ตอนที่ 014 - ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด
ตอนที่ 014 - ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด
อาโม่หลี่แปรเปลี่ยนเป็นตั้งใจพลางเงี่ยหูฟัง
“เส้นทางสวรรค์ อื้อ” สีหน้าตาเฒ่าเว่ยคล้ายกำลังรำลึกถึงอดีต แต่ยังคงเจือปนไปด้วยความเขลาพลางกล่าว “สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยโอกาสและยังมีอันตรายมากมายอีกด้วย”
เขาเหลือบมองไปยังถังเทียนและอาโม่หลี่ และเปลี่ยนคำกล่าว “เอาล่ะ พวกเจ้าทั้งสองยังคงห่างไกลจากการศึกษาเรื่องเส้นทางสวรรค์ ตอนนี้พวกเราควรจะว่าถึงปัญหาในตอนนี้ดีกว่า”
“ปัญหาในตอนนี้?” ถังเทียนเบะปากด้วยความไม่พอใจ “นี่ ตาเฒ่า ไม่ใช่ว่าท่านจะใช้กลโกงล่อล่วงพวกเราอีกครั้งหรอกใช่ไหม?”
อาโม่หลี่รู้สึกประหลาดใจ “พื้นฐานถัง หรือว่าเจ้ามองแผนการเขาออกแล้ว?”
“นั่น!” ด้วยสีภาคภูมิใจ ถังเทียนตะโกน “ต่อหน้าเทพเจ้านี้ ไม่ว่าจะภูติผีปีศาจอันใด จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา! ด้วยบุคคลอันหยาบคายนี้ ใครจะยอมเลี้ยงเนื้อย่างพวกเรากัน? ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่มีความคิดชั่วร้ายแอบซ่อนเอาไว้!”
“ถูกต้องแล้ว! เขาแอบซ่อนความชั่วร้ายเอาไว้!” อาโม่หลี่กล่าวย้ำด้วยเสียงสูง
ตาเฒ่าเว่ย “…..”
“อย่าได้ปฏิเสธเลย ตาเฒ่า ดูอย่างที่ท่านหลอกให้เราเข้าร่วม โอ้ พวกเราจะพูดอะไรได้” ถังเทียนแสดงออก ‘ข้ารู้หมดแล้ว’
“ใช่ สวรรค์ย่อมมีราคาของสวรรค์ และย่อมต้องมีผู้ที่จะต้องชดใช้!” อาโม่หลี่เสริม
[คั่นหนังสือ : วันนี้หัวตื้อๆ ครับคิดหาสำนวนไม่ออก : The heaven will quote a price, and the ones below will pay the price!]
ตาเฒ่าเว่ยยังคงเงียบพลางตบต้นขาของเขาอย่างแรง “ตามที่คาดไว้ พวกเจ้าสองคนช่างสมกับเป็นอัจฉริยะ! ไม่มีอะไรหลบหนีไปจากสายตาพวกเจ้าได้เลย! ดีมาก งั้นให้ข้าบอกต่อเจ้า!”
ทั้งสองยังคงนิ่งพลางมองตาเฒ่าเว่ย
ตาเฒ่าเว่ยรู้สึกกดดันพลางไอเบาๆ “เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อสองวันก่อน ข้าได้ตรวจสอบคะแนนของสถาบันเราซึ่งมีคะแนนไม่เพียงพอ พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่า ถ้าหากสถาบันมีคะแนนไม่เพียงพอ สถาบันก็จะถูกปลดออก โอ้ และนี้ใกล้จะถึงเวลาของงานชุมนุมยุทธ์ของเมืองเมฆาดาราแล้ว หากเจ้าทั้งสองเข้าร่วมด้วย และได้อันดับที่ยอดเยี่ยม คะแนนของสถาบันก็อาจจะเพียงพอ ด้วยความสามารถของสถาบันตอนนี้ เจ้าทั้งสองคงไม่เพียงมองสถาบันล่มจมหรอกใช่รึไม่?
“เจ้าทำได้ไหม?” ถังเทียนหันไปถามอาโม่หลี่
อาโม่หลี่ยังคงไม่เข้าใจ “ทำไมข้าจะทำไม่ได้?”
ถังเทียนหันกลับมาด้วยท่าทางที่ชอบธรรมแต่ยังคงดุดัน “ข้าก็ทำได้เช่นกัน”
ตาเฒ่าเว่ยหยุดนิ่งพลางกระโดดขึ้นด้วยความโกรธ “ในฐานะนักศึกษาของสถาบัน เจ้าจะยืนมองดูเฉยๆ? พวกเจ้าช่างเลือดเย็นนัก? เจ้ายังคงเป็นบุรุษอยู่รึไม่? เจ้า…”
พวกเขาทั้งสองหมอบลงนั่ง เปิดตากว้างอย่างไร้เดียงสามองไปยังตาเฒ่าเว่ย มองไปยังเขาด้วยรูปลักษณ์อันบริสุทธิ์
วิธีการนี้ไม่ได้ผล ตาเฒ่าเว่ยขบฟันของเขา “บอกเงื่อนไขของพวกเจ้าว่าต้องการอะไร?”
“แมลงวันวัว มาตรงนี้!” ถังเทียนโบกมือคล้ายกับหัวหน้าใหญ่
นัยต์ตาทองแดงอาโม่หลี่เปร่งประกาย และด้วยการแสดงออกของนิ้วอันหยาบกร้านของเขา “มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสะสมคะแนนในตอนนี้ เหล่านักศึกษาทั่วทั้งเมืองเมฆาดาราต่างมีสิทธิ์เข้าร่วม โอ้โอ้โอ้ เพียงแค่คิดก็ขนลุกแล้ว จะมีผู้คนเท่าใดกันที่จะเข้าร่วมต่อสู้…”
เขาพูดพล่ามพ่นน้ำลายไปทั่วไม่หยุด
#@%$^$ อาโม่หลี่พูดไม่หยุดเป็นเวลาสามนาทีเต็มถึงจะหยุด
ตาเฒ่าเว่ยยิ้มกว้างพลางถาม “เสร็จแล้ว?”
อาโม่หลี่และถังเทียนต่างมองหน้ากัน คล้ายมีลางสังหรณ์ที่ซ้อนอยู่ภายในใจพวกเขา
ตาเฒ่าเว่ยเหวี่ยงมือหนึ่งพลางกล่าวอย่างดุดัน “ข้าลืมบอกไปว่า ข้าได้ส่งชื่อของพวกเจ้าเข้าร่วมไปแล้ว”
ถังเทียน “...”
อาโม่หลี่ “...”
ความจริงที่ว่า สัจจะไม่มีในหมู่โจร
ไม่สามารถที่จะได้ประโยชน์จากมัน ถังเทียนและอาโม่หลี่รู้สึกผิดหวัง
“วิชาการบ่มเพาะพลังปราณระดับสาม สารเลวน้อย เจ้าคิดว่าอย่างไร?” ตาเฒ่าเว่ยมองไปยังถังเทียนและกล่าวเสริม “ปราณแท้จริงของเจ้าเข้าสู่ขั้นสองแล้ว และนี้เป็นธรรมดาที่จะต้องเข้าสู่ขั้นสามอย่างเร่งด่วน!”
“วิชาการบ่มเพาะพลังปราณระดับสาม? ท่านพูดถึงสิ่งใดกัน?”ถังเทียนกล่าวถาม
“เจ้าถามถูกคนแล้ว!” ตาเฒ่าเว่ยดูราวกับเขาจำต้องสอนอะไรอีกมาก “เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่ขั้นสาม นอกเหนือจากการบ่มเพาะพลังปราณ เจ้าจักต้องเข้าใจเส้นทางการพัฒนาของตัวเอง ความดันทุรังจะทำให้พลังเสียเปล่า และไม่เกิดผลอะไรเลย”
ถังเทียนกล่าวอย่างงุนงง “ฟังดูเหมือนจะเข้าใจง่ายนะ”
“ด้วยความสัตย์จริง เจ้าได้ใช้เวลาไปกับพื้นฐานการต่อสู้มากไปแล้ว และเจ้าได้พลาดช่วงเวลาเติบโตไป” ตาเฒ่าเว่ยดูจริงจัง “ช่วงเวลานั้นของผู้คนคือห้าปีระหว่างอายุสิบสองถึงสิบเจ็ดปี และในห้าปีนี้ ที่เจ้าได้ใช้มันไปกับพื้นฐานวิชาการต่อสู้ หลายคนคาดคิดว่ามันคงเสียเปล่า แต่ข้าคิดว่ามันเป็นประโยชน์กับเจ้า”
“โอ้ บอกมาเร็วเข้า!” จิตวิญญาณถังเทียนถึงกับตื่นตัว หลังจากหลายปีที่ผ่านมา เมื่อทุกต่างพูดถึงเขา พวกเขาต่างรู้สึกเศร้าใจแทนถังเทียนที่เขาไม่สามารถเข้าใจในชะตากรรมของเขา นี้มันเป็นคราแรกที่เขาได้ยินคนที่บอกว่ามันเป็นประโยชน์ต่อเขา
“เจ้าใช้เวลาห้าปีกับพื้นฐานการต่อสู้ พื้นฐานของเจ้าช่างแข็งแกร่งและครบถ้วนสมบูรณ์ สิ่งนี้มันจะช่วยให้เจ้าในภายภาคหน้าของการบ่มเพาะวิชาการต่อสู้ เมื่อยามที่เจ้าบ่มเพาะวิชาการต่อสู้อื่นๆ มันจะง่ายดายมากที่จะเชี่ยวชาญมัน ตามเท่าที่เจ้าเพียรพยายาม เวลาเสียไปจะได้รับกลับคืนมา สารเลวน้อย ข้ามองเห็นศักยภาพอันซ่อนเร้นในตัวเจ้า!”
ปราศจากความถ่อมตัวถังเทียนพยักหน้า “ฮ่าฮ่าฮ่า ตาเฒ่า ท่านช่างมีสายตีดีมาก!”
“ฮ่าฮ่า!” ตาเฒ่าเว่ยหัวร่อ “ถึงกระนั้นเส้นทางของเจ้าก็หนักหนามากนัก เจ้าจักต้องเตรียมใจของเจ้าให้ดี”
ถังเทียนส่ายหัวอย่างไม่ตั้งใจ “เส้นทางที่ยากลำบากไม่สามารถทำอะไรข้าผู้เป็นดั่งเทพเจ้าได้!”
“เจ้าช่างมีความทะเยอทะยานนัก! ข้าชอบเหล่าสารเลวตัวน้อยที่มีความทะเยอทะยาน!” ตาเฒ่าเว่ยกล่าว “เรามาพูดถึงเส้นทางการพัฒนาของเจ้ากันดีกว่า ด้วยร่างกายอันโดดเด่นของเจ้า พื้นฐานอันแข็งแกร่ง การตอบสนองที่รวดเร็ว และเต็มไปด้วยพลัง เจ้าช่างดุดัน สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อเจ้า เจ้ารู้หรือไม่อะไรที่เหมาะสมกับสิ่งเหล่านี้?”
อย่างหมกมุ่นถังเทียนพลันถามอย่างรีบเร่ง “มันเหมาะสมกับอะไร?”
“การต่อสู้ระยะประชิด!” ตาเฒ่าเว่ยได้กล่าวคำเหล่านี้ออกมา “การต่อสู้ระยะประชิดนั้นต้องการความสมส่วนของร่างกาย การตอบสนองที่รวดเร็ว ความรุนแรงของพลัง และหัวใจที่ปราศจากความกลัว และสิ่งสุดท้าย ที่ไม่มีใครคาดคิดคือวิชาการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน เป็นไงล่ะ? สารเลวน้อย ข้าหลอกล่วงหรือไม่? ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดดูเท่หรอกเหรอ!”
ดวงตาของถังเทียนเปร่งประกายพลางพยักหน้า “ข้าชอบมัน! ข้าชอบที่จะสู้เยี่ยงนั้น! ตาเฒ่าเว่ย ข้าบอกไม่ถูกเลย ว่าท่านจะมีเคล็ดวิชานี้!”
“นี่ นี่ ต้องรอจนกว่าเจ้าจะเติบโต โอ้ โอ้ ผู้หญิงของเจ้าจักต้องหลงรักมันแน่!” ตาเฒ่าเว่ยมองอย่างหยาบช้า
“เฉียนฮุ่ยจะชอบมันเหมือนกัน?” ตาของถังเทียนสว่างขึ้น
“โอ้ แน่นอน!” ตาเฒ่าเว่ยเกือบสำลักน้ำลายของเขา กระแอมไอพลางกล่าว “อย่างไรก็ตาม ระยะห่างจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดยังคงยาวไกลนัก หากต้องการมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด เจ้าต้องเตรียมพร้อมกับลักษณะเฉพาะของเจ้า และเจ้าจะต้องเข้าประชิดคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว ถ้าหากวิชาตัวเบาของเจ้าไม่มั่นคง เจ้าคงตายแน่แล้ว”
“ถูกต้องแล้ว!” มือนึงของถังเทียนตบลงบนพื้น “มันจะต้องฝึกบ่มเบาะวิชาตัวเขา!”
“เจ้าจะจักต้องเตรียมพร้อมความสามารถของวิชาปราศจากอาวุธทั้งหมด จดจำไว้ เจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหมัด ทุกวิชาหมัด ฝ่ามือ ดัชนี จะต้องฝึกร่วมกัน เจ้าจำต้องแน่ใจว่ายามใดที่จะดึงศัตรูเข้าใกล้เพียงพอ และเจ้าจะต้องมีวิธีการเพียงพอที่จะสังหารศัตรูอย่างรวดเร็ว”
“มีเหตุผล! ข้าต้องการที่จะเรียนมันทุกอย่าง!”
“เจ้าต้องปรับปรุงความเร็วในการตอบสนองของเจ้า ให้ใช้เวลาน้อยที่สุดในการตอบโต้และแม่นยำยามจู่โจม
“ถูกต้องที่สุด! มันต้องปรังปรุง!”
ตาเฒ่าเว่ยกล่าวต่อ “ถ้าหากเจ้ามีความสามารถทำได้ทั้งหมดนี้ ดังนั้นเจ้าก็มีคุณสมบัติเพียงพอ ที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดที่โดดเด่น”
อาโม่หลี่ยกมือขึ้นทั้งสอง “ข้าต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดเช่นกัน!”
ตาเฒ่าเว่ยไม่ได้สนใจเขา
ถังเทียนไม่ได้ส่งเสียงอันใด แต่จ้องมองไปยังตาเฒ่าเว่ยที่มีสีหน้าแปลกประหลาดของเขา
ตาเฒ่าเว่ยรู้สึก...รู้สึกอึดอัดกับการจ้องมองของถังเทียน พลางสัมผัสบนใบหน้า “มีอะไรอยู่บนใบหน้าของข้างั้นรึ?”
“คุณสมบัติ? โดดเด่น? ข้าต้องการที่จะเป็นดั่งเทพเจ้าของผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด!” ถังเทียนกล่าวอย่างเป็นเรื่องสำคัญแต่แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าในไม่ช้า “ท่านเหมือนผิดหวังในตัวข้า! หึ ! แทบไม่ไว้ใจในตัวข้า!”
ตาเฒ่ากล่าวตอบพลางหัวร่อ “ข้ามองเห็นความทะเยอทะยาน แต่ ถึงแม้จะมีคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด เจ้าจะต้องอดทนต่อความยากลำบากที่จะเจ้าได้พบเจอ”
“ข้าไม่กลัวความยากลำบากใดๆ” ถังเทียนส่ายหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“โอ้” ประกายตาในดวงตาของตาเฒ่าเว่ยจากหายไป “คึคึ กลับไปพูดถึงเรื่องการบ่มเพาะปราณ เมื่อเจ้าได้เลือกที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด ข้าก็มีสุดยอดยันต์จิตวิญญาณ แต่วิชานี้ไม่ง่ายนักที่จะฝึกมัน”
“มันสุดยอดขนาดนั้น?”ถังเทียนถามอย่างอยากรู้
“สุดยอดมาก!” ตาเฒ่าเว่ยพยักหน้า
“งั้นมันก็คงเป็นเช่นนั้น!” ตาถังเทียนพลันสว่างขึ้น
“มันยากมากที่จะเรียนรู้” ตาเฒ่าเว่ยย้ำเตือน
“อย่าได้ดูแคลนข้า!” ถังเทียนเบิกจากว้าง
“คึคึ เจ้าช่างทะเยอทะยานยิ่งนัก สารเลวน้อย!” ตาเฒ่าเว่ยหัวร่อพลางหยิบยันต์ออกมา “หวังว่าเจ้าจะไม่ทำยันต์จิตวิญญาณนี้เสียหาย”
ถังเทียนมองไปยังยันต์จิตวิญญาณลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ “ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงิน?”
ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินส่องสว่างวาบ เหนือบนยันต์มีเงาสีขาวไล่ลงมา รู้สึกถึงความเย็นและแข็งของยันต์ในมือเขา ถังเทียนไม่คาดคิดเลยว่าตาเฒ่าเว่ยจะมอบยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินแก่เขา
ราคาของยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินของวิชาการบ่มเพาะพลังปราณระดับสามมันเป็นอะไรที่ไม่สามารถประเมินได้
“ว้าว ตาเฒ่า ท่านไม่เคยบอกกล่าวเลยว่ามียันต์จิตวิญญาณขั้นเงิน?” อาโม่หลี่ประหลาดใจราวกับเขาได้ค้นพบเส้นทางใหม่ “ท่านมันช่างกลิ้งกลอกนัก! อย่างไรก็ตาม ในเมื่อท่านมอบให้ถังเทียนแล้ว ข้าก็จะไม่ตื้อท่าน พื้นฐานถัง มันดูสุดยอดมาก ทางที่ดีควรจะเริ่มฝึกโดยเร็ว!”
เหนือความคาดหมายของตาเฒ่าเว่ยและอาโม่หลี่ ถังเทียนสายหัวพลางพลักยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินแก่ตาเฒ่าเว่ย “ข้าไม่ต้องการมัน”
“เจ้าไม่ต้องการมัน?” ตาเฒ่าเว่ยสับสน “ทำไม?”
“มันมีราคามากเกินไป” ถังเทียนเงยหน้าและกล่าว “นี้มันมีราคามากไป ข้ายอมรับมันไม่ได้”
ตาเฒ่าเว่ยมองยังถังเทียนอย่างแปลกใจพลางหัวเราะ “ข้าไม่ได้มอบยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินให้เจ้าเฉยๆ ข้ามีบางอย่างที่จะต้องให้เจ้ากระทำ ถ้าหากเจ้าไม่ต้องการที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด นั้นมันก็ไม่ได้หวังอะไรมันก็คงจะเป็นภาระของข้า โอ้ เจ้ากล้าที่จะไม่รับมัน เว้นแต่ว่าเจ้าไม่มั่นใจในตัวเอง?”
ถังเทียนจ้องมองไปยังตาเฒ่าเว่ยด้วยความโกรธ “ตาเฒ่า ว่าใครจะไม่ยอมรับมันกัน? ว่าใครไม่มีความมั่นใจ?”
ถังเทียนตบเบาๆพลางคว้ายันต์จิตวิญญาณขั้นจากเขาและกล่าวอย่างจริงจัง “ตาเฒ่า ข้ารู้ท่านทำเช่นนี้เพื่อข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด ข้าจะทำมันทั้งหมด ท่านจะขอให้ข้าทำอะไร?”
ตาเฒ่าเว่ยเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว “มันไร้ประโยชน์ที่จะบอกเจ้าในตอนนี้ รอจนกว่าเจ้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดแล้วข้าจะบอกเจ้า”
“ดี!” ถังเทียนพยักหน้าพลางยกฝ่ามือขึ้น
“นี่เพื่ออะไรกัน?” ตาเฒ่าเว่ยสับสน
“พวกเราจะแปะมือกันเพื่อแทนคำสาบาน! ว้าว ตาเฒ่า ท่านมันช่างล้าสมัยเหลือเกิน!” ถังเทียนกล่าวอย่างดูถูก
“เจ้ามันช่างเป็นทารกน้อย ไม่ได้เรียนรู้อะไรจากผู้ใหญ่ เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการตบมือสาบาน?” ตาเฒ่าเว่ยโต้ตอบด้วยอาการดูถูก
“บัดซบ!” ถังเทียนออกอาการโกรธ “อย่าได้ดูแคลนข้า ข้าได้ตบมือสาบานกับเฉียนฮุ่ยมาก่อน”
แปะ!
มือชราและเล็กต่างตบกันอย่างหนัก
“ยอดเยี่ยม!” ถังเทียนพึงพอใจ
“เจ้าทารกน้อยนี้ ช่างมีลูกเล่นเยอะเหลือเกิน” ตาเฒ่าเว่ยพึมพำ
“ข้าก็เอาด้วย! ข้าก็เอาด้วย!” อาโม่หลี่เบียดเข้ามาพลางยื่นมือของเขา แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา
“โอ้ มาพูดถึงเรื่องยันต์จิตวิญญาณนี้กัน” ตาเฒ่าเว่ยเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ข้าได้รับยันต์นี้เมื่อนานมาแล้วตอนที่ข้าข้ามผ่านขั้นสามไปแล้ว ดังนั้นจึงเก็บมันไว้ข้างตัวตลอด ยันต์จิตวิญญาณนี้เรียกว่า [ตำราปราณกระเรียน] และมันเป็นยันต์จิตวิญญาณโบราณ”
“ยันต์จิตวิญญาณโบราณ?”
ถังเทียนและอาโม่หลี่ออกอาการตื่นเต้น
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