UWG#072 เหยื่อผู้ไม่เจียมตัว
เมื่อตระหนักได้ว่า ต่อจากนี้มันจะต้องเป็นสัตว์อสูรที่ถูกเลี้ยงโดยพวกมนุษย์ และต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกมนุษย์ หีบปีศาจก็ทำหน้าเซ็ง ดวงตาทั้งสองข้างบนฝาหีบดูไร้ชีวิตชีวาไปในทันที
“ชั้นก็พอเข้าใจว่าแกเป็นหีบโบราณ แต่แกรู้มั้ย นี่มันสมัยไหนกันแล้ว ไม่มีใครเค้าใช้คำว่าข้าและเจ้ากันมานานมากแล้ว อย่างแรกที่แกต้องทำก็คือเลิกใช้คำพูดในยุคสมัยของแกซะ” กีอัสกล่าว
“หึ ไม่มีทางซะหรอก ข้าจะพูดของข้าเช่นนี้แหละ” หีบปีศาจกล่าวออกมา
“ไอ้หีบหัวโบราณเอ้ย ไหนบอกชั้นมาสิว่าแกมีความสามารถอะไรบ้าง ถ้าข้าจำไม่ผิดแกจะมีค่าสเตตัสเด่นไปทางด้านการโจมตีกายภายเป็นหลัก รองลงมาก็เป็นพลังชีวิตและพลังโจมตีเวทย์มนต์สินะ พลังป้องกันทั้งกายภาพและเวทมนต์ของแกนี่มันไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”
“ความสามารถของข้าน่ะรึ? สำหรับเด็กที่อ่อนแออย่างเจ้าคงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะใช้มันหรอก เจ้าใช้มันก็มีแต่เอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ” หีบปีศาจกล่าวไปตามความเป็นจริง
“ตัวข้านั้นแทบจะไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ไปไหนได้ด้วยตัวเอง เจ้าก็เห็นรูปลักษณ์ของข้าแล้วนี้ ไม่มีแขน ไม่มีขา จะมีก็แค่ลิ้นและคมเคี้ยวที่อยู่บนปากของข้าเท่านั้น ข้าสามารถใช้ลิ้นโจมตีศัตรูในระยะประชิดได้รอบทิศทาง และสามารถพ่นเพลิงทมิฬไปด้านหน้าได้ แค่ด้านด้านเท่านั้นนั้น ข้าหันปากไปทางอื่นเองไม่ได้”
“ทั้งหมดนั่นคือความสามารถพื้นฐานของข้า ส่วนความสามารถพิเศษของข้ามีอยู่2อย่าง ซึ่งในตอนนี้เจ้ายังสามารถใช้มันได้เพียงอย่างแค่อย่างแรกเท่านั้น นั่นก็คือสายโซ่แห่งความมืด มันจะทำให้ค่าพลังอันมากมายมหาศาลครึ่งหนึ่งของข้า ถูกถ่ายเทไปยังเจ้า ทั้งพลังชีวิต พลังโจมตีกายภาพและเวทย์มนต์ พลังป้องกัน พลังต้านเวทย์ แต่ความเสียหายที่ข้าได้รับทั้งหมดก็จะถูกส่งไปยังเจ้าด้วยเช่นกัน ซึ่งความเสียหายที่ถูกส่งไปนี้ เป็นความเสียหายที่ลดทอนกับพลังป้องกันที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวของข้า ไม่ใช่พลังป้องกันของเจ้าที่บวกเพิ่มครึ่งหนึ่งของข้าเข้าไป”
“เมื่อข้าแบ่งพลังป้องกันให้เจ้าไปครึ่งหนึ่ง พลังป้องกันของเจ้าจะมากกว่าของข้าอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้น ศัตรูจะเล็งมาที่ข้าแทนเพราะข้าเป็นเป้านิ่งที่มีพลังป้องกันน้อยกว่าเจ้า แม้ว่าเจ้าจะมีพลังป้องกันมากสักเท่าไร แต่เมื่ออยู่ในสถานะนี้ จะพูดว่าพลังป้องกันของเจ้าเหลือแค่ครึ่งขึ้นของข้าก็ย่อมได้ ไม่มีใครโง่ไปโจมตีตัวของเจ้าที่มีพลังป้องกันสูงอย่างแน่นอน เจ้าไม่คู่ควรกับความสามารถนี้หรอก มีแต่จะทำให้พวกเราทั้งคู่ตายเปล่า”
เขาเข้าใจดีว่า เมื่อเขาใช้สายโซ่แห่งความมืด แม้ว่าค่าพลังต่างๆของเขาจะเพิ่มสูงขึ้น แต่หีบปีศาจจะกลายเป็นจุดอ่อนของเขา แต่เมื่อคิดดูดีดีแล้วมันก็ไม่ได้แย่ซักเท่าไรนะ หากเหล่าศัตรูคิดจะโจมตีมาที่หีบปีศาจที่เป็นจุดอ่อนของเขาจริงๆ และทำให้ความเสียหายที่เขาได้รับถูกนำไปคิดกับพลังป้องกันที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวของหีบปีศาจแทนที่จะเป็นพลังป้องกันที่ถูกเพิ่มขึ้นของเขา แต่พลังชีวิตของเขาก็เพิ่มขึ้นจากความสามารถนี้เช่นกัน
การที่มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นและมีพลังป้องกันและต้านเวทย์ลดลง มันก็เหมือนหักล้างกันไป ก็เท่ากับว่าเขาได้รับพลังโจมตีกายภาพและเวทย์มนต์ พลังป้องกัน พลังต่านเวทย์มาฟรีๆไม่ใช่หรือไง? ถึงพลังป้องกันพวกนั้นจะมีผลเฉพาะกับตัวของเขาก็เถอะ แต่เขาก็ใช้ตัวของเขาปกป้องหีบปีศาจซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขาได้นี่
“แล้วความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของแกล่ะ?” กีอัสถาม
“เจ้าจะรู้ไปทำไม ในเมื่อเจ้าใช้มันไม่ได้?” หีบปีศาจตอบกลับมาด้วยความลำคาญ
“แกจะบอกมาดีดีหรือจะไปดำน้ำเล่นอีกซักรอบ?” กีอัสพูดอย่างจริงจัง
“ความสามารถอีกอย่างของข้าก็คือ จุดจบแห่งรัตติกาล มันทำให้ลิ้นของข้าแปลงสภาพเป็นปีศาจยักษ์ เหมือนกับว่ามีปีศาจออกมาจากหีบ คล้ายๆตะเกียงวิเศษของอะลาดินที่เรียกยักษ์ออกมา แต่ข้าเป็นหีบที่เรียกปีศาจออกมา”
“ฮ่าๆ เปรียบเทียบได้เห็นภาพชัดเจนมาก” กีอัสกล่าว
“ดูๆแล้วเจ้าคงจะเดินไปตามเส้นทางแห่งดาร์คเซราฟที่ใช้เคียวเป็นอาวุธสินะ ข้าได้ดูค่าสเตตัสของเจ้าแล้ว จริงๆแล้วมันก็เหมือนกับว่าความสามารถแรกของข้าจะมีไว้สำหรับสายเดทไนท์ และความสามารถที่สองมีไว้สำหรับดาร์คเซราฟ”
“แล้วชั้นจะต้องทำอย่างไรเพื่อปลดล็อกความสามารถที่สองของแก?” กีอัสถาม
“เจ้าลืมๆมันไปเถอะน่า ไม่มีทางที่เจ้าจะได้มันได้หรอก”
“แกคงจะอยากดำน้ำเล่นอย่างงั้นสินะ?”
หีบปีศาจทำหน้าบอกบุญไม่รับและกล่าวอย่างเกลียดคร้าน
“ข้าต้องได้ดูดกลืนชีวิตของเจ้าแห่งรัตติกาลเสียก่อน จึงจะทำให้มันสามารถใช้งานได้ และต้องเป็นเจ้าแห่งรัตติกาลที่กำลังจะตายด้วยนะ ข้าถึงจะสามารถดูดกลืนพลังชีวิตของเขาได้”
เมื่อได้ฟังคำตอบ กีอัสก็ตะลึงอยู่พักใหญ่ ต้องล้มไอ้แก่ขี้เหนียวนั่นให้ได้เพื่อที่จะเปิดใช้งานความสามารถที่สองอย่างนั้นหรือ ดูจากพลังอันมหาศาลของไอ้แก่นั่นแล้ว ไม่มีทางเลยที่เขาจะทำได้สำเร็จ
หมายความว่าแม้แต่พวกระดับเจ้าแห่งรัตติกาล ในซักวันหนึ่งเหล่าผู้เล่นก็สามารถที่จะไปล่าพวกเขาได้อย่างนั้นหรือ เกมนี้ช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้ เขาเองก็อยากจะจัดการไอ้แก่ขี้เหนียวที่มันเอาดาบยักษ์วิ่งไล่ฟันเขาอยู่พอดี
“อ้าว พ่อหนุ่ม เป็นผู้เล่นเดี่ยวที่ออกผจญภัยคนเดียวงั้นหรอ คงจะใช้เงินจริงซื้อเงินในเกมไปไม่น้อยเลยสินะ เอามาแบ่งให้พวกเราซักสองสามพันเหรียญทองสิ” ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา
กีอัสคุยกับหีบปีศาจอย่างเพลิดเพลิน กว่าเขาจะรูปตัวอีกที่เขาก็ถูกผู้เล่น4คนล้อมเอาไว้
“เร็วสิเร็ว รีบส่งเงินทั้งหมดของแกมา แล้วพวกเราจะไว้ชีวิตแก” ชายอีกคนที่ล้อมเขาอยู่อีกทิศหนึ่งกล่าว
เขาในป่าที่รกร้างกลางป่า มันมีต้นไม่ค่อนข้างมาก ทำให้พวกนั้นแอบย่องเขามาล้อมเขาได้อย่างง่ายดาย
“ชั้นไม่เหลือเงินอีกแม้แต่เหรียญเดียว ไปหาปล้นคนอื่นเถอะ” กีอัสตอบไปตามความจริง
“หึ พวกเราไม่เชื่อแกหรอก ผู้เล่นที่เก็บเลเวลคนเดียวได้ก็มีแต่พวกรวยๆที่เอาเงินจริงซื้อเงินในเกมมาทั้งนั้นแหละ แต่ถึงแกจะเก่งยังไงก็เอาชนะพวกเรา4คนไม่ได้หรอก รีบๆส่งเงินมาได้แล้ว พวกเราขอแค่คนละ500เหรียญทองก็พอ” ชายอีกคนในกลุ่มของพวกนั้นกล่าว
“จะปล้นใครก็หัดเจี้ยมตัวกันซะบ้างนะ อยากเจ็บตัวก็เข้ามา ไอ้พวกมนุษย์สวะ” หีบปีศาจตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียว
“เห้ย… ไอ้หีบนั่นมันพูดได้ด้วยหวะ น่าจะขายได้หลายพันเหรียญทอง จัดการมันเลย!” ว่าแล้วมันชายคนนั้นก็พุ่งเข้ามาหากีอัสพร้อมดาบในมือ เพื่อนๆอีก3คนของมันก็เช่นกัน
“ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าคิดที่จะหาเรื่องพวกข้าเอง ตายไปซะ!!” หีบปีศาจใช้ลิ้นของมันฟาดฟันศัตรูที่พุ่งเข้ามาจากทั้งสี่ทิศ
กีอัสเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ลิ้นของมันยืดยาวออกมาได้ถึง4เมตร ในเวลานี้ลิ้นของหีบปีศาจดูอันตรายไม่ต่างกับแส้ขนาดยักษ์เลย
นอกจากลิ้นของมันจะดูทรงพลังรุนแรงแล้ว มันยังมีความเร็วที่สูงอีกด้วย หีบปีศาจสามารถตวัดไปโจมตีพวกมันทั้งสี่ได้โดยใช้เวลาพริบตาเดียวเท่านั้น
เพลี้ย! เพลี้ย! เพลี้ย! เพลี้ย!
14! 16! 13! 15!
ในแวบแรกที่เห็นหีบปีศาจยืดลิ้นอันใหญ่หนาและยาวดูน่ากลัวออกมา พวกที่มาปล้นกีอัสก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ พวกเขาคิดว่าจะต้องตายเสียแล้วซะอีก
แต่พลังโจมตีพวกนี้มันอะไรกัน มันแทบจะไม่มีค่าอะไรเลย!
“ฮ่าๆ หีบเลเวล1อย่างแกจะไปทำอะไรพวกมันได้” กีอัสกล่าว และในพริบตานั้นเอง เขาหมุนตัวรอบหนึ่ง ดาบสายฟ้าก็ฟาดฟันเป็นรูปวงกลมรอบตัวของกีอัสก่อนที่มันจะระเบิดออกมา
เขาสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญแล้ว การจะดัดแปลงทักษะเวทย์มนต์เพื่อที่จะนำมาใช้แบบนี้ไม่ได้ยากเลยสำหรับเขา หากใช้มันแบบธรรมดาจะสามารถสร้างความเสียหายระยะไกลได้ครั้งหนึ่ง แต่หากแปรสภาพเป็นดาบและฟาดฟันไปหนึ่งครั้งก่อนที่จะคืนสภาพ ถึงมันจะใช้ได้ในระยะใกล้แต่ความเสียหายของมันก็เพิ่มขึ้นเกือบ2เท่า ซึ่งเกิดจากการใช้ดาบสายฟ้าฟาดฟันบวกกับการคืนสภาพให้มันกลับเป็นเวทย์มนต์ดังเดิมและระเบิดออกมาโดยมีตัวของเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
ฟับ! ฟับ! ฟับ! ฟับ! เปรี้ยง!
287! 292! 290! 291! 598! 597! 594! 593!
จากค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้กีอัสมั่นใจเลยว่าพวกมันมีค่าพลังต้านเวทย์เท่ากันคือ0หน่วย
เมื่อต้องมาเจอกับเขาที่เน้นพลังโจมตีเวทย์ ผู้ที่เอาแต่ใส่เครื่องป้องกันที่เพิ่มแต่พลังป้องกันเพื่อสู้กับมอนสเตอร์ย่อมตายได้ง่ายๆ
แม้อุปกรณ์ที่เพิ่มต้านเวทย์จะไม่ได้แพงกว่าอุปกรณ์ที่เพิ่มพลังป้องกันเลย แต่เพราะมอนสเตอร์ส่วนใหญ่โจมตีเป็นกายภาพ ทำให้พวกเขาไม่คิดที่จะเพิ่มค่าพลังต้านเวทย์
ศัตรูที่มีค่าต้านเวทย์เป็น0ทั้งสี่คนถูกกีอัสกวาดเรียบในพริบตา ดูเหมือนบางคนจะมีเลเวล10เสียด้วย นี่คือความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขา ถึงแม้กีอัสจะไม่ได้ใช้อาวุธ แต่เขาก็มีโล่ผลึกเวทย์ที่เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ให้อยู่
นี่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนกว่า95% ในเมื่อพวกเขายังไม่ต้องการค่าต้านเวทย์ พวกเขาก็คงจะยังไม่หาอุปกรณ์ที่เพิ่มค่าต้านเวทย์มาใส่ ความผิดพลาดของพวกมันไม่ต่างอะไรกับที่พวกคุรุรุกิถูกเวทย์มนต์สังหารหมู่ในพริบตาตอนนั้นเลย เขาต้องกลับไปเตือนพวกคุรุรุกิเสียแล้ว
แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่า ในตอนนี้นอกจากผู้ที่มีINTถึง300หน่วยที่จะมีเวทธาตุไฟเพิ่มเข้ามา นักเวทย์คนอื่นๆก็มีเวทย์อยู่เพียงบทเดียวเท่านั้น ซึ่งเวทย์มนต์แทบทุกชนิดแม้จะรุนแรงแต่ก็มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่ยาวนาน หากพวกนักดาบหลบมันได้หรือความรุนแรงของเวทย์มนต์เหล่านั้นไม่สามารถฆ่าพวกเขาในครั้งเดียวได้ นักเวทย์ที่ต้องรอคูลดาวน์นานถึง30วินาที ก็เป็นเหมือนขนม
กีอัสจำได้ว่า ในบรรดาสี่คนที่ตายไปนั้น มีคนหนึ่งที่เขาไม่สามารถมองเห็นเลเวลของมันได้ มันมีเลเวลสูงกว่าเขา ซึ่งก็น่าจะมีเลเวล10 และคนอื่นๆมีเลเวลเท่ากับเขา ในความเป็นจริง การจะมีเลเวล10นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเขาไม่เสียเวลาเกือบ40ชั่วโมง ตายไป2ครั้ง ป่านนี้เขาก็คงเกือบจะเลเวล11ไปแล้ว
เขาเปิดดูเวลาปัจจุบัน ตอนนี้เป็นเวลา17.25นาฬิกา เขานับเวลาเผื่อไปอีก15ชั่วโมงกว่าๆ และตั้งเตือนที่เวลา9.00นาฬากา ของวันต่อไป เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะต้องไปดักรอเพื่อที่จะสังหารไอ้คนที่เลเวล10นั่นอีกครั้งเพื่อที่จะทำภารกิจ ‘ฆ่าซ้ำซ้อน’ จากอดีตขุนนางให้สำเร็จ