ตอนที่แล้วตอนที่ 5 -- มหาเวทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 ------ รถไฟ

ตอนที่ 6 -- เทเลพอร์ต


ตอนที่ 6 ------ เทเลพอร์ต

 

-เข้าฌาณ

ด้วยการเพิ่งสมาธิ ทำให้ผลของการฟื้นฟูพลังเวทย์เพิ่มขึ้น

 

คุณต้องกระจายพลังเวทย์ไปทั่วร่างผ่านเส้นมนตรา โดยต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะพลังอาจจะหายไปหากผิดพลาด

 

มันต้องใช้เวลาในการฝึกอยู่หลายปีกว่าคนๆนั้นจะสามารถเข้าฌาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

“...ตื่น~?....ฟ?”

 

“....”

 

“เซฟ~!!”

 

“คร๊าบ~! ขอโทษครับ แม่~!”

 

บางทีวันนี้แม่อาจจะทำสายตาดุๆใส่ผมอีกก็ได้

 

แม่น่าจะเป็นห่วงผมมากตั้งแต่ที่ผมกลับบ้านดึก เธอเทศนาผมชุดใหญ่เลยทีเดียว

 

เทศน์ไม่ยอมหยุดเกือบสองชั่วโมง (ผมก็เลยเข้าฌาณในตอนที่เธอบ่น) เพราะแบบนั้นก็เลยฟื้นพลังเวทย์ขึ้นมาได้จำนวนมาก

 

หลังจากกินอาหารที่เย็นชืดแล้วผมก็กลับห้อง ผมนึกขึ้นมาได้ว่าต้องตรวจสอบพัฒนาการของตัวเองด้วยสเกาท์สโคป จึงนั่งลงบนเตียง

 

เซฟ ไอน์สไตน์

 

เลเวล 7

 

เวทย์ [สีแดง] เลเวล : 6/62

 

เวทย์ [สีน้ำเงิน] เลเวล : 6/87

 

เวทย์ [สีเขียว] เลเวล : 9/99

 

เวทย์ [ท้องฟ้า] เลเวล : 8/89

 

เวทย์ [วิญญาณ] เลเวล : 0/97

 

ว้าว ความสามารถของสเกาท์สโคปเพิ่มขึ้น

 

ผมว่าผมคงต้องใช้มันบ่อยๆซะแล้ว

 

เวทย์มนต์วิญญาณยังคงมีเลเวล 0 อยู่ แต่มันจะเปลี่ยนไปหลังจากผมได้รางวัลจากหัวหน้ากองคาราวาน ก่อนออกไปฝึกในวันพรุ่งนี้

 

สำหรับตอนนี้ก็คงดีแล้ว

 

ผมล้มตัวลงนอนในขณะที่คิดถึงหลังเลิกเรียนวันพรุ่งนี้ แล้วผลอยหลับไป

 

หลังเลิกเรียน ผมเข้าไปในโรงแรมที่กองคาราวานพักอยู่

 

หลังจากเรียกคนดูแลโรงแรม เด็กสาวผมบ็อบสีดำก็ออกมาต้อนรับ

 

“กำลังรออยู่เลยค่ะ”

 

หลังจากที่เด็กสาวนำทางไป ผมก็ได้มาเจอกับหัวหน้ากองก่อนหน้านี้

 

“โอ้~! ท่านมาแล้ว! เชิญ เซฟโดโน! เชิญ!”

 

นั่นคงจะเป็นนิสัยแย่ๆของเขาที่ชอบพูด เชิญตลอดเวลา

 

เขาคงจะคิดว่ามันดีที่พูดแบบนั้น แต่มันเป็นนิสัยเสียในสายตาของผม, ผมหวังว่าเขาจะเปลี่ยนความคิดได้เร็วๆนี้

 

“ดีจริงๆที่ได้เจอคุณ แล้วคุณมีอะไรมาเสนอผมบ้าง?”

 

“เอ้านี่คือของที่เราคัดเลือกแล้วให้แก่นักเวทย์เซฟโดโน เชิญเลือกไอเท็มเวทย์มนต์ที่ต้องการได้เลย, ของพวกนี้ เตรียมให้ท่านโดยเฉพาะ”

 

เด็กสาวตัวเล็กๆที่ยืนอยู่จนถึงตอนนี้ได้เปิดประตูให้ผม, ภายในห้องเต็มไปด้วยกองไอเท็มเวทย์มนต์กองใหญ่ ที่น่าจะเบียดเสียดกันในรถสัมภาระ

 

“ผมเอาทั้งหมดเลยก็ได้หรอ?”

 

“ท่านล้อข้าเล่นใช่ไหม? ต่อให้ท่าจะเอาทั้งหมด ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะขนของทั้งหมดกลับไป?”

 

คุณหัวเราะเพราะคิดว่าผมทำไม่ได้สินะ หรือเพราะมันเป็นมุขตลกจริงๆ?

 

เอาเถอะ มันก็จริงที่ไม่รู้จะเอากลับยังไง

 

“ผมล้อเล่นน่า แต่ยังไงก็ตามมาดูกันว่าคุณมีของอะไรบ้าง”

 

“แน่นอน”

 

เขาตอบกลับมาในขณะที่ลูบพุง เขาดูเป็นมิตรและใจกว้างดี

 

ยังไงก็ตาม ผมกระโดดเข้าไปในนั้นโดยไม่สงวนท่าทีเลย

 

ผมไล่ล่าผ่านกองไอเท็มเวทย์มนต์

 

สนุกจริงๆ ราวกับกำลังเปิดกล่องของเล่นที่ไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ทำให้ผมตื่นเต้นมาก

 

ผมไม่สนใจการใช้ม้วนคัมภีร์เวทย์ เพื่อที่จะเรียนรู้เวทย์ใหม่ๆ เพราะพวกมันใหญ่เทอะทะเกินไป

 

และแล้วผมก็เห็นเครื่องประดับราคาแพงที่มีพลังพิเศษจำนวนหนึ่ง

 

นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมต้องตรวจสอบ

 

ผมเจอแหวนกระดูที่มีรูปร่างคล้ายงูในกองไอเท็ม

 

-แหวนกระดูกงู

 

เวทย์วิญญาณต้องอาศัยอัญมณีเป็นส่อกลางในการร่าย

 

เวทย์มนต์ที่ทรงพลังมากๆต้องอาศัยสื่อกลางราคาแพง แต่ว่าแหวนกระดูกงูวงนี้มีพลังที่ทำให้สามารถใช้เวทย์พื้นฐานได้โดยไม่ต้องอาศัยสื่อกลาง

 

นี่คืออันแรก แล้วก็….

 

-ต้มหูเทเลพอร์ต

 

เครื่องประดับที่ทำให้สามารถใช้เวทย์มนต์พิเศษที่เรียกว่า ‘เทเลพอร์ต’ ซึ่งทำให้ผู้ใช้เคลื่อนย้ายไปยังที่ๆมองเห็นได้ในทันที

 

แต่มันต้องอาศัยสมาธิและพลังเวทย์จำนวนมาก มันจึงใช้ในการต่อสู้ได้ยาก

 

หลบการโจมตีของศัตรูแบบเส้นยาแดงผ่าแปด โดยการเทเลพอร์ตไปยังด้านหลังของศัตรู การทำงานประสานแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

ประการแรก เวทย์นี้ถือเป็นหนึ่งในสี่เวทย์ที่ใช้ยาก

 

แต่มันก็เป็นเวทย์ที่สะดวกสบาย ที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย

 

แถมยังมีคนบอกว่า มันถือเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่สำคัญสำหรับนักเวทย์

 

หลังจากของชิ้นนี้ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ

 

เครื่องประดับที่สามารถนำไปขายได้ราคาสูงที่ผมเลือกก่อนหน้านี้

 

ผมรีบออกมาพร้อมกับไอเท็มที่เลือกเต็มเสื้ออย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่าหัวหน้ากองคาราวานจะทำหน้างงเล็กน้อย ที่ผมรีบออกมา แต่ก็ไม่ได้หยุดผมไว้

 

อืม ผมเอาไอเท็มพวกนี้ ยังไงก็ดีกว่าปล่อยให้พวกโจรมันเอาไปใช่ไหมล่ะ?

 

เพราะงั้นผมถึงได้ไม่เกรงใจยังไงล่ะ

 

“ยังไงก็ตาม ขอบคุณมาก”

 

“เอ๋~…. อ่าครับ หากมีโอกาสก็แวะมาหาผมบ้าง”

 

ผมออกจากห้องในขณะที่เหลือบมองไปที่หัวหน้ากองคาราวาน ถ้าผมมองไปที่กระจกก็คงจะเห็นสีหน้าเหนื่อยๆของตัวเองก็ได้

 

เมื่อผมออกมา เด็กสาวคนเดิมก็นำผมตรงไปยังทางออก แต่จู่ๆเธอก็หันกลับมาแล้วโค้งคำนับให้ผม

 

“มีอะไรหรอ?”

 

“โอนี่จัง ขอบคุณมากที่แก้แค้นให้พี่สาวหนูค่ะ”

 

“โอ้…. ไม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น, ผมทำเพื่อตัวเอง”

 

“พวกเราเป็นทาสของเขา แม้ว่าในวันข้างหน้าพวกเราทั้งคู่จะได้เป็นอิสระก็ตาม”

 

ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะโตเกินวัย เธอมีสีหน้าที่เหงาหงอย

 

บางทีเธอคงดิ้นรนมาตลอด

 

แต่ตอนนี้เธอดูเด็กมากจริงๆ

ผมจับมือเธอไว้ แล้วหยิบเครื่องประดับชิ้นหนึ่งออกมาจากเสื้อ แล้ววางไว้ในมือของเธอ

 

“นี่จะช่วยให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นเมื่อเธอได้รับอิสระในสักวันหนึ่ง ค่อยนำมันมาคืนผมก็ได้”

 

แม้ว่ามันจะทำให้ผมปวดใจเล็กน้อย แต่ทาสหนึ่งคนมีค่ามากกว่าเครื่องประดับหนึ่งชิ้น

 

ผมจับมือเธอให้กำมันเอาไว้ ซึ่งเธอก็รับมันแล้วยกขึ้นมาตรงหน้า

 

“...จะดีหรอคะ?”

 

“สมบัติสีขาว?”

 

ผมเดินออกมาในขณะที่เด็กสาวคนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม

 

ลงท้ายผมก็ได้ของน้อยกว่าที่เล็งไว้

 

เอาเถอะ ถ้าเป็นผม ผมก็สามารถหาของได้มากขนาดนี้ได้อยู่ดี

 

วันนี้ไม่มีเวลาพอที่จะไปที่อื่นอีกแล้ว ผมจึงทำได้เพียงกลับไปนอนที่บ้าน

 

ผมสามารถมองเห็นบ้านได้จากบนภูเขา เพราะงั้นผมก็เลยใช้เทเลพอร์ต

 

แล้วผมก็มาถึงบ้านในทันที

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้เวทย์นี้ หลังจากไม่ได้ใช้มานาน แต่มันก็เป็นเวทย์ที่มีประโยชน์จริงๆ

 

มันสามารถเอาไปใช้ได้หลายอย่าง

 

==========

 

อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร

 

==========

 

ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด