ตอนที่ 9 -- กิลด์
ตอนที่ 9 -- กิลด์
“ที่นั่งข้างเซฟยังว่างอยู่ หนูอยากจะนั่นตรงนั้นไหม?”
”
ตัดสินใจแทนผมซะงั้น
เด็กสาวที่บอกว่าตนเองชื่อมิลลี่เดินเข้ามาทางผม ในขณะที่ทวินเทลส่ายไปมา
พวกเราประสายตากัน แล้วรอยยิ้มอย่างมีชัยก็ปรากฎขึ้น เธอนั่งลงถัดจากผม
“เอาล่ะ แนะนำตัวกันจบแล้ว ตอนนี้ได้เวลาเริ่มบทเรียน!”
”
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของแคลร์เซนเซย์ก็เปิดหนังสือของตัวเอง
ดูเหมือนมิลลี่เองก็มีส่วนร่วมในชั้นเรียนอย่างจริงจังในขณะที่ผมคอพับ
ทันทีที่ถึงเวลาพัก ผมก็พยายามแอบฟังบทสนทนาของมิลลี่ในขณะที่นั่งเฉยๆ
หล่อนกำลังวางแผนอะไรอยู่? คนที่คิดว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม มิลลี่
เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักของเธอ ทำให้ดึงดูดผู้คนเข้าหา
ไม่นาน ฝูงชนก็ก่อตัวขึ้นข้างๆผมมากเรื่อยๆ
“มิลลี่จังมาจากไหนหรอ?”
”
“ชุดของเธอน่ารักจัง! เธอหามาจากไหน?”
”
“นี่ เธอมาจากเบริต้าใช่ม๊า? รู้เปล่าแม่ของฉันก็มาจากที่นั่นเหมือนกานน”
”
“พ่อของฉันเป็นนักเวทย์ที่อยู่เมืองใกล้ๆนี่ พวกเราก็เลยย้ายมาอาศัยอยู่แถวนี้ ดังนั้นฉันก็เลยเลือกเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้”
”
“โกหกน่า”
”
ทั่วทั้งห้องเงียบสนิทในทันที
บ้าชิบ ผมดันเผลอพูดสิ่งที่คิดออกไปซะได้
"ฉันทำอะไรให้หรอ เซฟคุง? ถึงได้มาพูดดูถูกกันแบบนี้ หืม?”
”
ผมตอบสนอง มิลลี่ที่พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา ด้วยการเบือนหน้าหนี
“ถ้าเธออยากคุยกับผม ก็ไม่ต้องใช้วิธีอ้อมค้อมพวกนี้ได้รึเปล่า? ถ้าเธอต้องการแบบนั้น พวกเราก็ควรจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย เธอรู้ไหม?”
”
“นั่นเป็นข้อเสนอที่ฟังดูน่าสนใจดี แต่ดูเหมือนคาบเรียนกำลังจะเริ่มแล้ว เอาเป็นหลังจากนี้ไหม?”
”
เด็กคนนี้เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ถึงได้แสดงละครเก่งแบบนี้
ผมเป็นคนที่แสดงได้ห่วยแตกมาก แต่พวกนี้เป็นแค่เด็ก ก็ไม่ต้องสนหรอกว่าพวกนั้นจะคิดยังไง?
ตอนนี้ก็ตามน้ำไปแบบนี้ก่อนละกัน
ฮัดชิ้ว
“ก็ได้ ผมจะรอเธอหลังเลิกเรียน”
”
แล้วผมก็วางหัวลงบนโต๊ะทันที แล้วแกล้วทำเป็นนอนหลับ
ผมได้ยินคนอื่นๆคุยกัน
“คนที่นั่นติดกับมิลลี่จัง เป็นคนอันตราย! แล้วก็….”
”
ผมเนี่ยนะอันตราย? ถ้าผมอันตรายล่ะก็ แบบนั้นคนที่นั่งข้างๆผมเนี่ย ก็อันตรายเหมือนกัน
เธออายุประมาณ 12 ขวบงั้นหรอ? ถึงแม้ว่าหล่อนจะแก่กว่าผมนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นแค่ยัยหนูเท่านั้นล่ะ
แต่พลังเวทย์ที่ปลดปล่อยออกมานั่น นอกจากผมแล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนไหนๆจะมีเหมือนกัน
แม้ว่าเธอจะบอกว่ามีพ่อเป็นนักเวทย์ แต่นั่นก็อาจจะไม่ได้มีผลต่อตัวตนที่แท้จริงของเธอก็ได้ เธอเป็นยัยหนูที่เซนส์ดีจริงๆ….
