ตอนที่ 021 – ความประมาทของเสิ่นหยวน
ตอนที่ 021 – ความประมาทของเสิ่นหยวน
ในความเป็นจริง ศิษย์ทั้งหมดของสถาบันผลึกฟ้าต่างร่ำรวยเป็นอย่างมาก
เขามีเพียงยันต์วิญญาณสามใบ และทั้งหมดนั้นก็คือ ยันต์ขั้นเงินวิชาตัวเบาระดับสอง [ท่าเท้าท่องไพร] วิชาตัวเบาระดับสาม [แปดก้าวจักจั่น] และวิชาดัชนีระดับสาม [ดัชนีเหล็กไหล]
ดูคล้ายว่ายันต์จิตวิญญาณวิชาตัวเบาจะห้ามปรามความคิดปล้นชิงของถังเทียนได้ ปัจจุบันเขายังไม่มียันต์จิตวิญญาณวิชาตัวเบา และมิได้คาดหวังว่าเขาจะได้รับพวกมันมาจากใครบางคน ถังเทียนรู้สึกว่าหยางหย่งผู้ซึ่งนอนสลบไสลอยู่บนพื้น ช่างน่ามองเหลือเกิน
[ดัชนีเหล็กไหล] เป็นวิชาดัชนีเกี่ยวเนื่องกับทองธาตุซึ่งถังเทียนไม่สามารถเรียนรู้ได้ แต่ถือเป็นโชค วิชาดัชนีทองธาตุเป็นที่นิยม และถังเทียนสามารถที่จะแลกเปลี่ยนเป็นยันต์จิตวิญญาณที่เขาสามารถเรียนรู้ได้
ช่างเป็นคนดีจริง!
หัวใจของถังเทียนเต็มไปด้วยความขอบคุณ
ขณะที่เขามองไปยังเสิ่นหยวน นัยน์ตาของเขาก็ลุกเป็นไฟทันที เนื่องจากเสิ่นหยวนมีพละกำลังอันน่าพิศวง เขาจึงสงบตัวเองลงอย่างรวดเร็ว
เป็นคราแรกที่ถังเทียนพบเห็นอาโม่หลี่ถูกกดดันโดยใครบางคน
เฉีนเหยียนคู่ควรที่สุดแล้วที่ถูกเรียกขานนามว่า ‘ฝ่ามือทรายเหล็กเสิ่น’ แม้ว่าวิชาฝ่ามือของเขาจะแลดูสามัญธรรมดา แต่ทุกฝ่ามือของเขาก็หนักแน่นและแข็งแกร่ง อาโม่หลี่มีพรสวรรค์โดยกำเนิด ด้วยดาบไม้อันยักษ์ที่ดูมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ ขณะที่เขาใช้ออกด้วยปราณแท้จริง เขาดูคล้ายเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ถังเทียนยอมรับว่าพวกเขาต่างมิอาจเทียบเทียมกัน อย่างไรก็ตามด้วยความแข็งแกร่งของวิชาดาบ เหล่าฝ่ามือทรายเหล็กต่างถูกปัดป้องเอาไว้ได้
ปราณแท้จริงกระจายไปทั่วร่างเสิ่นหยวน ด้วยการย่างก้าวของเขาแลดูคล้ายเชื่องช้า แต่หนักหน่วงทุกย่างก้าว ด้วยทุกย่างก้าวของเขาทิ้งร่องรอยไว้อย่างชัดเจนบนพื้น เขาก็ค่อยๆเคลื่อนไหวเข้าใกล้อาโม่หลี่ที่ละนิด และด้วยฝ่ามือสีดำทั้งสองนั้นต่างปลดปล่อยเสียงดังสนั่น
มันช่างทรงพลังนัก!
