าคาราวะสามครั้ง
“ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำท่านผู้อาวุโส รักษาตัวด้วย โปรดรับการคาราวะจากข้า”
ผู้เฒ่ารู้สึกแปลกใจ แต่หลังจากช่วงเวลานั้นเขาก้เปี่ยมไปด้วยความสุข“ดี!! ดี!! ดี!! ข้าไม่นึกเลยว่า หลังจากที่ข้าพิทักษ์เคล็ดวิชามานาน วันนี้ข้าก็ได้รับสิ่งตอบแทน ...... ฮ่าฮ่าฮ่า !!!!”