Prologue
หมายเหตุ - นิยายเรื่องนี้เป็นแนว แฟนตาซีเวทมนตร์ เลือดสาด และ อีโรติก
Prologue
ทุกสรรพสิ่งเต็มไปด้วยเพลิงที่ลุกไหม้
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งสนามรบ
ซากศพนับหมื่นนับแสนกองรวมกันอยู่บนพื้นเหมือนภูเขาลูกเล็กๆ
ข้านั่งพิงต้นไม้ใหญ่พร้อมกระอักเลือดออกมาจากปาก
ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ที่เกิดจากการต่อสู้อันหนักหน่วง
ใต้ฝ่าเท้ามีแอ่งเลือดแผ่ขยายออกมาอย่างน่าตกใจ! ข้ารู้ดีว่าตัวข้านั้นคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน!
เบื้องหน้าเป็นศพของแม่ทัพฝ่ายศัตรูที่ถูกข้าสังหารด้วยการผ่าครึ่งจนร่างขาดเป็นสองท่อน
เขาเป็นคนที่น่ากลัวสุดๆ! ชำนาญทั้งเวทมนตร์และวิชาดาบ ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา
ข้าเกิดในตระกูลทหาร ข้าฝึกฝนศาสตราวุธทุกชนิดและการยิงธนูตั้งแต่ 5 ขวบ
ในตอนอายุ 10 ขวบ ข้าสามารถล้มทหารผ่านศึกสามคนได้ในเวลาเดียวกัน
ในตอนอายุ 15 ข้าเข้าร่วมกองทัพและออกรบเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเพียงสิบปีข้ากลายเป็นแม่ทัพที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
ไม่ว่าจะเป็นอาวุธชนิดใดหรือประเภทใดข้าสามารถใช้งานมันได้อย่างช่ำชองราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย!
สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าข้านั้นแข็งแกร่งสุดๆ!
แต่ถึงกระนั้น ข้ากลับสิ้นชีพลงในศึกนี้!
ในตอนที่ข้าตายข้ารู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่?
ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ส่วนร่างกายก็ไม่สามารถขยับไปมาตามใจชอบได้
"ออกมาแล้ว!ลูกคลอดแล้ว!"
เดี๋ยวนะ คลอดอะไร?
ข้าพยายามทำใจให้สงบแล้วมองไปรอบๆ
ซึ่งในสายตาของข้านั้นเป็นเพียงแค่บ้านไม้ซอมซ่อ
หญิงชราที่อุ้มข้าอยู่ด้วยรอยยิ้มพูดขึ้นว่า
“ลูกของเจ้าเป็นผู้ชายและแข็งแรงดี”
หญิงชรายื่นข้าให้กับหญิงสาวผู้ซึ่งมีทรงผมสีฟ้าและดวงตาสีฟ้าดุจดั่งน้ำทะเลในมหาสมุทรที่หาได้ยากยิ่งในทวีปลิโป้
เธออุ้มข้าไว้แนบกับหน้าอกทำให้ข้าสัมผัสถึงบางสิ่งบางอย่างที่นุ่มนิ่ม?!
“เจ้าคือลูกชายของข้าและนามของเจ้าคือ ลูก้า”
…………
ในตอนแรกข้ารู้สึกสับสน?! แต่ไม่นานก็เข้าใจได้ว่าตัวข้านั้นได้มาเกิดใหม่เป็นบุตรชายของผู้นำเผ่า การิ ซึ่งมีนามใหม่ว่า ลูก้า ในทางใต้ของทวีปลิโป้ ข้าได้ใช้ชีวิอย่างสงบสุขอยู่กับครอบครัวใหม่
แต่ความสงบสุขนั้นก็ได้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วในตอนที่ข้ามีอายุ 5 ขวบ!
ซึ่งในตอนนั้นเผ่าการิของพวกเราถูกโจมตีโดยเผ่า ริก้า ซึ่งเป็นหนึ่งในเผ่านักรบขนาดใหญ่ที่มีนักรบของเผ่าอยู่จำนวนหลายพันคนเมื่อเทียบกับเผ่าของข้าที่มีนักรบอยู่เพียงหยิบมือเดียว กำลังรบมันแตกต่างกันมากเกินไป!
พ่อแม่ของข้าเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตในสงครามระหว่างเผ่าในครั้งนั้นโดยที่ข้ามิอาจทำสิ่งใดได้เลย ถึงแม้ข้าจะมีฝีมือในการรบจากชีวิตก่อนมากเพียงใดก็ตามแต่ร่างกายของข้าในตอนนี้นั้นอ่อนแอเกินไป!
คนที่รอดชีวิตถูกจับไปเป็นทาส พวกผู้ชายถูกนำไปใช้แรงงาน ส่วนพวกผู้หญิงก็อย่างที่รู้ๆกันว่าพวกเธอจะต้องเผชิญกับสิ่งใด…!
ทาสอย่างพวกเราต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น เพราะถูกใช้งานอย่างหนักทำให้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของข้าค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง….
_____
หลังจากที่ได้มาเกิดใหม่ข้าได้รับรู้ว่าตัวเองนั้นมีความสามารถทางด้านเวทมนตร์ ลม และ ไฟ ไม่เหมือนกับในชีวิตก่อนที่ข้ามิอาจใช้เวทมนตร์ได้เลยแม้แต่น้อย!
ในโลกนี้มีธาตุเวทมนตร์อยู่หกธาตุ แสง ความมืด ดิน น้ำ ลม ไฟ นอกจากธาตุทั้งหกยังมีความสามารถพิเศษทางเวทอื่น ๆ เช่น เวทพื้นที่ เวทอัญเชิญ และ เวทเสริมพลัง เป็นต้น
ตอนนี้ข้ากำลังนั่งอยู่ในกระท่อมหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งซึ่งมันคือบ้านของข้า ในตอนนี้ข้ามีอายุ 10 ขวบแล้ว เพราะข้าคอยฝึกฝนร่างกายและทำงานหนักมาโดยตลอดตั้งแต่ 5 ขวบ ข้าจึงมีร่างกายที่กำยำและโตไวกว่าปกติ
ข้ามีทรงผมสีขาวที่ถอดแบบมาจากท่านพ่อและดวงตาสีฟ้าที่ถอดแบบมาจากท่านแม่ เคล้าคลงใบหน้าของข้านั้นดูเหมือนกับใบหน้าของข้าเมื่อชีวิตก่อนอย่างไรอย่างนั้น!? คิ้วคมชัดราวใบมีด ดวงตาของข้าเสมือนดั่งดวงตาของนกอินทรีย์ที่ทรงปัญญา
รู้ววววว
เสียงสัญญาณดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาเริ่มทำงานของพวกทาส พวกทาสผู้ชายทยอยออกมาจากที่พักพร้อมถืออีเตอร์อยู่ในมือ พวกเขาต้องไปขุดเหมือง
ข้าออกมาจากกระท่อมเดินไปยังลานกว้างของเผ่า ซึ่งหน้าที่ของข้าในวันนี้คือต้องเป็นคู่ซ้อมให้กับพวกนักรบในเผ่าริก้า ถึงจะพูดอย่านั้นแต่ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงแค่กระสอบทรายให้พวกมันอัดเล่นเท่านั้น!
เมื่อมาถึงลานกว้างก็พบว่าที่นั่นมีคนเยอะกว่าปกติ? ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผู้หญิงที่คอยส่งเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดอยู่ตลอดเวลาจนน่ารำคาญ เมื่อมองไปยังต้นตอของเสียงที่น่ารำคาญพวกนั้นก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามายังลานกว้างอย่างองอาจ
เขามีร่างกายที่บึกบึนและมีใบหน้าที่หล่อเหลา เขาคอยส่งยิ้มเล็กๆอยู่ตลอดเวลา ข้าเลิกสนใจแล้วเดินไปหยิบดาบไม้ขึ้นมาถือไว้เนื่องจากทาสไม่อาจใช้อาวุธมีคมได้ ส่วนนักรบหนุ่มเดินไปหยิบดาบยาวสองฟุตที่มีสองคมขึ้นมาถือไว้แล้วชี้มาที่ข้า
“เจ้าคือบุตรชายของผู้นำเผ่าการิ?”
“ใช่”
“ฮี่ฮี่ ข้าไม่คิดเลยว่าหลังจากที่สังหารบิดาของเจ้าแล้วจะได้สังหารเจ้าด้วยอีกคน ฮี่ฮี่”
อะไรนะ?! ข้ากำดาบไม้แน่นขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นด้วยความโกรธ
“ฮี่ฮี่ แววตาแบบนั้นดูดีนี่”
มันวิ่งเข้ามาพร้อมแทงดาบใส่ข้า แต่ก่อนที่ดาบของมันจะแทงโดนร่างกายของข้า ตัวมันกลับกลิ้งไปบนพื้น 2-3 ตลบ ดาบก็หลุดออกจากมือ ข้าใช้มือซ้ายหยิบดาบเล่มนั้นขึ้นมาจากพื้นแล้วพุ่งตัวออกไป ใช้คมดาบจ่อเข้าที่ลำคอของมันจนมีเลือดไหลซึมออกมา
มันจ้องมองมายังข้าเหมือนเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ เพราะเหมือนข้ายังไม่ได้ขยับไปไหนเลยสักนิด ยกเว้นในช่วงที่ข้านำดาบมาจ่อที่ลำคอของมัน
นี่ไม่ใช่กล ข้าเพียงเร็วพอที่จะเหวี่ยงดาบไม้ออกไปด้วยความเร็วสูงมากจนมองตามไม่ทันวิถีดาบของข้าเท่านั้น
“นายน้อย!!”
นักรบที่ยืนล้อมลานกว้างพลันรู้สึกตื่นตระหนกพวกมันรีบนำอาวุธออกมาทันที
ที่แท้มันเป็นนายน้อยของเผ่า! ข้าโยนดาบไม้ทิ้งไปอย่างไม่ไยดี จากนั้นใช้ดาบสองคมที่อยู่ในมือซ้ายตัดแขนทั้งสองข้างของมัน มันเริ่มส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด! โลหิตพวยพุ่งออกมาจากแขนที่ถูกตัดขาด!
แม้ข้าจะมีอายุเพียง 10 ขวบ แต่พละกำลังของข้านั้นหาใช่ไม่ ข้าลากมันไปกับพื้นตรงไปยังคอกม้าพร้อมตะโกนออกมาว่า “ถ้าพวกเจ้าก้าวเข้ามาอีกเพียงครึ่งก้าว ข้าจะฆ่ามันทิ้งเสียตรงนี้”
เมื่อพวกทาสได้ยินเสียงตะโกนของข้าพวกเขาก็หันมามองดูเหตุการณ์ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นข้าที่กำลังเปิดคอกม้าพร้อมลากนายน้อยของเผ่า ริก้า ที่ไร้แขนไปด้วย พวกเขาก็เข้าใจสถานนะการณ์ได้ทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
พวกเขาทิ้งงานที่ทำและเริ่มหลบหนีออกจากเผ่าทันที พวกนักรบของเผ่าริก้าเริ่มไล่ล่าพวกทาส แต่ยังมีบางส่วนที่ตามข้ามาอย่างไม่ลดละ
ข้าทำการปล่อยม้าในคอกเกือบทั้งหมด แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังของม้าตัวหนึ่งที่ข้าไม่ได้ปล่อยมันไป ข้ายกร่างไร้แขนของนายน้อยเผ่าริก้าขึ้นมาแล้วควบม้าให้มันวิ่งออกไปจากเผ่า ริก้า ทันที
โชคดีมากที่หลายวันก่อนผู้นำเผ่าริก้าได้นำนักรบส่วนหนึ่งออกไปโจมตีเผ่าอื่นอยู่ในขณะนี้! อีกหลายวันกว่าจะกลับมา
ข้าควบม้าให้มันวิ่งไปยังทางทิศตะวันตก เมื่อหันไปมองด้านหลังก็ไม่พบใครตามมา คงเพราะพวกมันต้องใช้เวลาในการจับม้าที่ถูกข้าปล่อยให้หนีไป
“อ๊ากก”
ข้าก้มหน้ามองลงไปยังนายน้อยของเผ่าริก้าด้วยความรำคาญ ข้าจึงบั่นคอของมันจนขาดออกจากร่างกลิ้งตกไปบนพื้น จากนั้นก็โยนร่างที่ไร้วิญญาณของมันทิ้งไปข้างทางพร้อมกับใช้เวทมตร์ไฟเผ่าร่างของมัน
“ท่านพ่อข้าล้างแค้นให้ท่านได้แล้วนะ”
ม้าของข้ายังคงวิ่งไปตามทางในป่าเรื่อย ๆ โดยไร้ซึ่งจุดหมาย