ตอนที่ 253 ลอบทำร้าย เปิดศึก
เมื่อเย่ว์หยางกำลังฆ่าหลินเฮ่อและบุรุษร่างกำยำอยู่ในทางผ่านโบราณ ทางด้านเหตุการณ์ที่เกาะก้วนจวิน อาจารย์จิ้งจอกเฒ่านำเย่ว์ปิง, เย่ว์หวี่, อี้หนานและนักเรียนคนอื่นหนีออกไปจากสนามแข่งขัน ด้วยหวังว่าพวกเขาสามารถออกไปจากพื้นที่ซึ่งมีผลต่อขีดจำกัดในการเทเลพอร์ต จึงออกไปในพื้นที่ปลอดภัยและกลับไปที่สถาบันฉางชุนเฉิง
นักเรียนจากสถาบันฉางจิง, สถาบันจ้งเซียนและโรงเรียนอื่นๆ ตามหลังอาจารย์จิ้งจอกเฒ่ามาติดๆ
ครู 2-3 คนและองครักษ์เกราะเงินร้อยนายคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลังนักเรียน
อีกด้านหนึ่ง ก็มีครู กรรมการและองครักษ์เกราะเงินคอยคุ้มครองนักเรียนและผู้ชมขณะที่พวกเขาหนีออกจากสนามแข่งขัน ในท่ามกลางความวุ่นวาย พวกทหารรับจ้างนับไม่ถ้วน พยายามไปที่อาคารและซ่อนตัวชั่วคราว คิดว่าพวกเขาสามารถหลบหนีอันตรายด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่สามารถบอกถึงสถานการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นข้างนอก นั่นเป็นเพราะ ท้องฟ้าข้างนอกกลายเป็นสีแดงเลือดทั้งหมด
“ไปให้เร็วกว่านี้! นี่คือแสงบูชายัญเลือดของพวกปีศาจ!”
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคุ้นเคยกับเรื่องในแดนอเวจีของปีศาจ เขามีประสบการณ์มาก พอเห็นแค่ครั้งเดียว ก็สามารถบอกได้ว่าแสงนี้ เป็นสัญญาณที่ปีศาจบุกรุกเข้ามาใกล้จะถึงทวีปมังกรทะยานอยู่แล้ว
ด้วยการบูชายัญขนาดใหญ่ อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคาดไว้ว่า อย่างน้อยต้องใช้ปีศาจถึงหนึ่งแสนบูชายัญในบ่อเลือดบนแท่นบูชาที่แดนอเวจี
ยิ่งไปกว่านั้น ต้องมีสาวกปีศาจพันคนในทวีปมังกรทะยานบูชายัญในฐานะผู้นำทางอีกด้านหนึ่ง
ความจริงที่ว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนอเวจีเข้าโจมตีพวกเขาหลังจากเผ่าปีศาจบูรพาบุกรุก ก็มีความชัดเจนแล้วว่านี่เป็นแผนการที่ไตร่ตรองไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ถ้าไม่มีคนหักหลังในทวีปมังกรทะยาน ไม่มีสาวกปีศาจเป็นต้นเหตุความยุ่งยาก อย่างนั้นไม่ว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจในแดนอเวจีจะแข็งแกร่งอย่างไร พวกมันก็ไม่สามารถบุกรุกทวีปมังกรทะยานได้
นี่ไม่ใช่เรื่องที่สาวกปีศาจเพียงไม่กี่คนจะทำได้ ดูเหมือนว่ามีอำนาจที่ยิ่งใหญ่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง เป็นองค์กรที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างทวีปมังกรทะยานและแดนอเวจี
อาจเป็นวังมาร, นิกายพันปีศาจ, นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกหรือนิกายบรรพตขจี
กระทั่งอาจเป็นอาณาจักรสือจินก็ได้
เมื่ออาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคิดเรื่องนี้ เงาทะมึนก็ครอบคลุมใบหน้าเขา
ถ้าไม่มีผู้ใดหยุดการรุกรานของเผ่าพันธุ์ปีศาจ, เกาะก้วนจวินจะกลายเป็นฐานทัพให้เผ่าพันธุ์ปีศาจรุกรานทวีปมังกรทะยานได้ในอนาคต จากนั้นก็จะเป็นจุดจบของมนุษยชาติ
“เด็กๆ รีบออกไปจากที่นี่, เร็วเข้า ทหาร! ตามข้ามา!”
หัวหน้ากรรมการรู้ว่าด้วยกำลังของเขากับทหารร้อยกว่านาย คงไม่สามารถหยุดการรุกรานของเผ่าพันธุ์ปีศาจได้ แต่พวกเขาเข้าใจดีว่าอนาคตของมนุษยชาติต้องฝากไว้กับเด็กพวกนี้ ถ้าพวกเขาปล่อยให้เผ่าพันธุ์ปีศาจใช้ชีวิตเด็กเหล่านี้เป็นเครื่องบูชายัญเพื่อเปิดประตูเทเลพอร์ต
หัวหน้ากรรมการและคนอื่นจะกลายเป็นคนบาปที่จะถูกตราหน้าไปเป็นพันปี นักเรียนเหล่านี้เป็นนักเรียนระดับหัวกะทิทั้งนั้น แต่พวกเขายังเด็กและยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ถ้าพวกเขาสู้กับเผ่าพันธุ์ปีศาจ ก็เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งอย่างช่วยไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะต้องทำก็คือ พวกเขาทุกคนสามารถหยุดการรุกรานของเผ่าพันธุ์ปีศาจและปล่อยให้เด็กๆ จากไปโดยปลอดภัย
หัวหน้ากรรมการและรองหัวหน้าทั้งสองหันไปรอบๆ และนำองครักษ์เกราะเงินวิ่งไปที่แสงสีเลือดจุดที่สว่างที่สุด
เผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนอเวจียังมาไม่ถึง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะมาเต็มที่ในเวลาใดก็ได้ ต้องมีบางคนที่สามารถต้านทานและหยุดพวกมันให้ได้
ในอาคารเล็กในเกาะก้วนจวิน ทหารรับจ้างเกินกว่าพันคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ศพนอนเรียงรายทุกที่ ขณะที่เลือดค่อยๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ สาวกปีศาจหลายสิบคนเริ่มฆ่าตัวตายหลังจากแลกเปลี่ยนชีวิตและวิญญาณเพื่อทำหน้าที่เปิดประตูเทเลพอร์ตให้เผ่าพันธุ์ปีศาจ
ร่างที่ทรงพลังยืนอยู่ด้านข้างขณะที่พวกเขามองดูเหตุการณ์อย่างใจเย็น ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา
เมื่อพวกเขาได้ยินหัวหน้ากรรมการนำคนมา พวกเขาออกคำสั่งให้บริวารอีก 2-3 คนไปขัดขวางเขาไว้ทันที
ขณะเดียวกันนี้เอง ภายในอาคารแข่งขัน ประตูเทเลพอร์ตสีแดงเข้มผุดขึ้นทันที ภายใต้การปะทุของสายฟ้าสีดำในท้องฟ้า แสงสีแดงฉานครอบคลุมท้องฟ้าก่อเกิดเป็นวังวนดูน่ากลัวกำลังขยายตัวลามลงมาที่ประตูเทเลพอร์ต จากนั้นปีศาจนับไม่ถ้วนไหลบ่าออกมาจากประตูเทเลพอร์ตทันที
เหมือนกับคลื่นยักษ์สึนามิ พวกมันส่วนใหญ่เป็นก็อบลินผิวเขียวหรือไม่ก็ปีศาจเขาโง้ง ยังมีสัตว์ประหลาดเพลิงผิวเหลืองและภูตที่มีฟันคมกริบ ในทุกจำนวนพันตนจะมีขุนพลปีศาจตนหนึ่งคอยดูแล
จากภายในประตูเทเลพอร์ต ยังมีมังกรดำและอีกาไฟบินออกมาด้วย บนหลังของมังกรบิน 2-3 ตัว มีอัศวินปีศาจระดับยอดฝีมือและแม่ทัพปีศาจออกมาด้วย
ปีศาจถือเคียวที่มนุษย์รู้จักดีก็ปรากฏตัวด้วยเช่นกัน
ปีศาจเคียวปกติจะรู้กันดีว่าเป็นองครักษ์ระดับหัวกะทิของจ้าวปีศาจ การปรากฏตัวของพวกมันเป็นสัญลักษณ์ว่าจ้าวปีศาจตนหนึ่งจะลงมายังทวีปมังกรทะยาน เมื่อหัวหน้ากรรมการเห็นร่างของปีศาจถือเคียวบินอยู่ในท้องฟ้า เขารู้สึกสิ้นหวังลึกๆ
ทวีปมังกรทะยานตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงทั้งภายนอกและภายใน พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติเสียแล้ว
เหล่านักสู้ปราณก่อกำเนิดที่คอยสนับสนุนป้องกันพวกเขาจากไปเงียบๆ และพยายามจะผ่านด่านหอทงเทียนชั้นที่สิบให้ได้
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ คนทรยศในหมู่พวกเขาได้กระตุ้นเผ่าปีศาจบูรพาให้รุกรานทวีปมังกรทะยานและจับตัวนักสู้ผู้แข็งแกร่งทั้งของอาณาจักรต้าเซี่ยและอาณาจักรเทียนหลัว จากนั้นก็เรียกเผ่าพันธุ์ปีศาจมายังทวีปมังกรทะยาน
“ฆ่า!”
เมื่อหัวหน้ากรรมการเห็นมนุษย์ผู้ทรยศที่มาขวางเขาไว้ เขารู้สึกโกรธจัดและคำรามลั่น ทั้งนี้เป็นเพราะพวกคนทรยศ มีอยู่สองคนที่เขารู้จักเป็นส่วนตัว เป็นเพื่อนของเขาเอง มนุษย์ทรยศพวกนั้นผู้นำเผ่าพันธุ์ปีศาจเข้ามารุกรานเริ่มหัวเราะลั่น พวกเขาไม่สนใจจะสู้ตายกับคนอย่างหัวหน้ากรรมการ พวกเขาเรียกอสูรบินของเขาไว้ก่อนแล้วและหลบหนีการโจมตีของหัวหน้ากรรมการ บินขึ้นไปในท้องฟ้า พวกเขาไม่มีความตั้งใจจะสู้กับหัวหน้ากรรมการและคนอื่นๆ
“เฮ.....”
สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนจากดินแดนอเวจีวิ่งออกมาจากท้องฟ้าและลงบนพื้นท่วมกลืนหัวหน้ากรรมการและองครักษ์เกราะเงินจำนวนนับร้อยทั้งหมด
ถึงตอนนี้ ข้างหน้าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า มีปีศาจร้อยจำแลงผู้ที่เคยถูกจองจำอยู่ในต้าเซี่ย มียอดฝีมือลึกลับช่วยนางออกมาจากคุก ไม่ใช่เพียงแค่นั้น นางยังฟื้นได้รับคืนพลังจากเขาด้วย
นอกจากนางแล้ว ยังมีผู้อาวุโสปีศาจจากนิกายพันปีศาจอีกสามคนที่เพิ่งจะได้เลื่อนขั้นขึ้นมา หลังจากเย่ว์หยางสังหารผู้อาวุโสปีศาจร้อยปีก และผู้อาวุโสปีศาจร้อยกรงเล็บ นิกายพันปีศาจจึงเลื่อนผู้อาวุโสปีศาจเพื่อทดแทนผู้อาวุโสที่พวกเขาสูญเสียไปในต้าเซี่ย
แน่นอนว่า ผู้อาวุโสปีศาจที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นนี้ พวกเขายังมีฝีมือด้อยกว่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนๆ ถ้าเย่ว์หยางมาถึงที่นี่ พวกเขาอาจถูกฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้
ปัญหาก็คือเย่ว์หยางไม่อยู่ที่นี่ มีแต่เพียงอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคอยปกป้องนักเรียนเป็นร้อย
นางปีศาจร้อยจำแลงเดินบิดเอวเข้ามาพลางยิ้ม
“ท่านรองผู้อำนวยการ ดีจริงๆ ที่ได้เจอท่าน ข้าคิดว่าท่านถูกเผ่าปีศาจบูรพาจับไปแล้วเสียอีก ไม่อย่างนั้นข้าจะแก้แค้นพวกท่านที่สบประมาทข้าในอดีตที่ผ่านมาได้อย่างไร”
“อย่างนั้นเจ้าก็อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุทั้งหมดสินะ”
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าเรียกคัมภีร์ของเขาทันที
“ไม่เลย, ท่านเข้าใจผิดแล้ว แม้ว่าเรา นิกายพันปีศาจ จะชอบให้มีการวิวาทก่อศึกและก่อความยุ่งยากให้คนอื่นในตอนนี้ก็ตาม แต่เราจะไม่ขอความช่วยเหลือของคนอื่นมากนักหรอก ยิ่งกว่านั้น ความสัมพันธุ์ของเรากับเผ่าปีศาจบูรพาในหอทงเทียนก็ไม่ดีขนาดนั้น เราไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาแม้แต่น้อย และเราก็ยังมีความขัดแย้งกับพวกที่มาจากแดนอเวจี ไม่มีใครในนิกายเราหรือจากประมุขนิกายเรายอมลดตัวเป็นสาวกชั้นต่ำที่สุดหรอก มันเป็นการสมคบคิดกันขององค์กรอื่นอีกสององค์กร อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านถามเราถึงเหตุผลที่เรามาวันนี้ ก็เพราะเรามาซ้ำเติมศัตรูผู้พ่ายแพ้น่ะสิ! ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเกิดมาเป็นคนเลวอยู่แล้ว ข้าอาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอื่นๆ แต่รังแกกลั่นแกล้งศัตรูคืองานถนัดของข้า ข้าเกลียดต้าเซี่ย แต่โชคไม่ดี ด้วยกำลังของข้าเพียงลำพัง ข้าไม่สามารถโค่นล้มต้าเซี่ยได้ ช่างเป็นประเทศที่มีรากฐานกว้างใหญ่เหลือเกิน ตอนนี้เราได้โอกาสจะทำแล้ว แน่นอนว่าเราไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป ท่านรองผู้อำนวยการ! ถ้าท่านยินดียอมจำนนมอบหนึ่งในพี่น้องตระกูลฮัว แม่สี่หรือคุณนายสี่แห่งตระกูลเย่ว์ ข้าจะปล่อยให้นักเรียนเหล่านี้มีชีวิตรอด ความจริงข้าก็ไม่อาจหักใจมองดูเด็กเหล่านี้ถูกปีศาจและสัตว์ประหลาดจับกินทั้งเป็นจนหมดสิ้น แต่ข้ายังจะมีทางเลือกอะไรอีก? ข้าไม่เป็นตัวของตัวเอง ข้าก็แค่พยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ของท่าน ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อจะจับแม่สี่ เราไม่มีทางเสี่ยงปล่อยให้เจ้าออกไปขับไล่ศัตรูด้วยพลังที่แข็งแกร่งแน่”
ปีศาจร้อยจำแลงพูด้วยความยโสมาก อย่างไรก็ตาม นางไม่กล้าถือว่าตนเองชนะ เพราะนางรู้ว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่ามีพลังมากขนาดไหน
“ฝันไปเถอะ!”
คำตอบของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าชัดเจนและรัดกุม
“อย่างนั้นเราต้องขอโทษที่ต้องเสียมารยาท”
นางปีศาจร้อยจำแลงโบกมือและผู้อาวุโสปีศาจที่เพิ่งเลื่อนขั้นต่างก็เรียกอสูรที่แข็งแกร่งชนิดต่างๆ ทันที เพื่อหยุดไม่ให้นักเรียนจากไป
“พวกเจ้า หลบหนีไปเร็วๆ”
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไม่มองดูเย่ว์ปิง เพราะเกรงว่าศัตรูจะสังเกตนางออก
ตอนนี้ เย่ว์ปิงปลอมตัวจนดูเหมือนนางขโมยธรรมดาปนเปอยู่ในฝูงชนพร้อมกับอี้หนานที่แต่งเป็นชุดนางโจรเช่นเดียวกัน นางยังปลอดภัยดีอยู่
เมื่อเย่คง, เจ้าอ้วนไห่และพี่น้องตระกูลหลี่เห็นว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและครูคนอื่นๆตัดสินใจรั้งอยู่และสู้กับผู้อาวุโสปีศาจร้อยจำแลง พวกเขารีบนำกลุ่มนักเรียนออกไปทันที ตอนนี้ ไม่มีผู้คุ้มกันและครูอยู่ด้วย พวกเขาต้องพึ่งตนเอง
ในท้องฟ้าไกลออกไป พวกเขาสามารถเห็นปีศาจมีปีกบินตรงมาหาพวกเขา
เย่คงตะโกนเสียงลั่น
“ไปได้แล้ว ออกไปจากที่นี่!”
เขาเรียกคิงคองปีศาจและผสานเข้ากับร่างของเขา จากนั้นเขาเรียกด้วงจอมพลังยักษ์เพื่อเบิกทางข้างหน้าให้พวกเขา จากนั้นพี่น้องตระกูลหลี่ก็เรียกมดทหารทองและผสานร่างกับมัน ตามหลังเย่คงไปติดๆ
เจ้าอ้วนไห่ไม่ได้นำหน้าเหมือนคนอื่น เขากับซ่อนอยู่ในฝูงคนเพื่อปกป้องเย่ว์ปิง อี้หนานและเย่ว์หวี่ นักเรียนจากสถาบันฉางชุนเฉิง, ฉางจิงและจ้งเซียน พร้อมๆ กับองค์ชายเทียนหลัวและกลุ่มแฟนคลับของเขา เดินไปข้างหน้าอย่างสงบ แม้ว่าสีหน้าทุกคนจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็ตาม ทุกคนสาวเท้าอย่างเร็ว เพื่อตามเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่พวกเขาเชื่อใจ
เย่คงนำทุกคนหลบไปจากพื้นที่ส่วนใหญ่ที่มีผลต่อมิติเทเลพอร์ต เมื่อเขาเห็นว่าพวกเผ่าปีศาจไม่ได้ไล่ตามเขามา เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาโบกมือและส่งสัญญาณให้ทุกคนรีบออกไป นักเรียนทุกคนเริ่มแตกตื่นและห่วงแต่จะกลับบ้านของตน ภายใต้การปกป้องของเย่คงและคนอื่นๆ ในที่สุดพวกเขาก็เทเลพอร์ตจากไปโดยปลอดภัย
“เราก็ควรจากไปตอนนี้ด้วยเช่นกัน!”
เย่คงรู้ว่าถ้าพวกเขาไม่จากไปในตอนนี้ อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าจะตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง
“.....”
เย่ว์ปิงเหลียวมองกลับไปที่สนามแข่งกีฬาที่อยู่ในระยะไกล จากนั้นฉุดดึงเย่ว์หวี่และอี้หนานตรงเข้าประตูเทเลพอร์ต พยายามจากไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อแสงจากประตูเทเลพอร์ตจางลงก็ทำให้นางแปลกใจ นางพบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับจุดหมายปลายทางเทเลพอร์ต สถานที่ปรากฏอยู่ต่อสายตานางกลับกลายเป็นหุบเขามหึมา และข้างหน้าพวกเขา เป็นคลื่นกองทัพปีศาจนับไม่ถ้วนกำลังรอให้นักเรียนมาถึง นักเรียนชุดแรกเรียกสัตว์อสูรของพวกเขาและเริ่มต่อสู้กับปีศาจที่ใกล้เข้ามา
“อย่างนี้แย่แน่ เราตกเข้าไปในกับดักพวกมันแล้ว”
ในที่สุดเย่ว์หวี่ก็ดึงความรู้สึกกลับมาจากอาการตกใจ
“พี่หวี่และพี่อี้หนาน อย่ากลัว แม้ว่าท่านพี่จะไม่อยู่ที่นี่ ข้าจะปกป้องพวกท่านทั้งคู่เอง ข้าสัญญากับพี่สามไว้ว่า ข้าจะต้องแข็งแกร่งเมื่อเราตกอยู่ในอันตราย ข้าจะเอาชนะศัตรูทั้งหมดให้ได้และช่วยทุกคนกลับมา!”
นัยน์ตาของเย่ว์ปิงเปล่งประกายมุ่งมั่นแน่วแน่
นางเรียกคัมภีร์ออกมาทันทีและเรียกผู้พิทักษ์พฤกษาร้อยปีทั้งสองออกมาแทบจะในเวลาเดียวกัน
ร่างบอบบางของนางกระโดดขึ้นไปอยู่บนไหล่ของนักรบพฤกษาตนหนึ่ง และพร้อมๆ กันกับนักรบพฤกษาอีกตนหนึ่ง พวกเขากระโดดเข้าไปในท่ามกลางฝูงปีศาจและสัตว์ประหลาด
ทันใดนั้นหนามไม้นับไม่ถ้วนยิงออกมาจากพื้นภายใต้คำสั่งของเย่ว์ปิง แทงใส่ปีศาจที่ล้อมรอบผู้พิทักษ์พฤกษาของนาง หนามไม้ในตอนนี้แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย หนามเหล่านี้จะอาบพิษสังหารของเย่ว์ปิง แม้เมื่อพวกปีศาจถูกหนามสะกิด พวกมันต้องพิษล้มลงตายทันที
ผู้พิทักษ์พฤกษาร้อยปีทั้งสองเงื้อกิ่งแขนยักษ์แล้วฟาดใส่ฝูงปีศาจ และทุบตีปีศาจที่โชคร้ายอย่างโหดเหี้ยม กองทัพปีศาจตกอยู่ในความปั่นป่วน
เย่ว์หวี่และอี้หนานมองหน้ากันและกัน ใบทั้งคู่เต็มไปด้วยอาการตกใจเหลือเชื่อ
ดูเหมือนหลังจากผ่านด่านสิบสองนักษัตร เย่ว์ปิงจะเติบโตขึ้นจริงๆ พลังรบของนางและความรู้เรื่องการต่อสู้ของนางรุดหน้าไปมากถึงขนาดที่ยากจะเชื่อได้ว่านางคือคนๆ เดียวกัน
อี้หนานพยักหน้ายอมรับพลังของเย่ว์ปิง ขณะเดียวกันนางยังคงเรียกคัมภีร์ของนางออกมาไม่ต้องการยอมแพ้... นอกจากนี้ นางยังอยากมีส่วนร่วมในการต่อสู้ด้วย สำหรับเย่ว์หวี่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ นางรีบเรียกอสูรของนางออกมาช่วยสนับสนุนเย่ว์ปิงและอี้หนาน
นอกจากอี้หนานแล้ว ยังมีคนอื่นที่ตามไปร่วมสู้ร่วมกับเย่ว์ปิงนั่นคือฮุยไท่หลาง
มันสังเกตดูสถานการณ์ต่อสู้ตลอด เมื่อปีศาจแข็งแกร่งตนหนึ่งลอบเข้ามาจู่โจมเย่ว์ปิงจากในกลุ่มปีศาจ ฮุยไท่หลางผู้ภักดีจึงได้โอกาสแสดงพลังอำนาจของมัน
ฮุยไท่หลางซ่อนตัวอยู่ในหมู่อสูรอัญเชิญโดยไร้เสียง ไม่มีหอน ไม่มีขู่และคืบคลานเข้ามาใกล้เหมือนเงา นี่คือหนึ่งในกลยุทธต่อสู้ที่มันเรียนรู้มาจากเจ้านายของมัน เย่ว์หยาง ฮุยไท่หลางไม่รู้เหตุผลที่ซ่อนอยู่นั้น
แต่มันรู้ว่าเจ้านายของมันทำอย่างนี้เพราะมันเป็นกลยุทธที่ดีที่สุด หลังจากสังเกตดูการต่อสู้ของเย่ว์หยางนับไม่ถ้วน ฮุยไท่หลางก็จดจำไว้ในใจมัน ก่อนที่ศัตรูของมันจะได้ลงมือ มันก็งับเข้าที่คอหอยของศัตรูอย่างอำมหิต
ขณะเดียวกันไฟนรกที่เหมือนกับเจ้าปีศาจก็ระเบิดออกมาจากร่างของมัน
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=273