ตอนที่แล้วตอนที่ 291 แค่ตัวประกอบ อย่าหยิ่งนักเลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 293 โค่นศัตรู บุกวังปีศาจ

ตอนที่ 292 เพิ่มประสิทธิภาพสนามพลัง


สีหน้าของตวนมู่หลงเฉิงเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น

แน่นอนว่าเขามีพลังพอช่วยเทียนฉวนได้ แต่อันตรายที่เขารู้สึกได้ในฐานะนักรบทำให้เขาลังเลในที่สุด

คุณชายสามตระกูลเย่ว์พยายามวางกับดักเขาหรือ? เมื่อเขาเพิ่งลอบทำร้ายฉือเหลียว เขาก็เตรียมกับดักไว้ โชคดีที่ทักษะแฝงเร้นเพิ่มความเร็วฉับพลันของเขาได้ลวงจังหวะป้องกันของเย่ว์หยางได้ อย่างไรก็ตามหลังจากแลกหมัดกัน เย่ว์หยางมองเห็นทักษะแฝงเร้นของเขาแล้ว ตอนนี้เย่ว์หยางกลับหันหลังให้เขาอีกครั้ง ท่าทางเตรียมลอบทำรายเทียนฉวนที่เย่ว์หยางลวงให้เขามาติดกับ?

ในฐานะที่เป็นคนช่างระมัดระวัง ตวนมู่หลงเฉิงยอมปล่อยให้เทียนฉวนตายดีกว่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตราย

ตายเพื่อสหายไม่ใช่วิธีการของเขา

ถ้าเทียนฉวนถูกฆ่าก็เป็นความผิดของเขาเอง ตวนมู่หลงเฉิงตัดสินใจว่าเขาจะไม่ช่วยเทียนฉวนไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

เกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวหยาบคายของเย่ว์หยาง ทำให้เทียนฉวนโกรธจัด

ที่สำคัญคือ เขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 3

เมื่อเขาตะลุยหอทงเทียน อย่าว่าแต่เจ้าเด็กนี่เลย แม้แต่พ่อแม่ของเขาก็ยังเป็นตัวอ่อนอยู่ในท้องมารดา เจ้าเด็กนี่คิดจริงๆ หรือว่าเขาจะไม่มีฝีมืออยู่เลย? ในฐานะนักสู้ปราณก่อกำเนิด เขาภูมิใจตัวเองและพลังความแข็งแกร่งที่เป็นของเขา

“ฮึ่ม.. ข้าก็รอเจ้ามานานแล้ว”

เทียนฉวนไม่ใช่คนที่นั่งงอมือรอความตายแน่นอน เขาหัวเราะเย็นชาและหมุนตัวกลับมา จากนั้นเรียกดาวสว่างเจิดจ้าดวงหนึ่งถือไว้ในมือ แล้วผลัก “พันดวงดาวถล่มฟ้า” ออกมาสุดแรงใส่อกของเย่ว์หยาง พลังโจมตีของเขาสร้างจากแสงดวงดาวที่มีพลังเจาะทะลวงรุนแรงสามารถทำลายการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของศัตรูได้ ยิ่งกว่านั้น มันยังถูกตั้งค่าให้ระเบิดเมื่อมันซึมเข้าไปในอวัยวะภายในที่อ่อนแอของศัตรู วิธีนี้เขาจะทำลายศัตรูของเขาได้ง่ายกว่า

กระบวนท่านี้เป็นการผนวกกันระหว่างทักษะแฝงเร้นของกระสุนดวงดาวและวิชาต่อสู้ของเทียนฉวน

ครั้งล่าสุด เขาใช้ท่านี้กับศัตรูของเขา ซึ่งเป็นคนที่มีพลังอยู่ยงคงกระพัน แม้แต่เผ่าปีศาจบูรพาที่มีร่างกายแข็งแกร่งก็ยังไม่มีโอกาสต่อต้านเขาได้

อย่าว่าแต่ร่างของมนุษย์

มนุษย์คนหนึ่งจะพบจุดจบทันทีที่เขาลงมือโจมตี

เย่ว์หยางถูกโจมตีโดยกระสุนพันดวงดาวของเทียนฉวน

แสงดาวซึมเข้าไปในตัวของเขา กระแทกเขาถอยหลังไปหลายก้าว ทว่าไม่มีร่องรอยความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา แต่กลับมีสีหน้าประหลาดใจแทน เหมือนกับว่าเขาไม่เชื่อว่าเทียนฉวนสามารถโจมตีถูกตัวเขาได้ เทียนฉวนคิดว่าเจ้าเด็กนี่เสร็จแน่นอน แม้ว่าภายนอกเขาจะดูไม่เป็นอะไร

แต่ในความเป็นจริง อวัยวะภายในของเขาบาดเจ็บหนัก เว้นแต่เจ้าเด็กนี่จะมีทักษะแฝงเร้นบางอย่างที่ไม่ซ้ำใคร อย่างเช่นทักษะกลืนกินที่สามารถลบล้างการโจมตีด้วยพลังแสงดวงดาวนี้ อวัยวะภายในของเขาจะทนต่อพลังโจมตีที่น่ากลัวได้อย่างไร?

“เจ้าจะฝืนทนไปเพื่ออะไร”

เทียนฉวนพูดด้วยความมั่นใจ พลางกระดิกนิ้วชี้ใส่เย่ว์หยางด้วยความเย่อหยิ่ง

นี่คือมาดที่เป็นสัญลักษณ์ของเขา

ทุกครั้งที่เขาฆ่าหรือทำร้ายศัตรูเขาจะกระดิกนิ้วชี้ของเขาไปที่ศัตรูของเขาเพื่อแสดงอาการดูถูก

เทียนฉวนรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป ภายในห้าวินาที ร่างของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี่จะระเบิดเป็นชิ้น อย่างน้อยที่สุดอกของเขาจะระเบิดออกมา ซี่โครงของเขาจะแตกเป็นเสี่ยง หัวใจปอด ลำไส้และอวัยวะภายในอื่นๆ จะระเบิดออกมากลายเป็นเศษเนื้อกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

นั่นคือภาพที่เทียนฉวนต้องการเห็นมากที่สุดในชีวิตของเขา เหมือนกับการข่มขืนสาวบริสุทธิ์ ภาพที่ทำให้ตลอดทั้งกายเขามีความสุขด้วยความตื่นเต้น ตื่นเต้นจนเขาขนลุกไปทั้งตัว

“แค่ก, แค่ก!”

เย่ว์หยางลูบอกเขาและไอออกมา 2-3 ครั้ง

มีเลือดออกมาจากปากเขาส่วนหนึ่ง แต่ภาพนี้แตกต่างจากภาพโลหิตที่เทียนฉวนได้วาดหวังไว้ ที่จะได้เห็นเย่ว์หยางอกระเบิดเปิดออกมา และชิ้นเนื้อและเลือดพ่นกระจายไปทั่วทุกที่

เทียนฉวนอึ้งตะลึงสิ้นเชิงเมื่อร่างของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่มีท่าทีว่าจะระเบิด

เกิดอะไรขึ้น?

เทียนฉวนรอเป็นเวลานาน คุณชายสามตระกูลเย่ว์น่าจะระเบิดไปนานแล้ว ทำไมเขายังปกติอยู่ได้?

เขาไม่เคยคาดว่าสนามพลังของเย่ว์หยางก็คือ “ดูดกลืน” พลังโจมตีด้วยแสงดาวก็เท่ากับเป็นยาชูกำลังสำหรับเย่ว์หยาง.... ความจริงเย่ว์หยางไอก็เพราะเขากำลังรักษาอาการบาดเจ็บที่ตวนมู่หลงเฉิงเพิ่งเล่นงานเขา พลังปราณก่อกำเนิดของตวนมู่หลงเฉิงได้ขยายพลังขึ้นอีกจากสนามพลัง “อ่อนแรง” ของเขา ดังนั้นจึงมีผลมากและสร้างความเสียหายให้กับร่างของเย่ว์หยางมากเช่นกัน

นั่นคือสาเหตุที่เย่ว์หยางฉวยโอกาสรักษาตัวและฟื้นคืนกำลังของเขา

เย่ว์หยางรู้ว่าเทียนฉวนเข้าใจผิดเขา แน่นอนว่าเขาไม่สนใจปฏิกิริยาของเจ้าผู้นี้เลยแม้แต่น้อย

พลังดาวแสงของเทียนฉวนและพลังทักษะแฝงเร้นของเขาไร้ผลต่อเย่ว์หยาง ยิ่งกว่านั้น ขอบเขตพลังดาวแสงของเทียนฉวนยังช่วยเย่ว์หยางด้วย มันมีทักษะช่วยให้เย่ว์หยางรวมพลังระเบิดดวงดาวได้เร็วขึ้น

“เจ้ายังสบายอยู่ได้อย่างไร?”

เทียนฉวนไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ

เห็นได้ชัดว่าเขาโจมตีถูกศัตรูเขาแล้ว แต่ศัตรูของเขากลับกลายเป็นว่ายังปลอดภัยดีอยู่ได้

นี่ชักประหลาดเกินไปแล้ว

เย่ว์หยางปาดรอยเลือดที่ปากของเขาและหัวเราะเหมือนกับปีศาจ

“นั่นเป็นโจมตีที่ดีจริงๆ, ก็แค่พลังยังอ่อนเกินไป ถ้าเจ้าใส่พลังเข้าไปให้มากขึ้น ก็ยังจะดีกว่า ความจริงก่อนหน้านี้ ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจว่าสนามพลังของข้าทำงานอย่างไร, แต่พอหลังจากพลังดาวแสงของเจ้ามีส่วนช่วยเหลือพลังของข้า ในที่สุดข้าก็เข้าใจวิธีการทำงานของสนามพลัง กลับกลายเป็นว่าสนามพลังของข้าไม่ได้อยู่ภายนอก แต่อยู่ในตัวของข้าเอง เฮ้อ.. ข้ากังวลจริงๆ ว่าสนามพลังของข้าแตกต่างจากคนอื่นมากมายขนาดไหน? แต่จากที่เจ้าเพิ่งโจมตีทำร้ายข้า ข้าจึงเข้าใจได้จริงๆ เสียทีว่ามันใช้งานยังไง! เพื่อแสดงความชื่นชมที่ข้ามีต่อเจ้า ข้าตัดสินใจมอบโอกาสดีๆ ให้เจ้าเป็นคนแรกที่จะได้ลิ้มรสอำนาจสนามพลังของข้า”

“เป็นไปไม่ได้!”

เทียนฉวนเกือบกลายเป็นบ้า ไม่เพียงแต่การโจมตีทำร้ายของเขาใช้ไม่ได้ผลเท่านั้น แต่เขายังช่วยเจ้าเด็กนี่ด้วยหรือ?

เขาคำรามเกรี้ยวกราด

เขาเงื้อมือขึ้นสูง เตรียมจู่โจมทำร้ายเย่ว์หยางอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าถ้าการโจมตีของเขาจะช่วยเย่ว์หยางได้จริงๆ เขาจะมิกลายเป็นเจ้าโง่หรอกหรือหากว่าเขายังโจมตีเย่ว์หยางด้วยพลังแบบเดิมอีกครั้ง? เขารีบชักมือกลับและถอยหลังทันที เตรียมหนีไปซ่อนด้านหลังตวนมู่หลงเฉิงทันที

ตวนมู่หลงเฉิงยืนอยู่ในระยะห่าง ยังคงมองดูอย่างใจเย็นต่อไป

เขาไม่เชื่อว่าเย่ว์หยางจะพูดจริงทั้งหมด แต่เขาเข้าใจว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ต้องมีเหตุผลบางอย่างเมื่อเขาพูดเช่นนี้

บางทีอาจเป็นกับดักอื่น...

ยักษ์ทอง อสูรเพชรระดับ 9 ตนนั้นเป็นอสูรที่ฉลาดมาก มันมีปัญญาระดับสูงคอยติดตามความเคลื่อนไหวของตวนมู่หลงเฉิง มันจะโจมตีต่อเมื่อตวนมู่หลงเฉิงเคลื่อนไหวเท่านั้น เมื่อตวนมู่หลงเฉิงอยู่นิ่ง มันก็รอโอกาสเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ นี่ไม่ใช่เพราะซุ่นเทียนสั่งมัน แต่เป็นเพราะระดับสติปัญญาของอสูรศักดิ์สิทธิ์

ในการต่อสู้โดยใช้ปัญญานี้ เจ้ายักษ์ทองย่อมฉลาดกว่าฮุยไท่หลางในปัจจุบันนี้แน่นอน มีเพียงเสี่ยวเหวินหลีผู้สามารถเชื่อมจิตกับเย่ว์หยางอาจจะทำได้ดีกว่ายักษ์ทองในแง่ของการใช้ปัญญา

แน่นอน ปัญญาของฮุยไท่หลางจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปภายใต้อิทธิพลของเย่ว์หยาง

การเปลี่ยนเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่พัฒนาการสุดท้ายของมันแน่นอน

“ลองดูดาวที่ข้าสร้างขึ้นสิ!”

เทียนฉวนกระโจนขึ้นไปในท้องฟ้าเพื่อหลบหนี แต่ไม่ว่าเขาจะเร็วเพียงไรก็ตาม ก็ไม่มีทางไวกว่าเย่ว์หยาง

เย่ว์หยางยื่นมือออกไปคว้าข้อเท้าของเทียนฉวนไว้แน่น

สนามพลัง “ระเบิดดวงดาว” ของเย่ว์หยางสว่างวาบในมือของเย่ว์หยาง ตอนแรกก็เท่ากับบอลลูกเล็ก จากนั้นเกิดประกายแสงดาวนับไม่ถ้วน แล้วมันก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นๆ กลายเป็นภาพที่สวยงาม จากนั้นประกายแสงดาวนับไม่ถ้วนก็ยิงออกมา แล้วรวมตัวกันอีกครั้งในท้องฟ้ากลายเป็นดาวดวงหนึ่ง แม้จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างไม่ถึงเมตร แต่พลังที่บรรจุอยู่ภายในกลับขู่ขวัญเทียนฉวน แม้แต่ตวนมู่หลงเฉิงที่ลอยตัวอยู่ห่างออกไปก็ยังขมวดคิ้ว

“ช่วยข้าด้วย, ช่วยด้วย...”

เมื่อเทียนฉวนเห็นว่าตวนมู่หลงเฉิงยังคงยืนเฉยไม่ยอมขยับ เขาตื่นตระหนกทันที เขารีบหันไปขอความช่วยเหลือจากยักษ์ทอง

เขาพยายามปล่อยพลังโจมตีใส่เย่ว์หยาง แต่ก็ไร้ผลโดยสิ้นเชิง การโจมตีของเขามีแต่จะทำให้ขนาดของดาวใหญ่ขึ้น

ในทางตรงกันข้าม พลังของดวงดาวสามารถกำจัดเขาได้แน่นอน

เมื่อดาวระเบิดออก ก็ยิงแสงสว่างเจิดจ้าที่ฉีกร่างของเทียนฉวนเป็นชิ้นๆ ได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่จะทำลายเขาให้กลายเป็นเศษเนื้อ พลังป้องกันด้วยปราณก่อกำเนิดของเทียนฉวนไร้ผลโดยสิ้นเชิง มิอาจต่อต้านระเบิดดวงดาวที่ขยายใหญ่ทุกขณะ

ในท้องฟ้า เจ้ายักษ์ทองที่เตรียมจะโฉบลงมาช่วยเทียนฉวน ต้องรีบทิ้งแผนของมันทันทีเมื่อมันเห็นระเบิดดวงดาวที่สว่างเจิดจ้าที่เย่ว์หยางจุดระเบิดขึ้น มันหมุนตัวและหลบทันที มันรู้สึกได้ชัดว่าพลังทำลายล้างของระเบิดนี้ไม่มีทางน้อยกว่าวงจักรล้างโลก วงจักรล้างโลกยังมีขนาดเล็ก ดังนั้นมันจึงหลบได้ง่าย แต่ว่าดวงดาวนี้ตรงกันข้าม บางทีอาจทำลายทุกอย่างในรัศมีพื้นที่หลายร้อยเมตรทันทีที่มันระเบิด

ตวนมู่หลงเฉิงและยักษ์ทองพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

บินหนีด้วยความเร็วสูงสุดจนอยู่ในระยะห่าง

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางลากเทียนฉวนกลับมาหลังจากไล่ตามทัน

“อ๊า....!”

เทียนฉวนไม่ใช่คนโง่แน่นอน

เขาสามารถรู้สึกได้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย ถ้าระเบิดดวงดาวนั้นระเบิดออกมาจริงๆ อย่างนั้นเขาจะถูกทำลายเป็นผุยผงแน่นอน เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และตัดสินใจได้ทันที ในทันใดนั้นเขาปล่อยพลังดาบแสงออกจากมือและฟันใส่ขาขวาของเขา และตัดออกโดยไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น เขาสูญเสียเลือดที่ขาและหนีอย่างไม่คิดชีวิต

ด้วยหวังว่าจะหลบหนีพ้นจากพื้นที่ของระเบิดดวงดาวได้.. สำหรับแผนการหนีเข้าไปหาตวนมู่หลงเฉิงของเขาก็เพื่อเข้าไปร่วมกันต่อสู้กับเย่ว์หยาง นั่นเป็นปัญหาที่ชัดเจนแล้วในตอนนี้ สีหน้าที่เย็นชาและโหดอำมหิตของตวนมู่หลงเฉิงตอนนี้ทำร้ายจิตใจของเทียนฉวนยิ่งนัก

เทียนฉวนอ้าปากหอบหายใจพยายามสงบอารมณ์และเรียกคัมภีร์ของเขาและกางโล่พลังปกป้องตนเอง

ตอนที่เมื่อเขาอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู พลังปราณของเขาถูกข่ม ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเรียกคัมภีร์ได้ ตอนนี้ถ้าเขายังเรียกคัมภีร์ไม่ได้ บางทีเขาอาจไม่มีโอกาสหลบหนีได้เลย

“ข้าจะส่งท่านเดินทางไกลเอง”

เสียงเหมือนมัจจุราชดังกึกก้องมาจากด้านหลัง

ในที่สุดเทียนฉวนไม่อาจเรียกคัมภีร์ได้สำเร็จ และศัตรูของเขาตามมาทันแล้ว

เย่ว์หยางปล่อยระเบิดดวงดาวพุ่งตรงเข้าหาตวนมู่หลงเฉิง เขาไม่จำเป็นต้องใช้โซ่ล่องหนมัดเทียนฉวน เขาเพียงแต่ปล่อยให้บอลดวงดาวพุ่งทะลวงร่างของเทียนฉวน นี่คือสาเหตุให้ความเร็วและพลังของมันเพิ่มขึ้นด้วยวิธีนี้ ระเบิดดวงดาวไม่ระเบิดบนร่างของเทียนฉวน มันแค่สร้างรูขนาดยักษ์บนอกของเขา

ตวนมู่หลงเฉิงก็มีฝีมือมาก เขารู้วิธีเทเลพอร์ต ทว่ากับเย่ว์หยางผู้มีทักษะจักษุญาณทิพย์ จะเทเลพอร์ตหรือปลอมตัวก็ไม่มีผลเลย ไม่เพียงแต่ตวนมู่หลงเฉิงเท่านั้น เย่ว์หยางสามารถรู้สึกถึงร่องรอยบางอย่างของศัตรูผู้แข็งแกร่งมากที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ตลอดเวลา

นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้แข็งแกร่งมากหลบซ่อนตัวอยู่ตลอดคอยแอบสังเกตดูสถานการณ์

เย่ว์หยางตรวจเจอเจ้าผู้นั้นนานแล้ว เขามาถึงทันทีที่นางเซียนหงส์ฟ้าพุ่งออกไป เย่ว์หยางไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่ยอมโจมตีใส่เขา บางทีเขาต้องการรู้ความแข็งแกร่งและพลังของเขาก็ได้ เย่ว์หยางรู้สึกว่าเทียนฉวนเป็นเหยื่อที่เจ้านักสู้ที่ซ่อนตัวจัดเตรียมไว้

นักสู้ผู้ซ่อนตัวกำลังใช้เทียนฉวน หรือแม้แต่ตวนมู่หลงเฉิงทดสอบความแข็งแกร่งที่เย่ว์หยางซ่อนไว้

นักสู้ที่ซ่อนตัวอยู่นี้ คือผู้ใดกันแน่?

ตามที่เย่ว์หยางคาดการณ์ไว้ พลังของนักสู้ผู้ซ่อนตัวนี้ บางทีอาจไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิแห่งจื่อเว่ย ซุ่นเทียน อย่างนั้นเขาคือใคร? หรือว่าเป็นประมุขนิกายพันปีศาจ?

เย่ว์หยางไม่สามารถเข้าใจถึงสถานะและเป้าหมายของศัตรูของเขาที่มาที่นี่ในตอนนี้ได้ ทว่าในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดฆ่าตวนมู่หลงเฉิงผู้บาดเจ็บหนักให้ได้ เขาควรจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ความคงอยู่ของนักสู้ผู้ซ่อนกายตอนนี้ไปก่อน และค่อยคิดวิธีลอบทำร้ายเขาทีหลัง บางทีจื่อจุนและผู้เฒ่าหนานกงกลับมาจากหอทงเทียนชั้นสิบแล้ว ดังนั้นประมุขนิกายพันปีศาจคงไม่เคลื่อนไหวอะไรกับเขา หรือบางทีอาจมีเหตุผลอื่นก็ได้

“ครืนนน..”

ขณะที่เย่ว์หยางกำลังคิดอยู่นั้น ระเบิดดวงดาวของเขาปล่อยพลังระเบิดและแรงอัดกระแทกขนานใหญ่

พลังของมันมากกว่าที่เย่ว์หยางใช้ฆ่าว่านฉีซิ่วหลิงถึงสิบเท่า

ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=312

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด