ตอนที 33 ช่วยหรือไม่ช่วย
แคลร์เริ่มที่จะปวดหัว ถ้าผู้หญิงที่น่ารำคาญผู้นั้นกำลังจะตายจริงๆ ก็ปล่อยให้เธอต่ายไปเถอะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธออยู่แล้ว แต่ถ้าลาเชียร์ผู้นั้นตายไปจริงๆ แคทเธอรีนผู้อ่อนโยนคงจะหัวใจแตกสลาย เพียงแค่คิดถึงแคทเธอรีนก็ยังทำให้หัวใจของแคลร์อบอุ่นขึ้นมา สำหรับผู้หญิงที่อ่อนโยนผู้นั้น แคลร์จะไม่ปล่อยให้คนเอาแต่ใจอย่างชาเชียร์ตายเด็ดขาด
ไม่มีใครสังเกตเห็นไอสังหารจากผู้ชายที่ชื่อ กงหยู๋ เฟิ่ง สักคน รอยยิ้มของเขาราวกับดอกไม้แรกย้อม ยามที่เขาเดินขึ้นไปบทเวทีอย่างเชื่องช้า ในขณะที่เหล่านักเรียนของสถาบันซันไรส์มองไปที่เขาด้วยความเกลียดชัง เขาดูเหมือนเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนช่วงบ่าย กับบรรยากาศที่ดูเกียจคร้านของเขา ไม่มีใครสามารถค้นพบไอสังหารของเขาได้เลยสักคน
ความรู้สึกที่แสดงออกมาของทั้งลาเชียร์และชายหนุ่มกงหยู๋ เฟิ่ง ผู้นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าชายหนุ่มผู้นี้เป็นหมาป่าที่มองไม่เห็นเจตนาที่แท้จริงของเขาด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นแล้วล่ะก็ เช่นนั้นลาเชียร์ก็คือแกะน้อยผู้อ่อนแอที่กระปรี้กระเปร่านั่นเอง
“ท่านหญิงลาเชียร์ ยินดียิ่งนักที่ได้พบท่านอีกครั้ง” กงหยู๋ เฟิ่ง พูดขึ้นด้วยท่าทีสง่างาม รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากับสร้างความระคายเคืองอย่างยอดเยี่ยมในสายตาของลาเชียร์ เพื่อนของชายผู้นี้เกือบจะสังหารรุ่นพี่ในสถาบันของเธอไปแล้ว เลวทรามและน่ารังเกียจที่สุด เธอจะต้องรวมเอาบัญชีนี้เข้าไปไว้ด้วยกัน และจะต้องทำให้เขาต้องเจ็บปวดอย่างที่สุด มันเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามจู่ๆ ก็มีเรื่องขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเธอเป็นฝ่ายชนะไป แต่ครั้งนี้แน่นอนว่ามันจะแตกต่างออกไป เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอได้ศึกษาและฝึกฝนเวทมนตร์อย่างไม่หยุดหย่อน ปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เวลานี้เธอจะใช้ความแข็งแรงของเธอเองเพื่อที่จะบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามของเธอให้สาสม
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”ชาเชียร์ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา ก่อนที่จะหยุดการพูดคุยด้วยการเริ่มสวดคาถาเวทย์สั้นๆ แล้วสายฟ้าขนาดเล็กนับไม่ถ้วนก็มุ่งตรงไปที่กงหยู๋ เฟิ่ง อย่างรวดเร็ว ลาเชียร์เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กงหยู๋ เฟิ่งได้ นี่เป็นเพียงการสร้างความสับสนให้เขา เพื่อที่จะถ่วงเวลาในการสวดคาถาเวทย์ที่มีความยาวขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
มีการดูถูกเหยียดหยาม รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนในหน้าของ กงหยู๋ เฟิ่ง เพียงแค่คลื่นของฝ่ามือเดียวของเขา ก็มีรังสีของแสงระยิบระยับกระจายออกมา ทำลายสายฟ้าที่ลาเชียร์สร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบในทันที
แคลร์ขมวดคิ้ว การใช้เวทมนต์โดยราวกับไม่แยแสของกงหยู๋ เฟิ่ง ราวกับเสียงระฆังเตือนดังขึ้นในหัวของเธอ กงหยู๋ เฟิ่ง เป็นนักเวทย์ธาตุน้ำแข็ง และการใช้พลังและความแข็งแรงของเขาได้ก้าวหน้าผ่านระดับของลาเชียร์ไปนานแล้ว
“โยโฮ น้องคนเล็กผู้หยิ่งผยองของเจ้า ตอนนี้โชคดีหมดไปจริงๆ แล้ว พวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์”เสียงที่หยาบคายของวอลเตอร์ดังขึ้นในหัวของแคลร์ หลาย ๆ กรณีในอนาคตจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการมองการณ์ไกลของวอลเตอร์นั้น ก็เพียงเพื่อที่จะทำให้ผู้อื่นรำคาญเท่านั้น
“เจ้าดูออกได้อย่างไร”แคลร์สื่อสารทางจิตใจกับวอลเตอร์
“รัศมีของบุคคลผู้นั้นมีความคล้ายกับของตัวข้าเอง”วอลเตอร์ตีริมฝีปากของเขาและหัวเราะขึ้น
“อย่าเข้าใจผิด เขาไม่ใช่ผู้ใช่มนต์ดำ แต่ข้าหมายถึงว่าวิธีการคิดของเขานั้นเหมือนกับข้า”
“น่ากลัว คนเจ้าเล่ห์ที่ชอบโจมตีในขณะที่ซุ่มเงียบ ชอบวางแผนอุบายและยิ้มในขณะที่ลงมือสังหาร”แคลร์พูดขึ้นอย่างเย็นชา ฮึ คนแบบนี้ไม่ใช่แค่นักเวทมนต์อย่างแน่นอน รัศมีที่เปล่งออกมาจากแกนกลางของร่างกายของเขามันเป็นของนักฆ่า ไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวมากไปกว่าที่นักฆ่าที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์อีกแล้ว
นักฆ่าไม่สามารถต่อสู้กับนักเวทย์หรือนักรบตัวต่อตัวได้ เพราะนั่นจะเป็นเช่นการพยายามที่จะทำลายหินด้วยก้อนกรวด แต่เมื่อนักเวทย์นั่งทำสมาธิหรือนักรบใช้เวลาเพื่อพักผ่อน นักฆ่าสามารถจบชีวิตของพวกเขาอย่างเงียบๆ ได้ เป็นทั้งนักฆ่าและนักเวทย์ ชายหนุ่มผู้นั้นถือว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง
มุมปากของวอลเตอร์ถึงกับกระตุก แม้ว่ามันจะเป็นความจริง แต่เมื่อมันมาจากปากของปีศาจน้อย มันช่างเฉียดเฉือนเสียจริง
“ข้าคิดว่า ด้วยพลังอำนาจของเขา เขาไม่จำเป็นต้องสวดคาถาเวทย์แล้ว ข้าคิดว่าเขากำลังวางแผนบางอย่างกับของสาวของเจ้าอยู่”วอลเตอร์กระพริบตาและยังคงที่จะพูดสิ่งที่ไร้ประโยชน์ต่อไป ในสิ่งที่แคลร์ก็รู้อยู่แล้ว
จะช่วยหรือไม่ช่วยดี
“พายุเฮอริเคน! พายุเมฆหมอก! สายไฟ! ภายใต้พันธะสัญญาที่เก่าแก่และจงมาอยู่เคียงข้างข้า อัสนีสายฟ้า”การสวดคาถาเวทย์ของลาเชียร์ก็มาถึงที่สิ้นสุด มันคงจะไม่ดีแน่ถ้าใครถูกโจมตีด้วยคาถานี้ คนธรรมาดาจะตายอย่างแน่นอน และโล่เวทมนต์โดยปกติจะไม่สามารถที่จะทนต่อการโจมตีประเภทนี้ได้เช่นกัน หลายคนมองนักเวทย์พร้อมกับรู้สึกแน่นในทรวงอกของพวกเขา สงสัยอย่างประหม่า ถ้านั้นเป็นพวกเขา พวกเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีที่สยองขวัญเช่นนี้ได้หรือไม่
เสียงร้องดังก้องของท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นดังมากขึ้นและมากขึ้น และสีสันก็ได้หายไปจากใบหน้าของทุกคน โมซาร์ทอาจารย์ใหญ่แห่งสถาบันซันไรส์ พยักหน้าของเขาด้วยความยินดี การเจริญเติบโตที่ล่าสุดของลาเชียร์ช่างเป็นที่น่าพอใจมากจริงๆ เอกอัครราชทูตหรี่ตาของเขามองไปที่ลาเชียร์ที่อยู่บนเวทีแต่ไร้ซึ้งการแสดงออกใดๆ แม้ว่าเด็กสาวคนนี้จะมีพลังที่มีประสิทธิภาพมาก แต่พลังของเธอก็ไม่มากพอที่จะอันตรายใดๆ ต่อฝ่ายของพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่ปล่อยให้เธอเติบโตมาจนมาถึงตอนนี้ได้ คลิฟหาวขึ้นรู้สึกเบื่อเล็กน้อย ก่อนจะชำเลืองมองไปที่ชุดของสาวใช้คนที่อยู่ทางด้านหลังของเขา
สายลมพัดอย่างบ้าคลั่ง พายุเมฆหมอกเต็มท้องฟ้าไปหมด และฟ้าก็ร้องดังสนั่นขึ้น และทันใดนั้นเองเวทีเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มลง
แต่กงหยู๋ เฟิ่งยังคงดูมั่นคง เขายังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างสง่างาม ราบกับว่าเขากำลังรอให้ลาเชียร์สวดคาถาเวทย์ให้เสร็จเสียก่อน
แคลร์มองดูเวทีที่เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของเธอจมดิ่งลงไปแล้วตอนนี้ ในสภาพเช่นนี้ ไม่มีทางที่จะเห็นได้ชัดเจนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบนเวที อย่างน้อยสำหรับคนส่วนใหญ่ สายตาที่คมชัดของแคลร์สามารถจับรอยยิ้มจาง ๆที่เยือกเย็นบนใบหน้าของกงหยู๋ เฟิ่งได้
มันคือรอยยิ้มของความตาย
นิ้วมือของกงหยู๋ เฟิ่งเคลื่อนไหวเล็กน้อยและน้ำแข็งเล็ก ๆ ก็ได้ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วมือของเขา เพราะการระเบิดที่มืดฟ้ามัวดิน เขาจึงได้ปล่อยโล่โปร่งใสเพื่อให้คนอื่นๆ ได้มองเห็น จากนั้นกงหยู่ เฟิ่งก็เริ่มสวดคาถา แล้วความหนาแน่นราวกับป่าน้ำแข็งขนาดต่าง ๆที่ปรากฏต่อหน้าเขา พร้อมที่จะตอบโต้ มีเพียงแค่น้ำแข็งเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างนิ้วมือของเขาเท่านั้นที่มีขนาดแตกต่างออกไปเล็กน้อย มันมีรูปแบบที่คมชัด มันเหมือนจะมีกลิ่นอายแปลกๆ ที่บางเบาเกี่ยวกับมัน แต่แคลร์ก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แคลร์เข้าใจก็คือสิ่งที่ชายหนุ่มผู้โหดร้ายและเจ้าเล่ห์ผู้นี้ต้องการที่จะทำ เขากำลังจะยอมรับระเบิดลูกนี้จากลาเชียร์ และโต้กลับด้วยน้ำแข็งที่หนาแน่นของเขา แล้วแอบยิงน้ำแข็งเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างนิ้วมือของเขาเข้าไปในหน้าอกของลาเชียร์ แม้ว่าคลิฟจะได้เพิ่มโล่เวทมนตร์ป้องกันไว้ให้ลาเชียร์แล้วก็ตาม แคลร์ไม่ได้คิดในแง่บวก ว่าชายหนุ่มผู้นั้นจะไม่สามารถทำลายโล่ป้องกันและยิงน้ำแข็งของเขาเข้าไปที่หัวใจของลาเชียร์ได้ ในรอบที่ผ่านมา คู่แข่งของสถาบันซันไรส์เกือบจะถูกทุบตีจนตายและโล่ก็มีรอยร้าว และแคลร์ก็มั่นใจว่าผู้ชายเจ้าชู้ผู้นั้น ไม่ได้ใช้ความแข็งแรงของเขาทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ แล้วถ้าเป็นกงหยู่ เฟิ่งผู้นี้เล่า มันจะน่ากลัวแค่ไหนสำหรับพลังและความแข็งแรงของเขา แม้ว่าทั้งสองประเทศจะไม่ต้องการที่จะสูญเสียนักเรียนของพวกเขาในการแข่งขัน และได้เพิ่มโล่เวทมนต์เพื่อปกป้องเอาไว้ ถ้าเกิดมีคนตายอย่างไม่ตั้งใจจากการต่อสู้ มันจะไม่มีการสอบสวนหรือการพิจารณาคดีใดๆ ทั้งนั้น อุบัติเหตุ คำว่าอุบัติเหตุ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มกงหยู๋ เฟิ่งผู้นั้นตั้งใจที่ใช้ประโยชน์จากนี้อย่างเต็มที่
และในทันใด คนทั้งสองได้จู่โจมเข้าใส่ต่างฝ่ายอย่างรวดเร็ว
แคลร์เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กุงหยู๋ เฟิ่ง กำลังจะยิงน้ำแข็งขนาดเล็กพิเศษของเขา ตามหลังออกไปอย่างใกล้ชิดกับป่าน้ำแข็งขนาดต่างๆ ของเขา จุดประสงค์ของมันก็คือหน้าอกของลาเชียร์นั่นเอง แม้ว่าลาเชียร์จะสามารถป้องกันป่าน้ำแข็งขนาดใหญ่ได้ ไม่มีทางที่เธอจะสามารถป้องกันน้ำแข็งขนาดเล็กพิเศษที่ซ่อนอยู่ทางด้านหลังของมันได้
สายฟ้าเคลื่อนไหว เกล็ดน้ำแข็งเคลื่อนไหว กงหยู๋ เฟิ่งมีรอยยิ้มที่ดูราวกับลมฤดูใบไม้ผลิปรากฏออกมา
ในทันทีที่การจ้องมองของแคลร์เปลี่ยนเป็นที่ลึกล้ำ และรูม่านตาของเธอก็เปิดกว้างขึ้น