ตอนที่แล้วPrologue
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่ 1 : ตอนที่ 1 – สาวน้อยในป่าใหญ่


หมายเหตุ - ขอเปลี่ยนชื่อพระเอกจาก กาโร เป็น ลูก้า

_________________________________________________________________________

บทที่ 1 : ตอนที่ 1 – สาวน้อยในป่าใหญ่

 

เป็นเวลากว่าห้าวันแล้วหลังจากที่ข้าหลบหนีออกมาจากเผ่าริก้า หลายวันที่ผ่านมานี้ข้าอาศัยอยู่ด้วยการดื่มน้ำจากลำธาร และออกล่าสัตว์ที่อยู่ในป่า

ข้าเชื่อว่าจะต้องมีคนออกตามล่าข้าเป็นแน่ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกมันไม่มีทางพบข้าในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน เพราะข้าได้ลบร่องรอยต่างๆทิ้งไปหมดแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาตัวข้าพบ

หลังจากที่ดื่มน้ำจากลำธาร ก็เดินไปหยิบท่อนไม้แห้งขนาดพอดีมือที่อยู่ใกล้ๆ ใช้ดาบเหลาปลายให้แหลม จนกลายเป็นหอกไม้ที่มีความยาวเพียงสามฟุตเพื่อให้เหมาะแก่การใช้งาน เพราะความสูงของข้าในตอนนี้นั้นถือว่าสูงกว่าเด็กที่อายุไล่เลี่ยกันเล็กน้อย ยังไม่เหมาะที่จะใช้งานหอกที่มีความยาวมากกว่าสามฟุต

หอกถือเป็นอาวุธที่ข้าชื่นชอบมากที่สุดในชีวิตก่อนเลยก็ว่าได้,เพราะพลังทำลายล้างของมันนั้นถือว่าสูงมาก ทั้งยังสามารถฆ่าศัตรูได้เป็นจำนวนมากในคราเดียว แต่เป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝนให้ชำนาญ อาวุธประเภทหอกจึงไม่เป็นที่นิยมนักยกเว้นในกองทัพ

หลังจากสร้างหอกไม้แบบหยาบๆเสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อทันที

 

/////////////

หลังจากที่ผู้นำเผ่าริก้า ริกาชิ ได้เดินทางกลับมายังเผ่าของเขาแล้วนั้น

ภาพตรงหน้ากลับทำให้พวกเขารู้สึกโกรธมาก เพราะในตอนนี้เผ่าริก้านั้นดูวุ่นวายเป็นอย่างมาก บ้านไม้และกระท่อมถูกเผาทำลาย มีซากศพนักรบและพวกทาสอยู่เต็มไปหมด ราวกับว่าพึ่งผ่านการสู้รบมาอย่างไรอย่างนั้น!

‘นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะ?!’ (ริกาชิ)

พวกเขารู้สึกสับสน โดยเฉพาะ ริกาชิ นั้นรู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า ระหว่างที่เขาออกไปจากเผ่าเพียงไม่กี่วันเผ่าของเขากลับดูวุ่นวายเช่นนี้!

เกิดสิ่งใดขึ้น…?!

ริกาชิ คำรามถามนักรบในเผ่าคนหนึ่งที่กำลังวิ่งไล่ทาสอยู่ด้วยความโกรธเกรี้ยว “เกิดอะไรขึ้น?!”

นักรบหนุ่มหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำถาม แล้วจึงหันหน้ากลับไปด้านหลังด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเห็นริกาชิผู้ซึ่งกำลังโกรธจัดจนใบหน้ากลายเป็นสีแดง “นะ…นี่”

นักรบหนุ่มรู้สึกลังเล แต่ก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่ริกาชิผู้ซึ่งมีสถานะเป็นถึงหัวหน้าเผ่าฟังทั้งหมดโดยไม่ได้ปิดบัง

เมื่อเขาได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วนั้น เขาได้กระแทกกำปั้นเข้าใส่เสาไม้ขนาดเท่าท่อนแขนที่ปักอยู่ด้านข้างด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด

*ปั่ง*

“บัดซบ!”

ในตอนนี้ ริกาชิ รู้สึกโกรธมากจนแทบคลั่ง เมื่อได้รู้ว่าบุตรชายของตนถูกสังหาร เขาจึงออกคำสั่งแก่นักรบในเผ่าทันทีหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ด้วยใบหน้าถมึงทึง

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเจ้าจะต้องจับตัวเจ้าสารเลวนั่นมาให้ข้าให้ได้ ส่วนที่เหลือไปจับพวกทาสที่ก่อความวุ่นวายแล้วลงโทษพวกมันซะ!!” (ริกาชิ)

“ครับ”

ริกาชิ ได้ส่งนักรบจำนวนสิบคนออกจากเผ่าเพื่อตามล่าตัวลูก้าทันที เขาไม่เชื่อว่าแค่เด็กตัวเล็กๆเพียงคนเดียวจะสามารถเอาชนะนักรบจำนวนสิบคนได้ แม้ว่ามันผู้นั้นจะมีฝีมือที่ร้ายกาจเพียงใดก็ตาม...

 

////////

ในขณะนี้ ข้ารู้สึกถึงสายลมอ่อนๆและแสงแดดที่กระทบเข้ากับผิวหนังของข้าทำให้รู้สึกสดชื่นและอบอุ่น

ข้าลืมนับไปแล้วว่านี่ผ่านมากี่วันแล้วนะหลังจากที่ข้าได้หลบหนีออกมาจากเผ่าริก้า เจ้าม้าทาสยังคงวิ่งไปข้างหน้าต่อเรื่อยๆโดยมิได้หยุดพัก ข้ารู้สึกถึงความเร็วของมันที่ตกลง จึงตัดสินใจหยุดพักที่ลำธารตรงหน้า

แต่ข้าต้องรีบซ่อนตัวหลังพุ่มไม้ทันที เพราะมีสตรีน้อยนางหนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ที่นั่น เมื่อมองไปยังเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธอข้ารู้สึกว่าไอ้หนูของข้ามันตื่นตัว

ให้ตายสิ ร่างเปลือยเปล่าของเธอเป็นอาวุธอันตรายต่อเด็กผู้ชายเช่นข้า ยิ่งได้เห็นสองลูกกลมๆนั่น แม้จะไม่ใหญ่นักแต่มันก็ทำให้ข้ารู้สึกคึกคัก

ข้าพยายามย้ายสายตาไปมองที่อื่นแต่ดูเหมือนมันทรยศข้า เพราะมันไม่ยอมละไปจากร่างของเธอเลยแม้แต่น้อย

ห้านาทีผ่านไปเธอขึ้นมาบนฝั่งเช็ดตัวให้แห้งก่อนจะสวมเสื้อผ้าอย่างช้าๆ เธอมีใบหน้าที่งดงามและน่ารัก ผิวสีขาวเนียนผุดผ่อง ทรงผมสั้นสีน้ำตาล ดวงตากลมสีดำสดใส เธอดูมีอายุมากกว่าข้าประมาณห้าปีเห็นจะได้ ส่วนชุดที่เธอใส่นั้นดูดีมาก แสดงให้เห็นถึงสถานะของเธอที่ไม่ธรรมดา

“นั่นใคร!?”

แย่ล่ะ! เพราะพุ่มไม้สั่นทำให้เธอรู้สึกตัวแล้วว่ามีคนกำลังแอบดู ข้ารีบก้มตัวลงทันที ภาวนาให้นางไม่พบข้า

ข้ารู้สึกว่าตัวเองกังวลมากเกินไป

*โฮกกก*

ทันใดนั้นมีเสียงคำรามที่ดุร้ายดังขึ้นมา เมื่อมองรอดผ่านพุ่มไม้ก็เห็นหมีที่มีขนาดตัวเกือบสามเมตรยืนเผชิญหน้ากับสาวน้อยอยู่ในขณะนี้ สีหน้าของเธอนั้นดูวิตกกังวลและเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

เธอยกคันธนูที่วางพิงต้นไม้ขึ้นมาถือไว้ก่อนจะโหลดลูกธนู

ฟ้าววว

น่าเสียดายที่มันสามารถหลบการโจมตีของเธอได้ มันเหวียงอุ้มมือของมันโจมตีเข้าใส่เธอ แต่สาวน้อยก็สามารถหลบการโจมตีของมันไปได้อย่างฉิวเฉียด และเริ่มสวนกลับด้วยการยิงธนูออกไปอีกสองดอก

ดอกแรกเฉี่ยวใบหน้าของมันไปเล็กน้อย ส่วนดอกที่สองโดนไหล่ของมันเข้าเต็มๆ มันส่งเสียงคำรามต่ำออกมาอย่างเจ็บปวด บัดนี้มันโกรธจนบ้าคลั่งไปแล้ว มันเริ่มโจมตีเธออย่างต่อเนื่อง

“ชิร์”

เธอกระโจนเข้าใส่เจ้าหมีนั่น แววตาสีดำของมันทอประกายออกมาอย่างเย็นชา มันกำลังเยาะเย้ยเธออย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น! เพียงแค่ลูกเตะธรรมดาของเธอสามารถผลักมันให้ถอยไปถึงสามก้าว!

“ตาย!”

เธอคำรามออกมาพร้อมฟาดคันธนูใส่ศีรษะของหมีตัวนั้นอย่างสุดแรง

“แย่แล้ว!”

เธอรู้สึกตื่นตระหนก! เมื่อพบว่ามีหมีอีกตัวนึงกระโจนเข้าใส่เธอจากด้านข้าง มันอ้าปากโชว์ฟันที่แหลมคมเพื่อกัดที่คอของเธอ

เธอรู้สึกสิ้นหวัง

“ตาย!”

ข้าคำรามออกมาเสียงดังทำให้การโจมตีของมันชะงักไปชั่วครู่ หอกที่ถูกคว้างออกไปโดยข้ามีพลังทำลายล้างที่สูงมาก เพราะข้าได้เสริมเวทลมเข้าไปด้วย

*ฟ้าว*

*โผล๊ะ*

เมื่อมันปะทะเข้าที่หัวของเจ้าหมี หัวของมันเกิดการระเบิดขึ้นทันที เศษสมองและโลหิตสาดกระจายไปทั่วบริเวณ

ร่างไร้วิญญาณของมันล่วงกระแทกพื้นเกิดเป็นเสียงดัง ‘ตึ่ง’ จากนั้นข้าวิ่งออกไปคว้าร่างของสาวน้อยมาไว้ในอ้อมกอดพลางหนุ่มตัวหลบการโจมตีของหมีอีกตัวกลางอากาศ

กวาดดาบในมือขวาตัดผ่านลำคอของมันอย่างเฉียบพลัน

ฉัวะ!

โลหิตสีแดงฉานพวยพุ่งออกมาจากลำคอของมันราวกับน้ำพุ

หัวที่ใหญ่โตของมันกระเด็นไปด้านหลัง ตกลงสู่พื้นดินและกลิ้งอีกสองสามตลบ

ดวงตากลมโตของสาวน้อยเบิกโพลงด้วยความตะลึงงัน เธอคงไม่คิดว่าในช่วงวิกฤตจะมีผู้กล้าปรากฏตัวออกมาช่วยชีวิตเธอไว้จากภัยอันตราย

หลังจากที่เธอกลับมาได้สติก็รีบกล่าวขอบคุณออกมาอยางรวดเร็วพร้อมกับปรากฏสีแดงบนแก้มนวลนั่น “ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้”

“ไม่เป็นไร” (ลูก้า)

“เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?” (สาวน้อย)

“ลูก้า” (ลูก้า)

“ส่วนข้า ลุชซี่ เป็น-” (ลุชซี่)

โครก

ลุชซี่ยังกล่าวไม่ทันจบเสียงท้องของข้าก็ดังขึ้น ตั้งแต่เช้าแล้วที่ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลย

ลุชซี่ยกมือขึ้นมาปิดปากพลางหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ ตอนนี้ข้ารู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่ง ข้าแทบจะมุดหน้าลงดินอยู่แล้วให้ตายเถอะ

เธอที่เห็นข้ากำลังหิวจึงเสนอขึ้นว่า

“เจ้าไปที่เผ่าของข้าสิ เดี๋ยวข้าเลี้ยงอาหารเจ้าเอง เป็นการตอบแทนที่เจ้าได้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้” (ลุชซี่)

ข้าขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางครุ่นคิดว่านี่ใช่กับดักหรือไม่ แต่ไม่นานข้าก็โยนความคิดนี้ทิ้งไปแล้วตอบตกลงในคำเชิญชวนของเธอทันที

“ตกลง” (ลูก้า)

ดังนั้นพวกเราทั้งสองคนกับอีกหนึ่งตัวจึงมุ่งหน้าไปยังเผ่าของลุชซี่ทันที เผ่าของลุชซี่นั้นตั้งรกรากอยู่ทางทิศตะวันตกห่างจากจุดที่พวกเราอยู่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร

ในระหว่างทางข้าได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าของเธอเล็กน้อยดังนี้ เผ่าของเธอถือเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งเผ่าหนึ่ง ถูกจัดอยู่ในระดับที่สูง มีนักรบของเผ่าอยู่ประมาณสามถึงสี่พันคน เมื่อเทียบกับเผ่าของข้าแล้วเผ่าของข้าไม่นับว่าเป็นอะไรได้!

ไม่นานพวกเราก็มาถึงเผ่าเนีย มีไม้กั้นล้อมรอบเผ่าเนียเอาไว้อยู่ มีเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้นที่สามารผ่านเข้าไปได้

เมื่อนักรบในเผ่าเห็นพวกข้าพวกเขาก็รีบมาล้อมข้าเอาไว้ทันทีพลางใช้หอกและดาบชี้มาที่ข้า มีอยู่สองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขากำลังง้างคันธนูอยู่

“เจ้าคนต่างถิ่น… เจ้าเป็นใคร!?”

เมื่อเห็นเช่นนั้นลุชซี่รีบเอ่ยปากปรามทันที “พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”

เมื่อได้ยินคำสั่งพวกเขาจึงรีบลดอาวุธที่จ้อข้าลงทันที บางคนที่สงสัยจึงกล่าวถามลุชซี่ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและนอบน้อมว่า

“ท่านลุชซี่ เจ้าคนนอกนี่เป็นใครหรือครับ?” (1)

“เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้!” (ลุชซี่)

ลุชซี่ตอบเสียงดังและชัดเจนทุกถ่อยคำที่กล่าวออกมา ทำให้พวกเขารีบก้มหน้าขอโทษข้าแล้ววิ่งไปทำหน้าที่ของตนต่อทันที

ข้าคิดไว้แล้วว่าลุชซี่จะต้องมีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะขนาดนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด