ตอนที่ 22 -- ถ้ำชายหาด
ตอนที่ 22 -- ถ้ำชายหาด
“ต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเห็นภาพที่ไม่น่าดูแบบนั้น”
”
ในตอนที่ผมออกจากบ้านของไลเดีย เธอโค้งหัวลงเป็นการขอโทษ
เสียงพ่อของเธอดังลงมาจากชั้นสองของร้าน
“กลับมาเร็วๆล่ะ…”
”
“รู้แล้วน่า! พ่อเองก็รีบเก็บของแล้วไปนอนได้แล้ว-!”
”
ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ดีจริงๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องที่พวกนั้นชกต่อยมีปากเสียงกันก่อนหน้านี้
“อืม ผมว่าพวกเราควรจะไปกันได้แล้ว แล้วนี่เราจะไปที่นั่นกันได้ยังไง?”
”
“ใช้เทเลพอร์ตดีไหม?”
”
“อืม แต่เธอไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนใช่ไหม? อีกอย่าง ถ้าเราใช้เทเลพอร์ต มันจะกลายเป็นจุดสนใจ, เดินไปกันเถอะ”
”
พวกเราเดินไปตามทางที่ไลเดียบอก
‘สถานที่ลับ’ ที่ไลเดียพูดถึง ดูเหมือนจะอยู่อีกด้านของถ้ำตรงชายหาด
มันเป็นสถานที่ๆคุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว เป็นที่ๆคุณต้องคลานเข้าไปจากช่องว่างเล็กๆระหว่างก้อนหิน
ไลเดียบอกว่าเธอมักจะมาเล่นแถวนั้นบ่อยๆเมื่อตอนเด็ก แต่ตอนนี้เธอตัวโตขึ้นมาก แล้วเธอจะเบียดตัวเข้าไปได้หรอ?
หากเทียบส่วนสูงของเธอกับผมล่ะก็ ถือว่าต่างกันมาก
ถ้าพวกเราเดินคู่กัน ก็คงจะถูกมองว่าเป็นเด็กกับผู้ใหญ่เดินมาด้วยกัน
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
“ฉันไม่ได้เข้าร่วมการสอบพ่อค้าของทั้งปีก่อนและปีก่อนๆด้วย แต่อืม มันไม่เป็นไร!”
”
“....ไม่เป็นไรแน่นะ?”
”
ขณะที่พวกเราเดินอยู่บนหาดทราย พวกผมก็สังเกตเห็นว่าคนที่อยู่แถวนี้ ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้ความรู้สึกกังวลคืบคลานเข้ามา
ในมือของพวกนั้นเต็มไปด้วยอาวุธจำนวนมาก
พวกเขาจะต้องเป็นนักผจญภัยอย่างแน่นอน
พวกนั้นกำลังคุยกันอยู่หน้าถ้ำชายหาด
บางคนนอนรอฝูงนิปเปอร์จำนวนมากที่น่าจะปรากฎตัวออกมา
พวกเขากังวลว่าปาร์ตี้อื่นจะมาแย่งเหยื่องั้นหรอ? พวกนี้ดูตื่นตัวนิดๆแฮะ
“เซฟคุง ตรงนั้น”
”
ไลเดียกระซิบบอกผมพร้อมกับดึงผมเข้าไปในพงหญ้า, ดูเหมือนเรากำลังเดินออกนอกเส้นทางหลัก
เมื่อพวกเราเดินมาถึงทางลาด เราก็มาถึงจุดสูงสุดของถ้ำชายหาด
ลมทะเลพัดมากระทบร่างทำให้ ผมรู้สึกสบายจริงๆ
พวกเขากำลังแย่งเหยื่อกันหรอ? ผมเห็นนักผจญภัยกำลังต่อสู้กันเองอย่างชัดเจน
“โง่ชะมัด…”
”
“ตรงนั้น”
”
ผมดูแคลนคนพวกนี้ที่ขาดข้อมูลที่จำเป็น แล้วจมอยู่กับความคิดที่ตนเองได้เปรียบ…
แล้วไลเดียก็เรียกผม ผมจึงตามเธอไป
“พวกเราจะเข้าไปทางหลุมนี่”
”
“...มันดูแคบไปหน่อยนะ”
”
สิ่งที่อยู่ตรงนี้คือรอยแยกเล็กๆ เล็กจริงๆ
หากเป็นผมหรือมิลลี่ ก็คงจะพอเข้าไปได้อยู่ แต่สำหรับคนที่ตัวสูงอย่างไลเดีย มันไม่ยากไปหน่อยหรอ?
“อา คิดถูกจริงๆ ที่ไม่เอารถเข็นมาด้วย”
”
ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นปัญหาในตอนนี้….
“เอาล่ะ เข้าไปกันเถอะ”
”
ขณะที่พูดแบบนั้น เธอก็สามารถลอดผ่านรอยแยกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ภายในความมืด ผมถูกไลเดียทิ้งไว้ข้างหลัง
“มืดนิดหน่อยแฮะ….”
”
“ให้ผมสร้างแสงไหม?”
”
“อย่าพึ่ง”
”
ในตอนที่ผมกำลังจะร่ายเวทย์ เรดบอล ไลเดียก็หยุดผมไว้กลางคัน
“ถ้าเธอสร้างแสงด้วยเวทย์ไฟ มันจะสว่างเกินไป, พวกเราจะดึงดูดมอนส์เตอร์มาโดยไม่จำเป็น”
”
เธอใช้มือคลำไปที่แว่นกันลมบนหัว หลังจากนั้นก็มีแสงสว่างออกมา
แม้ว่ามันจะมีระยะไม่มากนัก แต่ก็เป็นแสงที่สว่าง
ผมสงสัยว่ามันเป็นเครื่องกลที่ประจุพลังเวทย์บางอย่าง ซึ่งถูกแปรสภาพเป็นแสงได้ใช่รึเปล่า?
ผมเดาว่าพวกพ่อค้ามักสร้างอุปกรณ์ที่คนทั่วไปไม่เข้าใจเลยออกมา
ดูเหมือนตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ผมยังไม่ได้ช่วยอะไรเลย….
เมื่อผมอยู่กับไลเดีย ดูเหมือนผมจะรวนไปหมด
เหมือนกับว่าผมไม่สามารถคิดอะไรดีๆออกเลย
อย่างที่คิด นั่นเป็นเพราะความสูงของพวกเราสินะ?
พวกเราใช้ไฟส่องพร้อมกับเคลื่่อนที่ไปข้างหน้า
แม้ว่าการเดินบนหล่มโคลนกับหินที่เปียกชื้นที่เรียงรายอยู่ แต่ถ้ามันมีแค่นี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ไลเดียเองก็กำลังรับมือกับปัญหาของตัวเองอยู่
ในทางเดินที่คับแคบนี้ พวกเราต่างก็เดินด้วยความเร็วเท่าเดิม
ตอนแรกผมรู้สึกกังวลว่าไลเดียอาจไม่เหมาะกับทางที่คับแคบพวกนี้ แต่ดูเหมือนผมจะกลัวไปเอง
ในขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย พวกเราก็ออกจากทางแคบๆนั่นแล้วเจอกับช่องว่างที่กว้างกว่าเดิมในที่สุด
“ที่นี่ใช่ไหม?”
”
“เปล่า ยังไม่ถึง, เข้าไปข้างในนั้น”
”
ไลเดียชี้นิ้วไปยังจุดหมาย ซึ่งเป็นรูเล็กๆที่ขนาดเด็กตัวเล็กๆยังเกือบจะเข้าไปไม่ได้
“อืมม ฉันว่านี่น่าจะแคบไปหน่อย….เซฟคุงจะว่าอะไรไหม? เธอช่วยเข้าไปดูก่อน มันน่าจะเป็นทางเดินตรงๆ”
”
ทางเดิน….
ในพจนานุกรมของผม รูเล็กๆนี่ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าทางเดินเลย
“.....ผมว่ามันไม่เป็นไรหรอก แต่เธอบอกให้ผมเข้าไปก่อน หมายความว่าไลเดียจะตามมาเหมือนกันใช่ไหม?”
”
“ใช่แล้ว, ฉันบอกไปแล้วนี่ว่า ฉันจะเป็นคนนำทางให้เธอเอง ฮันต้องรักษาสัญญา แล้วพาเธอไปจนถึง”
”
เธอแอ่นอกพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
แต่ไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่มีทางที่เธอจะเข้ามาในรูเล็กๆนี่ได้
ยิ่งหน่มน้มแบบนั้นด้วยแล้ว
“เข้าใจแล้ว, ผมจะเข้าไปก่อน แต่เธอไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองนะ เข้าใจไหม?”
”
“เซฟคุง ใช้คำพูดของฉัน”
”
เปล่า นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องพูดจริงๆ
“อ้าฮะฮะ”
”
ไลเดียหัวเราะเสียงตัง พูดตรงๆ นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
ถ้าติดอยู่ในที่แบบนั้นล่ะก็ คุณจะต้องตายอย่างแน่นอน
“ไลเดีย”
”
“หืม?”
”
ไลเดียหันมามองผม แล้วผมก็ร่ายไทม์สแควร์
แล้ว
“สลีปโค๊ด!” (Sleep Code - คำสั่งนิทรา)
”
เวทย์ที่ใช้ร่ายสถานะผิดปกติใส่ผู้อื่น สลีปโค๊ด
มันเป็นเวทย์ที่สามารถใช้ได้ในระยะใกล้ๆ ยิ่งกว่านั้นต้องทำตามเงื่อนไขให้ลุล่วงก่อน เพื่อให้เวทย์นี้ทำงาน นั่นคือคุณต้องสบตากับคนๆนั้นก่อน มันเป็นเวทย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สามารถใช้ได้ทันที เพื่อให้อีกฝ่ายตกอยู่ในสภาพนอนหลับ
ถึงผลลัพธ์จะดูโหดร้ายไปหน่อย แต่ถ้าคุณหลับตาขณะที่กำลังร่ายเวทย์ มันจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก และเพราะมันจำเป็นต้องร่างเวทย์ มันก็เลยเป็นเวทย์ที่สามารถแก้ได้ง่าย จนกลายเป็นของไร้ประโยชน์ไป ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าเรากำลังร่ายเวทย์นี้อยู่
มันได้ผลดีกับปีศาจหลายชนิด แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะร่ายใส่ศัตรูจำนวนมาก อีกอย่างรัศมีของมันก็ไม่ได้กว้าง นั่นถือเป็นเรื่องน่าเศร้า
แต่ถ้าผมใช้เวทย์นี้ร่วมกับไทม์สแควร์ เวทย์นี้จะมีเลเวลเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ในช่วงเวลาที่ถูกหยุดด้วยไทม์สแควร์ การใช้เวทย์มนต์ในช่วงเวลานี้จะทำให้ ระยะเวลาในการร่ายเวทย์หายไป แล้วเวทย์มนต์ก็จะเกิดขึ้นราวกับไม่ได้ใช้เวลาร่าย
แต่ข้อเสียของไทม์สแควร์คือมันไม่สามารถใช้ร่วมกับเวทย์ที่ต้องใช้เวลาร่ายนานๆได้
ตุ้บ ไลเดียล้มลงบนพื้น
ผมหิ้วเธอไปวางบนหินก้อนใหญ่
เธอหายใจเบาๆในขณะที่กำลังหลับ
ดูเหมือนสลีปโต๊ดจะยังคงทำงานได้ดี
แม้ว่าผมจะไม่เห็นมอนส์เตอร์อยู่ใกล้ๆ แต่เพื่อความปลอดภัย ผมตัดสินใจซ่อนเธอไว้
“แบล็คโค้ท” (Black Coat = ผ้าคลุมดำ)
”
ผ้าคลุมที่สร้างออกอมาจากอากาศได้ปิดซ่อนตัวไลเดียไว้ มันทำให้เธอล่องหน
แบล็คโค้ทเป็นเวทย์ที่ใช้อำพรางวัตถุด้วยชั้นอากาศบางๆ ทำให้รูปร่างของวัตถุหรือคนกลมกลืนไปกับฉากหลัง จนทำให้ยากที่คนอื่นจะมาพบหากไม่สังเกตดูดีๆ
หลังจากร่ายเวทย์นี้ การเคลื่อนไหวทั้งๆที่คลุมผ้าคลุมเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ นั่นเพราะถ้าหากไม่ขยับมันช้าๆ มันอาจจะเผยอหรือเลื่อนหลุดออกมาก็ได้ แถมยังต้องมีความชำนาญเวทย์นี้เพื่อที่จะสามารถเคลื่อนย้ายมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ถ้าคุณแค่นอนอยู่เฉยๆ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนมาพบ
“งั้น ผมไปก่อนนะ”
”
หลังจากผมพูดแบบนั้นกับไลเดีย ผมก็ไถลตัวเข้าไปในรูเล็กๆนั่น
เมื่อผมแหย่หัว, หลัง, แขน และขาเข้าไปได้ ก็ชนกับผนังหินแคบๆ
ขนาดคนตัวเล็กอย่างผมยังผ่านเข้าไปยากอย่างนี้
ผมละสงสัยจริงๆว่าไลเดียจะผ่านเข้าไปได้ยังไง
แม้ว่าผมจะใจร้อน แต่ผมก็สบายใจที่ทิ้งเธอไว้ข้างหลัง
อืม ตราบใดที่ผมนำน้ำตาแห่งโพไซดอนกลับมาได้ ผมมั่นใจว่าเธอไม่น่าจะบ่น ละมั้ง?
….ถ้าผมได้มันมาเยอะล่ะก็ ผมจะเก็บบางส่วนไว้กับตัวเอง…
คุคุคุ ผมหัวเราะพร้อมกับไถลอยู่ในรูแคบๆจนถึงทางออก ซึ่งอีกด้านหนึ่งของถ้ำใหญ๋ ก็ปรากฎถ้ำที่มีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้า
ผมสามารถมองเห็นทะเลอยู่รำไร
ผมว่าพวกนิปเปอร์น่าจะถูกพัดมาที่นี่ผ่านทะเลละมั้ง?
แม้แต่ตอนนี้เองก็มีกลุ่มนิปเปอร์หลายกลุ่มกำลังนอนหลับอยู่ในช่องว่างตรงนี้
เอาล่ะ ไปอุ่นเครื่องด้วยการล่าพวกนั้นดีกว่า!
นิปเปอร์เป็นมอนส์เตอร์ที่ประกอบด้วยเวทย์สายสีน้ำเงิน
เมื่อพูดถึงเวทย์มนต์ มันก็มีเรื่องของสายเวทย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องความเข้ากันได้และเข้ากันไม่ได้กับเวทย์อื่น อย่างเช่น เวทย์สีแดงอ่อนพลังลงเมื่อเจอเวทย์สีน้ำเงิน หรือเวทย์สีเขียวกับเวทย์ท้องฟ้าที่มีสายเวทย์ใกล้เคียงกัน ดังนั้นการโจมตีมอนส์เตอร์ธาตุสีเขียวด้วยเวทย์ท้องฟ้าจึงไม่เป็นผล
ส่วนเวทย์วิญญาณเป็นเพียงข้อยกเว้นเดียว มันเป็นเวทย์ที่ไม่มีผมต่อเวทย์สายอื่น, แต่ถ้าใช้มันกับมอนสเตอร์ธาตุวิญญาณเหมือนกัน มันจะแสดงผลได้มากขึ้น
ไม่ว่ายังไง นี่ก็เป็นหนึ่งในตรรกะของโลกที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ ถ้าผมยังคงคุยถึงเรื่องนี้ ก็คงไม่มีทางจบ งั้นตอนนี้ผมจะปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อน
กลับมาที่ตอนนี้ ถ้ายึดตามหนังสือแล้ว การใช้เวทย์ท้องฟ้ากับเวทย์สีเขียวสู้กับนิปเปอร์ที่เป็นมอนส์เตอร์สายสีน้ำเงินน่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
“อืม แล้วผมควรจะทำยังไงดี?”
”
ผมเดินตรงไปยังนิปเปอร์พร้อมกับเกาหัว
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามข่าวสารและตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/