ถังเทียนมองดูอย่างว่างเปล่า เสิ่นหยวนทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถที่จะปัดป้องเขาได้เลย กระบวนท่าดาบของอาโม่หลี่เริ่มที่จะดูยุ่งเหยิงขณะที่ฝ่ามือทรายเหล็กของเสิ่นหยวนแลดูเรียบง่าย แต่ยังคงน่าประหลาดใจ ด้วยทุกฝ่ามือปกคลุมไปรอบ 10 ฉื่อ
เสิ่นหยวนเมินการเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าดาบอาโม่หลี่ ฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่า พลังดาบของอาโม่หลี่ก็ค่อยๆเริ่มมิสามารถปัดป้องพลังฝ่ามือ
ถังเทียนมองเขาออก ความเข้าใจฝ่ามือทรายเหล็กของเสิ่นหยวนน่าอัศจรรย์แท้จริง แต่สาเหตุหลักที่อาโม่หลี่ถูกกดดันอยู่นี้ เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเสิ่นหยวนและปราณแท้จริงที่พิเศษ
ถังเทียน ผู้ซึ่งพึ่งบ่มเพาะกายากระเรียน เขามีความภาคภูมิใจที่ได้ชมฉากต่อสู้นี้
ถ้าหากไม่ใช่ว่าเสิ่นหยวนกำลังบ่มเพาะวิชาปราณอันพิเศษ นั่นก็หมายความว่าเขาอยู่ในขั้นสี่ปราณแท้จริง
ปราณแท้จริงของอาโม่หลี่ไม่ถือว่าอ่อนแอภายในขั้นสาม ด้วยวัยเพียงเท่าเขา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปราณแท้จริงของถังเทียนอ่อนแออย่างแท้จริง เนื่องจากเขาพึ่งจะเข้าสู่ขั้นสามของปราณแท้จริงเมื่อไม่นาน แม้ว่าเขาจะบ่มเพาะกายากระเรียน และปราณแท้จริงเขาสามารถที่จะปลดปล่อยพลังอันน่าหวาดหวั่น พลังของเขาเทียบเท่าได้กับผู้ซึ่งอยู่ในขั้นสามระดับกลางของปราณแท้จริง อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนั้นหากจะเทียบกับปราณแท้จริงขั้นสามระดับกลาง เขาก็ยังคงถือว่าต่ำกว่า
ขั้นสามระดับปลายเช่นอาโม่หลี่ ถูกกดดันโดยเสิ่นหยวนอย่างสิ้นเชิง เหล่าพลังของปราณแท้จริงของเขาอันน่าสังเวช ต่างถูกแรงของฝ่ามือของเสิ่นหยวนปัดออกไปด้านข้างหมด
สถาบันผลึกฟ้าต่างเก็บเหล่าพยัคฆหมอบมังกรซ่อนเร้นอย่างแน่นอนแล้ว
เสิ่นหยวนมิคล้ายจะดูอหังการเลย แต่ด้วยปราณแท้จริงของเขานั้นถือว่าอยู่ในระดับที่น่ากลัวแล้ว
ยามเมื่อถังเทียนแลเห็นว่ากระบวนท่าดาบของอาโม่หลี่ดูยุ่งเหยิง เขาก็แปรเปลี่ยนเป็นกังวล ถ้าหากอาโม่หลี่พ่ายแพ้ ทรัพย์สินสงครามที่เขาปล้นชิงมาคงต้องถูกนำกลับไป และเสิ่นหยวนไม่มีทางปล่อยพวกมันไปแน่
ถังเทียนขบฟันของเขาพลางกระทืบเท้าลงอย่างเกรี้ยวกราด และเคลื่อนร่างทั้งหมดของเขาไปข้างหน้าดั่งเสือชีตาห์
หมัดอัสนีบาต
เสิ่นหยวนมองเห็นถังเทียนพุ่งมายังเขา ภายในใจเขาก็สั่นไหว แต่เมื่อถังเทียนปลดปล่อยหมัดอัสนีบาตมายังเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม
วิชาระดับสอง ในสายตาเขามันอย่างไร้ประโยชน์
ด้วยความสามารถเพียงแค่นั้น พวกมันกล้าที่จะท้าทายผลึกฟ้า?
หลังจากวันนี้ เจ้าทั้งสองจะได้รับรู้ ว่าความคิดของพวกเจ้ามันเป็นเพียงเรื่องตลกขบขัน!
นัยน์ตาของเสิ่นหยวนเติมเต็มไปด้วยความโกรธ ทั่วทั้งร่างของเขาปลดปล่อยปราณแท้จริง ผมเผ้าของเขาลุกชัน และฝ่ามือของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงยิ่งขึ้น และในเวลาเดียวกันอากาศรอบๆตัวเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นหนาแน่น
ถังเทียนคล้ายแมลงวันตัวเล็ก ที่ซึ่งล่วงหล่นไปในบึงที่ที่ซึ่งมิสามารถจะขยับปีกได้ หมัดอัสนีบาตของเขามิแม้แต่จะเข้าใกล้เสิ่นหยวน และทั่วร่างของเขาต่างปลิวออกไปอย่างน่าอึดอัดโดยแรงลมที่เกิดขึ้นจากฝ่ามือทรายเหล็กทั้งสอง
หมัดอัสนีบาตถูกทำลายก่อนที่มันจะได้โจมตีเสียอีก
ชั่วพริบตานั้น ทั้งสองต่างตกอยู่ในอันตรายแล้ว
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
อาโม่หลี่ปัดป้องฝ่ามือทรายเหล็กของเสิ่นหยวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดูคล้ายมันจะมาจากทุกทิศทาง ไม่ว่าเขาจะแปรเปลี่ยนกระบวนท่าดาบเช่นไร มันก็ไร้ประโยชน์ พลังของ [ผ่าปฐพี] ที่เขาคาดคิดว่ามันจะทรงพลังและรุนแรง กลับกลายเป็นเพียงสิ่งไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงในการต่อสู้นี้
ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญแห่งผลึกฟ้านี้ เสิ่นหยวนถือว่าไม่มีอันใดมาก ซึ่งถือว่าเขายังอยู่ในระดับต่ำ เพียงแต่อาโม่หลี่มิอาจจะจินตนาการได้ พลังของเสิ่นหยวนจะถึงขั้นน่าหวาดกลัวขนาดนี้!
ขณะที่เขามองเห็นพื้นฐานถังเข้าร่วมการต่อสู้ อาโม่หลี่ขบริมฝีปากของเขาอย่างเจ็บปวด
เพียงแค่พลังของพื้นฐานถังแค่นี้กลับเข้าร่วมการต่อสู้ มันก็เป็นเช่นเดียวกับการรนหาที่ตาย
สารเลว!
อาโม่หลี่ไม่ทราบว่าทำไม ภายในใจเขาถึงได้รู้สึกโกรธเช่นนี้ ใช่แล้ว คลั่งแค้น! คลั่งแค้นที่เขาทำไมช่างอ่อนแอเยี่ยงนี้ คลั่งแค้นที่พลังของเขาช่างอ่อนแอและต่ำต้อย คลั่งแค้นที่เขากลายเป็นคนขลาดเขลา!
ความโกรธของเขาปะทุขึ้นเปรียบดั่งลาวาในภูเขาไฟพลางร่างของเขาก็เริ่มสั่นสะท้าน
เช่นเดียวกับเสียงที่ก้องอยู่ภายในใจเขา
ช่างน่าอับอายนัก!
อาโม่หลี่!
เจ้าเป็นผู้ที่มุ่งมั่น ผู้ที่ซึ่งต้องการจะสรรสร้างเส้นทางเต๋าของตัวเอง!
เจ้าจะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร! เจ้ากล้าที่จะขลาดเขลา?
เจ้าทำได้อย่างไร!
แล้วความฝันของเจ้าล่ะ? แล้วคำสัญญาณที่เจ้ากล่าวไว้?
เจ้าไม่แม้แต่จะต่อสู้อย่างกล้าหาญ อาโม่หลี่เจ้ามันช่างขลาดเขลานัก!
เจ้ามันช่างขลาดเขลา...
“....เจ้ามีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับความเหี้ยมโหดของเขา…”
ทันใดนั้นคำกล่าวของตาเฒ่าเว่ยก็เกิดขึ้นภายในใจอาโม่หลี่
สายตาของเขาพลันมองไปยังพื้นฐานถัง
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
เมื่อยามที่ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่ด้านข้าง เขาก็กังวลเป็นอย่างมาก แต่เมื่อยามเขาเข้าร่วมการต่อสู้นี้แล้ว เขาก็โยนเรื่องราวทั้งหมดที่เสียสมาธิทิ้งไว้ด้านหลัง เขาเบิกตากว้างจ้องมองและใช้ออกหมัดอย่างต่อเนื่อง
หมัดอัสนีบาต!
จำนวนหมัดอัสนีบาตช่างน่าอัศจรรย์ทั้งหมดสลายหายไปในอากาศ และทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้ทิศทาง
ในความคิดส่วนตัวการเข้าร่วมต่อสู้ ถังเทียนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแตกต่างจากฝ่ามือทรายเหล็กของเสิ่นหยวน มันดูคล้ายจงใจปลดปล่อยฝ่ามือตามแนวขวาง แต่เสียงดังสนั่นที่เกิดจากลมฝ่ามือ ดูคล้ายเหมือนติดอยู่ในปราการลม ความรู้คล้ายถูกบดขยี้อยู่ภายใน
แน่นอนว่ามันไม่มีโอกาสที่จะหลบหลีกได้
ปัง ปัง ปัง!
หมัดอัสนีบาตของถังเทียนเปรียบดั่งพิรุณโปรยปรายตกกระทบปราการลม ปลดปล่อยหมัดความเร็วเหนือเสียง และพื้นที่ด้านหน้าของเขาเริ่มก่อให้เกิดดั่งระลอกคลื่นบิดเบี้ยวลางๆ
ตูม!
ปราการลมแตกสลาย คมดาบของลมปลิวกระจายคล้ายกระจกแตก กระจายออกไปทั่วทิศทาง ฉึก ฉึก ฉึก เสื้อผ้าของถังเทียนต่างถูกตัด และเลือดสดๆพลางไหลออกมาจากบาดแผลเล็กๆ
ถังเทียนมิสามารถจะมีเวลาพัก ขณะนั้นเสิ่นหยวนก็ปลดปล่อยฝ่ามืออีกครา
และหมัดอัสนีบาตเช่นกัน!
ปรากฏความประหลาดใจภายในดวงตาเสิ่นหยวน ด้วยระดับหมัดอัสนีบาตของถังเทียน ทำให้เขาเชื่อว่ามันเป็นเพียงความบังเอิญ จนกระทั่งตอนนี้ ถังเทียนใช้ออกหมัดอัสนีบาตไม่พลาดแม้สักคราเดียว นั่นกล่าวได้ว่า หมัดอัสนีบาตของถังเทียนมีอัตราความสำเร็จเต็มสิบส่วน
นี้มันคือหลักวิชาระดับสูง เพียงแต่ว่ามันไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้แต่ตอนนีั บันทึกภายในเมืองเมฆาดาราหวังเจิ้นเพียงมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่แปดส่วนเท่านั้น
ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่ตรงหน้าเขา สามารถที่จะปลดปล่อยออกได้เต็มสิบส่วน
เขาได้ประเมินมันต่ำไปแล้ว
แต่ความประหลาดใจในสายตาเสิ่นหยวนก็สลายหายไปในพริบตา เหล่าอัจฉริยะไม่ใช่หาได้ยากภายในสถาบันผลึกฟ้า เขาพบเห็นเหล่าอัจฉริยะทุกประเภทมาหมดแล้ว หมัดอัสนีบาตเป็นเพียงวิชาหมัดระดับสองเท่านั้น มันอาจจะน่าสนใจต่อศิษย์ใหม่บางคน แต่สำหรับเหล่าศิษย์รุ่นพี่แล้ว มีเพียงวิชาระดับสามเท่านั้นที่มีความหมาย และวิชาระดับสี่ถือว่าเป็นขั้นสูง
ความสำเร็จของหมัดอัสนีบาตที่สมบูรณ์แบบ ต่อกรกับฝ่ามือทรายเหล็ก มันช่างอ่อนแอเปราะบาง เพื่อมิยอมเปิดเผยพลังของตัวเอง เสิ่นหยวนถือว่าอยู่ในระดับต่ำระหว่างเหล่าอัจฉริยะภายในสถาบันผลึกฟ้า ความแข็งแกร่งของเขาถูกประเมินไว้ต่ำเสมอ แต่เขาก็มิได้ใส่ใจ ถ้าหากผู้คนมิได้อ้อนวอนต่อเขา เขาก็จะมิเปิดเผยมันออกไป
ถ้าหากมิใช่ว่าเขาจักต้องรับมือทั้งถังเทียนและอาโม่หลี่ ถังเทียนคงมิอาจจะมีโอกาสเข้าต่อสู้ ถึงแม้ว่าเขาจักต้องรับมือทั้งสองคน เขาก็มิคาดว่าถังเทียนจะมีความสามารถพอจะคุกคามเขา การใช้ออกหมัดอัสนีบาตอย่างต่อเนื่องทำให้ร่างกายผลาญพลังปราณเป็นอย่างมาก
คอยดูแล้วกันว่าเจ้าจะทนได้นานสักเท่าใด?
นัยน์ตาเสิ่นหยวนเย็นชาเขาพลางปลดปล่อยฝ่ามืออีกครา
ถังเทียนมิได้ลดละและสงวนพลังในร่างของเขาด้วยการโจมตีด้วยหมัดอัสนีบาต แต่ทุกคราที่เขาใช้ออก เขาต้องผลาญพลังไปอย่างมาก ทุกคราที่ปราการลมพังทลาย เขาก็จะได้รับบาดแผลเพิ่มบนร่างของเขา
นอกเหนือจากส่วนหลังของเขา ส่วนที่เหลือต่างเต็มไปด้วยบาดแผล เหงื่อและเลือดสดชุ่มโชกชุดของเขา
ถังเทียนเกินกว่าที่จะรู้สึก และสายตาอันร้ายกาจของเขาก็จ้องมองไปที่เสิ่นหยวน ใช้ออกพลังของเขาทั้งหมดพลางค่อยๆก้าวไปข้างหน้า
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
“....เจ้ามีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับความเหี้ยมโหดของเขา…”
อาโม่หลี่จ้องมองไปยังเบื้องหลังของถังเทียนที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ทั่วร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเลือด แต่เขายังคงดื้อรั้นเดินไปข้างหน้า ตั้งแต่ยามที่ถังเทียนกระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ เขาไม่ได้ถอยเลยสักครา เขาประสบกับความยากลำบากในการก้าวไปข้างหน้า มันทำให้เขาประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง!
พื้นฐานถัง...
ความโกรธแน่นไปทั้งอกอาโม่หลี่ และภายในหัวของเขาก็ปรากฏภาพหนุ่มน้อยชูแขนขึ้นพลางตะโกน
“โว้ หนุ่มน้อย จัดการมันเลย!”
เสียงคำรามของภาพหนุ่มน้อยคล้ายดังก้องอยู่ภายในหัวใจของเขา
พื้นฐานถัง...
ไม่รู้ว่าทำไม สายตาของอาโม่หลี่แปรเปลี่ยนเป็นสงบและมั่นคงมากยิ่งขึ้น ทั้งสองมือซ้ายและขวาของเขากระชับแน่นจับด้ามดาบไม้
เขายกอาวุธเสมอเอวของเขา ด้วยมือที่จับอยู่รอบด้ามไม้พลางยกดาบขึ้น
ด้วยร่างกายดั่งอสูร มันทำให้เขาดูราวกับเป็นนักสู้จากโบราณ เต็มไปด้วยความสง่างามและพลังสุดที่จะพรรณนาถึง
ด้วยการจ้องมองท่าทางที่ดูขึงขังและแน่วแน่ ราวกับพลังส่งผลให้เกิดอาการหนาวสั่นไปทั่วกระดูกสันหลัง หลั่งไหลออกมาจากทิศทางของอาโม่หลี่ ราวกับเขาสามารถอัญเชิญลมได้
เอ๋?
ผู้ที่ซึ่งเป็นคนแรกที่รู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติคือเสิ่นหยวน ในตอนนี้ พลังที่อาโม่หลี่กำลังเปล่งประกายออกมามีรัศมีที่พิเศษ เป็นพลังที่สามารถทำให้หัวใจผู้คนสั่นระรัว
นี้มัน...
ถังเทียนไม่ได้สังเกตุเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอาโม่หลี่ มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาเห็นและรู้สึก คือเสิ่นหยวนสูญเสียสมาธิ และในทันที เขาก็เพิ่มความเร็วของหมัดอัสนีบาต ปราการลมพังทลายอย่างต่อเนื่อง และเลือดก็พุ่งกระฉูดยิ่งขึ้น ถังเทียนเบิกตาของเขากว้าง คล้ายอสูรกายอย่างคล่องแคล่ว รุดหน้าขึ้นไปอย่างเงียบๆ
ปราณแท้จริงของอาโม่หลี่พรั่งพรูทั่วร่างของเขา และพลังลึกลับเริ่มแผ่ขยายออกมาภายใต้เท้าของเขา
ในยามที่การแผ่ขยายพลังถึงจุดสูงสุด เสียงคำรามเข้มของอาโม่หลี่พาให้เกิดพลังอันน่าสะพรึงกลัว สะท้านไปทั่วทิศทาง
เขายกดาบไม้ยักษ์ของเขาขึ้นเหนือศีรษะ ราวกับขวานยักษ์ ฟันลงมาเสียงดังสนั่น
รอยลึกสีดำอันหยั่งไม่ถึงแยกออกพลุกพล่านดั่งงูสายฟ้า มุ่งตรงไปยังเสิ่นหยวน
ปราการลมด้านหน้าเสิ่นหยวนทั้งหมดต่างแตกกระจายเป็นชิ้นๆจากคมดาบ
กระบวนท่าสังหารผ่าปฐพี : [ทัณฑ์อเวจี]!
การแสดงออกของเสิ่นหยวนแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ในความตระหนก เขาปลดปล่อยปราณแท้จริงจนถึงขีดจำกัด ตั้งท่าขี่ม้า และกดดันทั้งสองฝ่ามือพร้อมกัน ผลักดันออกไปอย่างช้าๆ ราวกับว่าเขากำลังผลักดันปราการเหล็กอันหนักหน่วง และเขาจำต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างเพื่อการนั้นชุดของเขาราวกับจะลุกไหม้
พวกเขาได้เห็นว่าปราการลมพังทลายดั่งเช่นปราการเหล็ก
กระบวนท่าสังหารฝ่ามือทรายเหล็ก : [ทลายปราการเหล็ก]!
กระบวนท่าสังหาร ปะทะ กระบวนท่าสังหาร!
แก้มของถังเทียนโดนเฉือนด้วยพลังลึกลับ เลือดไหลลงเป็นสายอย่างช้าๆ ถังเทียนไม่รู้สึกอะไรเลย เขาหรี่ตา ทันใดนั้นก็ปลดปล่อยไอสังหารอย่างกระทันหัน
โอกาสมาแล้ว!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