ตอนที่ 17 -- ราชาแห่งความตาย ตอนต้น
ตอนที่ 17 -- ราชาแห่งความตาย ตอนต้น
-วันต่อมา ที่โบสถ์แห่งความเสื่อม
มิลลี่และผมได้กลับมา
แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเราคือการล่าราชาแห่งความตาย
ขาของมิลลี่สั่นเล็กน้อย
มิลลี่ เรย์อาร์ด
เลเวล 27
เวทย์ [สีแดง] เลเวล : 23/94
เวทย์ [สีน้ำเงิน] เลเวล : 32/98
เวทย์ [สีเขียว] เลเวล : 19/92
เวทย์ [ท้องฟ้า] เลเวล : 12/96
เวทย์ [วิญญาณ] เลเวล : 17/85
พลังเวทย์ 985/985
ในเรื่องของพลังเวทย์ที่เธอแข็งแกร่งมากกว่าของผม แต่ทั้งพลังกายและสถานะทางจิตใจนั้นไม่ค่อยมั่นคง
แม้ว่ามันจะไม่ได้แสดงบน สเกาท์สโคป แต่มิลลี่เริ่มแสดงอาการหวาดกลัวและวิตกกังวลออกมา ซึ่งมีผลต่ออัตราการใช้พลังเวทย์
ด้วยใจที่ไม่มั่นคงจะมีผลรบกวนเส้นมนตราซึ่งกระจายอยู่ทั่วร่างกายของมนุษย์ ทำให้เกิดการยับยั้งการไหลของพลังเวทย์
มันเป็นไปไม่ได้ที่มิลลี่ในตอนนี้จะเป็นผู้ทำการโจมตี
“นี่คือแผน, ผมจะเป็นแนวหน้าให้เอง ส่วนเธอเป็นคนสนับสนุน”
”
“ขะ-เข้าใจแล้ว...!”
”
ผมตบหลังของมิลลี่เพราะเธอตอบกลับอย่างเหนียมอาย
“ฮิ้ววว!?”
”
“เธอดูซีดมากเลยรู้ตัวไหม นั่นไม่ใช่สิ่งที่หัวหน้ากิลด์ควรจะเป็นใช่ไหมล่ะ?”
”
สำหรับวัยหนุ่มสาวแล้ว มันเป็นเรื่องง่ายที่อารมณ์ของพวกเขาจะขึ้นๆลงๆ ระหว่างอารมณ์ดีกับไม่ดี
ในตอนนี้ งานของผมคือการสนับสนุนเธอ
“เอาล่ะมาดูกันสิ ผมเชื่อว่าชื่อกิลด์ของเราคือ…. 'เพกาซัสปีกสีชาต' ใช่ไหม?”
”
“....”
”
มีเพียงความเงียบที่ผ่านเข้ามา
เฮ้อ ผมทำเสียเรื่องงั้นหรอ?
ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าเธอไม่เข้าใจมุขตลกของผมหรอไง
“เซฟ พวกเราคือ ‘นักล่าแห่งฟ้าคราม’ ดังนั้น….”
”
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเธอจริงจังเกี่ยวกับมัน
เธอมองเข้าในตาของผม
เฮ้ เฮ้, ไม่ต้องมาโกรธผมเลยนะ
มิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างๆผมได้ตีหลังผม
“ไปกันเถอะ”
”
เธอเดินออกไปในขณะที่กำลังพูด, เฮ้เธอควรที่จะพูดก่อนที่จะลุกสิ, ผมเป็นผู้ชายดังนั้นผมควรจะเป็นคนนำ
“.....คุณ”
”
“เธอได้พูดอะไรหรือเปล่า?”
”
“...?! เปล่านี่!”
”
มิลลี่บินออกไปด้วยเทเลพอร์ตในขณะที่พูด
ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังยิ้มอยู่
เรื่องล้อเล่นของผมอาจจะไม่เป็นไปตามสิ่งที่ผมคิด แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
“ผมไปด้วย…!”
”
หลังจากที่ผมตบหน้าตัวเองเบาๆ ผมก็เริ่มเทเลพอร์ตไปยังทิศทางตรงข้ามกับมิลลี่
ขั้นตอนแรก ปฏิบัติการค้นหา
มันก็มีโอกาสที่ราชาแห่งความตายจะถูกกำจัดโดยใครบางคน ในเมื่อเราอาจไม่ใช่คนแรกที่มาที่นี่
ด้วยการทำแบบนี้พวกเราก็เริ่มต้นได้อย่างมีชีวิตชีวา
เทเลพอร์ต, เทเลพอร์ต, เทเลพอร์ต….
หวาาา นี่มันที่กักตุนซอมบี้ชัดๆ
แหล่งซอมบี้ได้หายไปหลังจากที่ผมเริ่มร่ายบอลสีขาว
มันไม่มีราชาแห่งความตาย
มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ผมได้มองหาต่อไปในระหว่างเทเลพอร์ต
เทเลพอร์ต, เทเลพอร์ต, เทเลพอร์ต….
(มันอยู่นี่!)
”
เสียงของมิลลี่ดังก้องอยู่ในหัวของผม
สมาชิกกิลด์ที่มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและถูกเชื่อมต่อโดยพลังของแหวนคริสตัลกลม จะสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ผ่านเทเลพาธี (Telepathy - โทรจิต)
(ตำแหน่งในตอนนี้คือ พื้นที่ดันเจี้ยน ‘9’ ใจกลางสุสาน)
”
(เข้าใจแล้ว, ผมกำลังไปเดี๋ยวนี้)
”
ผมเทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งที่บอกเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
“มิลลี่”
”
“ช้าจริง!”
”
ในใจกลางของที่ฝูงซอมบี้ มีสิ่งที่สวมมงกุฏและผ้าคลุมสีแดง นั่นคือราชาแห่งความตาย ซึ่งกำลังเดินอย่างใจเย็นราวกับกำลังเดินเล่นในสวนสาธารณะ
มันอยู่ห่างออกไปจนเราเกือบจะมองไม่เห็นมันจากจุดนี้
สิ่งแรกที่เรากังวลไม่ใช่ระยะทาง
มิลลี่ยังคงมีบาดแผลทางจิตใจอยู่
ซึ่งผมไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
เพราะว่าพลังเวทย์ที่ใช้ไปก่อนหน้านี้และเพราะการเทเลพอร์ต ผมจึงเริ่มการเข้าฌาน
เมื่อผมเพ่งสมาธิไปจิตของผม พลังเวทย์เพิ่มขึ้นในทันที
กระแสของพลังเวทย์รอบตัวผมทำให้ผมดูแข็งแกร่งเหมือนผู้ทรงภูมิ
ด้วยความรู้สึกที่แหลมคมบมผิวหนังของเธอ มิลลี่จึงสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำให้ตัวเธอสงบลง
คุคุคุ เธอคงจะภูมิใจในตัวเอง
มันก็นานสักพักแล้วตั้งแต่เริ่มสู้กับบอส แต่ประสาทสัมผัสเรื่องอันตรายของเธอไม่เลวเลย
“ถ้าเราเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ ลุยกันเลย!”
”
“ขะ-เข้าใจแล้ว”
”
ผมร่าย ไทม์สแควร์(จตุรัศแห่งเวลา) ก่อน แล้วใช้ เมจิคแอมพลิฟายเออร์ สองครั้งในระหว่างที่เวลากำลังหยุดอยู่
และ….
“โอ้เทพแห่งเวทย์สีแดง ผู้รังสรรค์หลักการณ์ซึ่งได้แผ่กระจายความรู้และความจริงทั่วทั้งทวีปนี้ โปรดให้กำลังแก่ข้า! จงทำลายศัตรูของข้าด้วยคมดาบที่หมุนวน!”
”
“เรดซีโร่!”
”
มหาเวทย์สีแดงที่แข็งแกร่งที่สุดของผม ‘เรดซีโร่’
โดยการใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของผม มันคือมหาเวทย์มอนต์สาย’สีแดง’ ซึ่งยิงไปในด้วยพลังสูงสุด
พลังของมันจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณพลังเวทย์สูงสุดที่ผู้ใช้มี ซึ่งอัตราการใช้พลังเวทย์นั้นเลวร้ายสุดๆ แต่มันก็เป็นเวทย์มนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เพื่อที่จะลบข้อเสียของ ‘การใช้พลังเวทย์ที่เพิ่มขึ้น’ ซึ่งเมจิคแอมพลิฟายเออร์จึงได้ถูกร่ายขึ้น เมื่อความเข้ากันได้ระหว่างมันและ ‘เรดซีโร่’ จำเป็นต้องดีที่สุด
ด้วยเมจิคแอมพลิฟายเออร์ทั้งสองอัน ดาบสีแดงที่ถูกขยายพลังขึ้น 4 เท่าจึงถูกยิงออกไปจากมือของผม
แทงเข้าไปยังราชาแห่งความตาย มันได้เผาผลาญร่างของราชาจน มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ดูเหมือนว่ามหาเวทย์มนต์สายสีแดงอาจจะเป็นจุดอ่อนของมันอย่างแน่นอน
แต่-
ด้วยการหวดดาบแห่งเปลวเพลิง ราชาแห่งความตายได้พุ่งเข้ามาโจมตีผม
“มิลลี่!”
”
“รู้แล้ว!”
”
มิลลี่จับมือของผม และเทเลพอร์ตหนีจากราชาแห่งความตายในระยะสั้นๆ
การหายไปจากสายตาในเสี้ยววินาที ราชาแห่งความตายได้ตามหาเราเมื่อเราหลบออกมาด้วยเทเลพอร์ต
หลังจากที่ผมถูกดึงออกมา มิลลี่ก็เทเลพอร์ตต่อไปเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างเรา
ในขณะนั้นผมก็ดื่มขวดยาฟื้นฟูพลังเวทย์ที่เอาออกมาจากกระเป๋าอย่างเสียงดัง แล้วนั่งเข้าฌาณ
…..ผมรู้สึกได้ว่าพลังเวทย์ของผมกำลังฟื้นคืนมา!
อัตราการฟื้นคืนของขวดยาฟื้นฟูพลังเวทย์ดูเหมือนจะอยู่ประมาณ 100 ซึ่งถูกยืนยันด้วย สเกาท์สโคป ก่อนการต่อสู้
ดังนั้นผมจึงเทน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทย์ลงในขวดใหญ่ขวดเดียว ดังนั้นผมจึงสามารถฟื้นฟูได้เกือบสมบูรณ์ด้วยการดื่มเพียงครั้งเดียว
ผมเรียกมันว่า ขวดยาฟื้นฟูพลังเวทย์ (ขนาดใหญ่)
“เร็วเข้า..! เราลดได้ 15000 แล้ว”
”
ดูเหมือนว่ามิลลี่จะใช้ สเกาท์สโคปกับราชาแห่งความตาย
เราพยายามทดลองว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราใช้ สเกาท์สโคปกับมอนส์เตอร์’ และพลังเวทย์ของมันก็แสดงออกมาตามธรรมชาติ
พลังเวทย์ของพวกมันจะลดลงเมื่อเราโจมตีมัน และพวกมันจะสลายไปเมื่อค่ากลายเป็นศูนย์
“พลังเวทย์ของราชาแห่งความตายอยู่ที่ 78000… ดังนั้นเราต้องยิงอีกหกครั้ง, เซฟ!”
”
ราชาแห่งความตายมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง แต่มันจะไม่ฟื้นฟูเมื่อค่าพลังลดลงไปมากในทีเดียว
ตราบใดที่เรายังคงทำแบบนี้และไม่ปล่อยให้มันฟื้นฟูตัวเอง เราก็สามารถจัดการมันได้
พวกเรามีประสบการณ์จากการต่อสู้กับบอสในคราวที่แล้ว
ดังนั้นในขณะที่ฝากการเคลื่อนถอยให้กับมิลลี่ พวกเราก็หนีออกมาด้วยเทเลพอร์ตอีกครั้ง และถ้าเธอมีโอกาส เธอก็จะตรวจสอบสถานะของศัตรูผ่าน สเกาท์สโคป
นี่เรียกว่า ‘ยิงแล้วถอย’ จะใช้เมื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีพลังโจมตีสูง ซึ่งพวกจอมเวทย์มักไม่ค่อยได้ใช้กัน
“....มันฟื้นพลัง เราควรจะสร้างระยะห่างแล้วยิงอีกครั้ง”
”
“เข้าใจแล้ว♪”
”
โทนเสียงของมิลลี่เปลี่ยนไป? มันก็ดีที่เธอกลับมาเป็นปกติได้
เมื่อไทม์สแควร์ทำงาน ก็ใช้เมจิคแอมพลิฟายเออร์สองครั้ง แล้วเริ่มกล่าวบทร่ายเรดซีโร่
“เรดซีโร่!”
”
นี่คือครั้งที่สองที่ผมร่ายเรดซีโร่
เปลวเพลิงพุ่งทะลุร่างของมัน แขนของมันตกลง ผ้าคลุมก็ถูกเผาจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่มันยังคงไล่ตามเราโดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
มิลลี่มองอย่างตื่นกลัวไปยังนัยน์ตาสีแดงของมัน ดังนั้นผมจึงจับไหล่ของเธอไว้ และหันเธอมาหาผมแล้วพยักหน้า
“...ฉันไม่เป็นไร!”
”
มิลลี่พูดราวกับเตือนตัวเองเช็ดแก้มทั้งสองข้าง
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามข่าวสารและตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/