ตอนที่ 004 - เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ตอนที่ 004 - เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ด้วยความเกรี้ยวกราด การโจมตีของถังเทียนแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่อกของรุ่มร้อนดั่งเปลวเพลิง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างเรียบง่าย หลังจากที่ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า การเคลื่อนไหวของถังเทียนก็กลายเป็นทำตามสัญชาตญาณ
มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมากกว่าที่สมองเขาจะทำงานตามทัน
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
ประกายตาอาโม่หลี่เต็มไปด้วยความหลงใหล เขาเห็นได้ชัดว่าความเร็วของถังเทียนรู้สึกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปราศจากความสงสัย เขาคือ สุดยอดพื้นฐานถัง!
ทันใดนั้นความเร็วของถังเทียนก็มาถึงขีดสุดของทักษะการต่อสู้พื้นฐาน ความเร็วดังกล่าวรวดเร็วจนเกิดเป็นภาพติดตา ภาพติดตาเคลื่อนไหวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ภาพติดตาดังกล่าวคล้ายถาโถม เข้ากดดัน อาโม่หลี่
อาโม่หลี่รู้สึกตื่นเต้นในกับสิ่งที่เขาเห็น ซึ่งเขามิอาจจะอธิบายมันได้
เขาไม่ได้มีความสนใจในตัวถังเทียนก่อนหน้า เพราะดูเหมือนว่าเขาเป็นคนที่น่าเบื่อ จากครั้งแรกที่เขาพบกัน มันช่างน่าพึงพอใจยิ่ง ทุกคราที่ประลองอาโม่หลี่มักจะได้ความรู้เพิ่มทุกครา เขาไม่ถือสาถ้าจะประลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่มีใครให้ความสนใจในทักษะการต่อสู้พื้นฐาน เหมือนทุกคนปกติที่ไม่สนใจจนกระทั่งมาพบกับถังเทียน
ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของการบ่มเพาะทักษะการต่อสู้ และนั่นหมายถึงทักษะการต่อสู้ที่สูงจะสำคัญกว่าทักษะระดับต่ำ
ตราบเท่าที่บ่มเพาะด้วยป้ายวิญญาณ มันก็เป็นเรื่องง่ายในการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามุ่งมั่นฝึกทักษะระดับต่ำ อาโม่หลี่ฝึกบ่มเบาะการต่อสู้พลังธาตุดินระดับสาม [ผ่าปฐพี]
คราแรกที่เขาพบถังเทียน เขาดูพึงพอใจอย่างมาก อาโม่หลี่ใช้เพียงพื้นฐานกระบวนท่าพื้นฐานประลองกับถังเทียน และเป็นไปตามที่คาด เขาพ่ายแพ้
มันเป็นเพียงครั้งแรกที่อาโม่หลี่พ่ายแพ้อย่างหมดท่า เขาไม่เคยโดนทุบตีมาก่อน แม้กระทั่งยามที่เขาสู้กับ เหลียงเซียว ผู้ที่เชี่ยวชาญระดับสูงกว่าในสถาบันอสูรอำมหิต
หลังจากที่เขากลับไป เขาก็ค้นพบว่า การบ่มเพาะที่คาอยู่ที่คอขวดของเขาแสดงสัญญาณที่ดีขึ้น อาโม่หลี่รู้สึกผิดหวังแต่กลับเบิกบานใจอย่างยิ่ง เขาเริ่มที่ไตร่ตรองเกี่ยวกับสาเหตุนี้
สาเหตุนี้มันเป็นจุดสำคัญสำหรับเขามาก
สองวันต่อมาในที่สุดเขาก็เข้าใจมัน การประลองกับถังเทียนคือสาเหตุที่ทำลายคอขวดของเขา
อาโม่หลี่ยังคงไม่มั่นใจเต็มสิบ ดังนั้นเขาจะรีบเร่งไปยังสถาบันแอนดรูว์อีกครั้งเพื่อประลองกับถังเทียน และถูกทุบตีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การประลองของเขาได้ยืนยันความคิดของเขา นั่นคือการประลองกับถังเทียนเป็นสาเหตุที่ทำลายคอขวดของเขาอย่างแน่นอน
