UWG#070 รางวัลที่สมควรได้รับ
“แย่หล่ะสิ!” เมื่อได้พบกับทีมปราการมหาอาคม คุรุรุกิก็อุทานออกมา
ไม่นานก่อนหน้านี้ พวกเขาพึ่งจะพ่ายแพ้ให้กับพวกยูซาคุมา แล้วในตอนนี้พวกเขายังต้องมาพบกับพวกยูซาคุอีก
ยังโชคดีที่ครั้งก่อนเกิดการต่อสู้ในลาดประลองอารีน่า ทำให้พวกเขาไม่สูญเสียเลเวลไป แต่การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นในดันเจี้ยน หากผู้เล่นตายจะสูญเสียเลเวลไป1เลเวล และหมดสติไปอีกสิบกว่าชั่วโมง
ทีมของพวกเขาช่างเป็นความโชคร้ายอะไรเช่นนี้!
“หึ พวกแกอีกแล้วเหรอ! ครั้งที่แล้วยังไม่หลายจำหรือยังไง?” ยูซาคุตะโกนถามเป็นเชิงหาเรื่อง เขาไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อน ด้วยการผสานพลังชีวิตที่สูงที่สุดในเกมของเขากับพลังโจมตีเวทย์มนต์ที่สูงที่สุดในเกมของยูมิโกะเข้าด้วยกัน เขาไม่เคยคิดจะหวั่งเกรงต่อผู้เล่นกลุ่มใด และในตอนนี้พวกเขายังมีสมาชิกเก่งๆอีก5คนอยู่ในทีมด้วย การที่ทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์บุกเขามาแบบนี้ก็เหมือนเอาชีวิตมาทิ้ง พวกนั้นไม่ต่างอะไรกับมดปลอกในสายตาของเขาเลย
เขาจะใช้ทักษะพรสวรรค์ ‘ปราการพันธมิตร’ คอยปกป้องยูมิโกะอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีโอกาสที่ใครจะมาลอบสังหารยูมิโกะที่มีพลังชีวิต25หน่วยได้ พวกเขาจะใช้พลังชีวิตร่วมกันที่3000กว่าหน่วยอยู่ตลอดเวลา
แม้ในตอนแรก ขณะที่ยูซาคุใช้ทักษะพรสวรรค์เขาจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ แต่หลังจากที่เขาใช้มันมาซักระยะหนึ่ง ระดับของมันก็เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เขาสามารถใช้มันคุ้มครองยูมิโกะได้ทั้งๆที่เคลื่อนที่อยู่
หัวสมองของคุรุรุกิเต็มไปด้วยความกังวล เขาไม่รู้เลยว่าควรจะจัดการกับปัญหาตรงหน้าอย่างไร ทีมของเขาจะต้องถูกกวาดล้างด้วยเวทย์มนต์บ้าๆนั้นอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?
แต่ทันใดนั้นเอง กรงศักดิ์สิทธิ์สีทองก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของยูมิโกะ ทำให้เธอขยับไม่ได้ชั่วครู่ก่อนที่มันจะเปล่งแสงสีทองเข้ามาภายในและทำให้ร่างของเธอถูกแสงกลืนหายไป พร้อมกับความเสียหายธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
4876!
จู่ๆเข่าของยูซาคุก็ทรุดลงบนพื่น ร่างของเขาล้มลงราวกับไร้วิญญาณ พลังชีวิต3000กว่าหน่วยของเขากลายเป็นศูนย์ในชั่วพริบตา
สมาชิกอีกห้าคนจากทีมปราการมหาอาคมต่างงุนงงอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า พวกเขารู้ดีว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเขา คือศัตรูที่ยูซาคุและยูมิโกะสังหารหมู่ไปเมื่อไม่นานมานี้ ในตอนนั้นยูซาคุยังสั่งให้พวกเขาไม่รับเดิมพันจากเหล่าผู้ชมการต่อสู้อยู่เลย
ไม่เว้นแม้แต่สมาชิกในทีมวิหกศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้!
“ไปกล่าววาจาสบประมาททีมของคนอื่นต่อในนรกเถอะ!!!” ยูเฟเรียพูดขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเธออย่างงั้นหรอ?!
อีก10คนที่อยู่ในถ้ำต่างตกตะลึง ผู้หญิงเลเวล4คนเดียว สามารถเก็บผู้เล่นเลเวล10สองคนไปได้ในชั่วพริบตา นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
แม้ว่าทีมของยูซาคุอีก5คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะยังไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ทีมของคุรุรุกิก็เริ่มปะติปะต่อเรื่องขึ้นมาได้บ้างแล้ว ทั้งหมดนี่คือทักษะพรสวรค์ของเธอ
ทักษะพรสวรรค์ สวรรค์ลงทัณฑ์ : เรียกกรงศักดิ์สิทธ์ลงมากักขังศัตรูชั่วครู่ สร้างความเสียหายเท่ากับความเสียหายทั้งหมดที่ผู้เล่นคนนั่นสร้างขึ้นในระยะเวลา10วินาทีก่อนจะถูกขัง
ยูเฟเรียใช้ทักษะนี้ใส่ยูมิโกะ?!
เธอรู้ได้อย่างไรว่ายูมิโกะสร้างความเสียหายไปเท่าไหรแล้ว หรือว่าเธอแค่ลองเสี่ยงดวงเอา?!
แม้จะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว แต่สมาชิกทั้ง5คนจากทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่เข้าใจความคิดของยูเฟเรีย
จริงๆแล้ว ยูเฟเรียได้สังเกตว่า บนไหลของบอสมิโนทอร์มีร่องรอยการถูกจู่โจมด้วยเวทย์มนต์ที่ยังใหม่อยู่ และคนที่ใช้เวทมนต์ในทีมปราการมหาอาคมก็ดูเหมือนจะมีแต่ยูมิโกะ เธอจึงใช้ทักษะพรสวรรค์ ‘สวรรค์ลงทัณฑ์’ ใส่ยูมิโกะโดยไม่ลังเล
แต่เธอก็ไม่อยากจะเชื่อว่า ความเสียหายที่ยูมิโกะสร้างขึ้นกับบอสในเวลา10วินาทีที่ผ่านมาจะสูงเกือบ5000หน่วยเช่นนี้ เวทย์มนต์ของยูมิโกะรุนแรงเกิดไปแล้ว
สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
และบอสมิโนทอร์เองก็กำลังจะจู่โจมใส่เหล่าสมาชิกของทีมปราการมหาอาคม
ปัง!
ขวานยักษ์ฟาดลงมาบนพื้นดิน ทำให้สมาชิกทั้งห้าของทีมปราการมหาอาคมต้องกระโดดหลบแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง
“บุกเข้าไป ฮิโนกิพุ่งเข้าไปสังหารนักบวชทั้งสองคนนั้นก่อน คิริฮาระตรงไปจัดการนักธนู คุรุรุกิและชินอิจิโร่จัดการกับนักดาบและนักฆ่า ยูอิสนับสนุนคุรุรุกิด้วย” ยูเฟเรียสั่งการ
ด้วยการจู่โจมจากบอสมิโนทอร์ ทำให้แต่ละคนกระจายกันไปคนละทิศละทาง ยูเฟเรียจึงใช้แผนต่อสู้โดยใช้อาชีพที่ได้เปรียบเข้าจัดการกับอาชีพที่เสียเปรียบเป็นคู่ๆ
ฉึก! ฉึก! ฟับ! ฟับ!
ยังไม่ทันไร นักบวชที่หลบการโจมตีจาบอสมิโนทอมาทางฮิโนกิ ก็ถูกฮิโนกิเก็บไปแล้วหนึ่ง เธอกำลังพุ่งไปจัดการกับนักบวชอีกคนที่เหลือ และก็ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่นักบวชคนนั้นจะหนีรอดจากเงื้อมมือของนักฆ่าสาวคนนี้ได้
คิริฮะระก็เข้าชนในระยะประชิดกับนักธนูคนหนึ่ง ด้วยการที่สมาชิกคนอื่นๆแตกกระจายไปอยู่คนละทิศละทาง นักธนูคนนั้นก็ไม่สามารถที่จะทิ้งระยะห่างจากคิริฮาระได้ แม้เขาจะใช้คันธนูรับดาบได้อยู่หลายครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็ถูกคิริฮาระจัดการ
คุรุรุกิทะยานไปกลางอากาศ ด้วยการใช้ทักษะโจมตีของเขาเพียงครั้งเดียวสามารถปลิดชีพนักฆ่าคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย นักดาบอีกคนก็เสียพลังชีวิตไปไม่น้อย และเมื่อเวทย์สายฟ้าฟาดผ่าลงมา นักดาบคนนั้นก็ตายตามนักฆ่าไป
สมาชิกอีก5คนที่เหลือของทีมปราการมหาอาคมถูกพวกคุรุรุกิจัดการโดยใช้เวลาไม่ถึง3นาที ต้องขอบคุณบอสมิโนทอร์และความสามารถของยูเฟเรีย
แม้ว่าชัยชนะในครั้งนี้ของพวกเขาจะต้องพึ่งปัจจัยไม่แน่นอนหลายๆอย่าง แต่มันก็ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ “จัดรูปแบบเป็นรูป3เหรียมโดยมีบอสมิโนทอร์เป็นจุดศูนย์กลาง ให้คุรุรุกิ คิริฮาระ ฮิโนกิ เป็นมุมทั้งสามของสามเหลี่ยม หากบอสมิโนทอร์หันหน้าไปทางใคร ให้คนนั้นถอยออกมา และให้อีกสองคนโจมตีเข้าไปจากด้านหลัง ส่วนชินอิจิโร่ใช้เวทย์โจมตีสร้างความเสียหายอีกแรง” ยูเฟเรียสังการต่อ
คุรุรุกิ คิริฮาระ ฮิโนกิ พุ่งเข้าไปอยู่รอบตัวของบอสมิโนทอร์ และทำตามแผนการณ์ของยูเฟเรีย
พวกเขาเกือบจะทำให้บอสมิโนทอร์ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้พวกเขาได้เลย บอสมิโนทอร์ได้แต่เดินไปทางหนึ่ง และวกกลับไปอีกทางหนึ่ง
ดูเหมือนว่าบอสมิโนทอร์จะอ่อนล้าจากการต่อสู้กับพวกยูซาคุมาก่อนแล้วด้วย มันคงจะเหลือพลังชีวิตอยู่ประมาณ30%ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาบุกเข้ามาแล้ว
เพียง20กว่านาที บอสมิโนทอร์ก็ถูกพวกเขารุมสังหาร
[ทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ได้พิชิตดันเจี้ยนแห่งนี้แล้ว อีก180วินาที ทุกคนในดันเจี้ยนจะถูกส่งไปภายนอก]
เสียงประกาศจะระบบส่งตรงไปถึงหูของทุกคนที่อยู่ในดันเจี้ยน
[ทีมของท่านสามารถพิชิตดันเจี้ยนได้ และได้รับลูกมิโนทอร์เป็นรางวัล]
เมื่อสิ้นเสียงประกาศ ร่างอันใหญ่โตของบอสมิโนทอร์ก็หดเหลือเพียง1ใน10 กลายเป็นมิโนทอร์ตัวน้อยน่ารัก กับเงินทองอีกหลายร้อยเหรียญทอง
จากการสังหารพวกยูซาคุ พวกคุรุรุกิได้รับไอเท็มระดับRare(หายาก)มาอีกหนึ่งชิ้น พร้อมกับเงินอีกพันกว่าเหรียญทอง ถึงมันจะมีมูลค่ารวมแล้วน้อยว่าที่พวกเขาเสียให้กับพวกคุรุรุกิไปในครั้งก่อน แต่มันก็ถือว่าน่าพอใจ
น่าเสียดายที่มีลูกมิโนทอร์เป็นรางวัลให้เพียงตัวเดียว แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจดีว่า ใครคือผู้ที่สมควรจะได้มันไป
หากมิใช่เพราะยูเฟเรียล่ะก็ คงเป็นพวกเขาต่างหากที่จะถูกสังหารยกทีม
“ชั้นว่านี่คือของรางวัลที่ควรเป็นของเธอ” ในฐานะที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม คุรุรุกิเดินไปอุ้มลูกมิโนทอร์ตัวน้อยไปมอบให้ยูเฟเรีย
สมาชิกคนอื่นๆก็คิดเช่นเดียวกับเขา รางวัลชิ้นนี้คือสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับ
“คะ… ขอบคุณค่ะบอส” ยูเฟเรียอ้ำอึงอยู่เล็กน้อยก่อนจะกล่าวออกมา
จากนั้นไม่นาน ทีมของพวกเขาก็ถูกส่งออกไปจากดันเจี้ยน…