บทที่ 5: ผู้แฝงเร้นในความมืด
บทที่ 5: ผู้แฝงเร้นในความมืด
พ่อของเขาสงสัยหลังจากซูกุ้ยม่อกลับมาแล้วได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้คาดคั้นอะไร อย่างไรก็ตามซูนหยุนแสดงพลังมากพอ ซูหยุนไม่กลัวการตอบโต้ใด ๆ จากซูกุ้ยม่อ
เช้าวันรุ่งขึ้นซูหวังไคนำเลือดวานรอัคคีมาให้ที่กระท่อม
ซูหยุนรับเลือดวานรอัคคีหลังจากที่เขายันตัวเองลุกขึ้น ไม่นานหลังจากซูหวังไคออกไปซูหยุนก็ดื่มเลือดวานรอัคคีอย่างรวดเร็ว
เลือดวานรอัคคีมีราคาแพงมากร่างกายซูหยุนเริ่มฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากที่ฟื้นสภาพได้มากแล้วซูหยุนวางเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปในกระสอบ เลือดถูกห่ออย่างดีเพื่อป้องกันการไหลออกจากถุง จากนั้นเขาก็เอาขนมปังนึ่งและกระบี่ขึ้นสนิมบางส่วนใส่ไ
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเขาก็มุ่งหน้าไปยังตลาด
ควบม้าดำจิตวิญญาณที่เขาเช่ามาก่อนไปบนเส้นทางไปยังเมืองและเร่งรุดออกไป
ม้าดำวิญญาณเป็นประเภทม้าวิญญาณที่มีจิตวิญาณมากมายในระหว่างที่วิ่งวางใจมันได้ มิหนำซ้ำฝีเท้าก็รวดเร็วเทียบเท่ากับม้าแข่ง
สกุลซูไม่ได้ จำกัด เสรีภาพของทุกคนทำให้สามารถเข้าสู่นอกพื้นที่ของสกุลซูได้อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม กับ สัตว์อสูร ออกอาละวาดแผ่นดินใหญ่ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะอยู่รอดในที่รกร้าง เมื่อใครคนหนึ่งก้าวออกจากสกุลซูพวกเขาจะเป็นตัวของตัวเองซึ่งหมายความว่าการเอาตัวรอดจะเป็นการต่อสู้ในชีวิตประจำวันสำหรับพวกเขา
ในฐานะที่เป็นผู้บ่มเพาะระดับขั้นที่หกซูหยุนไม่มีความแข็งแกร่งในการฆ่าสัตว์อสูรที่อ่อนแอที่สุดในที่รกร้าง ดังนั้นเขาจึงไปตามเส้นทางหลักผ่านป่าอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและพยายามรีบไปยังปลายทางของเขา
อย่างไรก็ตามในขณะที่ซูหยุนเดินทางไปได้หลายลี้เขาก็พบสัตว์อสูรไม่มาก ดังนั้นเขาจึงรีบแอบเข้าไปยังจุดหมายปลายทางของเขา
ในที่สุดหลังขี่ม้าดำจิตวิญญาณมาสองวันเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเขา ...
ที่ราบพยัคฆ์!
กระท่อมของซูหยุนอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 ลี้จากที่รายพยัคฆ์
ม้าดำวิญญาณของเขาอิดรวยซูหยุนจึงผูกมันไว้กับต้นไม้ จากนั้นเขาก็พบว่าอาหารสำหรับม้าดำวิญญาณ หลังจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังที่ราบพยัคฆ์
ที่ราบพยัคฆ์อยู่ภายใต้เขตการปกครองของสำนักกระบี่อมตะ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งคฤหาสน์ของสำนักกระบี่อมตะเป็นสำนักอันดับหนึ่งของสำนักวิชาที่ดีที่สุด
หากใครไม่ได้มีการบ่มเพาะถึงขั้นที่แปดการเข้ามาในพื้นที่นี้ถือได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายหากพยายามที่จะเข้ามา
ที่นี่มีสัตว์อสูรวิญญาณที่ดุร้ายนับไม่ถ้วนวิ่งอาละวาด ทุกๆที่ล้วนอันตรายในพื้นที่นี้ถูกปกคลุมเต็มไปด้วยควันพิษ หากเกิดพลาดแม้แต่นิดเดียวพบสัตว์อสูรวิญญาณที่แข็งแกร่งก็ไม่อาจจะหลบหนีได้
ซูหยุนเริ่มระวังเมื่อเข้าสู่ที่ราบ พื้นที่รอบนอกของที่ราบพยัคฆ์ไม่มีสัตว์อสูรที่อันตรายต่อซูหยุนดังนั้นตอนนี้เขาจึงปลอดภัย
เขาค่อยๆก้าวลึกเข้าไปในที่ราบและเดินเข้าไปในพื้นที่โล่งกว้าง
พื้นที่โล่งกว้างของที่ราบมีแม่น้ำไหลผ่าน น้ำที่ไหลใสจนเห็นได้ชัดเจนและไม่มีอสูรร้ายใด ๆข้างใน น้ำที่นี่ดูเหมือนจะไหลลงไปในทะเล
ซูหยุนเดินไปด้านข้างของแม่น้ำ
โฮกกก!
หลังจากนั้นจู่ๆก็มีเสียงที่ดังสนั่นออกมาจากป่า
ใบหน้าซูหยุนแปลเปลี่ยนทันทีและรีบกระโดดลงไปในแม่น้ำ
ตูม!
ซูหยุนดำลงไปในน้ำ
แม้จะมีทักษะแต่ซูหยุนก็มีปัญหากับเนื้อสัตว์ที่เขาแบกมาขณะกระโดดลงไปในน้ำ
เขาใช้ประโยชน์จากหยดน้ำบางส่วนในการกระจายน้ำที่โอบล้อมโดยรอบและเริ่มสร้างหมอกห่อหุ้มพันรอบตัวเขา ทำให้น้ำในแม่น้ำแยกตัวออกจากเนื้อหัวใจเสือที่เขาถืออยู่
บนฝั่งปรากฎร่างสัตว์อสูรสีขาวมหึมาเป็นลูกวัวตาสีแดงคล้ายดั่งปีศาจมีเขี้ยวแหลมคมยืนส่ายหัวอย่างรุนแรง มันเป็นเพียงสัตว์อสูรวิญญาณระดับหนึ่งเท่านั้นอย่างไรก็ตามแม้มีสิบชีวิตซูหยุนก็ไม่สามารถสู้กับเหล่าสัตว์อสูรนั้นได้
สัตว์อสูรได้กลิ่นกลิ่นซูหยุนมันจึงรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
แต่ขณะนี้ซูหยุนอยู่ใต้น้ำ
สัตว์อสูรจำนวนมาก ของที่ราบพัคฆ์ ไม่ถูกกับน้ำบางชนิดนั้นกลัวน้ำ เขาได้รับการปกป้องชีวิตจากคุ้งแม่น้ำ
อสูรสีขาวยืนอยู่สักครู่ แต่หลังจากที่เห็นว่าซูหยุนไม่ขึ้นมาก็หันหัวจากไป
เมื่อเห็นอย่างนั้นซูหยุนก็ว่ายน้ำต่อไปอีกสักพัก จากนั้นเขาหันไปทางที่ราบกลางฝั่งและกระโดดออกมา เขาบีบน้ำออกจากเสื้อผ้าแล้วเดินด้วยเท้า
ในทางที่เขาเดินเขาพบกับสัตว์อสูรวิญญาณมากมาย แต่โชคดีที่เขารู้เทคนิคเกี่ยวกับสัตว์อสูรวิญญาณเหล่าน้ันที่เขาพบ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ง่ายดาย สัตว์อสูรวิญญานหลายตัวสามารถร่ายเวทได้เป็นผลให้น้ำซัดสาดกระเซ็นตรงจุดที่เขาว่ายเป็นสิบๆครั้ง โชคดีที่ระเบิดเวทไม่โดนตัวเขาเลย
ซูหยุนได้แต่ว่ายน้ำในแม่น้ำ มุ่งหน้าไปยังปลายทางของเขา หากแต่คลื่นที่กระแทกจากแรงระเบิดของระเบิดเวทตีร่างกายของเขาเขาทำได้แต่ขบฟันในความเจ็บปวดแล้วไปต่อ ถ้าเขาหยุดนั้นหมายถึงความตาย
หลังจากก้มหน้าก้มตาว่ายน้ำ ประสบอันตรายนับไม่ถ้วนสามชั่วโมงในที่สุดเขาก็มาถึงปลายทางของเขา :ใจกลางที่ราบพยัคฆ์ - สถานที่ต้องห้าม จักรพรรดิพยัคฆ์
สถานที่ต้องห้ามนี้เป็นสถานที่ห้ามเข้าแก่สัตว์อสูรที่ราบพยัคฆ์เพราะมีราชาสัตว์อสูรวิญญาณอยู่ที่นี่ มีสัตว์อสูรวิญญาณที่ไม่สามารถระบุเขตแดนวิญญาณได้อยู่ที่บริเวณนี้:พยัคฆ์นิรันดร์
ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่มากขนาดของมันพอๆกับห้องเล็ก ๆ ทั้งตัวของมันมีขนสีเขียว มันมีกรงเล็บและฟันอันแหลมคมดั่งใบมีดโกน แต่สิ่งที่ซูหยุนหวาดกลัวมากที่สุดเป็นสองรูที่ปากของมันซึ่งสามารถยิงก๊าซพิษที่กัดกร่อนออกมาได้หากสัมผัสมัน
มีหลายคนที่พูดเกี่ยวกับการมาที่นี่ หากไม่ใช่ ขอบเขตแก่นแท้วิญญาณพวกเขาไม่กล้าที่จะเหยียบย่างเข้ามาที่นี่
เมื่อภพก่อนหลังจากที่เขาออกตระกูลมาเขาก็ได้ทำงานให้กับตระกูลหลัก เขาเคยข้ามฝั่งมาในเขตพยัคฆ์ มันเป็นทางหนีแคบ ๆ แต่โชคยังเข้าข้างเขา เขาวิ่งมาเจอกับกลุ่มนักผจญภัยที่ช่วยซูหยุนรอดพ้นจากปากเหวแห่งความตาย
หลังจากสะสมประสบการณ์เขาก็ไม่รู้สึกกลัวพยัคฆ์นิรันดร์
โดยปกติแล้วถ้ำของพยัคฆ์นิรันดร์มักจะตั้งขึ้นเป็นโพรงซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่โล่ง นี่จึงทำให้มันสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ
ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาซูหยุนจึงค้นพบถ้ำที่แตกต่างกันสองแห่ง
ยังไงก็ตาม...
เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้เกินไป
พยัคฆ์นิรันดร์เป็นที่รู้กันดีว่ามีพลังอย่างแท้จริง หากซูหยุนถูกพบเขาจะถูกจับได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าซูหยุนจะพยายามหลบหนีลงไปในน้ำ พยัคฆ์นิรันดร์ก็จะวางยาพิษในแม่น้ำที่ซูหยุนอยู่ในนั้น
ห้าร้อยเมตรเป็นระยะห่างที่เหมาะสมที่สุด
เพราะมันเป็นที่ราบไม่มีต้นไม้หรือก้อนหินขัดขวางวิสัยทัศน์ของซูหยุน ตราบใดที่เขาสามารถแยกแยะถ้ำเสือเขาก็สามารถคำนวณระยะทางได้
ไม่นานหลังจากซูหยุนแน่ใจสถานที่ตั้งของถ้ำเสือถ้ำแรกของเขา
แต่แค่นี้มันยังไม่เพียงพอ
เขาทำเครื่องหมายตำแหน่งและยังคงค้นหาถ้ำเสือของเขาต่อ
พยัคฆ์นิรันดร์ในแต่ละพื้นที่จะแบ่งอณาเขตของตัวเอง มันไม่ค่อยเข้าไปในอาณาเขตของตัวอื่นๆ
กว่าชั่วโมง จากเครื่องหมายแรกไปประมาณห้าพันเมตร ซูหยุนได้จำถ้ำที่สองของเขา
ไม่ไกล้ไม่ไกลซูหยุนได้ยินเสียงระเบิดที่คล้ายกับเสียงคำรามของเสือที่เปล่งออกมาจากถ้ำ เสียงที่ทำให้ทุกคนสั่นประสาท
มันดูเหมือนว่าถ้ำนี้มีพยัคฆ์นิรันดร์อยู่ข้างใน
ซูหยุนหยิบหินขึ้นมาและทาสีที่ระยะห่างระหว่างที่ตั้งของถ้ำทั้งสองแห่ง หลังจากคำนวณจุดแล้วเขาก็เอาเนื้อหัวใจเสือออกมาจากกระเป๋าของเขา
พยัคฆ์นิรันดร์มีระดับต่ำกว่าแก่นแท้จิตวิญญาณ ซูหยุนไม่ทราบเหตุผล แต่พยัคฆ์นิรันดร์ชอบกินเนื้อหัวใจเสือและฉีกเนื้อหนังจากมัน
ซูหยุนคำนวณอย่างรวดเร็วหลังจากวางเนื้อแล้วหันไปทางถ้ำที่ไม่มีพยัคฆ์นิรันดร์
อย่างไรก็ตาม หลังจากวิ่งไม่กี่ก้าว เขาได้ยินเสียงคำรามมาจากทางด้านหลังเขา
พยัคฆ์นิรันดร์ออกจากถ้ำของมัน?
ซูหยุนตกใจ
เขาหยุดแล้วรีบปีนขึ้นไปด้านข้างของซอกหินและมองไปที่ร่างสีเขียวขนาดใหญ่ที่เดินออกมาจากถ้ำพร้อมที่จะกินเหยื่อที่เขาทิ้งไว้
ซูหยุนมองชิ้นเนื้อหัวใจเสือบนพื้นแล้วพยัคฆ์สีเขียวพร้อมที่จะออกจากถ้ำ หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเปิดขวดแป้งแล้วโยนมันออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี
ขณะนั้นกลิ่นผงสีชมพูที่ลอยตลบอบอวนเต็มอากาศขวดลอยพุ่งเข้าหาถ้ำแล้วตกลงสู่ที่ๆไม่ไกลจากมัน
ตุบ!
ขวดตกบนพื้นดิน
พร้อมกับพยัคฆ์นิรันดร์ยกหัวของมันเพื่อสูดอากาศและถูกดึงดูดโดยกลิ่นแปลกๆ เขารีบวิ่งไปต่อที่ก้อนหินอย่างรวดเร็วโดยไม่ชักช้า
ใกล้ๆกับหินก้อนใหญ่พยัคฆ์นิรันดร์สูดดมกลิ่นของหัวใจเสือทำให้ปากของพยัค์นิรันดร์เต็มไปด้วยน้ำลาย
แผ่นชิ้นเนื้อหัวใจพยัคฆ์อยู่บนพื้นดิน!
พยัคฆ์นิรันดร์คำรามด้วยความดีใจ มันอ้าปากของมันอย่างรวดเร็วแล้วกัดเข้าไปในชิ้นเนื้อคำใหญ่จากเนื้อหัวใจเสือ หลังจากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยไม่กี่คำเลือดหมาป่าดำก็ไหลซึมออกจากเนื้อหัวใจเสือ เลือดหมาป่าดำไหลซึมเต็มปากของมันแล้วไหลเข้าไปในสองรูภายในปากของมัน มันผสมกับก๊าซและเริ่มสร้างของเหลวพิษ
ปากของมันเริ่มรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเหมือนก๊าซสะสมภายในสองรูจำเป็นต้องระบายออก อย่างไรก็ตามก๊าซเข้าไปในปากของมันเพราะมันถูกปิดกั้นโดยอาหารที่มันกิน
มันเริ่มรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ร่างกายของมันทั้งร่างรู้สึกราวกับว่ามันกำลังเดือดขึ้น ความหิว กระสับกระส่ายก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นและก๊าซที่บรรจุเพิ่มอยู่ข้างใน
กลิ่นหอมหวนจากแป้งยังคงอยู่ในอากาศ
พยัคฆ์นิรันดร์มุ่งหน้าไปยังแหล่งที่มาของกลิ่นหอมทันที
ที่มาของกลิ่นหอมซูหยุนเปิดฝาขึ้นเพื่อให้กลิ่นหอมระเหยออกมา
เมื่อถึงระยะห่างระหว่างเขาทั้งสองเขาได้เอาเนื้อหัวใจเสืออีกชิ้นหนึ่งวางไว้บนพื้น
ซูหยุนยังคงทำซ้ำๆและรักษาจังหวะอย่างแม่นยำ นี้ถือว่าอันตรายอย่างมากกลิ่นหอมที่ล่อมันมาจำเป็นจะต้องทำก่อนที่มันจะมาถึง และต้องรอมันกินเนื้อหัวใจสือของมันเสร็จก่อนถึงจะวางได้ ถ้าเขาทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียว พยัคฆ์นิรันดร์จะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆอย่างไร้ความปราณี
ก่อนหน้านั้นเขาใช้ปราณวิญญาณทั้งหมดชักนำปกปิดร่างกายของเขาเพื่อรักษาจุดสุดท้ายที่เขาวางชิ้นเนื้อแล้วเขวี้ยงขวดสุดท้าย จากนั้นเขาก็หันกลับหนีออกมา
ที่นี่เป็นเส้นขอบเขตแดนพยัคฆ์นิรันดร์และพยัคฆ์ตัวอื่น ๆ หากตัวใดบุกรุกเข้ามาต้องมีการต่อสู้อย่างแน่นอน มันมักจะถอยออกก่อนที่พวกมันจะมาถึงเขตแดนตัวอื่น ๆ แต่วันนี้เป็นวันที่แตกต่าง
ระหว่างฝึกฝนที่หุบเขาดอกไม้ที่ผ่านมาซูหยุนค้นพบสูตรมรดกตกทอดแต่โบราณที่เรียกว่า: " ยาอสูรวิญญาณหนืด"
ขณะที่เขาใช้เลือดหมาป่าดำวางยา มันจะเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ แต่ผู้ใช้จะกระหายและก้าวร้าว
สูตรนี้มีประสิทธิภาพมาก แต่มันก็ใช้ได้ไม่กี่ครั้ง ในทางตรงกันข้ามในวันนี้มันได้ของชอบจากซูหยุน
เลือดหมาป่าผสมกับพิษในปริมาณที่เท่ากันด้วยวิธีนี้ จะทำให้เกิดความโหยหิวและกระหายที่จะต่อสู้ เมื่อแต่ละชิ้นได้ส่งกลิ่นหอมจะล่อมันไปยังชิ้นถัดไป เป็นกระบวนการที่สำคัญมาก
หลังจากขวดสุดท้ายถูกโยนออกไปเสียงคำรามก็ไกล้เข้ามาเต็มทีทำให้เขาเสียวสันหลัง พยัคฆ์นิรันดร์ได้ใกล้เข้ามาเกินกว่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตามหลังจากซูหยุนได้โยนขวดไปในอากาศพยัคฆ์นิรันดร์ถูกล่อลวงมากขึ้นโดยเนื้อหัวใจเสือ มันไม่สนใจเกี่ยวกับซูหยุนในขณะนี้ แม้ว่ามันอาจจะรู้สึกถึงการปรากฏตัวของซูหยุน
มันกำลังเพลินกับความอร่อย!
ทันทีที่มันเห็นเนื้ออีกชิ้นหนึ่งมันจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเนื่องจากของเหลวสะสมอยู่ในปากที่ปนเลือดมากขึ้น
ขณะที่พยัคฆ์นิรันดร์เข้าใกล้ชิ้นเนื้ออีกชิ้นหนึ่งก็มีเสียงคำรามอันดุร้ายมาจากพงหญ้า มีพยัคฆ์นิรันดร์อีกตัวออกมา
พยัคฆ์ทั้งสองเริ่มแลกชีวิตกันทันที
ด้านหนึ่งสู้เพราะลุกล้ำดินแดนของตน ในอีกด้านหนึ่งสู้เพื่ออาหารที่วางยาด้วยเลือดหมาป่าดำและอาวุธที่มีพิษ ทั้งสองตัวเริ่มต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง กรงเล็บลอยผ่านอากาศรัศมีไม่กี่ร้อยเมตรได้กลายเป็นสมรภูมิรบ
ขณะเดียวกันซูหยุนก็ซ่อนตัวอยู่ห่าง ๆ รออย่างเงียบ ๆ
เพื่อความปลอดภัยของเขาเขาอยู่ไกลออกไปมาก เขาไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้และตัดสินด้วยเสียงกระหึ่มของเสียงคำรามและกรงเล็บที่เกรี้ยวกราด
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้จนถึงพลบค่ำพื้นดินสั่นสะเทือนก๊าซพิษปกคลุมไปด้วยการต่อสู้และการปะทะกันที่มีประสิทธิภาพน่ากลัวไม่สิ่งมีชีวิตใด ๆ ที่อยู่ใกล้ๆ
หลังจากสี่ชั่วโมงเสียงแผดร้องและเสียงของการต่อสู้เริ่มที่จะค่อยๆจางลง
ในการต่อสู้ของสองพยัคฆ์มีอาการบาดเจ็บหนัก แต่ภายใต้การผสมของเลือดหมาป่าดำและผลกระทบพิษพยัคฆ์นิรันดร์ผลที่ออกมาเห็นได้ชัด พยัคฆ์นิรันดร์ตาย
ซูยุนซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้ๆรอประมาณ2-3ชั่วโมง หลังจากที่ท้องฟ้าเริ่มมืดพิษได้ระเหยไปเรียบร้อยหมดแล้ว ซูหยุนรีบวิ่งออกมาจากที่ซ่อนแล้ววิ่งไปยังบริเวณต่อสู้
โลกรอบๆตัวของเขามีแสงเรืองรองสีเขียวซึ่งเกิดจากเลือดพยัคฆ์ แต่ว่าพื้นที่โล่งนั้น พยัคฆ์นิรันดร์ตายอย่างทารุณ รอยกัดจมเขี้ยวและรอยกรงเล็บทียังมีเลือดไหลซึมออกมา
ซูหยุนรีบนำขวดที่เตรียมไว้ออกมารีบวิ่งไปตวงเลือดของมัน เขาเติมไปทีละขวดๆเลือดพยัคฆ์ถือเป็นยาชั้นเลิสประกอบไปด้วย "เม็ดเลือดแดงชั้นสูง" มูลค่าห้าร้อยเหรียญวิญญาณกระเพาะปัสสาวะของพยัคฆ์มีมูลค่าไม่น้อยกว่าหนึ่งพันเหรียญวิญญาณเพราะมันมีคุณสมบัติบำรุงร่างกาย มันสามารถเพิ่มความเร็วการบ่มเพาะพลังของผู้ฝึกยุทธ นอกจากนี้แก่นแท้จิตวิญญาณของพยัคฆ์เป็นส่วนที่ทุกคนต้องการมากที่สุดในส่วนของพวกมันทั้งหมด แม้ว่ามันอาจจะใช้ได้เพียงครั้งเดียว หากกินเข้าไปตรงๆมันสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะของบุคคลคนๆนั้นได้ ราคาอย่างน้อยๆสี่พันเหรียญจิตวิญญาณ
หลังจากที่เก็บเกี่ยวซากศพของมันเรียบร้อยแล้วเขาก็ห่อมันไว้อย่างมิดชิดด้วยผ้าพิเศษเพื่อไม่ให้เสียหาย
หลังจากเสร็จแล้วซูหยุนไม่ได้จากไป แต่เขาเดินเข้าไปในถ้ำพยัคฆ์นิรันดร์ที่ตายไปแล้ว