ตอนที่ 20 -- ไลเดีย
ตอนที่ 20 -- ไลเดีย
-หนึ่งสัปดาห์หลังจากการต่อสู้กับราชาแห่งความตาย
กิจวัตรประจำวันของมิลลี่และผมคือการล่าในโบสถ์แห่งความเสื่อมอย่างต่อเนื่อง
พวกเราผ่านพื้นที่ล่า โดยมุ่งมั่นที่จะยิงเวทย์บอลสีขาว
บอสนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นมันจึงใช้เวลาเป็นเดือนในการคืนชีพ
ดังนั้นตอนนี้เราจึงสามารถล่าได้โดยไม่ต้องกลัวสิ่งรบกวน
…..อย่างไรก็ตาม
“นี่เซฟ~ ชั้นเหนื่อยแล้วอ่า~”
”
ดูเหมือนมิลลี่จะคิดว่าการล่าของพวกเราน่าเบื่อ
มันอาจเป็นเพราะพวกเราเอาแต่ยิงบอลสีขาวในขณะที่ยืนอยู่รอบๆ
“ชั้นไม่อยากเก็บเลเวลที่นี่แล้ว ดังนั้นเราไปหาพื้นที่ล่าที่อื่นกันเอาไหม?”
”
แน่นอนว่าพื้นที่ล่าอื่นๆน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่นี่ แต่ว่าพวกเราสามารถล่าซอมบี้ได้โดยไม่ต้องกลัวราชาแห่งความตาย และการขาดความตรึงเครียดไปทำให้เรารู้สึกง่วงได้ง่าย
บางทีมิลลี่น่าจะหลับไปในทันทีถ้าผมปล่อยให้เธออยู่คนเดียว และนั่นจะกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ
หลังจากที่ผมมีเลเวลถึงยี่สิบห้า เลเวลของผมก็ไม่ขึ้นอีกเลย
“เอาสิ แต่เราจะไปหาพื้นที่ล่าตรงไหนล่ะ?”
”
“ชั้นคงรู้ล่ะมั้ง~? ชั้นสงสัยว่าที่ไหนจะดีกันน้า”
”
มิลลี่ขี้บ่นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
เอาเถอะ ยังไงซะราชาแห่งความตายก็กำลังจะคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
มันก็ฟังดูไม่แย่เท่าไหร่ที่จะหาพื้นที่ล่าอันอื่น
“เอาล่ะเราแยกกันสักพักล่ะกัน มิลลี่เธอไปหาพื้นที่ล่าอันอื่น ระหว่างนั้นผมจะหาเงินรอ”
”
“หือ..?”
”
“ผมจะปิดประกาศแผงลอยและขายสินค้าของเรา มันน่าจะดีกว่าถ้าให้คนเพียงคนเดียวออกไปขายของจิปาถะและซื้ออุปกรณ์กลับมา ในขณะที่อีกคนไปหาพื้นที่ล่าใช่ไหมล่ะ?”
”
“นะ-นั่นมันก็จริงนะ……. แต่…...อืม”
”
“ผมจะรู้สึกสบายใจกว่านี้ถ้าเธอจับคทาคริสตัลไว้แน่นๆตอนนี้”
”
“นั่น…..ไม่ ชั้นไม่เป็นไร! เข้าใจแล้วน่า! ชั้นจะออกไปหาพื้นที่ล่าอันใหม่ด้วยตัวเอง โดยไม่มีนาย”
”
มิลลี่พูดแล้วก็เทเลพอร์ตไป
เฮ้อ
ผมคงต้องพูดว่า เมื่อไม่มีมิลลี่อยู่ด้วยทำให้ผมรู้สึกเหงาเล็กน้อย
เธอจำเป็นจะต้องเรียนรู้การทำงานคนเดียวในอนาคต ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสดีที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของเธอในตอนนี้
แม้ว่าผมจะรู้พื้นที่ล่ารอบๆนี้อย่างคร่าวๆแล้วก็ตาม แต่การหาพื้นที่ล่าอันใหม่คนเดียวก็น่าจะเป็นการฝึกอย่างดีแม้แต่กับคนอย่างมิลลี่
-หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็ก้าวเท้าเข้าไปในเมื่องแห่งการค้าเบริต้าอีกครั้ง
ผมมาที่นี่เพื่อขายไอเทมที่แผงลอยของผมและเพิ่มจำนวนเงินทุน
หลังจากที่เงินของเราเพิ่มขึ้น ผมก็จะมองหาไอเทมที่สามารถซื้อได้ในราคาถูก
แล้วก็จะไปเยื่ยมร้านค้าของไลเดียถ้าผมมีเวลาพอ
ซึ่งผมเองก็มีเหตุผลที่จะไป
ผมก้าวเท้าเข้ามาในจัตุรัสของถนนแรก
ผมไม่อยากเข้าไปยุ่งถ้าพวกเขาไม่ได้เสนอทองมา
จัตุรัสแผงลอยไม่ได้เปิดในวันหยุด
TL เหมือนตลาดนัดบ้านเราล่ะมั้ง
เมื่อผมหาพื้นที่ว่างสำหรับแผงลอยของผมได้ในที่สุด ในขณะที่ผมกำลังวางของและถือหิ้วกระเป่าบนไหล่ เมื่อผมเดินผ่านทางแยก…….
