ตอนที่ 003 – กระทิงคลั่ง อาโม่หลี่
ตอนที่ 003 – กระทิงคลั่ง อาโม่หลี่
“ถังเทียน มาประลองกับข้า!”
เสียงดั่งลั่นมาจากหน้าประตูสถาบัน ปลุกถังเทียนผู้ซึ่งพักผ่อนภายใต้แสงแดดที่ลานฝึกซ้อม
การฝึกซ้อมได้จบลงแล้ว หลังจากชี้แนะขอผิดพลาดของนักศึกษาคนสองคน ถังเทียนตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ได้มีความใส่ใจในการฝึกทักษะการต่อสู้พื้นฐาน ฉะนั้นเขาจึงหาที่นอนและนอนหลับไป
“น่ารำคาญจริง” ถังเทียนพึมพำก่อนจะกลับไปนอนต่อ
“ถังเทียน เจ้าคนขี้ขลาด เร็ว ออกมาประลองกับข้า!” เสียงดังลั่นยังคงคำรามผ่านเข้ามายังลานฝึกอีกครั้ง
เหล่านักศึกษาผู้กำลังฝึกซ้อมอยู่ต่างมองมาที่ถังเทียนด้วยสีหน้าแปลกๆ
ศิษย์พี่ถังเทียนแส่หาเรื่องใส่ตัวเองอย่างงั้นรึ?
มีเพียงคนเดียวที่สูงใหญ่แข็งแกร่งนั่น ผู้บุกเข้ามายังลานฝึกซ้อมอย่างกระทิงคลั่ง เขาเอาแต่สบถแช่งด่า และกวาดสายตาดูรอบๆ มองหาบางสิ่งหรือบางคน
เหล่านักศึกษาตกอยู่ในอาการหวาดกลัว ด้วยความกล้าบ้าบิ่น เข้ากล้าขนาดพุ่งมายังในลานฝึกซ้อม ในขณะที่เหล่านักศึกษาสังเกตุเห็นสัญญลักษณ์ของชายคนนั่น พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยได้แต่ตื่นตระหนกตกใจ
“สถาบันอสูรอำมหิต”
เหล่านักศึกษาใหม่แสดงอาการเปลี่ยนไป
สถาบันอสูรอำมหิตจัดเป็นสถาบันที่มีอันดับสูงในเมืองเมฆาดาราเป็นอันดับที่สาม เมื่อเทียบกับสถาบันแอนดรูว์ซึ่งติดเพียงอันดับสิบ
ไม่แปลกใจในสีหน้าที่ซีดของเหล่านักศึกษาเลย สถาบันอสูรอำมหิตมักจะแก่งแย่งชิงดีกับสถาบันแอนดรูว์อยู่เสมอ แม้ว่าพวกเขาไม่จะถือเป็นว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต แต่พวกเขาก็ไม่ใช่พันธมิตรแน่นอน นอกจากนี้สิ่งที่เหล่าอาจารย์ภายในสถาบันแอนดรูว์คับอกคับใจก็คืออันดับสถาบันตกต่ำลง และในขณะที่สถาบันอสูรอำมหิตกลับบินพุ่งสะท้านขึ้นฟ้า
พวกเขากำเนิดนักศึกษาชั้นนำได้หลายคน และพวกเขาก็ได้การจัดอันดับที่สูงขึ้น
สถาบันอสูรอำมหิตมีความเชี่ยวชาญในการฝึกรบ ภายในสถาบันถ้าหากเกิดการต่อสู้ขึ้นทางสถาบันจะไม่หยุดยั้งแต่กลับสนับสนุนแทนที่ ดังนั้นเหล่านักศึกษาที่ถูกดูแล พวกเขากลับกล้าหาญและแข็งแกร่งขึ้น สถาบันสามัญธรรมดาดูไร้ฝีมือทันทีเมื่อประลองกับพวกเขา
นักศึกษาจากสถาบันอสูรอำมหิตกล้าที่จะบุกเข้าไปยังสถาบันแอนดรูว์ มันช่างน่าขันซะจริง
“ฮ่าๆ ถังเทียน ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าซักที! มาเถอะ อย่าได้ให้ข้ารอ เข้ามาประลองกัน ข้าจะให้เจ้าได้ชิมรสหมัดของข้า อาโม่หลี่!” เสียงของชายหนุ่มดังคำรามลั่นทั่วลานฝึกซ้อม
“อาโม่หลี่ นั่นมันกระทิงคลั่งหนิ!” ใครบางคนอ้าปากค้าง
“อาโม่หลี่ คือใครกัน? เขามีชื่อเสียงมากรึ?” นักศึกษาใหม่ถามด้วยความอยากรู้
นักศึกษาใหม่ผู้ที่เกรงกลัวอาโม่หลี่ ยังคงจ้องมองไปยังเขาพลางกลืนน้ำลายแล้วกล่าวว่า “เขาอยู่ปีสองของสถาบันอสูรอำมหิต ด้วยท่าทางที่ป่าเถื่อนกับร่างกายที่โดดเด่น เขาชื่นชอบการต่อสู้แถมยังถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในนักสู้ชั้นนำของสถาบันอสูรอำมหิต ครานี้ศิษย์พี่ถังเทียนประสบกับปัญหาใหญ่แล้ว”
“เขาแข็งแกร่งรึ?”
“เขาติดอันดับเจ็ดของทั้งหมดของสถาบันอสูรอำมหิต” นักศึกษาคนนึงกล่าว
ทุกคนอ้าปากค้าง
เขาอยู่อันดับเจ็ดทั้งหมดของสถาบันอสูรอำมหิต!
มีเพียงสิบอันดับแรกของสถาบันแอนดรูว์เท่านั้นที่ดีพอจะประลองกับเขา และนั่นยังไม่รวมถังเทียน
“ซวยแล้ว!” ใครบางคนสบถอย่างไร้ความรู้สึก
หลายคนต่างไม่สามารถอดทนดูฉากนี้ได้ การถูกเหยียบย่ำจากนักศึกษาผู้เป็นคู่ต่อสู้มันคงจะดูน่าอับอายมาก
แต่พวกเขาก็ยังคงอยากเป็นพยานในเหตุการณ์อัปยศนี้!
นักศึกษาบางคนรู้สึกเสียใจ ทำไมเขาต้องมีเรียนในวันนี้?
อาโม่หลี่ยืนบดบังแสงแดดของถังเทียน เสียงที่ดังทำให้ถังเทียนรู้สึกปวดหู เขารู้ว่าการนอนหลับของเขาคงถูกทำลายลงเป็นแน่แล้ว ปาดคราบน้ำลายของอาโม่หลี่พลางลุกขึ้นมานั่งอย่างขัดข้องใจ
เขายกมือขึ้นทั้งสองข้างพลางกล่าวอย่างเฉื่อยชา “ข้ายอมแล้ว ข้าขอยอมแพ้”
จากความเห็นใจของนักศึกษาบางคนกลับกลายเป็นแข็งค้างในทันที
เด็กสาวคนนึงอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “ศิษย์พี่ถังเทียน มีคนกล้ามาท้าทายท่าน แต่ท่านกลับไม่แม้แต่จะต่อต้านและยอมแพ้ต่อมันอย่างนั้นรึ?
“ใช่แล้ว! ถึงแม้จะไม่สามารถสู้ได้ แต่ยังน้อยก็ควรที่จะลอง ท่านยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่?”
เด็กสาวอีกคนกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
เมื่อเด็กสาวสองคนเริ่มถากถางถังเทียน คนอื่นๆก็เริ่มด้วยเช่นกัน การโต้เถียงก็ดังขึ้นในลานฝึกซ้อมไม่ขาดสาย เหล่านักศึกษาที่ดูเยาว์และมีความฮึกเหิมต่างมองการตัดสินใจของถังเทียนที่ยอมแพ้ต่อคู่ต่อสู้อย่างน่าผิดหวัง
“แล้วมันข้องเกี่ยวอะไรกับพวกเจ้ากันหากข้าจะยอมแพ้?” ถังเทียนกล่าว
ทุกคนหยุดนิ่ง
แต่เสียงตำหนิก็เริ่มขึ้นอีก
“มารดามันเถอะ! ทำไมสถาบันของเราถึงได้มีคนแบบนี้ด้วย? ช่างน่าอับอายจริง!”
“เขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย! เฉียนฮุ่ยเห็นอะไรในตัวเขากัน? เห็นได้ชัดว่านี้เป็นดอกไม้ในโคลนตม!”
“ข้าจะไม่มายังบทเรียนฝึกซ้อมต่อไปแล้ว! อันธพาลคนนี้ข้าขยะแขยงเหลือเกิน! บัดซบ เขากล้าที่ยอมแพ้ต่อสารเลวสถาบันอสูรอำมหิตได้ยังไง!”
…
“อาโม่หลี่ ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว” ถังเทียนไม่สนใจในสายตาของเหล่านักศึกษาพลางจ้องมองมายัง อาโม่หลี่ ด้วยสายตาไร้เดียงสาและความจริงใจอย่างสุดๆ
อาโม่หลี่จ้องเขม็ง พลางคว้าคอเสื้อดึงถังเทียนขึ้นมาแล้วตะโกนใส่ “มาเถิด เจ้าพื้นฐานถัง มาประลองกับข้าสักครา! ห้าปีกับทักษะการต่อสู้พื้นฐาน เป็นพื้นฐานของการดื้อรั้นหรือไง เจ้าต้องสำเร็จกระบวนท่าใหม่แล้วแน่ เจ้าพื้นฐานถัง อย่าได้หลอกข้า! ข้าดูมันออก!”
พื้นฐานถัง…
ทุกคราที่ถังเทียนได้ยินชื่อนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เพียงทักษะการต่อสู้พื้นฐาน แต่ชื่อนี้มันช่าง…
มันช่างอึดอัดนัก!
‘ข้าไม่เคยเจอใครที่จะดื้นด้านและหน้าด้านเช่นเขามาก่อน’ ถังเทียนคิด
อาโม่หลี่ยังคงพ่นน้ำลายกล่าวต่อไปว่า “มาเถิด เจ้าพื้นฐานถัง ให้ข้าได้รู้หน่อยพื้นฐานที่เจ้าที่ฝึกมาเยอะแยะจะเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยความนับถือต่อคุณหนูเฉียนฮุ่ย จะมีเพียงผู้ชนะเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้คุณหนูเฉียนฮุ่ยเหลือบแล เข้ามา เจ้าพื้นฐานถัง…”
….กล้าที่จะเอ่ยนามของเฉียนฮุ่ย….
เจ้าวัวโง่งมตัวนี้ นามของเฉียนฮุ่ยใช่ว่าเจ้าอยากจะกล่าวก็พ่นออกมาได้งั้นรึ?!
นี่มันแอบหลงใหลต่อเฉี่ยนฮุ่ยอย่างชัดเจน
บัดซบ!
ถังเทียนเปิดตากว้าง ความต้องการสังหารปรากฏบนใบหน้าของเขา “หมับ!” มือขวาของเขาพุ่งราวกับงูพัวพันรอบๆแขนของอาโม่หลี่ในทันที มันคือหนึ่งในทักษะพื้นฐานกระบวนท่าหมัด [การบิด] รวดเร็วเพียงชั่วพริบตา มือซ้ายถังเทียนพลันโอบที่เอวของอาโม่หลี่ ใช้ออกด้วยกระบวนท่าอาวุธลับขั้นพื้นฐาน [การจับ]
“เจ้า!”ถังเทียนตะคอก พลางคว้าแน่นและยกตัวอาโม่หลี่ขึ้นเหนือหัวและทุ่มเขาลงทันที
“เจ้าวัวโง่ เจ้าช่างกู่ไม่กลับแล้วจริงๆ บังอาจอ้างนามของเฉียนฮุ่ย! เจ้าตายแน่!”
เมื่อคราที่อาโม่หลี่เห็นการทะเลาะของถังเทียนกับคนอื่นยามเมื่อผ่านสถาบันแอนดรูว์ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะสู้กับถังเทียน ไม่พูดแม้เพียงครึ่งคำก็รีบเร่งเข้าไปท้าสู้กับถังเทียน
แต่เขาสามารถบอกได้ว่า ถังเทียนฝึกเพียงทักษะกระบวนท่าพื้นฐานต่างๆ ดังนั้นเขาจะใช้เพียงกระบวนท่าพื้นฐานสู้กับถังเทียนเช่นกัน
ด้วยความตั้งใจที่จะจับมือทั้งสองของเขา อาโม่หลี่กลับถูกจู่โจมโดยถังเทียน
อาโม่หลี่ไม่เพียงไม่โมโห เขายืนอย่างมั่นคง โดยคาดคิดว่าจะยังคงมีคนที่แข็งแกร่งกว่าทักษะกระบวนท่าของเขา
ในทันที เขาสืบหาสถานที่ของถังเทียน และไปต่อสู้กับเขา นั่นเป็นครั้งแรกที่เขามายังสถานแอนดรูว์
เขาได้พ่ายแพ้ให้ถังเทียนโดยสิ้นเชิง
อาโม่หลี่ดื้อดึงที่ต่อสู้กับถังเทียน ยิ่งเข้าสู้มากเท่าไหร่ ยิ่งหาโอกาสมากเท่าไหร่ ยิ่งมันเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ เขาจะตระหนักได้ถึงจุดอ่อนของถังเทียน
เหมือนกระสอบทราย อาโม่หลี่ปลิวออกไป ดูเหมือนว่าขณะที่เขากำลังจะล่วงหล่นพื้นอย่างหนัก อาโม่หลี่ก็พลิกตัวด้วยความคล่องแคล่วที่ไม่เหมาะสมกับรูปร่างของเขาลงอย่างปลอดภัย
ไม่เคยมีใครในสายตากระทิงอาโม่หลี่ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้เขา เขาถ่มน้ำลายออกมา “เจ้าช่างคุ้มค่าแก่การเรียกว่า ‘สุดยอดพื้นฐานถัง’ จริง การควบคุมที่สมบูรณ์ กระบวนท่าที่สมบูรณ์ กำลังที่สมบูรณ์! มันทำให้ผู้คนเร่าร้อนจริง! มา เจ้าพื้นฐานถัง มาต่อสู้กันให้ถึงที่สุด”
ถังเทียนเบื่อหน่ายกับคำพูดไร้สาระของเขา และเขารู้ว่าหากไม่กำราบเจ้าอสูรข้างหน้าเขานี้ เขาคงไม่ได้อยู่อย่างสงบเป็นแน่
เขาเพิกเฉยต่อเหล่านักศึกษาในลานฝึกซ้อม
กำลังขาของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน พลางร่างของเขาก็เหินออกไปดั่งลูกศรหลุดออกจากแหล่ง พุ่งไปยังอาโม่หลี่ ในพริบตาเมื่อขาของเขาสัมผัสพื้น เขาก็บิดเอวของเขาพร้อมกับชกออกด้วย กระบวนท่าหมัดพื้นฐาน [หมัดตรง]!
ประกายตาอาโม่หลี่แวววับ เขาบิดเอวแล้วชกออกด้วยหมัดเฉกเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าคือ [หมัดตรง]!
สองกำปั้น ประสานงากัน
ปัง!
อากาศรอบๆพลันระเบิดกระจายหลังจากหมัดปะทะกัน ทำให้เหล่านักศึกษาต่างตกใจอยู่ในอาการตะลึง
เงาร่างสองร่างกระเด็นออก ถอยออกไปสามก้าว
เหล่าศึกษาที่เต็มไปด้วยอารมณ์เดือดพล่านต่างยืนนิ่งเป็นรูปปั้น และเสียงรอบด้านต่างเงียบลง พวกเขาพลางจ้องอย่างว่างเปล่ามองไปยังการต่อสู้
เสมอกัน….
หมัดของพวกเขาผลออกมาเสมอกัน
มันเป็นไปได้ยังไงกัน…มันเป็นได้ยังไงกัน!
กระทิงคลั่งอาโม่หลี่…อันดับเจ็ด…แห่งสถาบันอสูรอำมหิต…เสมอกัน…
อาโม่หลี่ตาลุกวาว เขารู้ว่าเมื่อยามที่หมัดปะทะกันนั้น เขาได้พ่ายแพ้
ถ้าหากเป็นการประชันกำลังกันอย่างเดียว เขามีความมั่นใจว่าจะมีชัยเหนือว่าถังเทียน แต่ขณะที่หมัดปะทะกัน ไม่คาดว่าจะเท่าเทียมกัน
นี่แสดงให้เห็นว่า [หมัดตรง] ของถังเทียนเหนือกว่าหมัดของเขา
เป็นจริงดั่งคาด เขาเป็นบุคคลที่มีค่าแก่การเรียก สุดยอดพื้นฐานถัง…
ในขณะนี้ ถังเทียนคล้ายพยัคฆ์ที่ดูโหดเหี้ยม แม้ก่อนหน้ายามปกติเขาจะดูเกียจคร้าน แต่เมื่อยามต่อสู้ เขาก็เข้าสู่สมาธิลึกล้ำจดจ่อแต่เพียงกำจัดคู่ต่อสู้ของเขาให้พ่ายแพ้
ปัง!
การแลกหมัดและเท้าดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ทั่วทั้งลานฝึกซ้อมได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากการต่อสู้นี้ อาโม่หลี่ มีรูปร่างที่ไม่เหมือนใคร มีกล้ามเนื้อเฉกเช่นกระทิงที่แข็งแกร่ง ในทางกลับกันถังเทียนผู้ที่ฝึกทักษะกระบวนท่าพื้นฐานอันหลากหลาย เขามีกล้ามเนื้อที่ผ่านการฝึกฝนจนสมบูรณ์แบบ รูปร่างสมสัดส่วนดูทรงพลัง
ด้วยการฝึกฝนทักษากระบวนท่าพื้นฐานนั้นไม่เหมาะกับต่อสู้ระยะประชิด ทุกการเคลื่อนไหวแลดูเรียบง่าย แต่ด้วยสองมือคู่นั้น มันกลับดูเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง
ทุกการจู่โจมของอาโม่หลี่เต็มไปด้วยความดุร้ายโดยมีเจตนาการทำร้ายอย่างจริงจัง
ในทางกลับ การโจมตีของถังเทียนดูเรียบง่ายและว่องไว แต่พลังกลับปะทุในยามวินาทีสุดท้าย
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้เป็นไปอย่างรุนแรงในแต่ละหมัด เหล่านักศึกษารอบๆต่างจ้องมองด้วยสีหน้าซีดขาว ช่างน่าตระนกกับความเร็วและความลึกซึ้งของกระบวนท่า อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าดูน่าพึงพอใจ แต่กลับเต็มไปด้วยความกระจ่างแจ้ง
ถ้าหากใครสักคนเผชิญหน้ากับการโจมตีอันร้ายกาจนี้ พวกเขาคงจะทุบตีอย่างรวดเร็ว เหล่านักศึกษาใหม่ที่พึ่งจะเข้ามายังสถาบันนี้ ต่างจ้องมองอย่างโง่งม
นี้คือผู้ที่ฝึกฝนร่ำเรียนแต่ทักษะการต่อสู้พื้นฐานจริงๆงั้นรึ? ถังเทียนยังคงเพิกเฉยต่อสายตาของทุกคน และจดจ่ออยู่กับเจ้าวัวบ้าข้างหน้าเขา
ความสามารถของทักษะการต่อสู้พื้นฐานของอาโม่หลี่เป็นอันดับสูงกว่าคนอื่นๆ และความแตกต่างด้านพละกำลังไม่ใช่แค่เพียงเล็กน้อย นี้ยังคงไม่อาจทำให้ถังเทียนลังเลถึงแม้อาโม่หลี่จะจัดอยู่ในอันดับสูงของการบ่มเพาะพลัง ตามเท่าที่เขามีเวลาฝึกทักษะการต่อสู้มากขึ้น เขาก็สามารถที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆได้
ฝึกทักษะการต่อสู้พื้นฐานอย่างเข้มงวดมาตลอดห้าปี ขณะที่ใช้เวลาฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่นๆ อาจจะทำให้ใครหลายคนเกิดอาการท้อแท้ได้
แต่ถังเทียนก็ไม่ได้ท้อแท้เลยสักนิด เขายังคงศรัทธาในแนวทางตัวเอง และยังเจ้ากระทิงคลั่งตัวนี้เพียงเพื่อต้องการต่อสู้ กลับกล้าใช้อ้างนามของ เฉียนฮุ่ย!
เจ้าวัวเขลา เจ้าตายแน่!
***********************************************************
ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