ตอนที่ 252 กงเกวียนกำเกวียน
ถ้าบุรุษร่างกำยำไม่วิ่งเข้ามาช่วยหลิวเฮ่อทันเวลา เขาจะตายในที่สุด
บุรุษร่างกำยำพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วราวสายฟ้า และในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย เขาดึงผมหลิวเฮ่อด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ส่วนหลิวเฮ่อยังคงยืนตะลึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เลย บุรุษร่างกำยำใช้ดาบคมกริบในมืออีกข้างฟันใส่แขนของหลิวเฮ่อที่กำลังถูกไฟอมฤตเผาทันที แขนข้างนั้นขาดออกจากไหล่ตกไปอยู่ในมือของเย่ว์หยาง เลือดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
หลิวเฮ่อเจ็บปวดอย่างหนัก แต่เขายังคงมีความรู้สึกอยู่
เขาเตะขาขวาเข้าใส่หน้าอกของเย่ว์หยาง เจตนาเตะเย่ว์หยางคราวนี้ไม่ได้มุ่งทำร้ายเย่ว์หยาง แต่ใช้แรงปะทะจากการเตะเพื่อหลบหนีเขา
มือซ้ายเย่ว์หยางที่ยังถือวงจักรล้างโลก ฟันลงมาข้างหน้าและตัดขาทั้งสองข้างของหลิวเฮ่ออย่างง่ายดาย จากนั้นเย่ว์หยางจึงซัดวงจักรล้างโลกตรงไปที่หลิวเฮ่อและบุรุษร่างกำยำ แม้ว่าบุรุษร่างกำยำจะช่วยหลิวเฮ่ออย่างผิดคาดเล็กน้อย แต่ภายใต้การโจมตีด้วยวงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤต บุรุษร่างกำยำต้องพบจุดจบแน่นอน ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะหลบหนีได้ เย่ว์หยางคิดว่าแม้ว่าทั้งสองคนจะหลบวงจักรล้างโลกได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบพ้นเพลิงอมฤตที่ตามต่อเนื่องได้
แทบจะเวลาเดียวกัน หลิวเฮ่อและบุรุษร่างกำยำเรียกคัมภีร์แพลตตินัมออกมากางม่านพลังป้องกันไว้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมันไม่สามารถหยุดยั้งพลังโจมตีของวงจักรล้างโลกได้
วงจักรล้างโลกทะลุผ่านโล่พลังเหมือนกับแสงอาทิตย์ส่องผ่านกระจกใส แทบจะไม่มีแรงต้านทานอะไรเลย ไม่มีพลังชนิดใดๆ ปะทะกับโล่ป้องกันแม้แต่น้อย มันเป็นเหมือนกับว่าสร้างมาจากวัสดุชนิดเดียวกัน มันผ่านโล่ไปได้อย่างราบรื่นและเงียบกริบ ความเร็วของมันไม่ตกลงแม้แต่น้อยขณะที่ยิงเข้าใส่หลิวเฮ่อและบุรุษร่างกำยำ
หลิวเฮ่อและบุรุษกำยำหมอบลงกับพื้นพร้อมกัน วงจักรที่น่ากลัวกวาดผ่านศีรษะพวกเขาไป
มันบินห่างออกไปร้อยเมตรแล้วค่อยกลายเป็นอักษรรูนนับไม่ถ้วนลอยกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หยาง
“ไฟ, ไฟ แขนของเจ้าติดไฟอมฤตเข้าแล้ว”
หลิวเฮ่อตระหนักว่าแขนของบุรุษกำยำที่กระชากผมเขาก่อนหน้านั้นตอนนี้สว่างไปด้วยเปลวไฟอมฤต เขาตื่นตัวตะโกนทันที
ปกตินักสู้มักไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดเมื่อพวกเขาหลบอยู่หลังโล่ป้องกัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่รวมถึงเพลิงอมฤต
แม้จะอยู่ภายในโล่ป้องกัน เพลิงอมฤตก็สามารถกวาดล้างทุกอย่างในโลกนี้ได้เหมือนกับวงจักรล้างโลก ที่ไม่มีโล่ใดป้องกันได้
บุรุษร่างกำยำรู้ว่าตัวเขาติดไฟอมฤตมาด้วย เมื่อตอนที่เขาพยายามช่วยหลิวเฮ่อ ถ้าเขาไม่รีบตัดแขนของเขา ก็จะลามรุนแรงขึ้นจนถึงแขนท่อนบน, ไหล่ และตลอดทั้งร่าง ในที่สุดมันจะเผาร่างของเขาจนไม่เหลืออะไร... เขากัดฟันใช้มืออีกข้างหนึ่งแปรเปลี่ยนสภาพเป็นดาบเปล่งแสงและตัดแขนของเขา
ด้วยการลงมือครั้งเดียว นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูงสองคนอย่างหลิวเฮ่อและบุรุษร่างกำยำก็กลายเป็นคนพิการทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส
ภายใต้การโจมตีของวงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤต พลังของพวกเขานักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสาม ยังไม่สามารถต้านทานป้องกันตัวเองได้
หลิวเฮ่อเหลือเพียงแขนซ้ายข้างเดียว
แน่นอน ชีวิตของเขาถูกกระชากกลับมาจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ด้วยฝีมือบุรุษร่างกำยำผู้เสี่ยงชีวิตทำเช่นนั้น มิฉะนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว
บุรุษร่างกำยำยังต้องตัดแขนขวาที่ติดไฟอมฤตของตนจนขาด ตอนนี้ ทั้งสองคนมีเลือดโชกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าดูทุกข์ทรมานมาก
“เจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
หลิวเฮ่อเจ็บปวดหนักจนหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทุกข์ทรมาน เขาพยายามสงบจิตใจจากอาการตื่นเต้นขณะที่เขาวางมือซ้ายบนคัมภีร์แพลตตินัม เขาเรียกบอลแสงออกมาลูกหนึ่งและกดมันเข้ากับแผลกว้างของเขาเพื่อพยายามห้ามเลือด เขายังคงเรียกอสูรปลาหมึกออกมาแล้วบังคับให้มันผสานตัวเข้ากับเขา และเปลี่ยนหนวดแขนของมันให้เป็นแขนขาของเขาชั่วคราว
“ผู้อาวุโส, อภัยให้เราด้วยเถิด เราทั้งคู่ไม่รู้ว่าท่านเป็นหนึ่งในนักสู้ระดับสูงที่ปลอมตัวมา เราคิดว่าท่านเป็นหนึ่งในผู้เยาว์จากทวีปมังกรทะยาน ท่านผู้อาวุโส! ถ้าคำของพวกเรากระตุ้นโทสะท่าน โปรดอภัยให้เราและไว้ชีวิตเราด้วยเถอะ ถ้าท่านไว้ชีวิตน้อยๆ ของเรา เราจะนอบน้อมสำนึกในความกรุณาของท่าน”
บุรุษร่างกำยำไม่สนใจเลือดที่กำลังไหลอีกต่อไป เขาร้องขออภัยจากเย่ว์หยางทันที
“เจ้าเรียกว่าตวนมู่ แล้วชื่อแรกของเจ้าชื่อว่ากระไร?”
เย่ว์หยางรู้ว่าทั้งสองคนเข้าใจเขาผิด เขาต้องเอาชนะเจ้าพวกนี้ในเกมของตัวเอง
“ผู้เยาว์นามว่าตวนมู่เฟยเว่ย ข้าเป็นน้องชายของประมุขนิกายบรรพตขจีคนปัจจุบันตวนมู่หลงเฉิง บรรพบุรุษของข้าก่อนนั้นก็คือตวนมู่เคอ นี่คือหลิวเฮ่อ บรรพบุรุษของเขาก่อนหน้านั้นก็คือว่านฉีลี่เมี่ย หนึ่งในผู้ก่อตั้งนิกายบรรพตขจีเหมือนกับบรรพบุรุษของข้าตวนมู่เคอ”
บุรุษร่างกำยำรายงานชื่อจริงและตระกูลที่หนุนหลังกับเย่ว์หยาง ในโลกของนักสู้ปราณก่อกำเนิดนี้ พลังคือทุกอย่าง ผู้แข็งแกร่งที่สุดสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีพลังเพียงพอ ตระกูลที่หนุนหลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ถ้ามีคนมีชื่อเสียงในหมู่บรรพบุรุษของพวกเขา บางทีศัตรูอาจให้เกียรติพวกเขาสักเล็กน้อย ถ้าพวกเขาบอกเล่าเกี่ยวกับบรรพบุรุษของเขา
“ข้าไม่รู้จักพวกเขา”
เย่ว์หยางพูดตามจริง เขาย่อมไม่รู้จักคนที่ชื่อตวนมู่เคอหรือว่านฉีลี่เมี่ยเลย เขาเพียงแต่เคยได้ยินว่าสองคนนี้เป็นผู้ทรยศตระกูลเย่ว์
คำพูดของเขาทำให้บุรุษร่างกำยำและหลิวเฮ่อกลัวแทบตายทั้งคู่
ในสายตาของพวกเขา คนผู้ไม่รู้จักบรรพบุรุษของพวกเขาว่านฉีลี่เมี่ยและตวนมู่เคอ แต่มีทักษะเรียกเพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลกได้ต้องเป็นนักรบจากเมื่อหลายพันปีแล้ว บางทีท่านผู้นี้จำแลงร่างเป็นบุรุษหนุ่มอาจจะเป็นผู้พเนจรอยู่ดินแดนรอบนอกหอทงเทียน เขาอาจไม่เคยมายังทวีปมังกรทะยานมาก่อน ทั้งไม่ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรนักสู้ปราณก่อกำเนิด เขาคงเป็นพวกใช้ชีวิตอิสระมีชีวิตอมตะดุจเทพที่พเนจรเรื่อยไป
บุรุษร่างกำยำและหลิวเฮ่อคิดในใจ พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีนักสู้ผู้ใช้วงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤตมาก่อนแน่นอน
นักสู้ผู้แข็งแกร่งบางพวกอาจสามารถใช้วงจักรล้างโลกได้ แต่สำหรับเพลิงอมฤต แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่มี มันมีแต่ในตำนาน..
ไม่เคยมีใครครอบครองเพลิงอมฤตมาก่อน
นักสู้ระดับสุดยอดเพียงไม่กี่คนอาจมีเพลิงที่ใกล้เคียงเพลิงอมฤต เช่นเพลิงศักดิ์สิทธิ์, เพลิงผลาญฟ้า, เพลิงนรก, เพลิงปีศาจ ยังมีแม้แต่นักสู้ที่ครอบครองเพลิงเทพสงครามก็ยังมี แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งรุนแรงเพียงไร ก็ไม่อาจจะเทียบได้กับเพลิงอมฤต เพลิงอมฤตมีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น
วันนี้ เพลิงอมฤตนี้มาปรากฏอยู่ในมือนักสู้ระดับสูงผู้นี้ เขาสามารถปลอมอายุและลบรอยเหี่ยวย่นของเขาได้ บุรุษร่างกำยำและหลิวเฮ่อรู้ว่าพวกเขาจะถูกแผดเผาในที่สุด
ล่วงเกินผู้อาวุโสผู้แข็งแกร่งที่พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้ บุรุษร่างกำยำและหลิวเฮ่อรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับศีรษะตนจะระเบิด
เป็นที่รู้กันดีว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดทำอะไรตามใจตนเอง อย่าว่าแต่แค่โกรธเลย แม้แต่เมื่อพวกเขาพบอะไรผิดหูผิดตาก็อาจจะฆ่าได้ในทันที นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก
ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงต้องพึ่งพาอารมณ์ของผู้อาวุโสท่านนี้
ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี พวกเขาต้องตายแน่นอน
บุรุษร่างกำยำคุกเข่าลงกับพื้น และหมอบกราบด้วยความนอบน้อย
“ท่านผู้อาวุโส, โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะ ผู้เยาว์ยินดีจะสละความมั่งคั่งทั้งหมดให้ท่านเพื่อชดเชยสิ่งที่เราล่วงเกินลงไป”
“ผู้เยาว์ยินดีจะชดใช้ด้วยสมบัติที่ข้ามีทั้งหมด”
หลิวเฮ่อไม่สามารถคุกเข่าได้ ดังนั้นเขาค้อมศีรษะแทน ขณะที่เขาลอบสังเกตเย่ว์หยางและสี่สาว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่สาวทั้งสี่ไม่สามารถปลอมตัวได้ ในพวกนางไม่มีใครเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด สตรีทั้งสี่ยังอายุเยาว์ทุกคน และพวกนางยังเป็นพรหมจารีอีกด้วย พวกนางมีสัมพันธ์ใดกับผู้อาวุโสนี้? ทำไมพวกนางถึงปรากฏตัวในทางผ่านโบราณที่เผ่าปีศาจบูรพาเพิ่งใช้ลอบเข้าทวีปมังกรทะยานได้ง่ายนักเล่า?
หลิวเฮ่อค่อนข้างแน่ใจว่าหญิงสาวเหล่านี้มาที่ทางผ่านโบราณก็เพราะพวกนางเป็นทายาทของนักรบแห่งทวีปมังกรทะยานที่ถูกลักพาตัวไป และพยายามไล่ตามพวกเผ่าปีศาจบูรพา ผู้อาวุโสท่านนี้อาจมีความสัมพันธ์กับพวกเขาด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาบังเอิญมาพบผู้อาวุโสที่ไม่ธรรมดาผู้นี้ซึ่งชอบปลอมตัวเป็นผู้เยาว์ขณะอยู่ในทางผ่านโบราณนี้
มีความเป็นไปได้มากว่า บุรุษผู้นี้คือผู้อาวุโสที่ไม่ธรรมดาสามารถปลอมตัวเองเป็นผู้เยาว์ เพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีนักสู้ปราณก่อกำเนิดเยาว์วัยเกิดขึ้นในทวีปมังกรทะยานมาก่อน ที่สำคัญยิ่งกว่า พวกเขาไม่เคยได้ยินว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดวัยยี่สิบปีจะสามารถใช้วงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤตพร้อมกันได้ และยังเกือบฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดสองคนในการลงมือคราวเดียวได้
หลิวเฮ่อเสียใจจริงๆ ที่พบกับคนลึกลับนี้ผู้ที่พวกเขาไม่สมควรพบ
ถ้าเพียงแต่พวกเขาใช้เวลาทำความเข้าใจสถานการณ์ในทวีปมังกรทะยาน ผู้ใดจะคิดกันว่าพวกเขาจะต้องมาเผชิญกับตัวประหลาดอย่างนี้หลังจากกลับมาจากทวีปกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนด้านนอกทงเทียน
นักสู้ปราณก่อกำเนิดวัยยี่สิบปี...
เขาคืออัจฉริยะเยาว์วัยหรือว่าเป็นผู้อาวุโสปลอมตัวมา?
“เราขอขอบคุณผู้อาวุโสที่เมตตาไว้ชีวิตเรา!”
บุรุษร่างกำยำไม่คิดอะไรมากเกินไป เขาคือนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่ง เขานับถือผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขา ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนแบบไหน ตราบใดที่เขามีความสามารถฆ่าเขาได้ทันที
อย่างนั้นคนผู้นั้นก็เป็นนักสู้ระดับสูง และเป็นผู้อาวุโสที่คู่ควรกับการแสดงความนับถือ บุรุษร่างกำยำไม่มีทางคาดคิดเลยว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดวัยยี่สิบปีก็มีความสามารถฆ่าพวกเขาได้ทันที อย่าว่าแต่คนหนุ่มยี่สิปีสามารถใช้วงจักรล้างโลกได้จะเป็นต้องเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดสูงกว่าระดับ 5 ถึงจะควบคุมมันได้ และเพลิงอมฤตก็มีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น
มีนักสู้ปราณก่อกำเนิดหลายคนสามารถใช้เพลิงที่คล้ายกับเพลิงอมฤต
แต่เกี่ยวกับเพลิงอมฤตที่แท้จริงนี้ไม่สามารถดับได้ตลอดไป มันสามารถเผาได้ทุกสรรพสิ่ง บุรุษกำยำเพิ่งจะเห็นมันจากมือของบุรุษเยาว์วัยผู้นี้... ตำนานบอกว่าถ้ามันสามารถแผดเผาความชั่วร้ายในร่างและในวิญญาณของเขาได้ หรือสามารถชำระบาปในร่างเขาหรือในวิญญาณเขาก็ได้ เขาจะถูกเพลิงอมฤตเผาทั้งเป็น มีเพียงนักสู้เทียมเทพผู้ไม่มีจิตใจชั่วร้ายในวิญญาณหรือเอาชนะบาปในตัวหรือในวิญญาณจะสามารถใช้เพลิงอมฤตได้
สู้กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้สามารถกวัดแกว่างเพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลกน่ะหรือ? มีแต่คนโง่ที่ทำแบบนั้น
บุรุษร่างกำยำเสนอสมบัติทั้งหมดให้อย่างว่าง่าย แต่หลิวเฮ่อกลับไม่ทำ
หลิวเฮ่อวางแผนอยู่ในใจ ไม่ว่าผู้อาวุโสนี้จะเป็นนักสู้ชั้นสุดยอดหรือไม่ก็ตาม เขาจำเป็นต้องปกป้องสี่สาว ตราบใดที่เขาสามารถหลบหนีไปจากทางผ่านโบราณ เขาสามารถไปจากประตูเทเลพอร์ตโบราณได้ ตาแก่ผู้นี้จะไม่ทอดทิ้งสี่สาวและหันมาไล่ตามเขาแน่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาไม่สามารถทำเรื่องนั้นด้วยตนเอง
เขาแกล้งทำเป็นเหมือนกับว่ากำลังจะให้สมบัติมีค่าทั้งหมด แต่เขาเรียกนางฟ้าปีกดำออกมา ขณะเดียวกันมือคล้ายหนวดปลาหมึกและถลาไปข้างหน้าและกระแทกใส่หลังของบุรุษร่างกำยำที่ไม่มีอะไรป้องกัน ส่งผลให้เขากระเด็นไปหาเย่ว์หยางและคนอื่น
หลิวเฮ่อฉวยโอกาสบินขึ้นไปในอากาศ
ปีกนางฟ้าที่เขาเพิ่งเรียกได้หลอมรวมกับร่างของหลิวเฮ่อกลางอากาศ
ปีกดำยักษ์งอกจากหลังของหลิวเฮ่อ หลังจากปีกพร้อมใช้งานแล้ว หลิวเฮ่อบินได้เร็วกว่าเดิมถึงสิบเท่า อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางเหมือนกับรู้แล้วว่าหลิวเฮ่อต้องการจะหนี แล้วก็เหมือนกับหลิวเฮ่อ ปีกเพลิงที่ดูเหมือนปีกนกฟีนิกซ์กางออกจากหลังเย่ว์หยาง มันเกิดจากเพลิงอมฤตบริสุทธิ์ แค่กระพือปีกครั้งเดียวเขาก็ไล่ทันหลังหลิวเฮ่อ
เมื่อหลิวเฮ่อพยายามโจมตีเย่ว์หยางด้วยความหวาดกลัว เขาก็รู้ว่าร่างของเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น
แม้มันจะอยู่ได้เพียงสามวินาที แต่ก็เพียงพอให้เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตพันมือขวาของหลิวเฮ่อและไล่ลามมาถึงคอ และโอบเขาไว้เหมือนกับเป็นลูกไก่จากนั้นโยนเขาลงไปอยู่แทบเท้าบุรุษร่างกำยำ
“ทำไมกัน? บิดาเจ้าขอให้ข้าช่วยดูแลเจ้า และเราก็สนิทเหมือนกับเป็นพี่น้องจริงๆ 200 ปีที่ผ่านมา ข้าปกป้องเจ้า แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยง ข้าเพิ่งจะเสียแขนไปก็เพราะเจ้า, ว่านฉีหลิวเฮ่อ! ทำไมเจ้าทำกับข้าอย่างนี้?”
บุรุษร่างกำยำกระอักโลหิตออกมาจากปาก แต่อาการบาดเจ็บของเขายังเทียบมิได้กับความรู้สึกเจ็บปวดใจ สหายที่เขาเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือหลายครั้งหลายครากลับหักหลังเขา เขามองเห็นสหายผู้นี้เป็นเหมือนน้องชายของเขา ถึงได้ยอมช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ชั่วพริบตาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย สหายผู้นี้กลับทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติอย่างหนัก ส่งตัวเขาเข้าหาศัตรูและตนเองพยายามหนีเอาตัวรอด...
“ข้าผิดเอง, ข้าผิดไปแล้ว! มันเจ็บเหลือเกิน, ช่วยข้าด้วย, ช่วยข้าที!”
เพลิงอมฤตค่อยๆ เผาคอและอกของหลิวเฮ่อช้าๆ ขณะที่ความตายกรายเข้ามาใกล้ พลังปราณก่อกำเนิดของเขาไม่มีผลต่อเพลิงอมฤตเลย
“ถ้าเจ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้ได้ลงคอ!”
บุรุษร่างกำยำยกแขนที่ยังเหลืออยู่ด้วยความเจ็บปวด เตรียมจบชีวิตหลิวเฮ่อและส่งเสริมให้เขาตายไวขึ้น
นึกไม่ถึงเลยว่าหลิวเฮ่อจะบินเข้ามาหาบุรุษกายกำยำและกอดเขาแน่น
ในชั่วครู่ เขาก็แพร่เพลิงอมฤตที่ลุกไหม้บนตัวเขาไปที่ร่างบุรุษกายกำยำ
นัยน์ตาเขาดูน่ากลัวมาก ขณะที่เขากล่าวว่า
“ถ้าข้าตาย บริวารข้าก็ต้องตายตามข้าไปด้วย ตระกูลตวนมู่ของเจ้าเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลว่านฉีของเรา เจ้านึกหรือว่าแค่เพราะบิดาข้ามอบตำแหน่งประมุขนิกายให้พี่ชายเจ้าตวนมู่หลงเฉิง แล้วจะเปลี่ยนสถานะอันต่ำต้อยของตระกูลตวนมู่ของเจ้าได้? เจ้าสุนัขรับใช้บัดซบ ถ้าข้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ ก็อย่าหวังว่าเจ้าจะมีชีวิตต่อไปได้ มาตายพร้อมกันเถอะ...”
บุรุษร่างกำยำถึงกับแตกตื่นและโกรธมาก แววเศร้าสร้อยปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
“ตระกูลตวนมู่ของข้าได้ชื่อว่าให้การสนับสนุนตระกูลว่านฉีของเจ้าอย่างแข็งขันและนับถือ ใครกันจะรู้ว่าหลังทำดีกับเจ้ามามาก เจ้าก็ยังถือว่าเราเป็นเหมือนบริวารของเจ้า เจ้าบังอาจเรียกพวกเราว่าสุนัขรับใช้..ฮ่าฮ่า, บรรพบุรุษของข้าในสวรรค์ ถ้าท่านสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ท่านจะว่ายังไง? บรรพบุรุษเอย, บรรพบุรุษ ทำไมท่านถึงไม่กลายเป็นพี่น้องผู้ภักดีต่อตระกูลของท่าน ทำไมท่านถึงกลายเป็นคนหักหลัง เป็นผู้หักหลังพี่น้องของท่าน? ท่านรู้ไหมว่าหลังจากผ่านไปพันปี ทายาทของท่านยังไม่อาจชำระมลทินของการเป็นลูกหลานคนทรยศได้ จนถึงทุกวันนี้ ทายาทที่ขยันและซื่อสัตย์ของท่านก็ยังถูกคนอื่นเรียกเป็นสุนัข ทำไมพวกท่านถึงได้เลือกเส้นทางนั้น, ทำไม?”
เย่ว์หยางยกมือเขา และเพลิงอมฤตทั้งหมดที่อยู่บนตัวบุรุษกำยำและหลิวเฮ่อกลับมาหาเขาทันที
จะให้ตายเร็วๆ ด้วยเพลิงอมฤตเลยดีไหม?
นั่นเป็นวิธีให้ความสะดวกในการตายมากเกินไป
สองคนนี้เป็นทายาทของคนทรยศ เย่ว์หยางตัดสินใจให้พวกเขาฆ่ากันเอง เพราะนั่นควรจะเป็นจุดจบที่น่าอนาถของคนทรยศ
“เจ้าไม่ต้องการอยู่เป็นสุนัขรับใช้ใช่ไหม? งั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า”
เย่ว์หยางยิ้มกว้าง ยิ้มของเขาน่ากลัวกว่าปีศาจเสียอีก
“เจ้าต้องการฆ่าข้าหรือ? ฝันไปเถอะ, เจ้าต่างหากจะเป็นฝ่ายที่ตาย!”
หลิวเฮ่อบาดเจ็บหนักจากเพลิงอมฤต ลักษณะของเขามองดูเหมือนผี เขายกมือหนวดปลาหมึกของเขาแล้วรัดมือของบุรุษร่างกำยำไว้แล้วรัดคอหวังจะให้ตาย นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนขาหนวดปลาหมึกให้กลายเป็นดาบคมแล้วแทงใส่อกของบุรุษร่างกำยำ
“.....”
บุรุษร่างกำยำแทบจะดูเหมือนว่าหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ดังลั่น แต่เขาสำลักจนไม่อาจหายใจและพูดเป็นคำพูดได้ อย่างไรก็ตาม หน้าแดงของเขามีรอยยิ้มที่น่ากลัว เขาอ้าปากกว้างและเผยให้เห็นฟันขาว ก่อนที่จะกัดเข้าที่หน้า จมูก หูและคอของหลิวเฮ่อที่เสียโฉมเพราะไฟไหม้ เขากัดทีละคำๆ กัดกระทั่งหลิวเฮ่อตาย
เขากัดจนกระทั่งศีรษะหลิวเฮ่อหลุดออกจากบ่า
ในที่สุด หลังจากพ่นเนื้อออกมาจากปาก บุรุษร่างกำยำที่ใกล้จะตายแล้วคุกเข่าต่อหน้าเย่ว์หยางด้วยความเคารพ เขาหมอบแสดงคารวะและเปลี่ยนมือซ้ายของตนเป็นมีดคมกริบแล้วตัดศีรษะตนเอง
คัมภีร์แพลตตินัมทั้งสองเล่มร่วงจากอากาศตกลงพื้นเสียงดังปัง ปีกเทพสีดำ, ปลาหมึก,และอสูรอื่นๆ ก็ตายด้วยเช่นกัน อสูรจิ้งจอกกระต่ายสูญเสียเจ้านายถูกจิ้งจอกหิมะสามหางจับได้ที่ปากถ้ำ มันถูกขย้ำเข้าที่คอหอย
ร่างของอสูรจิ้งจอกกระต่ายบิดกระตุกไม่หยุดก่อนที่มันจะถูกจิ้งจอกหิมะสามหางสังหารในที่สุด แม้ว่ามันจะหักหลังเจ้านาย แต่มันก็ยังคงตายพร้อมกับเขาอยู่ดี
“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง”
เย่ว์หยางถ่มน้ำลายใส่ศพหลิวเฮ่อ
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=272