ตอนที่ 4 -- โจร
ตอนที่ 4 ------ โจร
เซฟ ไอน์สไตน์
เลเวล 1
เวทย์ [สีแดง] เลเวล : 2
เวทย์ [สีน้ำเงิน] เลเวล : 2
เวทย์ [สีเขียว] เลเวล : 5
เวทย์ [ท้องฟ้า] เลเวล : 4
เวทย์ [วิญญาณ] เลเวล : 0
หลังจากล่าบลูเซลรอบๆเมืองมาหนึ่งสัปดาห์ เลเวลของผมก็เพิ่มขึ้นอย่างที่เห็น
เหตุผลที่เวทย์ [วิญญาณ] เป็นสายเดียวที่ยังเป็นศูนย์นั่นเพราะ เวทย์นี้จำเป็นต้องใช้หินเวทย์มนต์เป็นสื่อกลางในการร่ายเวทย์นี้
นั่นคือสาเหตุที่มันยังไม่สามารถฝึกได้ในตอนนี้
บลูเซลนั้นปรากฎตัวรอบๆเมืองนานามิเท่านั้น
บลูเซลถือเป็นปีศาจที่อ่อนแอมาก
ตอนนี้ผมสามารถจัดการได้แค่ปีศาจตัวเล็กๆเท่านั้น ดังนั้นค่าประสบการณ์ที่ได้จึงไม่ค่อยมากเท่าไหร่
มันเลยต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเพิ่มเลเวลได้
เมื่อพวกมันเข้ามาใกล้ผมก็จะใช้พลองไม้ตี แต่เมื่อมันอยู่ไกล ก็จะถล่มมันด้วยกรีนบอล, นี่คือวิธีที่ผมใช้จัดการพวกมันในตอนนี้
ช่าย นี่คือหนทางที่มั่นคงในการแข็งแกร่งขึ้น
ก่อนที่ผมจะรู้ตัว บลูเซลอีกตัวหนึ่งก็เริ่มก่อร่างขึ้นใต้เท้าของผม
บลูเซลตัวนี้มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของปกติ
มันจับผมไว้ โดยผมพยายามสลัดตัวออก แต่ว่ามันแข็งแกร่งเกินไป
ขาของผมถูกระยางค์มัดไว้และผมถูกดึงห้อยหัวลง
ส่วนปลายยอดของมันเปิดออก และกำลังจะยัดผมลงไป
บลูเซลมันกำลังจะกินผม!
….อย่ามาสะเออะกับผม
ผมชี้มือไปที่ปากของบลูเซลแล้วรวบรวมพลังเวทย์
“เรดแครช!” (Red Crash)
”
ในตอนที่ผมปล่อยเวทย์ออกมา เปลวเพลิงระเบิดก็ถูกยิงออกมาจากมือของผมและเผาทำลายบลูเซล
ผมร่วงลงบนพื้นตรงใจกลางที่มีเศษชิ้นส่วนของบลูเซลหลงเหลืออยู่
เสื้อผ้าของผมมอมแมมจากกองโคลนกับน้ำ
“ให้ตายสิ แม่จะต้องโกรธผมแน่ๆ”
”
ผมใช้พลังเวทย์ทั้งหมดไปกับเวทย์นั้น
มันเป็นเวทย์ที่จะเผาทำลายในพื้นที่แคบๆด้วยเพลิงระเบิด มันกินพลังเวทย์เป็นจำนวนมากในการใช้ แต่ว่าพลังทำลายของมันก็สมเหตุสมผลดี
ทำให้มันมีประโยชน์มากเมื่อศัตรูเข้ามาใกล้
แต่เพราะมันใช้เวลาในการร่ายสักพัก ผมจึงตัดสินใจใช้เมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น, เหมือนกับตอนนี้ที่บลูเซลยักษ์ปรากฎตัว
ไม่นาน พวกบลูเซลปกติก็เริ่มปรากฎออกมาอีกครั้ง แต่ผมยังฟื้นฟูพลังเวทย์ไม่พอที่จะร่ายกรีนบอลเลย
ในขณะที่ถอยผมก็เพิ่งสมาธิ
-เข้าฌาณ
โคจรพลังเวทย์ที่เหลืออยู่ไปทั่วร่างผ่านทางเส้นมนตรา คือเทคนิคที่ทำให้การฟื้นพลังเวทย์เร็วขึ้นกว่าปกติในช่วงเวลาสั้นๆ
การเข้าฌาณมักจะทำได้เมื่อนั่งกับที่ แต่ผมสามารถทำมันได้ในขณะที่ยืน, เดิน และเหนือไปกว่านั้นคือผมสามารถทำได้แม้ว่ากำลังต่อสู้อยู่
ร่ายกรีนบอล แล้วฟื้นฟู
ร่ายกรีนบอล แล้วฟื้นฟู
หลังจากทำซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ผมก็สามารถจัดการบลูเซลได้ทั้งสองตัว
“ว้าว”
หลังจากจัดการพวกบลูเซลจนผมด ผมก็เจอบลูเจม
“นี่มันบลูเจม….”
”
หลังจากเอาชนะมอนส์เตอร์ได้ พลังเวทย์ที่อยู่ในร่างของมันกับพลังเวทย์จากพื้นโลกจะหลอมรวมกันแล้วสร้างเป็นไอเท็มขึ้นมา
แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นไอเท็มขยะก็ตาม
ผมคงไม่ได้เงินมากเท่าไหร่จากการขายมันในร้าน
ผมเก็บบลูเจมไใส่กระเป๋าเสื้อแล้วตัดสินใจยุติการล่าในวันนี้ หลังจากเข้าฌาณ
“....ผมต้องรีบกลับบ้าน”
”
การต่อสู้ในตอนค่ำนั้นเสี่ยงเกินไป
อีกอย่างผมต้องเตรียมตัวสำหรับอย่างอื่นอีก
“แม่กำลังโกรธผมอยู่แน่ๆ”
”
ในระหว่างทางกลับบ้าน ตอนที่ผมกำลังเข้าฌาณ ก็มีรถม้ารีบวิ่งไปที่เมือง
มันคือกองคาราวานขนาดกลาง
ถ้ามันเป็นของพ่อค้าเร่ ผมก็อยากจะดูว่าพวกเขามีไอเท็มเวทย์มนต์หายากหรือเปล่า แต่ว่าผมไม่มีเงินเลย
ตอนนี้กลับบ้านก่อนดีกว่า
เมื่อผมมองไม่เห็นกองคาราวาน ผมกลับได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากที่ไกลๆ
เมื่อผมหันไปยังทางที่ได้ยินเสียงเด็กสาวกรีดร้อง ผมก็เห็นควันไฟกำลังลุกจากรถม้า
ผมมองเห็นไม่ถนัดเพราะว่าอยู่ห่างเกินไป แต่ดูเหมือนจะมีการต่อสู้หรืออะไรสักอย่าง
ปีศาจรอบๆนี่คงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่
นั่นหมายความว่า…
“นักผจญภัยที่พวกนั้นจ้างหักหลังสินะ”
”
บางทีพวกนั้นอาจเป็นโจรในคราบนักผจญภัยตั้งแต่ต้นก็ได้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าเป็นโชคร้ายสำหรับคนในกองคาราวาน แต่ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผม
ถ้าผมช่วยพวกนั้นในตอนนี้ พวกนั้นน่าจะให้ไอเท็มแพงๆกับผมเป็นรางวัลก็ได้
แต่ด้วยพลังเวทย์ของผมในตอนนี้ ผมก็ยังอ่อนเกินไป
เหมือนอย่างการแบ่งเกรดของนักผจญภัยยังไงยังงั้น
แต่ผมก็ไม่อาจทนโดยไม่ทำอะไรเลยได้
ในตอนที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ขี่ม้าตรงมาทางผม
ดูเหมือนเธอจะหนีมาจากการต่อสู้
เธอหยุดลงตรงหน้าผมด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
“นี่เธอ! หนีเร็ว! ฉันจะรีบไปแจ้งในเมือง ดังนั้นไปซ่อนตัวเร็ว!”
”
หลังจากพูดออกมา ทันใดนั้นลูกธนูก็พุ่งออกมาจากอกของเธอ
เด็กสาวก้มลงมองหัวธนูที่เปราะไปด้วยเลือด แล้วไอเป็นเลือดออกมา
ในขณะที่แววตาของเธอกำลังมืดลง เธอกลับพูดมาที่ผมสองคำ
“หนี….ไป….”
”
ผมสงสัยว่าทำไม
ผมเดินไปยังเด็กสาวที่แม้แต่ลมหายใจสุดท้ายก็ยังกังวลเรื่องผม แล้วปิดตาเธอลงเบาๆ
ในขณะที่ผมเลื่อนสายตาจากเด็กสาวไปยังกองคาราวาน โจรในคราบนักผจญภัยสองคนก็ี่ม้า...ตรงมาทางนี้
พวกมันคนหนึ่งลดธนูลงแล้วยิ้ม จากนั้นก็เริ่มหัวเราะมาทางผม
มันค่อยๆหยิบลูกธนูออกมาจากกระบอกลูกธนูแล้วค่อยๆขึ้นสาย
มันตั้งใจทำแบบนั้นให้ช้าที่สุด เพราะว่ามันอยากจะเห็นสีหน้ากลัวตายของผม
เมื่อรู้แบบนี้ ผมคงต้องขอบคุณไอ้โจรมันจริงๆ
เมื่อโจรคนนั้นค่อยๆง้างสายธนูจนสุด ผมก็ร่ายแบล็คช็อต(Black Shot)
ด้วยพลังที่ไม่ด้อยกว่าลูกธนู กระสุนเวทย์มนต์แห่งลม ก็เจาะทะลุหัวของโจรทั้งสองในครั้งเดียว
เมื่อโจรทั้งสองตกลงจากม้า พวกโจรคนอื่นๆก็สังเกตเห็นผม
พวกมันดูไม่ค่อยสบอารมณ์ที่เห็นพรรคพวกสองคนถูกฆ่าโดยนักเวทย์เด็ก
แต่ผมกลับใจเย็นอยู่
ผมมีอารมณ์เล็กน้อยก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ผมสงบใจได้แล้ว
คนจำพวกนี้ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ผมจำไม่ได้แล้วว่าชีวิตก่อนฆ่าไอ้พวกเลวแบบนี้ไปเท่าไหร่
ฉลาดและมีประสิทธิภาพ นั่นคือคติประจำใจของผม
ดังนั้น….
“ผมจะล่าไฮยีน่าอย่างพวกแกเอง!”
”
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/