ตอนที่ 3 -- เวทย์มนต์ที่ใช้ยาก
ตอนที่ 3 ------ เวทย์มนต์ที่ใช้ยาก
วันถัดมา ผมถูกบังคับให้ไปโรงเรียน
แม่กับแคลร์เซนเซย์น่ากลัวมากก่อนหน้านี้ จนผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
ชั่วโมงเรียนที่ยาวนานมันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน ดังนั้นผมจึงใช้เวลานี้งีบหลับแทน
เมื่อคาบเรียนจบลง ผมก็วิ่งตรงไปห้องน้ำทันที
นั่นไม่ใช่ว่าผมอยากจะเข้าห้องน้ำ
แต่ไปฝึกเวทย์มนต์ต่างหาก
ภายในห้องน้ำ ผมปิดประตูและพิงผนัง ในขณะที่รวบรวมพลังเวทย์มาไว้ที่ฝ่ามือ
“กรีนบอล” (Green Ball - บอลเขียว)
”
ทันใดนั้นบอลเวทย์สีเขียวก็ถูกสร้างขึ้นบนมือของผม
-เวทย์เริ่มต้นของสายสีเขียว : กรีนบอล
เวทย์มนต์สายสีเขียวนั้นมีพลังโจมตีสูงแต่มีระยะหวังผลแคบ, มันยังไม่ได้พัฒนาจนพอที่จะแสดงผมดีๆได้
สำหรับปีศาจระดับสูงที่แข็งแกร่ง ผมต้องการเวทย์มนต์ที่ใช้ยาก
บอลเวทย์ที่มีแสงปกคลุม ลอยอยู่เหนือฝ่ามือของผมได้หายไปในที่สุดเมื่อผมตัดการส่งพลังเวทย์
ด้วยการหายใจเข้าลึกๆ ผมรวบรวมพลังเวทย์ในฝ่ามืออีกครั้ง
“แบล็คบอล” (Black Ball - บอลดำ)
”
แล้วผมก็สร้างลูกบอลเวทย์สีดำออกมา
มันทำให้รอบๆตัวมันปั่นป่วน
-เวทย์เริ่มต้นของสายท้องฟ้า : แบล็คบอล
แม้ว่าเวทย์สายนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มันก็ยากที่จะควบคุมและมีพลังโจมตีที่ต่ำ
นี่เองก็ถือเป็นสายที่เรียนได้ยาก
เวทย์ทั้งสองถูกเรียกใช้สลับไปมา จนกระทั่งเสียงระฆังบอกคาบเรียนต่อไปดังขึ้น
เวทย์ท้องฟ้าและสีเขียว ทั้งสองสายนี้ผมแทบจะไม่ได้ใช้เลยในชีวิตก่อน แต่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นเวทย์สายหลักที่ผมจะใช้ เมื่อดูจากค่าพรสวรรค์ที่ผมมี พวกมันเป็นเวทย์ที่มีค่าสูงสุด
ผมใช้เวทย์สีแดงและสีฟ้าเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ผมต้องใช้เวทย์สองสายอื่นให้เป็นนิสัย
แม้ว่าเมื่อก่อนจะไม่ได้ใช้มันมากนัก แต่ครั้งนี้ต่างออกไป
ดังนั้นตอนนี้จึงจำเป็นต้องเพิ่มเลเวลของเวทย์แม้จะเล็กน้อยก็ตาม
ผมกลับเข้าห้องเรียนก่อนที่การเรียนการสอนจะเริ่มหนึ่งนาทีแล้วรีบหลับ
ผมจำเป็นต้องนอนเพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์ให้เร็วที่สุด
ด้วยการใช้เสียงของแคลร์เซนเซย์กล่อมให้หลับ สติของผมก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ เซฟ!”
”
เมื่อจบคาบ ในตอนที่ผมกำลังจะออกไปห้องน้ำ เด็กผู้ชายที่ดูอ้วนเล็กน้อยเริ่มเข้ามาคุยกับผม
เขามองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มแปลกๆบนใบหน้า ราวกับดูผมออก
เมื่อผมพยายามทำเป็นไม่สนใจ เด็กผู้ชายคนอื่นๆก็เข้ามาปิดทางผมไว้
อะไรกัน?
“เฮ้เซฟ ทำไมนายถึงไปห้องน้ำบ่อยกัน?”
”
“...นายจะถามทำไม? หรือว่านายอยากจะเข้าก่อน?”
”
“หา?”
”
เด็กผู้ชายทำหน้าตกใจและเริ่มหัวเราะกับคำตอบของผม *ก๊ากฮ่าฮ่าฮ่า*
ไม่นานเด็กนักเรียนทั้งหมดต่างก็หัวเราะออกมาราวกับคลื่นที่กระเพื่อม
“โอ้~~~~”
”
เดี๋ยว อย่าบอกนะว่าผมกำลังถูกล้ออยู่?
ผมสงสัยว่าที่เป็นแบบนี้เพราะพวกเขายังเป็นเด็กรึเปล่า
ในตอนที่ผมเกาหัวจนเกิดเสียงแปลกๆ เด็กผู้ชายที่อยู่ตัวของผมทั้งหมดเริ่มพ่อคำหยาบคายออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
ว้าว ผมคิดว่าเด็กพวกนี้จำเป็นต้องได้รับการสั่งสอนเล็กน้อย
ผมชี้มือไปที่หัวโจกของพวกเด็กผู้ชาย และสร้างเรดบอลออกมา
ลูกบอลไฟถูกยิงไปเฉี่ยวหัวของเด็กผู้ชายคนนั้น และมอดดับลก่อนที่จะถึงกำแพง
อืม…. มันพุ่งไปได้ไกลขนาดนั้นแล้วงั้นหรอ หืม
แม้ว่าจะพูดแบบนั้น แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะข่มขวัญเจ้าเด็กไร้สาระคนนั้นจนล้มลงกับพื้นพร้อมกับฉี่ราด กลิ่นฉี่กับอากาศที่เผาไหม้อบอวลอยู่ในห้องเรียน
สำหรับเด็กคนนั้น ผมมองลงไปที่เขาด้วยสายตากระหายเลือดในทันที
“ผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้นะรู้ไหม?”
”
ผมยิ้มในขณะที่พูด แล้วเด็กคนนั้นก็สลบไป
ผมหันไปมองรอบๆแล้วก้าวเดินออกไป ทำให้เด็กผู้ชายที่ล้มผมทั้งหมดรีบเปิดทางพร้อมกับร้องออกมา
ผมเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ในขณะที่เอามือใส่กระเป๋าเสื้อด้านล่าง
ใม่ค่อยมีคนแบบนี้ใช้ชีวิตก่อน แต่บางทีนั่นอาจจะมากเกินไปหน่อยที่ถือเอาเด็กเป็นคู่ต่อสู้
เมื่อผมเปิดประตูห้องน้ำ ระฆังแรกก็ดังขึ้น
บ้าเอ้ย ผมเสียเวลาไปคาบหนึ่งที่จะใช้ฝึก
-หลังเลิกเรียน
ในขณะที่คนอื่นๆเดินตรงไปยังบ้านของตัวเอง ผมกลับมุ่งหน้าไปทางตรงกันข้าม
จุดหมายปลายของผมคือนอกเมือง ทำไมน่ะหรอ? อืม เพราะผมสามารถล่ามอนส์เตอร์ที่อยู่นอกเมืองได้น่ะสิ
ผมร่ายเวทย์กรีนบอลบนมือในขณะที่เดินไปด้วย ผมรู้สึกว่าค่าพลังของเวทย์มนต์สีเขียวเพิ่มขึ้น
อย่างที่คุณเห็น เลเวลของมันเพิ่มขึ้น
ผมสามารถฝึกเวทย์มนต์โดยการยิงไปยังพื้นที่โล่งแบบนี้ ถ้าผมยากน่ะนะ แต่การใช้เวทย์มนต์ในการต่อสู้้จริงๆจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
การยิงเวทย์ใส่ความว่างเปล่าเป็นวิธีหนึ่งในการฝึก แต่ว่าสเกาท์สโคปนั้นแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการพัฒนาระหว่างการยิงลมกับการต่อสู้จริงได้
เมืองนานามิถูกล้อมไปด้วยกำแพง ที่มีหลายประตูซึ่งแต่ละประตูจะมียามเฝ้าประตูอยู่, ผมไม่ได้อยู่ในเมืองอีกต่อไป
ผมสามารถออกจากเมืองผ่านประตูได้โดยไม่มีปัญหา และเดินออกไปโลกภายนอก
ในตอนที่ออกมา ก็ไม่ได้ลืมที่จะพกพลองไม้มาด้วย
เมื่อเดินออกมาได้เล็กน้อย ก็จะเห็นมอนส์เตอร์สีฟ้าที่ดูเหมือนเยลลี่อยู่ด้านหน้า
เจ้านี่ที่ดูเหมือนจะผุดขึ้นมาจากพื้น คือปีศาจที่จัดอยู่ในธาตุสีฟ้า บลูเซล
โลกนั้นเต็มไปด้วยพลังเวทย์ โดยปีศาจตนนี้ถูกสร้างขึ้นจากน้ำฝนที่รวมตัวกัน
เมืองนั้นเติบโตด้วยพลังเวทย์จากผู้ให้ ทำให้ปีศาจไม่สามารถเกินขึ้นในนั้นได้ แต่พวกมันจะโจมตีเมื่อเห็นคนก้าวออกไปข้างนอก
ด้วยพลองไม้ในมือ ผมร่ายกรีนบอลใส่มัน
*โปยัง* แรงงกระแทกทำให้บลูเซลตัวสั่นอยู่บนพื้น แต่...มันยังไม่ตาย! มึนยืดระยางค์ออกมาทางผม!
“บ้าเอ้ย!”
”
ระยางค์เหล่านั้นโจมตีโดนพลองไม้ในตอนที่ผมร่ายกรีลบอลอีกลูก
ผมหวดมันพร้อมกับร่ายกรีนบอล แล้วบลูเซลก็สลายไปหลังจากโดนยิงไป 10 ครั้ง
เวลาทั้งหมดของวันนี้ถูกใช้ในการฝึกเวทย์มนต์
หลังจากเอาชนะมอนส์เตอร์ได้ ผมก็สามารถรรู้สึกได้ว่าพลังในร่างได้เพิ่มขึ้น
นี่เรียกว่า ‘ค่าประสบการณ์’ ถ้าคุณเพิ่มมันจนถึงจุดหนึ่ง คุณจะได้เลเวลเพิ่ม
ในตอนที่รู้สึกว่าพลังในร่างเพิ่มขึ้น ผมก็หยุดพักเล็กน้อยเพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์
==========
อุทิศให้คุณพ่อยุทธนา ศิริพัฒนานันทกูร
==========
ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/