“หว๋าาาาาาา~?
”
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้วิ่งชนผมจากด้านข้าง จนผมทำกระเป๋าหลุดมือไป
ผมรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อ่อนนุ่ม และกระเป๋าของผมก็ปลิวผ่านอากาศไป
อย่างไรก็ตามผมสามารถทรงตัวอยู่ได้ แต่เด็กสาวไม่สามารถทรงตัวได้และล้มลง
“อูยย~”
”
‘เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?’ เมื่อผมกำลังจะพูดตอนที่ผมกำลังก้มลงไปยังเด็กสาว ผมก็สังเกตุเห็นบางอย่าง
หืมม….? ผมเคยเห็นที่ไหนนะ……...
เด็กผู้หญิงผมสีฟ้า มีหางม้าซึ่งใส่เสื้อสีขาวรัดรูปที่เกือบจะปิดหน้าอกอันใหญ่โตเอาไว้ไม่อยู่
ตั้งแต่ที่เธอล้มอยู่บนพื้น เพียงแค่คุณชำเลืองมองก็สามารถเห็นผ้าสีขาวบางอย่างตรงช่องว่างของกางเกงสั้นจิ๋วของเธอ
“.....ไลเดีย!”
”
“เดี่ยวนะ, ถ้าความจำชั้นถูกต้อง นายคือ… เอ่อ….. นายชื่อว่าไรนะ?”
”
เมื่อลองมาคิดอีกที ผมยังไม่เคยแนะนำตัวกับเธอเลยสินะ?”
“ผมชื่อเซฟ เซฟ ไอน์สไตน์ ผมคงกำลังเดินโดยไม่ใส่ใจสิ่งรอบค้าง ดังนั้นขอโทษด้วย”
”
“อ้า~ ใช่แล้ว คงเป็นแบบนั้นล่ะ เพราะชั้นไม่เคยลืมชื่อกับหน้าเลยสักครั้ง”
”
*คึกคึก* ไลเดียหยิบแว่นก๊อกเกิล (แว่นกันลม) ของเธอขึ้นมาและเริ่มหัวเราะ *อ่ะฮ่ะฮ่า*
เมื่อเธอรู้สึกตัวว่าเธออยู่ในตำแหน่งอะไร เธอก็รีบหุบขาในทันที
“.....เห็นไหม?”
”
“นิดนึง”
”
“หวาาาาาา อย่างบอกนะว่านายเห็น? ในกางเกงสั้นจิ๋วของฉัน? เซฟคุง นายคงจะมองเห็นวิวดีๆสินะ หือ”
”
ไม่นะ มันก็ดูน่ารักตามปกติ…..เอ่อมันก็ดูดี
“ว้าว~ เดี๋ยวก่อน ของที่อยู่ในกระเป๋าของนายมันกระจายไปทั่วเลย! บ้าจริง เร็วเข้า! ฉันจะช่วยนายเก็บ”
”
ไลเดียพูดแล้วก็รวบรวมกระเป๋าของผมที่กระจายอยู่บนพื้น *โฮ่ยโฮ่ย*
เธอเก็บทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว
สมกับที่เป็นแม่ค้า
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ไลเดียจะต้องเป็นเจ้าของรถเข็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะชนกัน ไลเดียผลักรถเข็นของเธอออกไปในทันทีเพื่อที่จะปกป้องผม
นอกจากกระเป๋าที่กระเด็นไปทั่วแล้วล่ะก็ ตัวผมไม่เป็นอะไรเลย
ในขณะที่ตัวเธอเองล้มลง สัมภาระของไลเดียเองก็ปลอดภัย
นี่คือสิ่งที่สามารถเรียกได้ว่าความเป็นมืออาชีพของแม่ค้านั้นเป็นสิ่งจำเป็น
*เฮ้ออ* หลังจากที่พวกเราเก็บกระเป๋าเวทย์มนต์ทั้งหมดแล้ว พวกเราตัดสินใจที่จะหยุดพัก
หืม…. ว้าวไลเดียตัวสูงจริงๆ
ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอตอนไหน ผมก็ต้องแหงนหน้าขึ้นมอง ไม่งั้นเธอก็ไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด
อืม~ ไม่เป็นไร ผมไม่ใส่ใจหรอก
“ขอโทษนะไลเดีย ดูเหมือนเธอกำลังรีบอยู่ด้วย เธอแน่ใจนะว่ามันไม่เป็นไรที่ช่วยผม?”
”
“โอ้ เอ่อร้านค้าที่อยู่ตรงนั้นขายขวดยาฟื้นฟูกำลัง และมันถูกผลิตขึ้นจากร้านแผงลอยที่มีชื่อเสียงที่เปิดใหม่ พวกเขาน่าจะขายหมดในทันทีเนื่องจากมันกำลังเป็นที่นิยม ยังไงฉันก็อดซื้อมันอยู่ดี ดังนั้นไม่จำเป็นจะต้องกังวลไปหรอก”
”
“งั้นหรอ โอ้แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ดีใจในสิ่งที่เธอทำ ขอบคุณนะ”
”
เธอมองไปทางนั้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แล้วก็หัวเราะออกมา *อ่ะฮ่าฮ่า*
“เอาล่ะ~ ฉันเองก็ไม่ได้เกลียดคนซื่อๆบื้อๆอย่างเซฟคุง ผู้ที่กำลังเสาะหาว่าพ่อค้าคืออะไรหรอกน่ะ”
”
ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมไม่ได้ถูกชมเลย
ไลเดียพูดต่อแม้ว่าจะเห็นสีหน้าที่ซับซ้อนของผมแล้วก็ตาม
“เซฟคุงไม่ได้อาศัยอยู่ในเบริต้าใช่ไหม แล้ววันนี้เธอมาที่นี่ทำไม? อย่าบอกนะว่าเธอมาที่นี่เพื่อมาหาฉัน?”
”
ประโยคที่สามที่เธอพูดออกมานั้นตรงเป้าหมายจริงๆ
สิ่งที่ผมจะพูดตอนนี้ไม่จำเป็นจะต้องปฏิเสธ
“อืมเธอช่วยผมก่อนหน้านี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นผมจึงหวังว่าเธอจะช่วยผมอีกครั้ง”
”
มันค่อนข้างน่าอายเล็กน้อย แต่ผมก็ควรตอบตามความจริงในเวลาแบบนี้
เพื่อให้ได้เงินมา มันน่าจะเป็นการดีที่ได้เป็นเพื่อนกับไลเดียที่เป็นแม่ค้า
“จริงหรอ? ยินดีที่ได้รับใช้ แล้วเซฟคุงมาที่นี่พื่อที่จะเปิดแผงลอยหรอ?”
”
“อา ใช่แล้ว ผมต้องการทำเงินตอนนี้ แต่ว่าบ้านเกิดของผมในนานามิไม่มีจตุรัศแผงลอย”
”
“โฮะโฮะ นายต้องการเงินใช่ไหม? ….. แล้วทำไมไม่ถามโอเน่ซัง (พี่สาว) คนนี้ว่าเธอสามารถช่วยนายได้ไหมล่ะ?”
”
“ไลเดีย?”
”
“ถ้านายต้องการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเงิน ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง ฉันคือคนที่ดีที่สุดที่นายรู้จัก”
”
เธอพูดออกมาในขณะที่กำลังกอดอกทำให้โนตมของเธอดูใหญ่ขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันก็ยิ้มออกมาอย่างหน้าหลงใหล
“แค่บอกทุกอย่างให้โอเน่ซังก็พอ~♪”
”
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามข่าวสารและตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/