UWG#075 ตำราสร้างเคียว
ในตอนนี้ก็ถือว่ากีอัสมีอาชีพเป็นดาร์คไนท์(นักรบรัตติกาล)แล้ว ซึ่งมีข้อดีเพิ่มเข้ามาคือเมื่อใช้ดาบยักษ์(ดาบสองมือ)จะเพิ่มพลังชีวิตสูงสุด25% และ ลดความเสียหายที่ได้รับ10% และเมื่อใช้เคียวยักษ์จะจู่โจมทะลุพลังป้องกันและต้านเวทย์35% แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ว่าเขาจะได้รับความเสียหายจากธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น50%
หลังจากกลับออกมาจากห้องรับแขกของพันธมิตรดาบกายสิทธิ์ กีอัสจึงเปิดเมนูช่องเก็บของออกมาค้นหาตำราสร้างเคียวที่เขาซื้อมาพร้อมกับดาบเล่มหนึ่ง
เขาไม่เคยเอาของที่เขาได้รับจากการล่ามอนสเตอร์ไปขายเลย ทำให้ช่องเก็บของของเขารกมาก และแล้วสายตาเขาก็มองไปเห็นไอเท็มที่ไม่คาดฝันมาก่อน
[เศษศิลาต้านเวท]
ไอเท็มประเภท : ผลึกวิญญาณ
คุณสมบัติ : สลายเวทย์มนต์
ผลึกวิญญาณ?!
‘เศษศิลาต้านเวท’ ที่เขาบังเอิญเก็บมาได้หลังจากเอาชนะบอสยักษ์ตัวเล็กนั่น เป็นผลึกวิญญาณชนิดหนึ่งอย่างงั้นหรอ? เขานึกไปถึงความน่ากลัวของบาเลียสลายเวทย์มนต์ของยักษ์ตัวเล็กนั่น หากต้องเจอพวกที่มีพลังสลายเวทย์มนต์แบบนั้นบ่อยๆ เขาคงประสาทเสียแน่
เมื่อมันเป็นไอเท็มประเภท ผลึกวิญญาณ นั้นก็หมายความว่าเอาสามารถเอา ‘แหวนกลืนผลึกวิญญาณ’ ที่ได้รับมาจากภารกิจแรกของอดีตขุนนางมากลืน ‘เศษศิลาต้านเวท’ นี่ได้อย่างนั้นสินะ
หาก ‘แหวนกลืนผลึกวิญญาณ’ สามารถนำพลังของผลึกวิญญาณ ‘เศษศิลาต้านเวท’ มาใช้ได้ล่ะก็ มันจะมีประโยชน์ขึ้นอีกเยอะเลย
แต่ในตอนนี้สิ่งสำคัญคือ เขาต้องหาตำราสร้างเคียวมาให้คิริฮาระดูก่อน เขาจึงเลื่อนผ่าน ‘เศษศิลาต้านเวท’ ไปเพื่อหา ‘ตำราสูตรสร้างเคียว’
ไม่นานเขาก็หามันเจอและหยิบมันออกมายื่นให้คิริฮาระ ระหว่างที่กำลังเดินออกจากอาคารพันธมิตร
“เฮ้ คิริฮาระ นายสร้างเคียวให้ชั้นได้หรือป่าว? ชั้นมี ‘ตำราสูตรสร้างเคียว’ อยู่เล่มหนึ่ง”กีอัสถาม
“เคียวรึ?! จะทำให้ก็ได้… ถ้ามีค่าเหนื่อยให้ซัก100เหรียญทองอะนะ” คิริฮาระตอบกลับมาอย่างหน้าเลือด
ตั้งแต่เขาเล่นเกมนี้มา เขายังพึ่งหาเงินได้แค่200เหรียญทองเท่านั้น แล้วเขาก็ใช้มันไปหมดแล้วด้วย คิริฮาระนี่มันพ่อค้าหน้าเลือดชัดๆ
“ตอนนี้ชั้นไม่มีเงินเหลืออยู่แล้ว ไว้มีเมื่อไรจะเอามาให้ละกัน” แม้ราคามันจะแพงแต่กีอัสก็ได้แต่จำยอม
“งั้นรวมค่าดอกเบี้ยเป็น 120 เหรียญทอง” คิริฮาระตอบกลับมาอย่างยั่วโมโห
เขาไม่คิดเลยว่าคิริฮาระจะน่าเลือดขนาดนี้ แต่แล้วความคิดดีดีก็แวบขึ้นมาในหัว หากเขาใช้เคียวแล้ว เขาก็ไม่สามารถใช้โล่ได้ เพราะเคียวเป็นอาวุธที่ต้องถือ2มือ เขาจึงคิดจะเสนอขายโล่ของเขาให้กับชินอิจิโร่
“ชินอิจิโร่ นายสนใจไอเท็มชิ้นนี้มั้ย?” กีอัสถามพร้อมกับเปิดเมนูอุปกรณ์สวมใส่ให้ชินอิจิโร่ดู
[ โล่ผลึกเวทย์ ระดับRare เลเวล 5(+5 max30) พลังป้องกัน 36 หน่วย ]
คุณสมบัติพิเศษ
+พลังป้องกัน 30 หน่วย
+พลังโจมตีเวทย์มนต์เท่ากับครึ่งหนึ่งของพลังป้องกันของโล่ (33หน่วย)
“ในตอนนี้นายก็เลเวล10แล้ว นายสามารถยกระดับมันเป็นเลเวล10ได้ มันจะมีพลังป้องกันถึง144+30=174 หน่วย และเพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ของนายได้ถึง 87 หน่วย นี่แค่นำมันไปยกระดับเลเวลเฉยๆนะ ยังไม่คิดที่คิริฮาระสามารถเสริมพลังของมันได้อีก และชั้นยอมแปรธาตุค่าพลังที่เสริมเข้ามาให้นายฟรีๆเลย หากนายซื้อมันจากชั้นในตอนนี้” กีอัสพูดโน้มน้าวใจเพื่อเสนอขายไอเท็มอย่างสุดความสามารถ
“คิริฮาระก็มีอาชีพเสริมขั้นที่3แล้ว โล่ที่เลเวล10ก็เสริมค่าสเตตัสได้ถึง 30 หน่วย ตอนนี้พึ่งจะเสริมพลังไปแค่10หน่วย จากตอนที่โล่มีเลเวล5และคิริฮาระมีอาชีพเสริมขั้นที่2เท่านั้น ยังสามารถเสริมพลังของมันได้อีกตั้ง20 หน่วย”
“ถ้าชั้นที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้น7 เป็นคนแปรธาตุมันให้ ชั้นสามารถแปรค่าพลัง20หน่วยนั้นเป็นพลังป้องกันได้ถึง 60 หน่วยมันเยอะขนาดไหนนายก็รู้อยู่แก่ใจดี ในตอนนั้นโล่นี่จะมีพลังป้องกันถึง 144+90=234 หน่วย และเพิ่มพลังโจมตีเวทย์117หน่วย พลังโจมตีนั่นเทียบได้พลังโจมตีที่เพิ่มมาจากตำราเวทย์มนต์ ระดับUncommon(ไม่ธรรมดา)เลเวล10 อีกอันหนึ่งเลยนะ นายเองก็ยังใช้ตำราเวทย์มนต์ระดับUncommon(ไม่ธรรมดา)เลเวล10อยู่ไม่ใช่หรือไง หากนายซื้อมันไปก็เหมือนได้พลังโจมตีเวทย์จากไอเท็มเป็นสองเท่าเลยนะ ไหนจะพลังป้องกันมหาศาลถึง234หน่วยนั่นอีก” กีอัสกำลังชักจูงวิญญาณของชินอิจิโร่ให้คล้อยตามอยู่ และมันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผลสำเร็จ
เดิมที่ชินอิจิโร่เป็นคนที่ค่อนข้างจะเงียบๆ ใสซื่อ และดูออกง่ายอยู่แล้ว ในตอนนี้แววตาทั้งสองข้างของเขาเป็นประกายแพรวพราวหยาดเยิ้ม เหมือนกันว่าเขาจะยอมแลกทุกสิ่งเพื่อโล่อันนั้น
แน่นอนว่าโล่ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แค่เป็นไอเท็มระดับRare(หายาก)ก็หาได้ยากแล้ว ไหนจะยังสามารถยกระดับไปได้ถึงเลเวล30 และยังมีคุณสมบัติที่น่าเหลือเชื่ออย่างเพิ่มพลังโจมตีเวทย์เท่ากับครึ่งหนึ่งของพลังป้องกัน โล่ระดับRare(หายาก)มีพลังป้องกันมากขนาดไหนก็เป็นที่รู้กันดี ยิ่งไปกว่านั้นกีอัสยังสามารถแปรธาตุค่าสเตตัสที่เปิดเข้ามาให้กลายเป็นพลังป้องกันได้อีก ซึ่งปกติแล้วค่าสเตตัส30หน่วยจะแปลงเป็นค่าพลังป้องกันได้เพียง45หน่วยเท่านั้น และมีแค่นักแปรธาตุขั้น3ขึ้นไปที่สามารถแปลงค่าสเตตัสเป็นค่าพลังป้องกันได้ แต่สำหรับกีอัสที่เป็นนักแปรธาตุขั้น7 เขาสามารถแปรธาตุให้มันได้อย่างสมบูรณ์ในครั้งเดียว ผลของมันจึงเพิ่มเป็น2เท่า ค่าสเตตัส30หน่วยนั้นจึงกลายเป็นพลังป้องกันได้ถึง90หน่วย และค่าพลังป้องกันที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็ส่งผลให้พลังโจมตีเวทย์มนต์เพิ่มขึ้นอีก นี่มันยังแค่เลเวล10ที่ถูกเสริมพลังโดยช่างตีเหล็กขั้น3เท่านั้นเองนะ ถ้าหากยกระดับมันให้ถึงเลเวล30และเสริมพลังด้วยช่างตีเหล็กระดับ5มันจะทรงพลังขนาดไหน ชินอิจิโร่เป็นคนสมองไว เขาเข้าใจความยิ่งใหญ่ของไอเท็มชิ้นนี้เป็นอย่างดี นี่มันไอเท็มจากสรวงสวรรค์ชัดๆ
“นายจะชื้อมันจากชั้นมั้ย?!” กีอัสกล่าวถาม
“ซื้อ…” เสียงตอบของชินอิจิโร่เหมือนคนไร้วิญญาณที่ถูกสะกดจิต และถูกบงการด้วยอะไรบางอย่าง
“ชั้นจะขายมันในราคามิตรภาพ เพียงแค่1500เหรียญทองเท่านั้น” กีอัสกล่าว ในความเป็นจริงแล้ว นี่เป็นราคาที่ถูกมาก หากนำมันไปประมูลคงจะได้ราคาไม่ต่ำกว่า2500เหรียญทอง พวกเศรษฐีที่ใช้เงินจริงซื้อเงินในเกมคงได้แย่งกันประมูลจนหอประมูลพังแน่ๆ
“นี่…” ชินอิจิโร่ยื่นบัตรเงินสด1500เหรียญทองมาให้เขาอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
กีอัสรับบัตรเงินสดนั่นมาและก็มอบ ‘โล่ผลึกเวทย์’ ให้ชินอิจิโร่ไป
เมื่อชินอิจิโร่รับโล่มา เขาก็เอามือขัดๆถูๆมันอย่างมีความสุข แววตาหวานชื่นหยาดเยิ้ม อย่างกับโอตาคุนักสะสมที่ได้ของรุ่นลิมิเต็ดที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกมาไว้ในมือยังไงยั่งงั้น เขาคงจะคลั่งใคล้เกมออนไลน์ และไอเท็มในเกมมาเลยทีเดียว
นี่เกือบจะเป็นเงินทั้งหมดที่ชินอิจิโร่เก็บสะสมมาจากการปรุงยาขายตั้งแต่เริ่มเล่นเกมนี้มา
เมื่อกีอัสรับบัตรเงินสด1500เหรียญทองมาแล้ว เขาก็แบ่งออกมาเป็นบัตร100เหรียญทองอีกใบหนึ่งและยื่นให้คิริฮาระไปพร้อมกับ ‘ตำราสูตรสร้างเคียว’
“นี่… ค่าแรงของนาย กับ ‘ตำราสูตรสร้างเคียว’ ที่ชั้นต้องการให้นายสร้าง” กีอีสกล่าว
“เยี่ยม ชั้นจะพยายามสร้างมันให้เสร็จภายใน10ชั่วโมง” คิริฮาระกล่าวพร้อมกับรับเงินและตำราไป
“แต่ชั้นลืมบอกไปอย่างหนึ่ง 100 เหรียญทองนี่แค่ค่างแรงเท่านั้น ค่าวัตถุดิบชั้นจะมาเก็บจากนายอีกทีหลังจากทำมันเสร็จ เอาวัตถุดิบที่นายมีมาให้หมด หากวัตถุดิบที่ใช้มันตรงกับที่นายมีชั้นจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม และอันที่ชั้นต้องไปหาซื้อเพิ่มชั้นขอคิดค่าเหนือยอีก20%ของราคาวัตถุดิบ” คิริฮาระกล่าว
กีอัสรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เขาส่งวัตถุดิบที่ได้รับจากพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดที่เขามีไปให้คิริฮาระผ่านทางระบบแลกเปลี่ยน ทำเอาไอเท็มในช่องเก็บของของเขาหายไปกว่าครึ่ง
“กีอัส นายต้องไปเรียนทักษะของดาร์คไนท์(นักรบรัตติกาล)ให้เรียบร้อย ในอีก36ชั่วโมงนี้นายจะต้องมีเลเวลไม่ต่ำกว่า11 ตอนนี้นายเลเวล9อยู่เลย นายต้องรีบเก็บเลเวลแล้ว ชั้นไม่อยากให้ทีมของเราขายขี้หน้าในวันประลองของกิจกรรม ‘8ทิศ8ผู้กล้า’ หรอกนะ” คุรุรุกิกล่าว
“แย่ละสิ ชั้นยังต่อมีเลเวล9ไปจนกว่าจะสังหารพวกที่มาปล้นชั้น กว่าพวกมันจะเกิดก็ 9.00 น.ของวันพรุ่งนี้ การประลองจะเริ่มเวลา10.00 น.ของวันถัดไป เขาเหลือเวลาเก็บเลเวลอย่างมากก็แค่25ชั่วโมงเท่านั้น” กีอัสคิดในใจ
ด้วยระยะเวลาเพียง25ชั่วโมง ไม่สามารถที่จะทำให้เลเวล10ที่มีค่าประสบการณ์0% เลื่อนไปเป็นเลเวล11ได้ด้วยซ้ำ เขาจะต้องเข้าร่วมงานประลองโดยมีเลเวลแค่10จริงๆหรอ ผู้เล่นกว่า90%ที่เข้าประลองในกิจกรรม ‘8ทิศ8ผู้หล้า’คงจะมีเลเวลไม่น้อยกว่า11อย่างแน่นอน
อย่างแรกเขาต้องใช้เวลาต่อจากนี้อัพค่าประสบการณ์ให้ถึง99% และรอสังหารคนที่มาปล้นเขาเพื่อทำภารกิจที่สองของอดีตขุนนางให้สำเร็จ จากนั้นก็เก็บเลเวลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“แน่นอน ชั้นจะไม่ทำให้ทีมของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงหรอกน่า ยังไงชั้นขอตัวไปพระราชวังดาวห้าแฉกก่อน ชั้นจะไปรับไอเท็มพื้นฐานของอาชีพดาร์คไนท์(นักรบรัตติกาล)และเรียนทักษะพื้นฐานของอาชีพ จากนั้นก็จะไปทำธุระบางอย่างอีกนิดหน่อย คงได้เจอกันอีกทีในวันประลอง” กีอัสตอบ
“ไว้เจอกันในวันประลอง หวังว่าระหว่างนี้นายจะไม่ตายอีกนะ ถ้านายตายอีกครั้งมีหวังได้ต่อสู้ในงานประลองด้วยเลเวลแค่8-9แน่ๆ ระวังตัวด้วยล่ะ”คุรุรุกิกล่าว
“แน่นอน อย่างน้อยชั้นก็มีเลเวล10อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง คิริฮาระ สร้างเคียวเสร็จแล้วก็ติดต่อมานะ ชั้นจะรีบไปรับในทันที”กีอัสกล่าว ถ้าเขาเลเวล10 เขาจะมีเลเวลน้อยว่าคนอื่นๆที่เข้ามาประลองอย่างแน่นอน ผู้เข้าประลองเกือบทั้งหมดจคงะมีเลเวล11-12 ไม่น่ามีผู้เข้าประลองที่เลเวลแค่10ในการประลองครั้งนี้
“ได้เลย ชั้นจะรีบติดต่อไป เตรียมเงินเอาไว้ด้วยล่ะ” คิริฮาระตอบ
“แน่นอนอยู่แล้ว” กีอัสตอบพร้อมกับแยกตัวออกมา