ตอนที่ 329 สาวงามโล่วฮัว ความรักเหมือนฝัน
สวนลอยฟ้าซึ่งตั้งอยู่ในกลางอากาศถูกมองว่าเป็นเกาะลอยฟ้าประเภทหนึ่ง
มียอดเขาที่ดูเหมือนภูเขาลอยฟ้าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยอดเขาจะเชื่อมถึงกัน ต่อเป็นแนวเทือกเขาที่มีความสูงต่างกัน ยิ่งกว่านั้น ยังมีขนาดใหญ่กว่าภูเขาลอยฟ้า บนเงื้อมผาของภูเขามีน้ำตกมากกว่าสิบแห่งขนาดต่างๆ ดูเหมือนเส้นไหมขาวแขวนตัวอยู่ด้านข้างภูเขา
ระหว่างภูเขาจะมีหุบเขา ในหุบเขามีสวนดอกไม้ซึ่งมีดอกไม้เป็นร้อยดอกบานแล้วและมีผีเสื้อโบยบินอยู่โดยรอบ
ปกติแล้วไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ก็บ่อยครั้งที่บริวารของจักรพรรดินีราตรีจะลงมาจากหอทงเทียนชั้นที่หก พวกเขาจะลงมาดูจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนกับว่าจักรพรรดินีราตรีอาศัยอยู่ที่นั่น นอกจากนั้นก็มีแต่ดอกไม้และพืชพันธุ์ในสวนเป็นของที่เจ้าเมืองโล่วฮัวปลูกไว้เป็นส่วนตัว
เย่ว์หยางและเจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ได้อยู่ในอารมณ์ชื่นชมทัศนียภาพที่งดงาม พวกเขาจูงมือกันและกันลอยตัวขึ้นไปบนเกาะลอยฟ้าผ่านสวนที่งดงามและเข้าไปในบ้าน
ขณะที่ทั้งคู่ย่างเท้าเหยียบพื้น พวกเขาไม่อาจอดรนทนได้กอดจูบกันต่างคนต่างอยู่ในอารมณ์เสน่หา
หลังจากผ่านไปชั่วระยะหนึ่ง ปากของพวกเขาก็แยกจากกัน
เจ้าเมืองโล่วฮัวเอียงอายและทุบเย่ว์หยางเบาๆ เจ้าเด็กนี่ใจร้อนเกินไปแล้ว เอาเปรียบนางทันทีที่มาถึง
ดวงตาของนางหยาดเยิ้มเหมือนกับว่ามึนเมาสุรา
เย่ว์หยางรู้ว่าอารมณ์ของนางปั่นป่วนแล้ว
เขาเคลื่อนตัวอย่างแผ่วเบาค่อยๆ วางเจ้าเมืองโล่วฮัวลงบนเตียง เขาไม่ได้โผเข้าหาเพื่อปลุกปล้ำนางทันที แต่นั่งอยู่ข้างนางและกอดนางอย่างแผ่วเบาและจูบนางอย่างนุ่มนวล
พอแน่ใจว่า วิธีนี้ช่วยลดความระมัดระวังและความประหม่าอายให้โล่วฮัวได้มาก ด้วยวิธีนี้ทำให้นางไม่ต่อต้านวิธีของเขาอีกต่อไป
ที่ยิ่งกว่านั้น นางไม่รู้ตัวขณะเขานอนลงบนเตียงและกอดนางเงียบๆ
ทั้งใจทั้งกายทั้งหมดของนางถูกจูบของเขาครอบงำหมด ลิ้นของพวกเขาพันกันนัวเนีย
จูบที่หอมหวานแทบจะหลอมละลายนางทำให้นางตัวอ่อนเหมือนไหม
มือซุกซนของเขาผ่านเข้าไปในชุดของนางอย่างแผ่วเบา นางร่างสั่นเพราะกังวลใจและคาดหวัง มือของเขาเลื่อนไปถึงสองปทุมอย่างแผ่วเบา นางกัดริมฝีปากขณะที่นางเริ่มส่งเสียงครางกระเส่าในลำคอ เสียงที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความปลื้ม, อึดอัด, ต่อต้าน, ทน เจ็บระคนสุข ขณะที่เขาซบศีรษะลง นางถึงกับอ้าปากและผลักเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง พยายามต่อต้านความต้องการของเขา อย่างไรก็ตาม นางไม่สามารถหยุดจูบของเขาหรือทำให้ช้าลงได้เลย เขาจูบลงจุดที่เป็นความรู้สึกที่อ่อนไหวของนาง นางกอดเขาแน่นในอ้อมอกนาง
