UWG#071 การตื่นขึ้นของสัตว์อสูรระดับEPIC
“พวกเราทำได้ยอดเยี่ยมมาก”คุรุรุกิกล่าวหลังจากถูกส่งกลับออกมาหน้าดันเจี้ยน ในตอนนี้ไม่มีประตูมิติทางเข้าสู่ดันเจี้ยนเหมือนตอนแรกที่พวกเขามาถึง
ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาคือกลุ่มที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้สำเร็จ ในตอนนี้มีผู้เล่นอยู่บริเวณนี้ไม่น้อยเลย พวกเขาต่างมองมาที่สมาชิกของทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ด้วยความอิจฉา
ทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์จะต้องกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี แม้ที่แห่งนี้จะเป็นดันเจี้ยนระดับCommon(ธรรมดา)ที่เลเวลไม่สูงมากนัก และมีแค่ผู้เล่นที่อยู่ใน2-3เมืองใกล้ๆเท่านั้นที่มาเข้าร่วม แต่ถึงระดับและเลเวลของดันเจี้ยนจะไม่ได้สูง แต่การที่จะเป็นทีมที่เคลียร์ดันเจียนได้สำเร็จนั้นก็ไม่ได้ง่ายดายนัก แม้นี่จะเป็นดันเจี้ยนเล็กๆ แต่ก็มีกลุ่มผู้เล่นมาร่วมผจญภัยกันเกือบ100ทีม
“จะได้กลับไปหากีอัสเสียที ชั้นอยากรู้จังว่าอาชีพใหม่ของเขาเป็นอย่างไร”ยูอิกล่าว
“หึ ทีแรกไม่เคยคิดจะเหลียวมอง พอกีอัสได้อาชีพใหม่เข้าหน่อย เธอก็รีบตามจีบเขาในทันทีเลยนะ” คิริฮาระพูดยั่วโมโห
ปึก! อึกก..!
เหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ข้อศอกของยูอิกระแทกไปที่ซี่โครงของคิริฮาระในทันที
“โปรดระวังปากด้วยค่ะ” ยูอิกล่าวเสียงเข้ม
แม้คิริฮาระจะตัวสูงถึง180กว่าๆ แต่หญิงสาวตัวน้อยอย่างยูอิที่สูงเพียงแค่150เศษๆอย่างเธอไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวเขาเลย
“นั้นสิค่ะ ตอนนี้กีอัสเป็นไงบ้างน๊า?” ยูเฟเรียเองก็พูดขึ้นมา
“เขาต้องได้รับอาชีพดาร์คไนท์(นักรบรัตติกาล)มาอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง เราแค่ลุ้นว่าเขาจะทำภารกิจที่ทำได้สำเร็จได้เพียงครั้งเดียวในเกมอันนั้นได้สำเร็จหรือป่าว”คุรุรุกิกล่าว
“เราเดินทางกลับกันได้แล้ว กีอัสคงจะรอพวกเราอยู่ที่เมืองอย่างแน่นอน” เมื่อกล่าวจบ คุรุรุกิก็พาทีมของเขากลับเมือง พร้อมกับชัยชนะที่น่าภาคภูมิใจ
…
ในที่รกร้างกล่างป่าแห่งหนึ่ง ที่แห่งนั้นอยู่ห่างจากเมืองดาวห้าแฉกที่หนึ่งไปไม่ไกลนัก บริเวณนั้นมีสิ่งกีดขวางค่อนข้องมาก และมีมอนสเตอร์อยู่น้อย จึงไม่ค่อยเป็นสถานที่ที่นิยมซักเท่าไรสำหรับเหล่าผู้เล่น
หนุ่มน้อยตัวสูง170เศษๆ เปิดเมนูช่องเก็บของและยกหีบสมบัติขนาดใหญ่ออกมา เขาค่อยๆวางมันลงกับพื้น หีบสมบัติใบนั้นเป็นไอเท็มเจาะจงผู้เล่น มีผู้เล่นในเกมเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มันได้ และเขาผู้นั้นก็คือ…
กีอัส!
หีบสมบัติใบนั้นมีขนาดมีขนาดยาวประมาณ3ฟุตเศษ กว้างประมาณ1ฟุตครึ่ง สูงเกือบ2ฟุต และหากสังเกตมันดูดีดีแล้ว เหมือนว่าหีบสมบัติใบนั้นมันกำลังหายใจอยู่
ก๊อก! ก๊อก!
“เฮ้.. ตื่นซักทีสิ ตื่น…” กีอัสพูดพร้อมกับเอามือเคาะที่หีบใบนั้น
คร้อก! คร้อก!
แม้จะเป็นเสียงเบาๆ แต่คนที่อยู่ใกล้ๆก็คงได้ยินมันอย่างชัดเจน มันคือเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของเสียงได้หลับไหลอย่างมีความสุข
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
กีอัสเคาะทีฝาหีบด้วยความรุนแรงที่มากขึ้น
“เห้ย… ตื่น!! ตื่นสิว่ะ!!”
นี่เป็นเวลากว่า3นาทีแล้วที่กีอัสพยายามปลุกดาร์คมิมิค(หีบปีศาจ)ขี้เซาของเขา
“แกนี่มันน่านัก อย่าหาว่าชั้นโหดร้ายเลย ชั้นแค่ไม่อยากเสียเวลากับแกไม่มากกว่านี้แล้ว” กีอัสพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว
เขาหยิบดาบระดับUncommon(ไม่ธรรมดา) เลเวล9 เล่มใหม่ที่พึ่งซื้อมาสดๆร้อนๆออกมาจากช่องเก็บของ
“การจู่โจมอันหนักหน่วง ขั้นที่2 ย๊าก!!” กีอัสคำราม และใช้ดาบเล่มใหม่ของเขาฟาดไปยังหีบใบนั้น
ความรุนแรงในการโจมตีของเขาถูกเสริมด้วยทักษะ ‘การจู่โจมอันหนักหน่วง’ ทำให้พลังโจมตีของมันเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเลย น่าเสียดายที่ในตอนนี้เขามีอาชีพเป็นดาร์คไนค์(นักรบรัตติกาล)แล้ว ทำให้ไม่ได้รับคุณสมบัติพิเศษเฉพาะอาชีพของนักดาบ ที่ทำให้มันมีโอกาสโจมตีได้รุนแรงมาขึ้นและทำให้ศัตรูเกิดการชะงักเล็กน้อย
เพล้ง!
หัวใจแทบล้มเหลวฉับพลัน!
ตัวดาบในมือแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นี่มันดาบเล่มสุดท้ายของเขาเลยนะ
“แก… ไอหีบบัดซบนี่!”
นอกจากดาบเล่มใหม่ที่มีมูลค่าเกือบ10เหรียญทองของเขาจะแตกเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว ก็ดูเหมือนว่าหีบสมบัตินั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย และยังไร้ซึ่งรอยขีดขวดใดใดบนฝาหีบทั้งๆที่เขาฟาดฟันลงไปอย่างรุนแรง
“ได้เลย ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่สำเร็จ ใช้ไม้แข็งก็ไม่สำเร็จ แกต้องพบกับความโหดร้ายที่สุดในชีวิต” ว่าแล้วกีอัสก็แบกหีบใบนั้นขึ้นบนบ่า
แม้แต่ในเวลานี้เอง หีบปีศาจใบนั้นก็ยังส่งเสียงกรนออกมาเบาๆ มันทำให้กีอัสหงุดหงิดไม่น้อย
กีอัสแบกหีบใบนั้นเดินมาไม่ไกล ในที่สุดเขาก็มาถึงแม่น้ำเล็กๆสายหนึ่ง แล้วเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็คงรู้ว่าเขาจะทำอะไร
ตูม!!
กีอัสโยนหีบสมบัติลงไปในแม่น้ำอย่างไม่ลังเล เขามันใจว่าด้วยน้ำหนักที่มากถึง40กิโลกรัมของมัน มันจะต้องจมลงไปในน้ำอย่างแน่นอน
บ๋อม บ๋อม!
ในชั่วอึดใจก็มีฟองอากาสลอยขึ้นมาบนผิวน้ำหลังจากที่หีบใบน้ำจมลงไปได้ไม่นาน
อะ คร็อก อ็อก!
โชคดีที่แม่น้ำแห่งนี้ไม่ได้ลึกซักเท่าไร หีบใบนั้นสำลักน้ำออกมาทางปาก มันอ่าปากหีบออกมา ยื่นลิ้นอันหนาและยาวเหยียดออกมาจากปากหีบเพื่อดันร่างของมันให้สูงขึ้นจากพื้นเพื่อที่จะให้ปากหีบอยู่เหนือผิวน้ำอย่างทุลักทุเล
มันอยู่ในสภาพเดียวกับคนกำลังจมน้ำเลย ช่างน่าสงสาร
แม้กีอัสจะหมันไส้ในความขี้เซาของหีบปีศาจอยู่มาก แต่กีอัสที่อดสงสารมันไม่ได้ เขาจึงค่อยๆยกมันขึ้นมาและวางมันลงบนพื้นดินข้างๆแม่น้ำ
“ใครเขาสั่งสอนให้เจ้าปลุกสัตว์อสูรของตนเองแบบนี้กัน ช่างไร้มารยาทที่สุด พ่อแม่ของเจ้าไม่เคยสั่งไม่เคยสอ…”
ตูม!!
เขาก็ประหลาดใจอยู่หรอกที่มันพูดได้ และก็สงสารที่มันจมน้ำอยู่ไม่น้อย แต่การที่มันมาว่าพ่อแม่ของเขาแบบนี้ ทำให้กีอัสอดใจไม่ได้ที่จะถีบมันกลับลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง
อ็อก อค็อก!
หีบปีศาจสำลักน้ำอย่างน่าเวทนา แม้มันจะพยายามใช้ลิ้นของมันดันพื้นขึ้นมา แต่มันก็ยังไม่สามารถทำให้ปากหีบของมันสูงกว่าผิวน้ำได้ ช่างเป็นการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดที่น่าหดหู่ยิ่งนัก
กีอัสปล่อยให้มันจมน้ำอยู่2-3อึดใจ ก่อนที่จะจับฝาหีบยกขึ้นเล็กน้อยให้ปากของมันอยู่เหนือน้ำขึ้นมา
“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ?”กีอัสถาม
“เจ้ามันคนไร้มายาท ต่ำทรา….” ทันทีที่ปากของหีบปีศาจลอยพ้นน้ำขึ้นมา มันก็ตอบคำตามของกีอัสในทันที
ตูม! เมื่อได้ฟังคำตอบเขาก็ปล่อยมือออก ปล่อยให้หีบจมลงไปในน้ำเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะยกมันขึ้นมาอีกครั้งหลังเวลาผ่านไป2-3อึดใจ
“แกพูดว่าอะไรนะ?” กีอัสถามอีกครั้ง
“ขอบคุณท่านผู้ช่วยชีวิต หีบใบนี้จะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย” หีบปีศาจกล่าวด้วยถ้อยคำประจบประแจง ไม่มีส่วนใดที่ให้ความรู้สึกจริงใจเลยแม้แต่น้อย
“ฮ่าๆ แกรู้เอาไว้ก็ดี” จากนั้นเขาก็ยกมันขึ้นมาวางบนพื้นดิน
“กว่าชั้นจะปลุกให้แกตื่นได้ รู้มั้ยชั้นเสียเวลาล่าสัตว์อสูรไปมากแค่ไหน”
“นั่นมันเรื่องของเจ้า ไอ้มนุษย์สวะๆอย่างเจ้าไม่คู่ควรที่จะปลุกหีบปีศาจผู้ทรงพลังอย่างข้าขึ้นมาด้วยซ้ำ เจ้ามันคนต่ำทราม ไร้มารยาท ไม่รู้จักกาลเทศะ…”
นั่นคือถอยคำที่หีบปีศาจทำได้เพียงแค่คิด มันต้องใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีในการห้ามปากของมันเอาไว้ มันรู้ดีว่าหากมันพูดออกไปแบบนั้นอะไรจะเกิดขึ้น
“ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าก็อายุมากและหลับไหลมานานแสนนานแล้ว หวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธข้า”
“แน่นอน ชั้นไม่โกรธอะไรแกหรอก ตราบใดที่หีบอย่างแกเชื่อฟังคำสั่ง ชั้นก็จะไม่ทำให้แกจมน้ำอีก”
…