อาโม่หลี่เป็นประเภทหัวรั้นปากแข็ง จากช่วงเวลานั้น เขาจะตามหาถังเทียนเพื่อประลองเป็นครั้งคราว จากอดีต เขาจะมาดักรอที่บ้านของถังเทียน เขากลับบุกมายังสถาบันแอนดรูว์แทน
หลังจากการประลองหลายครั้ง อาโม่หลี่ก็ค้นพบวิธีแก้ปัญหาการติดคอขวดของเขา นั่นก็คือทักษะการต่อสู้พื้นฐาน! เขาศึกษาจนทะลุปรุโปร่ง ยิ่งเขาเชี่ยวชาญทักษะการต่อสู้พื้นฐานขึ้น พลังของทักษะ [ผ่าปฐพี] ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
อย่างไม่รู้ตัวอาโม่หลี่ทำลายคอขวดอย่างหมดจด แต่เขาก็ยังไม่เคยคิดจะหยุดตามหาถังเทียนเพื่อที่จะประลองต่อ
เขาเคยเชื่อมั่นในพลังและทักษะการต่อสู้ของเขา เขายังคงไม่อาจเทียบได้กับถังเทียน ทักษะการต่อสู้พื้นฐานไม่มีความลำบากสำหรับเขา เขาจึงไม่ได้ใส่ใจถึงมัน แต่หลังจากที่ประลองไปสองสามครา ทักษะพื้นฐานของอาโม่หลี่พัฒนาขึ้นอย่างมาก
เขายังคงไม่คิดว่าเขาจะยังไม่สามารถที่จะสู้กับถังเทียนได้
เขาไม่มีทางที่จะชนะสักครั้งรึ!
เจ้าบ้าถังเทียนนี้ใช้เพียงทักษะการต่อสู้พื้นฐานกำราบเขา
อาโม่หลี่โมโหมาก เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญของสถาบันอสูรอำมหิต เขายังคงไม่สามารถเอาชนะนักศึกษาของสถาบันแอนดรูว์ ซึ่งมีอันดับต่ำกว่าได้งั้นรึ ถ้าเรื่องถึงหูคนอื่น มันจะอับอายขายหน้าแค่ไหน ทุกคนต่างรู้ถึงพื้นฐานการต่อสู้พื้นฐาน นอกจากนี้ เขายังเสียเวลาไปกับมัน แล้วเขายังคงพ่ายแพ้ได้อย่างไร?
ในทางกลับกันถังเทียนไม่ได้คิดถึงอะไรมาก ในสายตาเขา อาโม่หลี่ ยังใช้การไม่ได้ ถึงแม้เขาจะดูคล้ายกระทิงจริง แต่เขาทำตัวเหมือนแมลงวันและนั่นมันช่างน่ารำคาญ
สิ่งที่ไม่น่าอภัยอย่างนี้คือแมลงวันตัวนี้บังอาจพาดพิงถึง เฉี่ยนฮุ่ย!
เขาเหลืออด ไม่สามารถเก็บกลั่นอารมณ์โกรธนี้ได้
แน่นอนว่า อาโม่หลี่เตรียมพร้อมมาอย่างดี ไม่ว่าการโจมตีของถังเทียนเป็นอย่างไร อาโม่หลี่ก็ยืนยันอย่างมั่นคง เห็นได้ชัดว่าอาโม่หลี่ก็ใช้เวลาทุ่มเทกับทักษะการต่อสู้พื้นฐาน ดังนั้นมาตรฐานก็คล้ายคลึงกับถังเทียน
การจะเข้าสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น ต้องเริ่มด้วยทักษะขั้นต่ำ นี้ไม่ใช่เรื่องยาก นี่เป็นสาเหตุทำไมถังเทียนถึงพยายามฝึกฝนทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานมาตลอดห้าปี
เขาทั้งสองต่างหยุดชะงัก
ทั้งสองมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ความแข็งแกร่งของอาโม่หลีคือจุดแข็งของเขา ส่วนถังเทียนความเร็วและความงดงามคือจุดแข็งของเขา
การโจมตีของถังเทียนค่อยๆเสียการควบคุม เขาเข้าสู่สถานการณ์แปลกประหลาด
การโจมตีของเขาเร็วกว่าความคิด
มันเป็นครั้งแรกที่ถังเทียนประสบเหตุการณ์นี้ ยามปกติเขาคงจะต้องแปลกใจ แต่ตอนนี้ เขาระเบิดพลังจากสถานกาณ์ตอนนี้และลืมเลือนตัวตนของเขา
ถังเทียนเข้าสู่ขีดสูงสุด เขาโจมตีด้วยความเร็วที่ไม่อาจมองทัน
อาโม่หลี่รู้สึกกดดันอย่างมาก
อาการตกตะลึงเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาใจของเขา ‘นี่มันเป็นไปไม่ได้!’
ขีดจำกัดอะไรกัน? มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทะลายขีดจำกัด ทางทฤษฎีมันไม่สามารถที่จะทะลวงผ่านไปได้
เว้นเสียแต่ว่าถังเทียนบ่มเพาะจิตวิญญาณทักษะระดับสามเพิ่มศักยภาพเขา อย่างนั้นบางทีมันอาจจะช่วยให้ทะลายขีดจำกัดของทักษะก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต่างมีเวลาประลองมากมาย เขาเข้าใจถังเทียนว่าคงจะฝึกการบ่มเพาะทักษะระดับสอง [ทักษะลับการบ่มเพาะพลังปราณ] และอีกไม่นานเขาก็จะเชี่ยวชาญมัน
ขณะที่อาโม่หลี่กำลังหงุดหงิด รังสีอันหนาวเย็นยะเยือกจากดวงตาของถังเทียน ร่างใหญ่ของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นว่องไวราวกับแมว ยามเมื่อเท้าของเขาสัมผัสพื้น เขาก็พุ่งเขาไปยังอาโม่หลี่
ยามอาโม่หลี่ตกอยู่ในอาการตะลึง มือซ้ายของเขาก็ถูกจับไว้โดยไม่รู้ตัว
มือซ้ายถังเทียนคว้าจับมือซ้ายของอาโม่หลี่ ด้วยทักษะกระบวนท่าพื้นฐานหมัด [กระชาก] เขาใช้ออกด้วยพลังนี้ ดั่งร่างกายของเขาไร้กระดูก นอกจากนี้ดูจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเขา คงจะสำเร็จสามท่าก้าวทะยานจากทักษะวิชาตัวเบาพื้นฐาน [ก้าวทะยาน]
เขาโผล่มาอีกครั้งด้านซ้ายของอาโม่หลี่คล้ายกับภูติผี เขาบิดเอวและง้างหมัดขวา
“ฆ่า!”
ตะโกนก้อง ส่งผ่านพลังจากเอวไปยังข้อมือของเขา ใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าเขาอยู่ในมุมอับด้านบน พลางเหวี่ยงกำปั้นลงมา
หมัดนี้ปลดปล่อยมาอย่างรวดเร็ว!
คล้ายกับดาวตก!
ด้วยความตกใจ อาโม่หลี่เอนตัวหลบไปยังด้านขวา
หมัดของถังเทียนควงหมุนลื่นไหลปะทะลงบนไหล่ซ้ายของอาโม่หลี่
การแสดงออกของอาโม่หลี่แปรเปลี่ยนหลังจากรับพลังความรุนแรงที่ส่งผ่านมา ไม่ทันที่เขาจะตอบสนองทัน เขาก็ปลิวออกไป
เปรี้ยง!
อย่างกับกระสอบทราย อาโม่หลี่กระแทกและไถลไปกับพื้นไม่ต่ำกว่าแปดเมตรก่อนจะหยุดลง
ทั่วทั้งลานฝึกเต็มด้วยความเงียบและสีหน้าของทุกคนต่างเต็มเป็นด้วยความตกตะลึง
หมัดที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามและทรงพลัง ถังเทียนจ้องมองไปยังเบื้องหน้าเขา อาโม่หลี่นอนอยู่พื้น ก่อเกิดเป็นฉากอันน่าอัศจรรย์
นะ...นะ...นี้มัน
แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก!
ถังเทียนได้ยินเพียงเสียงหายใจของเขาขณะที่สิ่งรอบข้างเงียบลง จิตสำนึกของเขาค่อยๆกลับมา และในที่สุดถังเทียนก็กลับมาสู่ความรู้สึกปกติของเขา
เสียงดังลั่นรอบๆเป็นสาเหตุให้เขาหูอื้อ
“เขา...เขา...เขา...”
“โอ้...พระเจ้า! โอ้...พระเจ้า! สวรรค์!”
“นี้ข้าฝันไปใช่ไหม? ข้าต้องฝันไปแล้วแน่…”
“ถัง… ถัง… เขา… เขา…”
….
อาโม่หลี่พยายามที่จะลุกขึ้น ขณะที่สีหน้าสับสนแต่งแต้มเต็วไปบนหน้าของเขา เขาไม่มีความรู้สึกถึงแขนของเขาเพราะยังมึนอยู่ หรือ มันอาจจะหักไปแล้ว
เป็นไปได้อย่างไร? เขาก้าวข้ามกีดจำกัดไปได้อย่างไร?
“ถังเทียน!” อาโม่หลี่จ้องมองไปยังถังเทียนด้วยสีหน้าหลงใหล และตะโกนกล่าว “มาเถิด มาเข้าร่วมสถาบันอสูรอำมหิต! เจ้ามีพรสวรรค์ เจ้าไม่ควรที่จะเสียเวลาในที่นี้ มายังสถาบันอสูรอำมหิตของพวกเรา สุดยอดพื้นฐานถัง แล้วเจ้าจะพุ่งทะยานอย่างสูงสุด”
“ไร้สาระ!” ถังเทียนเบิกตากว้างไม่ขยับสักนิ้ว และด่าว่า “เจ้าแมลงวันวัวตัวนี้! พยายามที่จะหลอกหลวงข้าไปยังสถาบันอสูรพิการของเจ้า และหลังจากนั้นก็คงกลับมานี้เข้าหาเฉียนฮุ่ย! บอกอะไรเจ้าให้ ฝันไปเถอะ! ข้ามองเห็นแผนการของเจ้าออกหมดแล้ว!”
“ถังเทียน สตรีใดที่จะควรค่าแก่บุรุษ สิ่งสำคัญอยู่ที่การค้นพบเส้นทางเต๋าของตัวเอง มาเถิด มายังสถาบันอสูรอำมหิต และเราสองคนจะเป็นผู้รังสรรค์เส้นทางเต๋าใหม่! ไม่มีอะไรที่จะน่าตื่นเต้นไปกว่านี้อีกแล้ว…”อาโม่หลี่ยังคงไม่ยอมแพ้ ขณะที่เขาเปิดตากว้างด้วยความตื่นเต้น
“ผายลม!” ถังเทียนยังคงนิ่งพลางกล่าวยังรังเกียจว่า “เจ้าคนหัวรั้นนี้ ยังคงกล้าที่จะใช้แผนการเช่นนี้ปฏิบัติกับข้า เจ้ามันช่างไร้เดียงสานัก!”
“ถังเทียน นั่นมันยังไม่แน่หลอก ข้าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!” อาโม่หลี่คำรามพลางจ้องด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ
“เหอะ เจ้าแมลงวันขี้วัว ให้ข้าเตือนเจ้า ถ้าหากเจ้ายังเอ่ยอ้างพาดพิงถึงเฉียนฮุ่ย ข้าจะทุบตีจนกว่าจะเละเป็นโจ๊ก!” ถังเทียนเตือนด้วยอาการดูถูก
“เจ้ามันช่างเลวทรามนัก!”
อาโม่หลี่จ้องมองไปยังถังเทียนอย่างยาวนานก่อนที่สายตาขุ่นข้องแปรเปลี่ยนและจากไป
“หยุดก่อน” ทันใดนั้นถังเทียนตะโกนขึ้น
อาโม่หลี่หยุดการท้าวเดินของเขา หันกลับมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “สุดยอดเชี่ยวชาญถัง ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้าผู้มีใจรักในทักษะการต่อสู้และปฏิเสธชีวิตอันสงบเรียบง่าย มาเถอะเข้าร่วมกับข้าสร้างเส้นทางเต๋าใหม่ขึ้น…”
“นี่ ช่วยอะไรข้าหน่อยสิ” ถังเทียนรักษาท่าทางของเขาปราศจากการเคลื่อนไหวพลางแค่นเสียงอย่าางเย็นชา “เอวของข้าเคล็ดแล้ว! อ๊า ครานี้คงเจ็บปวดไปสองสามวันเลยทีเดียว…”
อาโม่หลี่กลายเป็นแข็งทื่อ
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ขณะที่ถังเทียนกับอาโม่หลี่ต่อสู้กันอย่างรุนแรง บรรยากาศภายในห้องของอาจารย์ใหญ่กลับดูย่ำแย่มาก
“ข้ารู้สึกตกใจมากที่รู้ว่าสถาบันของเจ้ามีนักศึกษาขยะเช่นนี้!” ชายวันกลางคนที่หน้าเต็มไปด้วยสิวเคอะ สะบัดแขนขวาของเขาด้วยความโมโหพลางตะโกนว่า “ข้าไม่คิดไม่ฝันเลย! ตระกูลข้าบริจาคให้สถาบันแอนดรูว์ตั้งแต่บรรพบุรุษ ในแต่ละปีที่พวกเขาจ่ายให้และนี้คือสิ่งที่ได้รับตอบแทนงั้นรึ กล้าจะที่รับนักศึกษาขยะปัญญาอ่อนนี้ มันยังคงอยู่ภายในสถาบันถึงห้าปีเต็ม! อย่าบอกข้านะว่าสถาบันแอนดรูว์ตกต่ำลงถึงเพียงนี้! เจ้า เป็นอาจารย์ใหญ่จักต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ให้เต็มที่…”
ด้านข้างชายวัยกลางคนยืนไว้ด้วยเด็กชายหน้าอ้วนกลมซึ่งดูหยิ่งจองหอง เขาคือนักศึกษาผู้ที่โดนถังเทียนสั่งสอนที่หน้าทางเข้าสถาบันไป ถังเทียนไม่รู้เลยว่าเด็กชายผู้นั่นที่เขาสั่งสอนไปจะเป็นลูกหลานของตระกูลโจว โจวเผิง
ตระกูลโจวนี้มีอำนาจมากในเมืองเมฆาดาราแห่งนี้ พวกเขาอยู่ร่วมกับเมืองเมฆาดารามาร่วมร้อยปีแล้วและพวกเขายังมีเส้นสายมากมาย ขณะที่ทายาทตระกูลโจวก้าวเข้าไปยังรั่วสถาบัน กลับถูกทุบตีปางตายโดยผู้คน นี่มันทำให้ตระกูลโจวตกเป็นเสียงหัวร่อของเมืองเมฆาดาราได้
นายน้อยตระกูลโจว สามารถที่จะข่มเห่งเด็กสาว ข่มขู่ผู้คน เปรียบดั่งหนอนแมลงตัวหนึ่ง ภายในบ้านมืองนี้ แต่เขาไม่สามารถที่จะถูกลบหลู่โดยผู้คนได้!
ผู้นำตระกูลโจวแสดงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาให้ลูกชายได้เข้าศึกษาที่สถาบันแอนดรูว์นี้เพราะมันอยู่ภายใต้อาณาเขตของตระกูลโจว เกี่ยวกับตระกูลต่างๆ การเลี้ยงดูและดูแลการเติบโตลูกหลานคือการลงทุนที่มีค่าที่สุด ในประวัติศาสตร์ร้อยปีของตระกูลโจว ให้การสนับสนุนสถาบันแอนดรูว์อย่างไม่หยุดหย่อน
สีหน้าของอาจารย์ใหญ่ปกคลุมไปด้วยความร่วมมือและประจบสอพลอ แม้ชายวัยกลางคนจะพ่นน้ำลายรดหน้าของเขา แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะทำลายเหมืองทองคำข้างหน้าเขา ถ้าสถาบันขาดการสนับสนุน เพียงไม่นานเขาคงโดนปลดออกจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่
หลังจากพูดพล่ามมาเกือบชั่วโมง ชายวัยกลางคนก็ได้หยุดลง เขาสงบลงพลางกล่าวกับอาจารย์ใหญ่ว่า “ไม่ว่าอย่างไร ลูกชายข้าก็เกือบถูกฆ่าภายใต้สถาบันที่ตระกูลโจวให้การสนับสนุน ใช่แล้ว นี่มันเป็นการพยายามฆ่ากัน! ข้ายอมรับมันไม่ได้ ตระกูลโจวก็เหมือนกัน เจ้าต้องให้คำอธิบายนี้แก่ตระกูลโจว!”
หลังจากที่เขาพูดจบ ไม่แม้แต่ที่จะมองหน้าอาจารย์ใหญ่ ชายวัยกลางคนก็พาโจวเผิงออกไป
อาจารย์มีสีหน้าอย่างถมึงพลางตะโกนอย่างดุร้าย “ไปตามถังเทียนมานี้!”
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