-หลังเลิกเรียน
มิลลี่และผมยืนประชันหน้ากันหลังโรงเรียน
ราวกับกำลังดูเชิงอยู่ เพื่อนร่วมห้องที่ได้ยินเรื่องนั้นต่างก็เฝ้าดูอยู่ห่างๆ
ถึงจะน่าเศร้านิดๆ แต่ก็ดี ในเมื่อผมสามารถกำจัดบรรยากาศหวานแหววพวกนั้นออกไปได้
“ครั้งแรกที่ฉันเจอนาย นายกำลังต่อสู้อยู่ในโบสถ์แห่งความเสื่อม”
”
“โอ้?....เธอก็ดูเหมือนเด็กคนอื่นๆ แล้วทำไมถึงได้ไปล่าอยู่แถวๆนั้นกัน?”
”
“ฉันเปล่า….ฉันแค่กำลังมองหาคนเข้ากิลด์ ‘นักล่าแห่งฟ้าคราม’”
”
“เข้าใจละ...”
”
พื้นที่ล่าสำหรับมือใหม่นั้นถือเป็นหัวใจหลักที่กิลด์สามารถถามนักล่าเดี่ยวหากพวกนั้นอยากเข้ากิลด์
นักผจญภัยที่รวมตัวกันจะสร้างกิลด์ขึ้นมา เพราะมันยากที่จะทำงานคนเดียว, ไอเท็ม, การติดต่อสื่อสารในระยะกว้างไกล และความร่วมมือร่วมใจของคนในกิลด์จะทำให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น, อืม กิลด์ก็ควรจะเป็นที่แบบนั้นล่ะนะ
แต่นั่นจะเป็นเรื่องจริงถ้า ตัดกิลด์ที่ทำตัวเฉื่อยชา หรือกิลด์ที่ทำราวกับลูกกิลด์เป็นเพียงตัวหมากแทนที่จะเป็นขุน, ซึ่งพวกนั้นไม่ใช่กิลด์ที่ดีเท่าไหร่
ความแตกต่างที่หลากหลายเกิดขึ้นเมื่อมีผู้คนมารวมตัวกัน
“‘นักล่าแห่งฟ้าคราม’ ชื่อนี้หรอ? ฟังดูแปลกๆ หรือเพราะว่าผมไม่เคยได้ยินมาก่อนกันนะ”
”
“หืม?! ชะ-ชื่อนั้นไม่เห็นแปลกซะหน่อย…! ‘นักล่าแห่งฟ้าคราม’ ฟังดูเท่จะตาย รู้ไหม?!”
”
“ยัยงั่ง ชื่อที่ดีไม่ได้เกิดจากการเอาคำที่ฟังดูดีมารวมกันซะหน่อย, ผมบอกได้เลยว่าเธอเป็นคนตั้งมันเอง”
”
กะ….มิลลี่ยั้งปากไว้
เธอก็แค่ยัยหนูเท่านั้นล่ะว้า เร็วไปร้อยปีที่จะมาเถียงชนะผม
“เฮ่อออ…..ผมไม่ค่อยชินที่พูดแบบนี้ พูดกันแบบปกติเถอะ, เอ้า เธอตั้งใจจะทำอะไร? อ้อ แล้วก็เรียกผมว่า เซฟ เฉยๆก็พอ เพราะตั้งแต่นี้ผมเองก็จะเรียกเธอว่า มิลลี่ เหมือนกัน”
”
เด็กที่ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กแก่แดด
พยายามจะหลอกผมตั้งแต่เริ่ม ช่างโง่จริงๆ
การมาเชิญคนด้วยตัวเองก็ดีอยู่หรอก แต่มันจะไม่ดีถ้าพวกนั้นเป็นแค่กิลด์ไร้ชื่อ
“สำหรับคำเขิญเข้ากิลด์ ผมไม่สนใจที่จะเข้าร่วม”
”
“...จริงหรอ?”
”
มิลลี่จ้องมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่ผมตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ข้าร่วมกับกิลด์ไหนๆ ที่อาจจะมีปัญหาในระยะยาว
แน่นอน เพราะพวกนี้มักทำตัวผูกติดกัน
“อย่างแรกเลย การเข้าร่วมกิลด์ทำให้ผมไม่มีอิสระ, ผมเกลียดการถูกผูกมัด, เช่น ถ้ามีการประชุมเกิดขึ้นผมก็ต้องมาเข้าประชุมไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ผมก็ว่ามันโคตรเหนื่อยเลย”
”
“ตกลง, นั่นไม่ใช่ปัญหา”
”
หือ? ข้อเรียกร้องของผมได้รับการยอมรับซะงั้น
ไม่คิดเลยว่ากิลด์นี้จะปล่อยให้ผมหาความสงบได้ อย่างน้อยถ้าผมจะเข้าร่วมกิลด์ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็นประโยชน์ต่อผม
“ผมต้องการที่จะขอออกได้ทุกเวลา ถ้าผมไม่รู้สึกว่าอยากจะอยู่ต่อ แล้วผมก็สามารถออกจากกิลด์ได้เมื่อผมต้องการ”
”
“ก็ได้, นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเหมือนกัน”
”
ทางนี้ก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน
ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำเชิญนี้
ถ้าผมจะเข้าร่วมกิลด์ ทำไมถึงไม่ใช่กิลด์นี้ล่ะ?
การล่าซอมบี้ก็จะใช้เวลาสั้นลง แล้วผมก็จะเคยชินกับการต่อสู้เป็นปาร์ตี้ตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งมันจะมีประโยชน์ต่อผมในอนาคต
พวกเราสามารถออกจากเมืองนานามิได้เลย นั่นทำให้พวกเราสามารถหาพื้นที่ล่าในการฝึกได้ดีกว่า
“แล้ว ผมเป็นกิลด์มาสเตอร์ (Guild Master - หัวหน้ากิลด์) ได้ไหม?”
”
“นั่นเป็นไปไม่ได้ เพราะในกิลด์ ‘นักล่าแห่งฟ้าคราม’ นี้ ฉันคือกิลด์มาสเตอร์”
”
อ้ออย่างนี้นี่เอง
ยังไงก็ตาม ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ
ดันไปพูดกับเธอว่า ชื่อกิลด์ฟังดูงี่เง่า ทั้งๆที่เธออาจจะใช้ความพยายามอย่างมากในการตั้งชื่อมัน
“ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่กิลด์มาสเตอร์มาเชิญผมด้วยตัวเองแบบนี้”
”
“นายกำลังแกล้งฉันใช่ไหม?”
”
“เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนต้องการคนที่ยอดเยี่ยมอย่างผม”
”
“นั่นแหละ!”
”
อย่างน้อยก็ไม่ได้โกหกแฮะ
ผมจะอยู่อย่างน้อยสักสิบปี
“ถึงผมจะพูดแบบนั้น แต่มีคนที่ตอบรับคำเชิญของเธอหรือยัง?”
”
“เอ่ออออ….”
”
“อ้อช่างเถอะ ทำไมเราไม่เริ่มกันสักที?”
”
การเข้าร่วมกิลด์
ถึงแม้ผมจะเคยเข้ากิลด์ใหญ่ๆมาก่อน แต่มันจะง่ายกว่าในการฝึกกับปาร์ตี้เล็กๆอย่าง กิลด์’นักล่าแห่งฟ้าคราม’
*คุกคักคุกคัก* ในขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องนั้นเพลินๆ มิลลี่ก็กำลังรื้อกระเป๋าตัวเองเพื่อหาของบางอย่าง
นี่ ทำอะไรของเธอต่อหน้าลูกกิลด์เนี่ย จัดกระเป๋าตัวเองดีๆหน่อย
...อืม แม้ผมอยากจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ไม่ได้จัดของเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนกัน
“เอาล่ะนะ! แหวนผลึก!”
”
มันคือผลึกที่จะช่วยสร้างพันธะระหว่างเพื่อให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
พูดอีกอย่างหนึ่งคือ มันเป็นของแพง...แล้วผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ของพวกนั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อต้องการสร้างกิลด์เท่านั้น
“เฮ้! บ้าน่า หรือว่าเธอ….”
”
“ในนามแห่งเรา มิลลี่ เรย์อาร์ต ขอตั้งกิลด์แห่งใหม่ขึ้น ณ บัดนี้! จงให้ที่นี่เป็นที่เชื่อมพวกเราเข้ากันไว้ด้วยแหวนผลึก!”
”
ปิ้ง ….แสงจ้าขึ้นแล้วแหวนผลึกก็หายไป
“นี่มันเยี่ยมจริงๆ! ฉันได้เป็นกิลด์มาสเตอร์ ส่วนเซฟได้เป็นรองกิลด์มาสเตอร์”
”
“อะ…”
”
นี่มันห่างไกลจากคำว่ากิลด์อ่อนแอแล้ว กิลด์นี้มันยังไม่ได้สร้างเลยด้วยซ้ำ?!
“ฉันมี…”
”
เมื่อเห็นสายตาที่ข้องใจของผม มิลลี่ตอบโต้ด้วยการแลบลิ้นใส่ผม
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/