นางลืมทุกอย่างไปแล้ว ลืมกระทั่งวันเดือนปีปัจจุบัน
“เจ้าตัวร้าย, ร้ายกาจนัก อย่าทำอีกนะ มันเจ็บเกินไป..พอ.. คนโลภ.. อย่ากัดสิ มันเจ็บนะ.. และน่าอายด้วย.. เจ้ารุกเร้ามากไปแล้ว”
ชุดของสาวงามถูกปลดออกไปกว่าครึ่ง และนางต้องอ้าปากหายใจ
ชุดยาวนางกำลังถูกมือเขาปลด
นางหายใจถี่ แก้มร้อนจนแดง ลมหายใจเร่าร้อน นัยน์ตาปรือและร่างอ่อนปวกเปียก ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นอารมณ์ของนาง
มือของเขาสำรวจร่างของนาง เมื่อมือของเขาเคลื่อนไหวซุกซนบนร่างนางทำให้ตัวนางสั่นสะท้าน มือน้อยๆ ของนางเลื่อนลงมาโอบหลังเขา นางไม่รู้ตัวว่าดึงเขาเข้ามาใกล้หรือคลายตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขาเคลื่อนไหวได้ราบรื่นขึ้น
เป็นครั้งแรกที่นางทำตัวเหมือนยั่วยวนเหมือนรักกับใครสักคน นางไม่รู้ว่าสนองตอบแบบนั้นได้อย่างไร
จูบของเขาที่ประทับลง ช่างดูดดื่มทำให้นางรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
การได้ฝึกกับร่างกายของอู๋เหิน ทำให้วิธีโอ้โลมของเย่ว์หยางอยู่ในระดับยอดฝีมือไปแล้ว อย่าว่าแต่เจ้าเมืองโล่วฮัวที่ยังเป็นสาวพรหมจรรย์ยังไม่รู้อะไร แม้แต่สาวงามอู๋เหินเขาก็ยังทำให้นางยินดีไม่มีการต่อต้านมาแล้ว
“ยุ...หยุดเถอะ ข้าหายใจไม่ทันแล้ว..”
เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกเหมือนมีความร้อนรนอยู่ภายในตัวนาง ร่างของนางมีปฏิกิริยาเร็วมากเหมือนกับว่ามีบางอย่างสะสมอยู่ภายในตัวนางอย่างรวดเร็ว เป็นความรู้สึกที่น่ายินดีและแปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมือซุกซนของเขาลูบไล้อยู่ที่อกนาง นางรู้สึกว่ามีความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบาย เหมือนกับว่าร่างกายของนางกระหายยินดีให้เขาทำ
นางรู้สึกว่ายิ่งมือของเขาเลื่อนต่ำลง ก็ยิ่งมีความรู้สึกแปลกในร่างกายชัดเจนขึ้น
นางเกือบเอ่ยปากและขอร้องให้เขาทำอะไรก็ได้เร็วๆ ตามวิธีของเขากับนาง เพื่อที่ว่าจะทำให้นางพ้นจากสถานการณ์นี้ซึ่งน่าหงุดหงิดและกระสับกระส่าย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มือของเย่ว์หยางเริ่มเลื่อนลงมาที่ท้องน้อยเบื้องล่างของนาง พื้นที่อ่อนไหวตรงจุดสงวนของนางทำให้นางเริ่มสั่นเบาๆ นางเริ่มรู้สึกว่าขาของนางกระตุกเบาๆ ตั้งแต่ต้นขาไปถึงเท้า
เจ้าเมืองโล่วฮัวใช้ขาหนีบมืออุ่นของเขาแทนโดยอัตโนมัติ ป้องกันไม่ให้เขาล่วงล้ำเข้ามาอีก
เจ้าเมืองโล่วฮัวมองเย่ว์หยางและรู้ว่าช่วงเวลาสำคัญที่สุดของนางกำลังจะมาถึง
พอข่มความอายในใจได้ นางนางจูบเขาเบาๆ
“พ่อตัวร้าย เจ้า..เจ้าน่าจะอาบน้ำก่อน ข้ากลัวนิดหน่อย ให้ข้าตั้งตัวสักนิด!”
เย่ว์หยางรีบดึงมือกลับและจูบนางอย่างนุ่มนวล กระทั่งนางส่ายศีรษะบอกว่านางไม่เป็นไร
บางทีนางจำเป็นต้องผ่อนคลายเพิ่มสักนิด
กังวลมากเกินไปผลลัพธ์ที่ออกมาเร็วก็คงไม่ดี อาจจะทิ้งเงามืดไว้ในจิตใจนางก็ได้
เย่วหยางตัดสินใจปล่อยไว้ชั่วครู่ ให้เวลาเจ้าเมืองโล่วฮัวได้คลายปมในจิตใจก่อน ที่สำคัญที่สุดนี่ไม่ใช่แค่กอดจูบกันเหมือนครั้งก่อน ยิ่งกว่านั้น เมื่อสาวพรหมจรรย์พลีความบริสุทธิ์พวกนางมักจะมีความกังวลอยู่ในใจนาง แม้ว่าจะเป็นคนรักนางก็ตาม นางก็ยังกังวลตัวนางเองอยู่ดีว่าจะเจ็บหรือไม่ จะทำให้นางได้รับบาดเจ็บไหม นางจะสามารถทำได้เพียงเอาชนะความกลัวด้วยตัวนางเองเท่านั้น!
หลังจากเย่ว์หยางอาบน้ำเสร็จและกลับมา เขาพบว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวได้ปูเตียงเหมือนกับว่าเป็นของใหม่ทั้งหมด
บนหน้าต่างแขวนไหมแดง แม้แต่ตะขอเงินหน้าชายคาก็ยังผูกเชือกสีแดง ชุดแต่งงานถูกวางไว้บนหัวเตียง นอกจากนี้ ดอกไม้สีแดงสดใสวางไว้บนโต๊ะข้างหน้า เพียงแค่ได้เวลาที่เหมาะสมก็จะบานเต็มที่
“น่าเสียดายที่ไม่มีสุรามงคล มิฉะนั้น ข้าจะได้แบ่งเป็นสุรามงคลสมรสกับเจ้า แม้ว่านี่จะไม่ใช่การแต่งงาน...”
เจ้าเมืองโล่วฮัวมีความเสียใจเล็กน้อย
ความจริงนางมีตั้งใจเล็กน้อยว่างานแต่งงานของนางจะต้องคึกคักมีเสียงอึกทึกตื่นเต้น
หญิงงามอู๋เหินและสาวงามอื่นไม่ใส่ใจเรื่องเช่นนี้ ไม่ว่ายังไงการแต่งงานเป็นเพียงการจัดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการฝ่ายผู้ใหญ่ของพวกเขาและเป็นประเพณีทางสังคม ส่วนจากมุมมองของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเกือบทั้งหมดพูดว่าเป็นเรื่องโง่และสิ้นเปลืองเงิน พอมองเห็นทัศนคติขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
นางเกลียดการแต่งงานที่สุด เพราะการแต่งงานของราชตระกูลเป็นเรื่องยุ่งยากมาก ตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงบัดนี้ นางได้เห็นงานแต่งงานของประยูรญาติของนางและสังเกตว่ามารยาทเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก สำหรับพี่สะใภ้ที่แต่งงานเข้ามาในราชตระกูลของนาง แม้ว่าจะดูดีเมื่อมองจากภายนอก แต่พวกนางก็แอบบ่นกับนางว่ามีกฎระเบียบหยุมหยิมเกินไป
อี้หนานเป็นคนที่เยาว์วัยที่สุดในกลุ่มพวกนางและเย่ว์หวี่ผู้อ่อนโยนและใจดีก็ต้องการแต่งงาน อี้หนานปรารถนาว่านางจะสามารถนั่งบนรถแต่งงานคันโตติดตามเย่ว์หยางผู้ขี่ม้าตัวใหญ่นำอยู่ข้างหน้า และเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่กับเขาอย่างมีความสุข นางจะแต่งเข้าปราสาทตระกูลเย่ว์ หลังจากกราบไหว้ฟ้าดิน คำนับกันและกันแล้ว พวกเขาจะเข้าไปในห้องเจ้าสาวและในที่สุด นางจะกลายเป็นภรรยาใหม่ของเขา ภรรยาผู้น่ารัก
ตรงกันข้าม เย่ว์หวี่เป็นกุลสตรีที่บริสุทธิ์และหัวโบราณ นางรู้สึกว่าการแต่งงานเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เป็นเรื่องไม่ถูกต้องถ้าไม่จัดให้ใหญ่โต
เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ได้ให้ความสำคัญกับพิธีแต่งาน นางเพียงคิดว่าระหว่างพิธีแต่งงานของนาง บิดาของนางน่าจะปรากฏตัว ดื่มสุรามงคลกับสหายของท่านหรือทะเลาะกับใครบางคน
ไม่สำคัญว่าจะมีจัดเลี้ยงฉลองแต่งงานกับทุกคนใหญ่โตขนาดไหน เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมีการฉลองระหว่างสามีและภรรยากับคนที่รัก
น่าเสียดายที่นางไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า นางอยากจะแลกดื่มสุรามงคลกับเขาสักหลายจอก
“ผู้ใดว่าสุราไม่มี? ดูนี่!”
เย่ว์หยางนำสุรา จอกสุราและของอื่นๆ ออกมาจากแหวนลิช เจ้าเมืองโล่วฮัวมีความสุขมากพลางจูบเขา ขณะนี้นางถูกกอดอยู่ในอ้อมแขนคนรักของนาง แลกกันดื่มสุรามงคล อวยพรและสัญญากันว่าจะครองรักด้วยกันตลอดไป เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกมีความสุขมาก เหมือนกับว่าความสุขเอ่อล้นออกมาจากส่วนลึกในใจนาง นางช้อนนัยน์ตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอมองดูคนรักของนางอย่างเอียงอาย นางสังเกตว่าเขาเป็นคนกล้าหาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเรืองแสงกระจ่าง ทำให้หัวใจคนอื่นอดสะท้านไม่ได้
เหนือสิ่งอื่นใด นัยน์ตาที่ดึงดูดใจของเขาทำให้ผู้อื่นใจเต้นรัว พอมองหน้าของเขาทำให้หัวใจนางเต้นรัวแรงอยู่ภายใน
ในสายตาของเย่ว์หยาง คนรักของเขากลายเป็นสาวที่สวยที่สุดในโลกไปแล้ว
โล่วฮัวอยู่ในอ้อมแขนของเขางดงามเหมือนฝัน
หน้าขาวผุดผ่องและแก้มแดงซ่าน เหมือนกับว่านางไม่สามารถต้านฤทธิ์สุราได้
เย่ว์หยางโน้มศีรษะลงพรมจูบนางไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก คิ้วยาว จมูกน้อยของนาง พวงแก้มแดงหรือริมฝีปาก พวกเขาจูบกันอย่างร้อนแรงด้วยความรักที่ลึกล้ำ
ในที่สุดเขาก็อุ้มหญิงงามผู้เอียงอายผู้กำลังปิดใบหน้านางไม่กล้ามองหน้าเขา มาถึงอ่างอาบน้ำมีกลีบดอกไม้กระจาย เขาปลดชุดและชั้นในนางออกอย่างแผ่วเบาเผยให้เห็นร่างขาวดุจหิมะของนาง เขากอบรินน้ำลงบนตัวนางล้างร่างกายนงอย่างแผ่วเบาไม่ใช้กำลัง เขาล้างความกังวล, ความกลัวและความประหม่าและการต่อต้านของนาง
เจ้าเมืองโล่วฮัวตัวสั่นเล็กน้อย นางหลับตาแน่นไม่กล้ามองดูเขา
กายขาวดุจหิมะของนางเคลื่อนไหวตอบรับการควบคุมของเขา
เย่ว์หยางยังคงทำความสะอาดและใช้ผ้าเช็ดตัวไหมเช็ดหยดน้ำออกจากร่างของนาง เขาลอบถอนใจกับกายขาวผุดผ่องสมบูรณ์แบบของนาง นี่คือการบรรจบพบกันแห่งจิตวิญญาณจากฟ้าและดินโดยแท้ เป็นผลงานประณีตที่ธรรมชาติสร้างสรร
เป็นหญิงงามสมบูรณ์แบบ ไม่ผอมเกินไม่อ้วนเกิน
เรือนร่างทั้งหมดของนางเทียบได้กับทองบริสุทธิ์ที่สุด
เย่ว์หยางได้แต่โน้มหัวลงจูบผิวขาวบอบบางงดงามของนาง เหมือนกับตีตราประกาศว่านางจะอยู่เคียงคู่เขาเสมอ ขณะเดียวกันเขาก็จะมอบสัญญลักษณ์ชีวิตใหม่ไว้ให้นาง
หลังจากวันนี้ไป นางจะเปลี่ยนไปและได้รับสถานะใหม่เป็นภรรยาของเขา
เจ้าเมืองโล่วฮัวทั้งภูมิใจทั้งอาย นางชอบมองเขาแสดงสีหน้าโง่งม ชอบความรู้สึกจูบที่นุ่มนวลของเขาและการดูแลเอาใจใส่ของเขา
“ตัวร้าย! นุ่มนวลหน่อยสิ”
ขณะที่เย่ว์หยางอุ้มนางไปวางลงบนเตียง นางรู้ว่าช่วงเวลาสำคัญที่สุดกำลังจะมาถึง แม้ว่านางจะเตรียมตัวเตรียมใจมานานแล้ว แต่นางก็ยังกังวล
“คนดี! อย่ากลัวไปเลย!”
ตอนแรกเย่ว์หยางใช้ผ้าห่มขาวคลุมตัวนางที่สั่นประหม่าไว้ก่อน จากนั้นเขาค่อยๆ คลานเข้าไปอยู่ด้วยกันกับนางเอื้อมมือไปกอดนางเบาๆ ขณะที่นางรู้สึกว่าหัวใจของทั้งคู่เต้นไปพร้อมกันกัน ความกังวลใจของนางก็สงบลง มือของเขาที่ร้อนเหมือนไฟก็ลูบสำรวจตัวนางอย่างนุ่มนวล ค่อยๆ กระจายเพลิงปรารถนาไปทั่ว ร่างกายนางและประสาทเริ่มผ่อนคลายนุ่มนวลขึ้น
เย่ว์หยางจูบปากที่แดงของนางอยู่นาน
และจูบไล่ลงมา
จูบติ่งหูที่อ่อนไหว ซอกคอ จูบไหล่กลมมนที่นุ่มเนียน จูบตรงหลุมคอและผิวขาวเนียนของนางจูบปทุมทั้งสองของนาง เจ้าเมืองโล่วฮัวอ้าปากหายใจถี่กระชั้นและไม่รู้ว่าทำอย่างไร แม้แต่ความรู้สึกถึงเหตุผลก็หายไปด้วย นางแช่อิ่มอยู่ในความสุขที่เย่ว์หยางปรนเปรอนาง เย่ว์หยางยังจูบไล่ลงมาถึงท้องน้อยทำให้เจ้าเมืองโล่วฮัวตัวสั่นตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า
ในท่ามกลางอารมณ์ที่ปั่นป่วนและคาดหวังอย่างประหม่าของนาง เย่ว์หยางแยกขานางอย่างนุ่มนวล
เขาพรมจูบที่ขาอ่อนเรียวยาวของนาง
ร่างของนางสั่นทุกครั้งที่เขาจูบนาง กระทั่งเขาจูบส่วนที่อ่อนไหวที่สุด นิ้วทั้งสิบของเจ้าเมืองโล่วฮัวอ้อมผ่านไปที่หลังศีรษะของเขาคล้ายกลับว่าจะรั้งต้านเขาไว้ ความสุขที่นางได้รับเอ่อล้นจนจนร้องออกมา
นี่เป็นสุขสุดยอดที่นางไม่คุ้นเคย ยอดเยี่ยมจริงๆ
นางไม่เคยคาดว่าลีลาของคนรักนางจะนำพาคลื่นความสุขสบายมาให้ นี่น่าชื่นชอบอย่างแท้จริง
ขณะนั้นเอง จิตใจนางก็พลันว่างเปล่าและสูญเสียเหตุผลสิ้นเชิง เหมือนกับว่าจิตใจนางกระเจิดกระเจิงจากความสุขที่พร่างพรูออกมาจากตัวนาง นางรู้สึกเหมือนลอยขึ้นไปเหนือเมฆ อิ่มเอมใจจนถึงขนาดไม่รู้ว่าโลกยังคงอยู่หรือไม่
แม้หลังจากนั้นความสุขความยินดีของนางก็ค่อยคลายตัวช้าๆ นางสังเกตว่าเขาโอ้โลมอีกครั้ง นำพาให้นางมีความสุขอีกครั้ง
ความสุขในครั้งก่อนหายไป ความสุขความยินดีครั้งใหม่ก็ตามมา
วิญญาณของนางที่เกือบจะกลับมาแล้วกลับลอยลิ่วสูงขึ้นและห่างออกไป
เจ้าวายร้ายนี่ร้ายกาจมากคงต้องการชีวิตนาง นางคงจะตายแน่นอน
หลังจากสู่อารมณ์สุดยอดจบลงเป็นครั้งที่สอง ความรู้สึกถึงเหตุผลกลับคืนมา นางรีบดึงเจ้าตัวร้ายสุดที่รักออก ไม่ยอมให้เขาใช้ลูกไม้เดิมกับนางต่อไป มิฉะนั้นนางคงจะสำลักความสุขตายแน่นอน นางจูบเขาอย่างไม่รังเกียจเปี่ยมไปด้วยอารมณ์รัก ลิ้นหวานๆ ของนางพันอยู่ในปากเขาแสดงว่านางมีความสุขแท้จริง นี่คือการให้รางวัลเขา
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ อักษรรูนมากมายลอยออกมาจากร่างของพวกเขา
ยิ่งใกล้ชิดและมีความสุขกันมาก พวกเขาก็ยิ่งไม่แยแสอักษรรูนมากมายที่ออกมาต่อเนื่องและลึกลับ
ปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางออกมาจากปากเขาและผ่านเข้าไปในปากของเจ้าเมืองโล่วฮัว อักษรรูนหมุนวนอยู่ในร่างของนางอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการฝึกผสานร่างคู่รัก เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่รู้เรื่องนี้และนางสนใจแต่โอบกอดรอบตัวของเขา นางไม่รู้ตัวว่าชีพจรในร่างของนางถูกเชื่อมต่อแล้ว อวัยวะส่วนแห่งความเป็นสตรีที่เย่ว์หยางไม่สามารถสัมผัสได้มาก่อนไม่เป็นอุปสรรคในการฝึกฝน ตอนนี้เย่ว์หยางถ่ายปราณก่อกำเนิดจากตรงนั้น..
นางกลายเป็นภรรยาของเขาแล้ว กายและใจของนางถูกปลดปล่อย ไม่ว่าเขาบอกให้นางทำอะไร นางก็ไม่ถือสาเลย เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดจากการเชื่อมชีพจรแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามปราณก่อกำเนิดกลับกระตุ้นให้นางมีความสุขมากยิ่งขึ้น มือซุกซนของเขายังคงกระตุ้นความต้องการของทำให้นางรู้สึกกระสับกระส่าย
ความกระหายอย่างหนึ่ง, สัญชาตญาณธรรมชาติอย่างอย่าง ผุดออกมาจากใจนาง เป็นสัญชาตญาณที่ผู้ใหญ่ทุกคนมี ความโหยหาความรู้สึกจากอีกฝ่ายครึ่งหนึ่ง
เย่ว์หยางรู้สิ่งที่หัวใจของหญิงงามโหยหา ในความเป็นจริงเขาก็โหยหาเช่นเดียวกับนาง
การรวมตัวเป็นหนึ่งของพวกเขาเริ่มจากนี้
แม้ว่าเย่ว์หยางจะเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล แต่เจ้าเมืองโล่วฮัวก็ยังรู้สึกยากทนทาน เพราะขนาดที่เกินทนของเขา นางยังละเอียดอ่อนเกินไป ทันทีที่เขาฝ่าแนวเส้นแบ่งพรหมจรรย์เข้ามา นางก็ไม่สามารถทนได้จนเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ น้ำตาอาบแก้มนาง นางทำอะไรไม่ได้ ได้แต่จูบเขาเพื่อหาความสะดวกสบายจากเขา แม้จะเจ็บยากทนทาน แต่นางก็รู้นานแล้วว่าจะต้องมีอย่างนี้สักวัน บอกลาความเป็นเด็กหญิง, บอกลาพรหมจรรย์ นางจะต้องเกี่ยวข้องกับเขา กลายเป็นคู่ครองและเป็นภรรยาของเขาที่แยกจากกันไม่ได้
“คนเลว! มันเจ็บมากนะ!”
นางบ่นเสียงอ่อยเหมือนเด็กเอาแต่ใจตนเอง นางมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะทำอย่างนั้นแล้ว เพราะนางมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของนางให้คนรักไปแล้ว นางเป็นของเขา ร่างกายและใจ, อดีต, ปัจจุบันและอนาคต
“โอ๋, อย่าร้องนะ คนดี, อย่าร้องไห้!”
เย่ว์หยางจูบตรงคราบน้ำตานางอย่างนุ่มนวล พลางปลอบประโลมความเจ็บปวดของการบอกลาความบริสุทธิ์ของนาง
หลังจากผสานร่างสำเร็จแล้ว ทางเดินชีพจรของเจ้าเมืองโล่วฮัวเชื่อมถึงกันด้วยความช่วยเหลือของปราณก่อกำเนิดของเขา ขณะที่ปราณก่อกำเนิดกลับเข้ามาที่ตัวของเขา คัมภีร์ของเจ้าเมืองโล่วฮัวก็ปรากฏทันที แสงสว่างฉายเข้าไปในตัวของนางและกระตุ้นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวนาง ในทันใดนั้นพลังงานที่สะสมไว้ได้ระเบิดออกและปรับระดับเพิ่มต่อเนื่องด้วยความช่วยเหลือจากปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยาง และนางบรรลุเข้าขอบเขตปราณก่อกำเนิดอย่างรวดเร็ว “ปัง” ลำแสงสีทองสูง 12 เมตรพุ่งสูงขึ้นไปจากคัมภีร์ของนาง
ในที่สุดเจ้าเมืองโล่วฮัวก็ประสบความสำเร็จเข้าถึงขอบเขตปราณก่อกำเนิดด้วยความช่วยเหลือจากการผสานกายคู่รัก
อสูรพิทักษ์ของนาง ก็พลอยเปล่งแสงและยกระดับไปด้วย
จิ้งจอกหิมะสามหางอาบลำแสงสีทองและดูดกลืนพลังงานอย่างต่อเนื่อง ร่างของมันค่อยๆ เปลี่ยนไป จนมันดูเหมือนร่างมนุษย์ กลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=349