ตอนที่ 10 จะปกป้องคุณหนูตลอดไป
แคลร์จ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ร่างของลาเชียร์ที่อยู่ใต้ร่างของเธอที่ร่างกายนั้นสั่นเทาดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เด็กสาวสำลัก หายใจไม่ออกมากขึ้นและมากขึ้น
ใช่ แคลร์คนปัจจุบันสามารถที่จะสังหารลาเชียร์คนที่ต้องการที่จะสังหารเธออย่างเลือดเย็น โดยที่ไม่ได้เป็น ความไม่เจตนาอีกต่อไปแล้ว เด็กสาวที่เอาแต่ใจ เธอไม่เข้าใจความหมายของคำว่าเกินขอบเขตเลยแม้น้อย
ทันใดนั้นเองเสียงหวีดร้องก็ได้ทำลายความเงียบในอากาศลง มันเป็นเสียงที่ดังและชัดเจนอย่างมาก
ในตอนนี้เอง แคลร์ก็ได้ตบไปที่ใบหน้าของลาเชียร์อย่างแรง ในขณะนั้นการมองเห็นของลาเชียร์เริ่มเลือนลาง และเกือบจะทำให้เป็นลมหมดสติไปแล้ว รอยแดงของฝ่ามือน้อยของแคลร์ประทับลงไปที่ข้างแก้มที่บอบบางของลาเชียร์ ก่อนที่เลือดสีแดงสดจะค่อยๆ ไหลออกมาจากมุมปากของเธอ
“เจ้าต้องขอบคุณท่านแม่ ถ้าไม่ใช่เพราะนาง วันนี้ข้าคงจะสังหารเจ้าไปแล้ว” แคลร์กระซิบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาราวกับเสียงที่ดังมาจากขุมนรกอย่างแผ่วเบาไปที่หูของลาเชียร์ จนเธอตัวสั่นเทา ยามมองไปที่ดวงตาที่แสนจะเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง มันทำให้กล้ามเนื้อถึงกับกระตุกไปด้วยความหวาดกลัว เธอรู้ว่าแคลร์ไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย ถ้าในตอนนี้เธอทำอะไรออกมาให้แคลร์ไม่พอใจล่ะก็ แน่นอนว่าเธอจะถูกสังหารอย่างไร้ความปราณีในทันที โดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใดให้เห็น
จีนและองค์ชายรองยังคงซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกทางด้านใน ตอนนี้ในหัวของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่าล้นเหลือ เด็กสาวผู้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด เส้นผมสีทองของเธอพลิ้วไหวไปมาตามสายลม ช่างเป็นความเด็ดเดี่ยวที่เย็นชาและกล้าหาญ ราวกับมีพลังมหาศาลที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ เด็กผู้หญิงคนนี้ ใช่นักไล่ล่าผู้ชายคนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าคนนั้นจริงๆ หรือ
แคลร์ปล่อยลาเชียร์ที่ยังสั่นเทาไปด้วยสายตาที่ถูก ก่อนจะเงยหน้าของเธอจ้องมองอย่างเย็นชาเข้าไปในป่าลึก
"องครักษ์ผู้ภักดีของข้า เจ้าจะเฝ้ามองข้าไปถึงเมื่อไหร่"
จีนและองค์ชายรองทันใดนั้นเองพวกเขาก็รู้สึกถึงความเยือกเย็นที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวของพวกเขา ทำให้พวกเขาถึงกับสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้
ความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับจิตวิญญาณของพวกเข้าถูกจับจ้องทำให้พวกเขาแทบจะหยุดหายใจในทันที
ความรู้สึกสูญเสียจากทั้งสองด้านในตอนนี้ ทำให้แคลร์รู้ว่ารางวัลแห่งชัยชนะนั้นช่างขมขื่นยิ่งนัก
ไม่นานหลังจากนั้น ภานในห้องหนังสือขนาดใหญ่โตของกระกูลฮิลล์
สีหน้าของกอร์ดอนนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หนักอึ้ง จีนและองค์ชายรองที่ยืนอยู่อีกด้านด้วยท่าทีที่สงบเงียบ
คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้คือลาเชียร์และแคลร์ที่ได้รับการรักษาบาดแผดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ลาเชียร์เจ้าจะถูกกักบริเวณ ห้ามไม่ให้ย่างก้าวออกไปไหนโดยเด็ดขาด เริ่มตั่งแต่วันนี้เป็นต้นไป" เห็นได้จัดว่าอารมณ์ของกอร์ดอนนั้นกำลังโกรธเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยดุด่าลาเชียร์ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ แถมยังสั่งทำโทษเธอเช่นนี้มาก่อน การที่ถูกสั่งกักบริเวณในแบบของตระฮิลล์ยอมไม่ใช่เรื่องง่ายดายเหมือนกับการอยู่บ้านเฉยๆ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างไรนั้น มีเพียงผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเท่านั้นที่จะสามารถบอกได้ แต่สิ่งเดียวที่สามารถบอกได้อย่างชัดเช่นที่สุด ก็คือทุกอย่างจะไม่มีอะไรง่ายดายอย่างแน่นอน
ลาเชียร์ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ ตลอดเวลาเธอเอาแต่ก้มหน้าทำให้ไม่มีใครสามารถที่จะมองเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของเธอได้
"เจ้าค่ะ ท่านปู่" ลาเชียร์ตอบรับขึ้นในน้ำเสียงที่แหบแห้งก่อนจะเดินออกจากห้องไปในทันที เสียงขอเธอเกือบจะถูกทำลายอย่างถาวรโดยน้ำมือของแคลร์ นักเวทย์ผู้เยียวยาเขาได้ใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของเขาในการรักษามันเอาไว้ได้ในที่สุด
หลังจากที่ลาเชียร์ได้เดินออกไปจากห้องแล้วเท่านั้น กอร์ดอนก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงไปที่แคลร์พร้อมกับเสียงถอยหายใจที่ดังขึ้น ดวงตาที่มองไปที่แคลร์นั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
"แคลร์ ลาเชียร์นั้นเป็นเด็กที่ถูกพวกเราตามใจมาโดยตลอด จนนำไปสู่เหตุการณ์เช่นในวันนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นางก็เป็นน้องสาวของเจ้า ข้าคงได้แต่หวังว่าเจ้าจะไม่เก็บเอาไปใส่ใจให้มากจนเกินนัก"
"ข้าเข้าใจแล้ว ท่านปู่" แคลร์พูดขึ้นเสียงเบาพร้อมกับพยักหน้าของเธอเล็กน้อย ถ้าเธอเก็บมันไปใส่ใจแล้วล่ะก็ ลาเชียร์คงจะไม่ได้มายืนพูดอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน เธอคงจะหายไปจากโลกใบนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี่นานแล้ว
"ไม่ได้มีปัญหาเพิ่มขึ้นใช่ไหม จากอาการบาดเจ็บของเจ้า ยังคงเจ็บอยู่หรือไม่"ตอนนี้กอร์ดอนได้กลับมาทำตัวเหมือนตาแก่คนเก่า ท่านปู่ของพวกเธอ ดวงตาคู่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“มันดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ ท่านปู่อย่าได้เป็นกังวล” แคลร์ยกยิ้มขึ้น มันเป็นตามนั้นจริงๆ นักเวทย์ผู้เยียวยานั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลผิวเผินได้ดีเป็นอย่างยิ่ง
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” กอร์ดอนสามารถโล่งใจได้ในที่สุด
“แต่ท่านปู่ มีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าไม่สามารถให้ผ่านไปได้ ไม่ว่าข้าจะเก็บมาใส่ใจหรือไม่ก็ตาม” แคลร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบา พร้อมกับยกยิ้มที่ไม่ใยดีขึ้น
“อย่างนั้นหรือ” กอร์ดอนมองไปที่แคลร์ด้วยสายตาที่ประหลาดใจและสงสัย
แคลร์หันไปอีกด้าน ก่อนจะยกคางมนขึ้นเล็กน้อย และมองไปที่จีนด้วยสายตาที่ดูถูกอย่างที่สุด ก่อนจะพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ข้า แคลร์ ฮิลล์ ขอประกาศว่าข้าไม่จำเป็นจะต้องมีองครักษ์ผู้พิทักษ์อีกต่อไป นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จีน เรย์มอนด์ ไม่ใช่องครักษ์ผู้พิทักษ์ของข้า แคลร์ ฮิลล์ อีกต่อไป ความสัมพันธ์ของพวกเราให้จบลงในที่นี่”
ในชั่วนาทีนั้นทุกคนต่างยืนตัวแข็งค้าง แม้แต่อากาศยังรู้สึกว่ามันได้แช่แข็งไปอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ใบหน้าที่สดใสของแคลร์นั้น เต็มไปด้วยความแน่วแน่และความภาคภูมิใจ
ใบหน้าของจีนกลับซีดลงในทันที
ใบหน้าของกอร์ดอนนั้นเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว องค์ชายรองนั้นเต็มไปด้วยความตกใจจนไม่สามารถที่จะคิดสิ่งใดได้ในขณะนี้
องค์รักษ์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของความจงรักและภักดี องค์รักษ์ทุกๆ คนต่างยึดถือในหลักแห่งองค์รักษ์ ใช้มันในการเป็นแนวทางของเขาหรือเธอ พวกเขานั้นคือตัวแทนแห่งวีรบุรุษโดยแท้
“ความภักดี ศรัทธา เกียรติยศ ความกล้าหาญ” แคลร์จ้องมองอย่างดุร้ายไปที่จีนยามที่พูดขึ้นถึงแต่ละคำอย่างชัดเจน ในแต่ละคำให้ความรู้สึกเหมือนค้อนที่ทุบไปที่หัวใจของจีนอย่างรุ่นแรง
“หลักการใดของความเป็นองครักษ์ที่เจ้าทำมันล้มเหลว ในเวลาที่ชีวิตของข้านั้นกำลังตกอยู่ในอัตราย เจ้าและฝ่าบาท องค์ชายรองผู้สูงสง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ กลับไม่ทำอะไรเลย ความจงรักภักดีหรือ ทั้งหมดนี่มันตลกสิ้นดี”
ในชั่ววินาทีนั้น แคลร์ได้จู่โจมด้วยท่าทีที่คุกคามอย่างรุนแรง ทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถในการคิดในทันที
“ข้าไม่จำเป็นจะต้องมีองครักษ์ผู้ไร้ซึ่งความจงรักภักดี ไร้ซึ่งความศรัทธาในตัวข้าเช่นนี้” สายตาที่ส่งประกายออกมาของแคลร์นั้นเต็มไปด้วยความน่ากลัว
สำหรับการเป็นองครักษ์ การถูกปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่นั้นถือว่าเป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว การถูกปลดออกจากตำแหน่งนั้นก็หมายความว่าจีนนั้นไม่มีคุณสมบัติในการเป็นองครักษ์ เขาจะไม่เป็นที่ยอมรับอีกเลยตลอดกาล ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม
“คุณหนูแคลร์” องค์ชายรองในที่สุดก็สามารถที่จะหาคำพูดของเขาเจอและพูดขึ้น เหตุใดเหตุการณ์มันถึงได้เดินมาถึงขันนี้ได้ มันได้เดินมาถึงจุดที่เขาไม่อยากจะเห็นได้อย่างไร และในขณะนั้นก็เป็นเขาเองที่ได้หยุดจีนเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาได้ออกไปช่วยแคลร์
“ฝ่าบาทผู้สูงส่ง องค์ชายรองผู้มีเกียรติ หม่อมฉันเชื่อว่านี่เป็นกิจธุระภายในครอบครัวของพวกเรา พระองค์ไม่สิทธิที่จะมาแทรกแซงเพคะ” แคลร์ยกหัวของนางขึ้นอย่างเย็นชา ไม่แสดงความปราณีใดๆ แม้แต่น้อย
องค์ชายรองถึงกับอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้อีก เขาไม่เคยเห็นแคลร์ที่ดุดันก้าวร้าวแบบนี้มาก่อน ทั่วร่างของเธอนั้นราวกับมีแสงประกายสว่างสดใส จนพวกเขาแทบจะไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้
ในที่สุดใบหน้าที่ประหลาดใจของกอร์ดอนก็กลับมาเป็นปกติก่อนจะไอขึ้นเล็กน้อย
“ใช่แล้วแคลร์ ความผิดในครั้งนี้มันถือว่าเป็นความผิดของจีนอย่างเห็นได้ชัด และเจ้าก็สามารถที่จะลงโทษเขาอย่างไรก็ได้ตามที่เข้าต้องการ แต่เจ้าไม่สามารถที่จะตัดความสัมพันธ์นี้ได้ ความสัมพันธ์นี้ได้บัญญัติขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เจ้าเกิดแล้ว ไม่ใช่แค่เขาจะค่อยปกป้องเจ้าในตอนนี้เท่านั้น แต่เขาจะทำมันทั้งในอนาคตข้างหน้าด้วยเช่นกัน มันอาจจะเป็นเพียงความผิดพลาดบางประการเท่านั้น ข้ามั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว คุณหนูแคลร์” องค์ชายรองพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มันเป็นความผิดของข้าเอง ในเริ่มแรกจีนต้องการที่จะออกไปช่วยเหลือเจ้า มันเป็นข้าเองที่ได้หยุดเขาเอาไว้ ข้าสาบานได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าได้พูดออกมานั้นเป็นความจริง และข้าก็ไม่ได้เข้าข้างเขาแต่อย่างใด”
แคลร์เงียบไปและก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
กอร์ดอนขมวดคิ้วมองไปที่จีนอย่างมีความหมาย
“คุณหนู ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความละเลยในหน้าที่ของข้าเอง และข้ายินที่จะถูกลงโทษขอรับ”
จีนดึงดาบที่คาดไว้ที่เอวของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่กระพริบตาเขาได้แทงดาบลงไปที่ขาขว้าของเขา ดาบเล่มยาวคมกริบแทงลึกทะลุต้นขาของเขาในทันทีทันใด เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกอย่างมากมาย เห็นได้ชัดว่าเขาได้ใช้พลังในการลงดาบอย่างมากแค่ไหน แต่จีนกลับทำราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย การแสดงออกของเขานั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
แคลร์ยังคงเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างเย็นชา กอร์ดอน ฮิลลิมองมาที่เธอ ส่วนองค์ชายรองนั้นมองไปที่จีนด้วยความกังวล จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับบาดแผลฉกรรจ์ของจีนเลยแม้แต่น้อย สำหรับนักรบแล้วมันถือเป็นเรื่องธรรมดามาก นอกจากนี้ยังมีนักเวทย์ผู้เยียวยาที่จะมาค่อยรักษาบาดแผลฉกรรจ์นี่ของเขาในทันทีอีกด้วย สิ่งที่องค์ชายรองนั้นเป็นกังวลจริงๆ ก็คือการที่แคลร์ยังคงมีความต้องการที่จะตัดความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด
แคลร์ยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม
“ข้า จีน เรย์มอนด์ ขอสาบานว่าจะจงรักภักดี เชื่อมั่นศรัทธา และค่อยปกป้องต่อคุณหนูแคลร์ ฮิลล์ ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของข้า จะไม่มีทางเปลี่ยนไปและจะไม่มีทางทอดทิ้งอย่างเด็ดขาด” และในทันทีจีนได้คุกเข่าข้างหนึ่งของเขาลงไปที่พื้น กำมืออีกข้างเป็นกำปั้นก่อนจะตบมันลงมาที่หน้าอกของเขาอย่างแรง ก่อนจะมองไปที่แคลร์ ด้วยท่าทางเคร่งขรึมผิดปกติ
แคลร์เพียงแค่จ้องมองมาที่จีนด้วยสายตาที่เย็นชา ในขณะที่เขายังคงคุกเขาอยู่ที่พื้น แล้วเขาก็จ้องกลับไปด้วยท่าทีที่เฉียบขาดไปยังเด็กสาวผู้ที่มีท่าทางเหินห่างเด็ดเดี่ยว ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
บรรยากาศในห้องหนังสือนั้นราวกับว่ามันมีความหนาแน่นของความกดดันที่เพิ่มขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าหายใจไม่ออกขึ้นมาเลยทีเดียว