ตอนที่ 6 -- เทเลพอร์ต
ตอนที่ 6 ------ เทเลพอร์ต
-เข้าฌาณ
ด้วยการเพิ่งสมาธิ ทำให้ผลของการฟื้นฟูพลังเวทย์เพิ่มขึ้น
คุณต้องกระจายพลังเวทย์ไปทั่วร่างผ่านเส้นมนตรา โดยต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะพลังอาจจะหายไปหากผิดพลาด
มันต้องใช้เวลาในการฝึกอยู่หลายปีกว่าคนๆนั้นจะสามารถเข้าฌาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“...ตื่น~?....ฟ?”
”
“....”
”
“เซฟ~!!”
”
“คร๊าบ~! ขอโทษครับ แม่~!”
”
บางทีวันนี้แม่อาจจะทำสายตาดุๆใส่ผมอีกก็ได้
แม่น่าจะเป็นห่วงผมมากตั้งแต่ที่ผมกลับบ้านดึก เธอเทศนาผมชุดใหญ่เลยทีเดียว
เทศน์ไม่ยอมหยุดเกือบสองชั่วโมง (ผมก็เลยเข้าฌาณในตอนที่เธอบ่น) เพราะแบบนั้นก็เลยฟื้นพลังเวทย์ขึ้นมาได้จำนวนมาก
หลังจากกินอาหารที่เย็นชืดแล้วผมก็กลับห้อง ผมนึกขึ้นมาได้ว่าต้องตรวจสอบพัฒนาการของตัวเองด้วยสเกาท์สโคป จึงนั่งลงบนเตียง
เซฟ ไอน์สไตน์
เลเวล 7
เวทย์ [สีแดง] เลเวล : 6/62
เวทย์ [สีน้ำเงิน] เลเวล : 6/87
เวทย์ [สีเขียว] เลเวล : 9/99
เวทย์ [ท้องฟ้า] เลเวล : 8/89
เวทย์ [วิญญาณ] เลเวล : 0/97
ว้าว ความสามารถของสเกาท์สโคปเพิ่มขึ้น
ผมว่าผมคงต้องใช้มันบ่อยๆซะแล้ว
เวทย์มนต์วิญญาณยังคงมีเลเวล 0 อยู่ แต่มันจะเปลี่ยนไปหลังจากผมได้รางวัลจากหัวหน้ากองคาราวาน ก่อนออกไปฝึกในวันพรุ่งนี้
สำหรับตอนนี้ก็คงดีแล้ว
ผมล้มตัวลงนอนในขณะที่คิดถึงหลังเลิกเรียนวันพรุ่งนี้ แล้วผลอยหลับไป
หลังเลิกเรียน ผมเข้าไปในโรงแรมที่กองคาราวานพักอยู่
หลังจากเรียกคนดูแลโรงแรม เด็กสาวผมบ็อบสีดำก็ออกมาต้อนรับ
“กำลังรออยู่เลยค่ะ”
”
หลังจากที่เด็กสาวนำทางไป ผมก็ได้มาเจอกับหัวหน้ากองก่อนหน้านี้
“โอ้~! ท่านมาแล้ว! เชิญ เซฟโดโน! เชิญ!”
”
นั่นคงจะเป็นนิสัยแย่ๆของเขาที่ชอบพูด เชิญตลอดเวลา
เขาคงจะคิดว่ามันดีที่พูดแบบนั้น แต่มันเป็นนิสัยเสียในสายตาของผม, ผมหวังว่าเขาจะเปลี่ยนความคิดได้เร็วๆนี้
“ดีจริงๆที่ได้เจอคุณ แล้วคุณมีอะไรมาเสนอผมบ้าง?”
”
“เอ้านี่คือของที่เราคัดเลือกแล้วให้แก่นักเวทย์เซฟโดโน เชิญเลือกไอเท็มเวทย์มนต์ที่ต้องการได้เลย, ของพวกนี้ เตรียมให้ท่านโดยเฉพาะ”
”
เด็กสาวตัวเล็กๆที่ยืนอยู่จนถึงตอนนี้ได้เปิดประตูให้ผม, ภายในห้องเต็มไปด้วยกองไอเท็มเวทย์มนต์กองใหญ่ ที่น่าจะเบียดเสียดกันในรถสัมภาระ
“ผมเอาทั้งหมดเลยก็ได้หรอ?”
”
“ท่านล้อข้าเล่นใช่ไหม? ต่อให้ท่าจะเอาทั้งหมด ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะขนของทั้งหมดกลับไป?”
”
คุณหัวเราะเพราะคิดว่าผมทำไม่ได้สินะ หรือเพราะมันเป็นมุขตลกจริงๆ?
เอาเถอะ มันก็จริงที่ไม่รู้จะเอากลับยังไง
“ผมล้อเล่นน่า แต่ยังไงก็ตามมาดูกันว่าคุณมีของอะไรบ้าง”
”
“แน่นอน”
”
เขาตอบกลับมาในขณะที่ลูบพุง เขาดูเป็นมิตรและใจกว้างดี
ยังไงก็ตาม ผมกระโดดเข้าไปในนั้นโดยไม่สงวนท่าทีเลย
ผมไล่ล่าผ่านกองไอเท็มเวทย์มนต์
สนุกจริงๆ ราวกับกำลังเปิดกล่องของเล่นที่ไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ทำให้ผมตื่นเต้นมาก
ผมไม่สนใจการใช้ม้วนคัมภีร์เวทย์ เพื่อที่จะเรียนรู้เวทย์ใหม่ๆ เพราะพวกมันใหญ่เทอะทะเกินไป
และแล้วผมก็เห็นเครื่องประดับราคาแพงที่มีพลังพิเศษจำนวนหนึ่ง
นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมต้องตรวจสอบ
ผมเจอแหวนกระดูที่มีรูปร่างคล้ายงูในกองไอเท็ม
-แหวนกระดูกงู
เวทย์วิญญาณต้องอาศัยอัญมณีเป็นส่อกลางในการร่าย
เวทย์มนต์ที่ทรงพลังมากๆต้องอาศัยสื่อกลางราคาแพง แต่ว่าแหวนกระดูกงูวงนี้มีพลังที่ทำให้สามารถใช้เวทย์พื้นฐานได้โดยไม่ต้องอาศัยสื่อกลาง
นี่คืออันแรก แล้วก็….
-ต้มหูเทเลพอร์ต
เครื่องประดับที่ทำให้สามารถใช้เวทย์มนต์พิเศษที่เรียกว่า ‘เทเลพอร์ต’ ซึ่งทำให้ผู้ใช้เคลื่อนย้ายไปยังที่ๆมองเห็นได้ในทันที
แต่มันต้องอาศัยสมาธิและพลังเวทย์จำนวนมาก มันจึงใช้ในการต่อสู้ได้ยาก
หลบการโจมตีของศัตรูแบบเส้นยาแดงผ่าแปด โดยการเทเลพอร์ตไปยังด้านหลังของศัตรู การทำงานประสานแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ประการแรก เวทย์นี้ถือเป็นหนึ่งในสี่เวทย์ที่ใช้ยาก
แต่มันก็เป็นเวทย์ที่สะดวกสบาย ที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย
แถมยังมีคนบอกว่า มันถือเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่สำคัญสำหรับนักเวทย์
หลังจากของชิ้นนี้ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ
เครื่องประดับที่สามารถนำไปขายได้ราคาสูงที่ผมเลือกก่อนหน้านี้
ผมรีบออกมาพร้อมกับไอเท็มที่เลือกเต็มเสื้ออย่างรวดเร็ว
แม้ว่าหัวหน้ากองคาราวานจะทำหน้างงเล็กน้อย ที่ผมรีบออกมา แต่ก็ไม่ได้หยุดผมไว้
อืม ผมเอาไอเท็มพวกนี้ ยังไงก็ดีกว่าปล่อยให้พวกโจรมันเอาไปใช่ไหมล่ะ?
เพราะงั้นผมถึงได้ไม่เกรงใจยังไงล่ะ
“ยังไงก็ตาม ขอบคุณมาก”
”
“เอ๋~…. อ่าครับ หากมีโอกาสก็แวะมาหาผมบ้าง”
”
ผมออกจากห้องในขณะที่เหลือบมองไปที่หัวหน้ากองคาราวาน ถ้าผมมองไปที่กระจกก็คงจะเห็นสีหน้าเหนื่อยๆของตัวเองก็ได้
เมื่อผมออกมา เด็กสาวคนเดิมก็นำผมตรงไปยังทางออก แต่จู่ๆเธอก็หันกลับมาแล้วโค้งคำนับให้ผม
“มีอะไรหรอ?”
”
“โอนี่จัง ขอบคุณมากที่แก้แค้นให้พี่สาวหนูค่ะ”
”
“โอ้…. ไม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น, ผมทำเพื่อตัวเอง”
”
“พวกเราเป็นทาสของเขา แม้ว่าในวันข้างหน้าพวกเราทั้งคู่จะได้เป็นอิสระก็ตาม”
”
ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะโตเกินวัย เธอมีสีหน้าที่เหงาหงอย
บางทีเธอคงดิ้นรนมาตลอด
แต่ตอนนี้เธอดูเด็กมากจริงๆ
ผมจับมือเธอไว้ แล้วหยิบเครื่องประดับชิ้นหนึ่งออกมาจากเสื้อ แล้ววางไว้ในมือของเธอ
“นี่จะช่วยให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นเมื่อเธอได้รับอิสระในสักวันหนึ่ง ค่อยนำมันมาคืนผมก็ได้”
”
แม้ว่ามันจะทำให้ผมปวดใจเล็กน้อย แต่ทาสหนึ่งคนมีค่ามากกว่าเครื่องประดับหนึ่งชิ้น
ผมจับมือเธอให้กำมันเอาไว้ ซึ่งเธอก็รับมันแล้วยกขึ้นมาตรงหน้า
“...จะดีหรอคะ?”
”
“สมบัติสีขาว?”
”
ผมเดินออกมาในขณะที่เด็กสาวคนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ลงท้ายผมก็ได้ของน้อยกว่าที่เล็งไว้
เอาเถอะ ถ้าเป็นผม ผมก็สามารถหาของได้มากขนาดนี้ได้อยู่ดี
วันนี้ไม่มีเวลาพอที่จะไปที่อื่นอีกแล้ว ผมจึงทำได้เพียงกลับไปนอนที่บ้าน
ผมสามารถมองเห็นบ้านได้จากบนภูเขา เพราะงั้นผมก็เลยใช้เทเลพอร์ต
แล้วผมก็มาถึงบ้านในทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้เวทย์นี้ หลังจากไม่ได้ใช้มานาน แต่มันก็เป็นเวทย์ที่มีประโยชน์จริงๆ
มันสามารถเอาไปใช้ได้หลายอย่าง
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/