ตอนที่แล้วตอนที่ 28 หลิงอวิ้น เหลิ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 วิกฤติที่ซ่อนอยู่

ตอนที่ 29 สายตาของพระราชา


แคลร์มองไปที่คนชั้นสูงผู้หล่อเหลาและใจร้อน ก่อนจะถอนหายใจในใจของเธอขึ้น มุมมองของเจ้าของร่างกายเดิมนี้.....เธอไม่สามารถที่จะยอมรับมัน หรือเห็นคุณค่าของมันได้เลยจริงๆ

“ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าเขาสมควรจะได้รับการเฆี่ยนตี”เสียงของวอลเตอร์ดังขึ้น แล้วทันใดนั้นเองเขาก็ถามขึ้นอย่างจริงจัง

“เหตุใดเจ้าถึงได้หลงรักเด็กหนุ่มที่หยิ่งสโยสารเลวเช่นนี้ได้ แล้วคำพูดเหล่านั้นมันหมายความว่าอย่างไร”แม้ว่าวอลเตอร์จะถูกตีจนตาย เขาจะไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่า ปีศาจน้อยจะชื่นชอบชายหนุ่มเช่นนี้ได้

แคลร์ไม่ได้พูดอะไร แคลร์ไม่สามารถที่จะบอกกับวอลเตอร์ได้ว่าเธอไม่ใช่แคลร์คนก่อนหน้านี้

ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาชั้นสูง มองไปยังแคลร์ที่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา ยิ่งทำให้เขาร้อนใจมากขึ้นและมากขึ้นไปอีก เขารู้สึกอิจฉาและเกลียดชัง นักไล่ล่าผู้ชายคนนี้ยิ่งนัก ที่ได้กลายมาเป็นลูกศิษย์ของคลิฟ และแม้ว่าเธอจะยังไม่ได้กลายเป็นนักเวทย์ที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำ และยังไม่มีความสำเร็จใด ๆ ให้เห็น เธอกลับได้รับพระราชทานคำนำหน้าชื่อบารอนเสียแล้ว แม้ว่าคำนำหน้าชื่อบารอนจะเป็นคำนำหน้าชื่อที่ต่ำที่สุดแต่มันก็ยังคงเป็นคำนำหน้าชื่ออยู่ดี มองดูแคลร์ที่ยังคงเงียบสงบ ชายหนุ่มรูปหล่อก็ยิ่งรู้สึกปั่นป่วน และดูถูกเหยียดหยามมากขึ้นไปอีก เธอผู้หลงใหลในการไล่ล่าผู้ชาย เขาขอให้เธอเต้นรำกับเขา หรือว่าเธอจะประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออกไปเสียแล้ว

“ขอโทษ ข้าไม่รู้วิธีการเต้นรำ เจ้าไปหาคนอื่นดีกว่า”แคลร์ตอบจึ้นอย่างเย็นชา

ชายหนุ่มรูปหล่อถึงกับตะลึง ไม่รู้วิธีที่จะเต้นรำหรือ คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของนักไล่ล่าผู้ชายอย่างแคลร์ ช่างเป็นเรื่องน่าตลกสิ้นดี ทุกคนต่างรู้ว่านักไล่ล่าผู้ชายผู้ไร้ซึ่งความสามารถใดๆเลย นอกจากความสามารถทางด้านเต้นรำของเธอ แต่ตอนนี้เธอกับบอกว่าเธอเต้นรำไม่เป็น เธอหมายความว่าอย่างไรในคำพูดนี้ นี้มันคำพูดประเภทไหนกัน หนุ่มหล่อถึงกับขมวดคิ้ว เขาเข้าใจในคำพูดของพ่อของเขา รู้ว่าเมื่อก่อนแคลร์ก็เคยไล่ล่าเขา ท่านต้องการให้เขาดึงความสนใจของแคลร์มาไว้ที่ตัวเขา และเป็นเพื่อนกับเธอ เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลฮิลล์ ลาเชียร์คนที่เป็นผู้ยอดเยี่ยมและมีความสามารถ นั้นยากเกินไปที่จะเข้าถึงได้ แต่สำหรับนักไล่ล่าผู้ชายคนนี้ มันยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง

“เจ้าปฏิเสธเพื่อที่จะเรียกร้องความสนใจจากข้าอย่างนั้นหรือ” ชายหนุ่มรูปหล่อหัวเราะเย็นชาขึ้น แล้วเขาก็ต่อคำพูดขึ้นก่อนที่แคลร์จะได้พูดอะไรออกมา

“เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าได้ทำมันสำเร็จแล้ว มาเถอะไปเต้นรำกับข้า”ชายหนุ่มยื่นมือของเขาออกไป

แคลร์รู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะพฤติกรรมของชายหนุ่มตรงหน้า แต่เป็นเพราะการกระทำของแคลร์คนก่อนหน้านี้ ถ้าคนแบบนั้นเปลี่ยนทัศนคติของเธอ มันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะยอมรับมันได้

“ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้าใจผิดแล้ว แคลร์นั้นกำลังรอข้าอยู่” น้ำเสียงที่สงบดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของชายหนุ่มในทันที

หนุ่มหล่อหันกลับไปมอง ก่อนจะตกตะลึงเมื่อเห็นว่าเจ้าชายที่สองนั้นกำลังส่งยิ้มมาให้เขาอยู่

“ใต้ฝ่าพระบาท”หนุ่มหล่อโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่สุดจะพรรณนา นี้แคลร์ได้เปลี่ยนทัศนคติของเจ้าชายที่สองไปแล้วหรืออย่างไร คนที่เคยถูกเธอไล่ล่ามาก่อนด้วยซ้ำ

เจ้าชายที่สองพยักหน้ารับเบาๆ ยิ้มอย่างมีน้ำใจส่งไปให้

“เช่นนั้นข้าคงต้องขอลา ฝ่าบาท”หนุ่มหล่อโค้งคำนับเล็กน้อย ก่อนจะถอนตัวออกไปจากระเบียง

แคลร์ยังคงเงียบและไม่ได้พูดอะไรออกไป

“อะไร นี้เจ้าจะไม่ขอบคุณข้า ที่เข้ามาช่วยเจ้าไว้จากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้หรือ”เจ้าชายที่สองหัวเราะขึ้นเบาๆ ในขณะที่เขาพูดจาหยอกล้อแคลร์อยู่

“คนที่ควรจะขอบคุณพระองค์ก็คือเขาคนนั้น”แคลร์หัวเราะอย่างเงียบ ๆ น้ำเสียงของเธอนั้นราวกับความหนาวเย็นที่ไม่มีใครเทียบได้

แน่นอนเจ้าชายที่สองรู้ถึงความหมายในคำพูดของแคลร์ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจในน้ำเสียงของแคลร์ และยังคงหัวเราะต่อไป

“ให้เกียรติข้าได้เต้นรำกับเจ้าได้หรือไม่” หลังจากพูดประโยคนี้จบลง เจ้าชายที่สองได้ยื่นมือของเขามาให้แคลร์อย่างสง่างาม

“ไม่ได้เพคะ”แคลร์ไม่ได้มีการไว้หน้าอีกคนแต่อย่างใด ปฏิเสธขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำ

เจ้าชายที่สองไม่ได้รู้สึกโกรธในทางตรงกันข้าม เขากับหัวเราะขึ้นแทน เขาเก็บมือของเขากลับมาอย่างช้าๆ ไม่ได้โกรธเคืองแม้แต่น้อยที่แคลร์ปฏิเสธอย่างเปิดเผยเช่นนี้

“ในคืนนั้น เป็นข้าเองที่เป็นคนหยุดจีนเอาไว้ ข้าไม่ได้พูดเพราะจีน ข้าเพียงบอกความจริงก็เท่านั้น ในคืนนั้นข้าเพียงต้องการที่จะรู้ว่าจริงๆ เจ้าเป็นใครกันแน่”เจ้าชายที่สองเดินเข้ามาใกล้หูของแคลร์พูดบ่นหัวเราะขึ้น สำหรับคนอื่นที่ดูจากภายนอก ดูเหมือนว่าคนรักกำลังกระซิบความลับกันอยู่ แต่ความจริงแล้วกับแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

“โอ้ แล้วอย่างไร”แคลร์ยิ้มขณะที่โยกย้ายแก้วไวน์ในมือของเธอไปมา ความหนาวเย็นที่เธอปล่อยออกมาจะแทบจะทำให้ผู้คนตัวสั่นได้

เจ้าชายที่สองถึงกับใบกิน แล้วอย่างไร ประโยคนั้น ประโยคที่เยือกเย็นสามารถที่จะหยุดคำพูดที่เขากำลังจะพูดออกไปไว้ในทันที แล้วจะอย่างไรถ้าเขาจะหยุดจีนหรือไม่ แล้วอะไรที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเด็กสาวที่อยู่ต่อหน้าของเขาในเวลานี้ ไม่ใช่คนปกติทั่วไปแล้ว ไม่ใช่นักไล่ล่าผู้ชายอีกต่อไปแล้ว แต่เธอคือลูกศิษย์ของคลิฟในตำนาน

“ถ้าใต้ฝ่าพระบาทไม่ได้มีอะไรจะพูดแล้ว ข้าอยากจะอยู่คนเดียวสักครู่เพคะ”แคลร์พูดขึ้นอย่างเกียจคล้าน ยืนพิงราวระเบียง สายตาของเธอลอยไปทางสวนที่เงียบสงบในตอนนี้

เจ้าชายที่สองหยุดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้าของเขา

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็คงต้องขอตัว”

แคลร์พยักหน้ากลับอย่างรวดเร็วต่อเจ้าชาย

ในที่สุดระเบียงเป็นกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แคลร์ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ก่อนจะดื่มไวน์จากแก้วของเธอต่อไป

“บุคคลผู้นี้แน่นอนว่าไม่ธรรมดา”เสียงของวอลเตอร์ดังขึ้นในหัวของแคลร์

“จริงๆหรือ” แคลร์ตอบอย่างไม่ค่อยสนใจนัก

“สายตาของเขาคือสายตาของราชา”วอลเตอร์พูดขึ้นอย่างมั่นใจ

“ฮะ..เมื่อไหร่กันที่เจ้าเริ่มเหมือนคนหน้าซื่อใจคดพวกนั้น”แคลร์เยาะเย้ย แต่จริงๆเธอรู้สถานการณ์อย่างชัดเจน การประลองของบัลลังก์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเธอไม่ได้มีความสนใจ ในการเข้าร่วมการต่อสู้ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย มันก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอสำหรับตระกูลของราชวงศ์ จากช่วงเวลาที่เจ้าได้ถือกำเนิดขึ้นมา คำว่าครอบครัวความรักถือว่าเป็นเรื่องตลกทั่วไป ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบุคคลที่เจ้าห่วงใย เจ้าจะไม่สนใจเกี่ยวกับมัน

“ข้าไม่..ข้าแค่เข้าใจการอ่านดวงดาวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”วอลเตอร์หักล้างขึ้นมาอย่างกล้าหาญ

“จริงๆ หรือ เช่นนั้น นักอ่านดวงดาวผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมวันนั้นเจ้าไม่อ่าน ว่าเจ้าจะได้พบกับเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารแห่งแสงผู้มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ทำไมเจ้าถึงไม่อ่านว่าเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”แคลร์ใช้ลิ้นพิษโต้กลับยังไม่ยอมอีกเช่นกัน

“ข้าๆ ก็ข้าบอกแล้วว่า เข้าใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”วอลเตอร์ถึงกับลีบลงทันที

ที่มุมปากของแคลร์ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่มองไม่เห็น จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันดูน่าสนใจที่จะเล่นสนุกกับวอลเตอร์เช่นนี้

แต่แคลร์รู้ว่าจริงๆแล้ว วอลเตอร์สามารถที่จะอ่านดวงดาวได้เล็กน้อย เจ้าชายที่สองมีโอกาสมากที่จะกลายเป็นพระราชาองค์ต่อไป เพราะเขามีการสนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการจากดยุค กอร์ดอน สำหรับดยุค กอร์ดอน เขาจะต้องมีเหตุผลของเขาที่แอบสนับสนุนเจ้าชายอย่างลับๆ เช่นนี้

“แคลร์เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ เมื่อไหร่เราจะกลับได้สักที สถานที่แห่งนี้ดูน่ารำคาญเสียจริง”เสียงของวอลเตอร์ดังอยู่ในหัวของแคลร์

“อีกอย่างอาจารย์คนแรกของเจ้า บอกว่าเขาจะหาทางช่วยข้า แล้วมันไปถึงไหนแล้ว”

“ข้ากำลังสงสัยเกี่ยวกับวิธีอาบน้ำให้เจ้า ทอดหรือต้มดี”แคลร์พูดขึ้นอย่างเย็นชาหลังจากที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของวอลเตอร์

“ถ้าเจ้าต้องการอะไร สิ่งแรกถามตัวเจ้าก่อนว่าเจ้าได้ให้อะไรไปบ้าง ก่อนที่เจ้าจะเรียกร้อง เจ้าจะต้องมีส่วนร่วมเสียก่อน”

วอลเตอร์ถึงกับสั่น นี้คือปีศาจน้อย พวกเขากำลังล้อเล่นไปเรื่อยๆ และเขาก็เกิดความประมาทขึ้น และคิดว่ามันจะง่ายต่อการพูดคุยกับเธอ แต่ในความจริง เสื้อผ้าที่สวยงามไม่สามารถปกปิดการปองร้ายโดยธรรมชาติของปีศาจน้อยผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย

“แต่ แต่ว่าในตอนนี้ ข้าไม่มีพลังอะไรเลย แล้วข้าจะไปช่วยอะไรได้”วอลเตอร์หน้ามุ่ย เหมือนกับว่าเขากำลังรู้สึกผิดอย่างมากมาย

“เมื่อพวกเรากลับไป บอกข้าทุกอย่างเกี่ยวกับมนต์ดำ บอกข้าทุกบทคาถาที่เจ้ารู้จัก บอกข้า ข้าจะได้กลับไปค้นคว้าศึกษา”นี่คือความต้องการที่โลภมากจริงๆ มากเกินไปจริงๆ แต่ถ้านั้นคือด้านมืดของแคลร์ วอลเตอร์ขดริมฝีปากของเขา ใครจะไปสนใจถ้าเขาบอกเธอ แคลร์ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไร ในกรณีใด ๆก็ตาม แคลร์ไม่สามารถที่จะเรียนรู้มนต์ดำได้ เพราะลักษณะและตำแหน่งของเธอ และถ้าวัดจากพื้นฐานตามบุคลิกราวกับปีศาจของแคลร์ เธอจะไม่สอนใครเกี่ยวกับเรื่องเวทมนต์อย่างแน่นอน ตอนนี้การบอกแคลร์เกี่ยวกับเรื่องมนต์ดำ วอลเตอร์ก็คิดว่าเขาไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว

“ก็ได้ๆ ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”วอลเตอร์สัญญาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า

“เมื่อไหร่เราจะไปจากสถานที่โง่ๆ แบบนี้สักที แสงบริสุทธิ์ที่ข้าสัมผัสได้จากตัวของเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์ทำให้ข้าคลื่นไส้” แม้ว่าวอลเตอร์จะไม่ได้มีร่างกายอีกต่อไปแล้ว แสงบริสุทธิ์ที่หนาแน่นที่เขาสัมผัสได้ ยังคงทำให้เขาเบื่อหน่ายและอึดอัดเป็นอย่างมาก

“เมื่องานเลี้ยงจบลง”แคลร์ตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจ วอลเตอร์เหมือนกับกำลังจะถอนหายใจขึ้นดังๆ แล้วแคลร์ก็พูดขึ้นอย่างมีเลศนัย

“แต่ข้าสามารถพาเจ้าไปเดินเล่นในสวนได้ แล้วก็จากไปเมื่องานเลี้ยงจบลง”

“เย้ แคลร์เจ้าช่างเป็นคนดีอะไรเช่นนี้” วอลเตอร์ช่วยไม่ได้ที่จะอุทานออกมา แล้วเขาก็กลับมาเป็นตัวของเขาอีกครั้ง และชะงักไป ปีศาจตัวเป้ง ปีศาจตัวเป้ง ได้วางกับดับเอาไว้ให้เขาเรียกเธอว่าคนดี ถ้าเธอเป็นคนดี ในโลกใบนี้คงจะไม่มีคนดีอีกต่อไปแล้ว

ในสวนมีสายลมเย็นๆพัดมา แคลร์นั่งเงียบ ๆ อยู่บนม้านั่ง จ้องมองดาวในตอนกลางคืน เหนือหัวของเธอขึ้นไป คือดาวที่ดูใหญ่ที่สุดสว่างไสววิบวับงดงาม

“บุคคลในตำนานที่เกิดมา ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศนี้กันทั้งนั้น”เสียงของวอลเตอร์จู่ ๆ ก็ลอยเข้าไปในหูของแคลร์

“ทำไมเจ้าถึงได้พูดแบบนี้”แคลร์รู้สึกสับสน

“การอ่านดวงดาว ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้มีอุปกรณ์ใด ๆ หรืออำนาจใดๆ ข้าก็ยังสามารถอ่านดวงดาวได้”วอลเตอร์พูดขึ้นอย่างมั่นใจ

“ดูดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เหนือหัวของเจ้าขึ้นไป มันไม่ได้อยู่ที่นั่นมาก่อนเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา มันพึ่งจะโผล่มาได้ไม่นานนี้เอง พวกผู้หญิงน่าเกียจเหล่านั้นจากวิหารแห่งแสง คงจะทำงานตัวเป็นเกลียวอย่างแน่นอน”วอลเตอร์อย่างดูถูกสาปแช่ง

“อธิบายมา”แคลร์ขมวดคิ้ว ความรู้สึกที่แปลกประหลาดส่องประกายอยู่ในหัวใจของเธอ แต่มันก็เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แคลร์ไม่สามารถที่จะสัมผัสมันได้ด้วยซ้ำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด